เมื่อบ้านหลังที่สอง ไม่ได้เป็นแค่เพียงบ้านพักตากอากาศอีกต่อไป แต่ยังเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตที่ให้เราได้หยุดพักและเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ดี เช่นเดียวกันกับโครงการ The Val เขาใหญ่
ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจากความตั้งใจสร้างบ้านพักตากอากาศส่วนตัวท่ามกลางธรรมชาติของ ม.ล.วรุตม์ วรวรรณ เจ้าของโครงการและผู้ออกแบบจากสำนักงานออกแบบ Vin Varavarn Architects จึงเริ่มชวนเพื่อน ๆ หาที่ดินบนเขาใหญ่ จนมาพบกับพื้นที่ซึ่งมีลักษณะที่ตั้งน่าสนใจ กล่าวคือเป็นที่ดินเปล่าติดกับเชิงเขาของพื้นที่อุทยานทางด้านหลัง ด้านหน้าเป็นไร่องุ่น ที่โอบล้อมไว้ด้วยภูเขาราวกับเป็น Valley อันเป็นที่มาของชื่อโครงการ และนำมาสู่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ได้มองแค่เรื่องการทำธุรกิจ แต่ตั้งใจสร้างคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ของผู้คนที่ต้องการอยู่อาศัยที่เชื่อมโยงไปกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
โดยเริ่มจากชวนนักออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมอย่าง คุณศุภสิทธิ์ เทพอำนวยสกุล จาก Landscape Tectonix มาร่วมรังสรรค์พร้อมจัดการพื้นที่ให้ลงตัวในการสร้าง Essence of Serenity หรือการสร้างความสงบเงียบสงัด ท่ามกลางพื้นที่เปิดโล่ง แต่ยังมอบความเป็นส่วนตัว ที่สำคัญคือได้เชื่อมต่อไปกับธรรมชาติโดยรอบได้อย่างเต็มที่ผ่านองค์ประกอบ 3 อย่างคือ ภูเขา ป่า และน้ำ
การวางผังจึงแบ่งอาคารออกเป็น 2 กลุ่ม ที่วางตัวขนานไปกับขอบเขตที่ดินบริเวณด้านซ้ายและขวาของโครงการ โดยทำการโอบล้อมพื้นที่สวนป่าขนาดใหญ่ตรงกลางไว้ เพื่อทำหน้าที่เป็นพื้นที่กิจกรรมส่วนกลางที่ลูกบ้านทุกหลังสามารถเข้าถึงได้ เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อไปยังผืนป่าด้านหลัง ซึ่งสวนป่านี้ใช้แนวทางการปลูกตามแนวคิดของ ดร.มิยาวากิ คือการปลูกป่าโดยใช้ต้นกล้าในความหนาแน่นสูงต่อ 1 ตารางเมตรเพื่อให้เกิดการคัดเลือกตามธรรมชาติ ทำให้ไม้ยืนต้นที่รอดนั้นมีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมนั้น ๆ ประกอบกับเลือกใช้พรรณไม้ท้องถิ่นอย่าง ยางปาย มะกล่ำต้น ยางแดง มะค่าโมง ตาเสือ ฯลฯ ที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตได้ดีตามสภาพแวดล้อมของเขาใหญ่
แนวทางการสร้างความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านทุกหลัง จึงทำการออกแบบแลนด์ฟอร์มของพื้นที่ใหม่ ด้วยการปั้นเนินดินในส่วนที่ต้องวางอาคารให้สูงจากระดับพื้นดินของสวนป่าราว 2 เมตร ทำให้คนที่ใช้พื้นที่สวนส่วนกลางจะไม่สามารถมองเห็นคนที่อยู่ในบ้านได้ ขณะเดียวกันมุมมองจากบ้านออกมายังสวนป่าจะเห็นเป็นเรือนยอดของต้นไม้ที่เติบโตขึ้นทุกปีและวิวท้องฟ้าโปร่งโล่งที่ปราศจากการบดบัง
