เรียบหรู เป็นธรรมชาติ

เรียบหรู เป็นธรรมชาติ

ความหรูหราและความดิบแบบธรรมชาติดูจะเป็นสองสิ่งที่ดูไปด้วยกันไม่ได้ จนหลายครั้งเราต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งมาใช้ตกแต่งบ้าน แต่ไม่ใช่กับบ้านตากอากาศหลังนี้ที่ตั้งอยู่ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นบ้านจัดสรรที่อยู่ภายในหมู่บ้านแสนสงบ ซึ่งได้รับการปรับปรุงตัวบ้านและตกแต่งใหม่ให้เข้ากับสไตล์ และรสนิยมของเจ้าของบ้านผ่านฝีมือการออกแบบของคุณสุชาติ เตชางามและคุณอรพรรณ ภูมิอินทร์ มัณฑนากรจากบริษัท โมโนเทลโล จำกัด

“เจ้าของบ้านให้อิสระกับเรามาก พอเราพูดถึงเชียงใหม่เราจะนึกถึงงานไม้ หรืองานฝีมือเป็นอันดับแรก ด้วยบ้านหลังนี้อยู่ที่เชียงใหม่ก็ควรสื่อถึงความพื้นถิ่นบ้าง เราจึงเลือกเดินทางไปบ้านถวายเพื่อพบกับงานไม้และงานเฟอร์นิเจอร์ไม้แล้วเลือกมาเป็นแนวความคิดหลักในการออกแบบ ผสานกับความหรูหราของตัวบ้านให้เข้ากัน” คุณสุชาติเล่าให้เราฟังถึงการออกแบบ

เดิมบ้านที่ได้มาจากโครงการจะให้หน้าต่างค่อนข้างเล็ก ทำให้ไม่เห็นวิวภายนอกได้ชัดเจนนัก จึงทำการเปลี่ยนหน้าต่างเป็นประตูบานเลื่อนให้สวนดูเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับตัวบ้านพร้อมมีทางเดินในสวนเชื่อมต่อกับภายในบ้านได้ง่าย

แพนทรีต่อกับโต๊ะอาหารเพื่อประหยัดพื้นที่ซึ่งทำจากไม้จริงธรรมชาติจากบ้านถวาย สะท้อนถึงงานฝีมือพื้นถิ่นของเชียงใหม่กับความหรูหราของผิวสัมผัสหินธรรมชาติจากสโตนวีเนีย • เคาน์เตอร์ Quartz Marble รุ่น Vicostone Quartz Satinet BS124

ตั้งแต่บริเวณทางเข้าบ้านได้ดัดแปลงเป็นชานสำหรับเป็นมุมนั่งเล่นภายนอกรับลมเย็นสบายพร้อมกับสามารถเดินชมสวนได้ อันมาจากไลฟ์สไตล์ของตัวเจ้าของบ้านเป็นคนที่ชอบการสังสรรค์ ตอบรับกับวัสดุตกแต่งพื้นผิวกระเบื้องลายไม้ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติแต่ทนทานด้านการใช้งานกว่าไม้จริง นอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับส่วนนั่งเล่น ภายในบ้านยาวไปถึง ส่วนห้องครัว ที่เปิดขยายให้ร่วมกันเป็นห้องเดียว โดยรวมส่วนแพนทรีเข้ากับโต๊ะอาหารเพื่อประหยัดพื้นที่ ด้านข้างเปลี่ยนหน้าต่างเป็นประตูกระจกเลื่อนออกไปเห็นสวนภายนอกทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและน่าสบายมากขึ้นโทนสีของบ้านใช้สีขาว ครีม และน้ำตาลซึ่งทำให้บ้านดูสว่างและอบอุ่นอีกทั้งเมื่อวางเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่สีเข้มธรรมชาติก็จะดูโดดเด่นขึ้นในทันที เช่นเดียวกับโถงบันไดที่ใช้สโตนวีเนียวัสดุทดแทนแผ่นหินธรรมชาติให้ลวดลายของเม็ดหินและสายแร่ทำให้ผนังดูโดดเด่นสวยงาม

โถงบันไดกรุผนังด้วยผิวสัมผัสของหินธรรมชาติที่มาจากสโตนวีเนียซึ่งทำจากแผ่นหินจริงสไลด์บางที่มีน้ำหนักเบาไม่กระทบต่อโครงสร้างเหมาะกับการตกแต่งผนัง ทั้งยังมีประกายระยิบระยับจากสายแร่ช่วยดึงความหรูหราและเข้ากับความดิบของธรรมชาติ ได้เป็นอย่างดี • ผนัง STONE VENEER COPPER (SMV005) ขนาด 60 x 120 cm

