“หลอดไฟ” อุปกรณ์ในการให้แสงสว่าง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการทำงาน การส่องสว่างทั่วไป หรือช่วยให้เราทำกิจกรรมต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ด้วยประโยชน์ที่มีอยู่หลายทาง ส่งผลให้การเลือกใช้หลอดไฟต้องมีความพิถีพิถันกว่าที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นสี ระดับความสว่าง อายุการใช้งาน หรือขนาด ที่ต้องเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานและพื้นที่ใช้สอยมากที่สุด เพราะหลอดไฟไม่ได้มีแค่ฟังก์ชั่นแสงสว่างเพียงอย่างเดียว อย่างหลอดไฟบางชนิดที่ในเวลานี้ได้ถูกคิดค้นมาให้สอดคล้องกับโลกของเรามากขึ้น ทั้งเรื่องประหยัดพลังงานและการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น
มาถึงตรงนี้บางคนอาจเกิดคำถามขึ้นว่า แล้วอย่างนี้เราจะเลือกใช้หลอดไฟประเภทไหนดี แล้วแสงแบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานในแบบที่เราต้องการ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วแสงที่เหมาะกับการทำงานจริงๆ ควรเป็นแสงที่มีความพอดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป เพราะจะได้ไม่เกิดอันตรายกับสายตาของเรา
อย่างแสงที่น้อยเกินไปก็อาจทำให้ม่านตาของเราต้องขยายเพื่อเปิดรับแสงเยอะขึ้น เช่นคนที่อ่านหนังสือหรือใช้สายตาในที่แสงน้อยก็จะมีอาการปวดตาเพราะกล้ามเนื้อม่านตาต้องทำงานหนัก แต่ถ้าหากแสงสว่างเกินไปก็มีข้อเสีย อย่างแสงสีฟ้าที่สามารถทะลุเข้าไปถึงจอประสาทตาได้มากกว่าแสงอื่นๆ ซึ่งแสงสีฟ้านั้นเราจะพบได้ในชีวิตประจำวันอย่างตอนแดดจ้าๆ แสงจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ หรือแสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน เป็นต้น
แต่อย่างที่บอกไปว่าหลายคนอาจทราบแค่เพียงว่าหลอดไฟที่เราใช้อยู่นั้นตอบโจทย์แค่เรื่องของการให้แสงสว่างเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่พัฒนามาถึงจุดที่หลอดไฟบางประเภทนั้นให้มากกกว่าการให้แสงสว่าง แต่ยังให้ในเรื่องของการประหยัดพลังงาน และอายุการใช้งานที่ยาวนานนานขึ้นอีกด้วย
หลอดไฟ LED จาก Philips ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกหนึ่งที่ใช้เทคโนโลยีที่ให้มากกว่าแสงสว่างธรรมดา อายุการใช้งานทนนาน และการประหยัดพลังงาน ทั้งยังสร้างมิติใหม่ในการเลือกใช้หลอดไฟที่ไม่ใช่ปัจจัยในเรื่องการให้แค่แสงสว่างแบบเดิมๆ อีกต่อไป แต่เป็นหนทางใหม่ที่จะยกระดับการอยู่อาศัยอย่างมีคุณภาพ หลอดไฟ Philips LED จึงสร้างสรรค์มาให้มีคุณสมบัติที่ดีและแตกต่างจากหลอด LED ที่ไม่ได้มาตรฐานทั่วไป
ตามมาตรฐานแล้วค่าวัดความถูกต้องของแสงสว่าง มีค่าตั้งแต่ 0-100 ซึ่งหลอดไฟที่ดีจะต้องให้ค่าแสงที่ใกล้เคียงกับธรรมชาติ หรือแสงจากดวงอาทิตย์มากที่สุด เพราะหากเลือกผิดก็จะทำให้การรับรู้ของเราผิดพลาดได้ ดังนั้นหลอดไฟที่เลือกมาใช้ควรมีค่าความถูกต้องของสีให้อยู่ในระดับ 70-90 เพราะให้สีใกล้เคียงกับธรรมชาติและสมจริงมากที่สุด
ที่ผ่านมา Philips รู้ดีว่าแสงสว่างนั้นมีความสำคัญมาก จึงได้คิดค้นและผลิตหลอดไฟ LED ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีระดับความสว่างที่พอเหมาะกับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง
และเมื่อพูดถึงผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ Philips ได้มุ่งมั่นออกมาเพื่อรังสรรค์การใช้แสงไฟคุณภาพอย่างแท้จริง จึงได้ส่งผลิตภัณฑ์ ในกลุ่ม LED SceneSwitch มาตอบโจทย์การเปลี่ยนบรรยากาศในที่อยู่อาศัยด้วยแสงไฟ นั่นก็คือ Philips LED SceneSwtich Color Change ที่สามารถเปลี่ยนโทนสีได้แบบ 2 in 1 (ระหว่าง cool daylight และ warm white) ในหลอดเดียว โดยใช้กับสวิตซ์ไฟตัวเดิมได้ทันที เพียงเปิดไฟครั้งแรกจะได้แสงไฟสีขาว และ ปิดและเปิดสวิซ์อีกครั้งแสงไฟจะเปลี่ยนเป็นแสงสีวอร์ม ช่วยจะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ภายในบ้านของคุณได้แบบง่ายๆ