ในส่วนของการออกแบบสถาปัตยกรรมจึงเป็นองค์ประกอบที่ช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัยให้สมบูรณ์ เน้นการเชื่อมต่อกับธรรมชาติโดยรอบ เป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่ใช้งานได้จริง มีฟังก์ชั่นที่ตอบรับพฤติกรรมการพักผ่อน การทำงาน เน้นการออกแบบที่บำรุงรักษาง่าย เพื่อตอบโจทย์การเป็นบ้านที่คนไปใช้ชีวิตในระยะยาว โดยออกแบบให้บ้านมีบรรยากาศอบอุ่นผ่านการเลือกใช้วัสดุไม้ ได้ความเป็นทรอปิคัล ที่มีไฮไลต์คือการออกแบบพื้นที่เปลี่ยนถ่าย (Transition Space) จากทางเข้าบ้านที่ค่อย ๆ สอดแทรกธรรมชาติไว้ตลอดเส้นทาง ก่อนจะเผยให้พบกับช่องเปิดขนาดใหญ่รับวิวสวนป่าหลังบ้านได้แบบเต็มตา มีแบบบ้านของโครงการจะให้เลือก 2 ไทป์ด้วยกัน ได้แก่ Horizontal และ Rise ที่ทุกแบบมาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวและพื้นที่พักผ่อนบนดาดฟ้า เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติในขณะที่ยังคงความเป็นส่วนตัว โดยเอกสิทธิ์เพียง 14 หลังนี้คุณสามารถเลือกตำแหน่งแปลงบ้านและแบบบ้านที่ต้องการก่อนสร้างจริง ทำให้เลือกโซนไฮไลต์ที่ต้องการใกล้ชิดได้ตามแต่ไลฟ์สไตล์ที่ตอบโจทย์ความเป็นคุณ
เพื่อเติมเต็มความสมบูรณ์ของโครงการ ได้ชวน คุณสันติ ลอรัชวี จาก SANTIviteeOKbab กราฟิกดีไซเนอร์มากประสบการณ์มาร่วมออกแบบ Key Visual ที่โลโก้ได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายของแลนด์ฟอร์มในพื้นที่ที่มีความต่างระดับ (Contour) ก่อนจะถูกตัดด้วยเส้นนอน (Horizontal) แล้วทดลองหามุมมองใหม่ ๆ ด้วยการแปรภาพสองมิติให้เป็นสามมิติด้วยงานกระดาษ เกิดเป็นเส้นโค้งที่ก่อให้เกิด Negative Space ทั้งด้านล่างและด้านบนอันหมายถึงความสมดุลย์ของคู่สัมผัสกัน ซึ่ง Negative Space ที่เกิดขึ้นได้กลายเป็น Positive Space ที่ทุกคนทุ่มเทเพื่อได้กลับมาใช้ชีวิตในพื้นที่ว่าง พื้นที่เปิดโล่งทางธรรมชาติ ซึ่งกลายเป็นความ Luxury ของยุคสมัย
สำหรับโทนสีที่เลือกใช้เป็น Corporate Identity คือสีเขียวเข้มที่สามารถเปลี่ยนไปตามความสว่างของแสงและบริบทนั้น ๆ ซึ่งอาจเห็นได้ตั้งแต่สีเขียวเมื่อมีแสงหรือดูเป็นสีเทาเข้มในที่มืด หรือขึ้นอยู่กับพื้นผิวนั้น ๆ ส่งผลให้ภาพรวมของโครงการดูมีมิติ รวมไปถึงการเลือกใช้ Typeface Optima มานำเสนอตัวตนของโครงการ เนื่องจากมีความโค้งอยู่ในตัวซ่อนอยู่ ที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายสบายตา แต่มีมิติ
และทั้งหมดนี้คือความตั้งใจในการสร้างสรรค์คอมมูนิตี้เล็ก ๆ สำหรับคนที่กำลังมองหาการใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติ พร้อมรูปแบบการใช้ชีวิตที่ชวนให้คุณได้หลุดพ้นจากความวุ่นวาย และเสพความหรูหราจากพื้นที่เปิดโล่งที่เชื่อมคุณเข้ากับท้องฟ้า สวนป่า และน้ำ ภายในสถาปัตยกรรมที่ออกแบบมาอย่างประณีต
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.theval.co.th หรือ อีเมล [email protected]