“การใช้สโตนวีเนียทดแทนหินจริงมาจากความต้องการที่เจ้าของบ้านอยากได้ผนังหินที่ดูหรูในโถงบันได ซึ่งหินธรรมชาติมีราคาแพง และน้ำหนักมากเกินไปกับโครงสร้างรับน้ำหนักของกำแพงที่มีอยู่เดิม การขนส่งระยะทางลำบากมาก นวัตกรรมใหม่ๆ ของแผ่นหินบางลักษณะการใช้งานคล้ายแผ่นลามิเนตสามารถตักแปะได้ตามที่ต้องการทำให้ติดตั้งง่ายขึ้นมาก ในขณะที่ความสวยงามเทียบเท่ากับหินธรรมชาติทั่วไป” คุณสุชาติเล่า

ภายในห้องนอนและห้องอื่นๆ บริเวณชั้นสองยังคงตกแต่งด้วยสไตล์ที่ผสานความเป็นธรรมชาติและความรู้สึกผ่อนคลายโดยเลือกวัสดุปูพื้น Engineer Wood ที่ผลิตจากไม้จริง โครงสร้างการวางแผ่นไม้เนื้อแข็งที่สลับกันไปมาเพื่อลดการขยายตัวและทนความชื้น • พื้น Engineered Wood รุ่น WHITE OAK GUIGAL ขนาด 12/1.2x127x900 mm

ชั้นบนยังคงเก็บตำแหน่งห้องเดิมเอาไว้ ยกเว้นห้องน้ำใหญ่ที่ปรับพื้นที่ห้องแต่งตัวเดิมเป็นห้องน้ำ ในส่วนแห้งเนื่องจากห้องแต่งตัวไม่ได้มีความจำเป็นเท่าใดนัก สำหรับห้องพักตากอากาศ พร้อมดึงอ่างล้างหน้าออกมาในส่วนแห้งทำเป็นเคาน์เตอร์ยาวซึ่งสามารถใช้แต่งหน้าได้ การใช้กระเบื้องปูพื้นและผนังที่ผิวสัมผัสของหินธรรมชาติร่วมกับกระเบื้องโมเสกดูหรูหราเข้ากับวัสดุเฟอร์นิเจอร์สีทองรมดำช่วยดึงอารมณ์และบรรยากาศของบ้านให้ชัดเจน ในห้องนอนและพื้นชั้นล่างตัววัสดุปูพื้นถูกเปลี่ยนเป็นไม้ Engineer Wood เพื่อให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติและอบอุ่นสมกับเป็นบ้านบ้านพักตากอากาศ

ห้องน้ำดึงเอาส่วนล้างหน้าออกมาในส่วนแห้งพร้อมทำเคาน์เตอร์ยาวสำหรับแต่งหน้าได้อีกด้วย ผนังห้องน้ำใช้กระเบื้องพอร์ซเลนที่ให้ผิวสัมผัสคล้ายหินธรรมชาติต่อกันเป็นลายผีเสื้อให้ความรู้สึก ดูหรูหราและเป็นธรรมชาติ • ผนัง กระเบื้องโมเสกพอร์ซเลน MAXIMUS รุ่น BUTTERFLY WHITE ขนาด 30×30 cm
บรรยายภาพ ห้องนอนเล็ก เลือกผนังห้องโทนสีชมพู จัดวางเฟอร์นิเจอร์สำหรับเด็กที่มีขนาดพอเหมาะ ใช้ • พื้นไม้ Engineered Wood ให้ผิวสัมผัสของไม้ที่นุ่มนวล
พื้น Engineered Wood รุ่น “ White Oak Guigal” ขนาด 127 x 900 มิลลิเมตร

ความหรูหราที่อ่อนโยนและความเป็นธรรมชาติที่แข็งแกร่งสามารถผสานเป็นเนื้อเดียวกันได้ ทั้งยังถ่ายทอดอารมณ์และบรรยากาศไปสู่ตัวบ้านทั้งหลังได้ทำให้บ้านสามารถสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้านออกมาได้อย่างชัดเจน ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการผสานและแทรกกันอย่างลงตัวระหว่างการออกแบบซึ่งอาจเริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ อย่างกระเบื้องมุมหนึ่งในบ้าน

ชานนอกบ้านซึ่งเป็นที่กึ่งเอาท์ดอร์สำหรับเป็นมุมสังสรรค์โดยมีระแนงไม้ช่วยกรองแสงและป้องกัน
ฝนได้สวนหนึ่ง รับกับพื้นกระเบื้องพอร์ชเลนลายไม้ที่ทนต่อแดดและฝนได้เป็นอย่างดี
• พื้น Porcelain Tile Niro Granite รุ่น Softwood Marrone Legno ขนาด 20×120 cm

หากสนใจข้อมูลการตกแต่งด้วยกระเบื้องและโมเสก และวัสดุไม้พื้นสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่ www.wdc.co.th พร้อมชมตัวอย่างและสัมผัสของจริงได้ที่
• โชว์รูม WDC กรุงเทพฯ โครงการ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ อาคาร D ชั้น 2 ห้องเลขที่ 205 โทร. 0-2102-2057-8
•โชว์รูม WDC ภูเก็ต 108/105-106 หมู่ 5 ถนนเฉลิมพระเกียรติ์ ร.9 ตำบลรัษฎา อำเภอเมืองฯ จังหวัดภูเก็ต โทร. 0-7630-4450