ทั้งนี้ หลอดไฟ LED จาก Philips นั้นถือเป็นแบรนด์แรกๆ ที่สื่อสารให้คำนึงปัจจัยสำคัญในการการเลือกหลอดไฟที่ช่วยถนอมสายตา หลอดไฟ LED ที่ถนอมสายตาต้องผ่านการทดสอบด้านแสงตามมาตรฐาน IEC62471 หลอดไฟ LED ที่มีคุณภาพจะมอบแสงสว่างที่มีคุณภาพโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงกระพริบสั่น (No visible flickering) ไม่ต้องกังวลเรื่องแสงแยงตา ลดแสงจ้าถึง 70% ทำให้ทุกคนสามารถอ่านหนังสือ ทำงาน หรือกิจกรรมภายในห้องอย่างสบายตา และมีความสุขกับทุกกิจกรรมโปรดในบ้านได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากจะให้แสงสว่างที่มีคุณภาพ สบายตาแล้ว Philips ยังคำนึงถึงความเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม(Environment-Friendly) ประหยัดพลังงาน เหล่านี้ถือเป็นนวัตกรรมของ Philips ที่เห็นแล้วว่าดีขนาดไหน ซึ่งเมื่อเราเปลี่ยนมาใช้ครั้งเดียวก็ใช้งานไปได้อีกนาน ซึ่งถ้าเปลี่ยนเป็นหลอดไฟ LED จาก Philips ทั้งบ้านจะช่วยประหยัดค่าไฟต่อเดือนได้มากทีเดียว รวมถึงเป็นการดูแลสายตาของคนที่คุณรัก และตัวคุณเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีเด็กในวัยเรียน
อย่างไรก็ตาม จากสถิติล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่าเด็กสายตาสั้นเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เพราะคงไม่มีใครรู้ว่า การไม่ได้อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ภายใต้แสงไฟที่ด้อยคุณภาพมีผลต่อสายตาเด็กๆเช่นกัน และจะส่งผลไปถึงปัญหาในการเรียน เด็กจะมองตัวหนังสือบนกระดานไม่ชัด ทำให้จดข้อมูลและเรียนไม่ทันเพื่อน และเกิดปัญหาเด็กเบื่อหน่ายการเรียน ไม่อยากเรียนต่อไป นอกจากนี้จะทำให้เกิดอาการปวดตา ปวดศีรษะโดยไม่รู้สาเหตุอีกด้วย
และหากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ของ Philips ที่โดดเด่นในเรื่องของแสงสว่างคุณภาพ ต้องยกให้ตัวนี้เลยกับ หลอดไฟPhilips Ecofit LED Tube เป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับการใช้งานอย่างที่สุด ด้วยคุณสมบัติในการ ประหยัดพลังงานได้มากกว่าหลอดฟลูออเรสเซนต์แบบเดิมแถมยังติดตั้งง่ายสามารถเปลี่ยนทดแทนหลอดเดิมที่ใช้อยู่ เพียงถอดสตาร์ทเตอร์ที่รางเดิมออก ใส่อีเอ็มพี สตาร์ทเตอร์ ทดแทน และใส่หลอด LED EcoFitLEDtube เข้าไปเท่านั้น และด้วยมุมมองของแสงที่ออกมา ทำการกระจายแสงออกมาได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่มีรังสี UV แถมเปิดปุ๊บ ติดทันที
อีกหนึ่งอย่างที่จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ กับโคมไฟ Philips Meson Downlight LED โคมไฟดีไซน์ใหม่ที่ผลิตมาจากวัสดุคุณภาพดี มีความปลอดภัยสูงช่วยลดปัญหาในเรื่องไฟฟ้าดูด ไฟฟ้าช็อตไปได้เลย และด้วยคุณสมบัติเด่นในเรื่องความสว่างที่ออกมามีความสม่ำเสมอ กระจายอย่างทั่วถึง แสงนวลตาไม่มีแสงสะท้อน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน และอายุการใช้งานยาวนานถึง 15,000 ชม และที่สุดยอดไปกว่านั้นยังประหยัดพลังงานได้มากถึง 80%
และปัจจุบันด้วยราคาที่ต่างกันไม่มากถ้าเทียบกับหลอดไฟที่ไม่ได้มาตรฐานแบบอื่นๆ ซึ่งดูจากคุณภาพและอายุการใช้งานแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เลือกใช้และที่น่าตื่นเต้นไปกว่านั้นซื้อหลอดไฟ Philips LED
สามารถเช้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://goo.gl/Q86oo2