ปีนัง ผมตั้งใจไว้นานแล้วว่าจะหาโอกาสไปเที่ยวปีนังสักครั้ง อยากรู้ว่าที่นี่มีอะไรดี และนอกเหนือจากที่เที่ยวที่มีรีวิวในอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังมีสถานที่อื่นๆที่น่าสนใจอีกไหมแต่ก็หาจังหวะเวลาไม่ได้สักที กระทั่งมีคราวนี้ล่ะที่ผมได้ทำอย่างที่ตั้งใจสักที
ปีนัง เป็นหนึ่งในสิบสามรัฐของสหพันธรัฐมาเลเซียซึ่งมีคนเชื้อสายจีนอยู่อาศัยมากที่สุด อาหารการกินส่วนใหญ่จึงเป็นอาหารจีน โดยส่วนตัวผมคิดว่าสภาพบ้านเมืองนี้จะคล้ายๆกับภูเก็ตและสงขลา (เมืองเก่า) ของบ้านเรา อาจเป็นเพราะว่าตั้งอยู่ใกล้ๆกัน และการสร้างตึกรามบ้านช่องก็ได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน
สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในการเดินทางครั้งนี้เห็นจะเป็นวิวสวนริมทางเดินนอกเมืองจอร์จทาวน์ เพราะแม้อากาศจะร้อน แต่ต้นไม้ใหญ่ที่มีให้เห็นอยู่หนาตาก็สร้างบรรยากาศร่มรื่นและสดชื่นได้ดีทีเดียว ผมใช้เวลาเที่ยวที่ปีนัง 4 วันครับ ต้องขอบอกก่อนว่านิยามการท่องเที่ยวของผมนั้นจะเน้นเรื่องการใช้ชีวิต เดินชมบ้านชมเมืองไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก เพื่อที่เราจะได้ดื่มด่ำกับการเดินทางได้อย่างแท้จริง เอาล่ะเกริ่นกันมาพอสมควรแล้ว ไปดูกันดีกว่าว่าในแต่ละวันผมไปไหนมาบ้าง
วันแรก
ขอตัดมาที่พิธีการตรวจคนเข้าเมืองกันเลยนะครับ ที่ปีนังยกเลิกการเขียนใบตรวจคนเข้าเมืองแล้วเขาใช้วิธีสแกนนิ้วแล้วก็เข้าเมืองได้เลยผมมาถึงช่วงเที่ยงพอดี แม้จะรู้สึกหิวอยู่พอควร แต่ก็ขอหาทางเข้าที่พักก่อน เราออกมานอกสนามบิน ซึ่งบริเวณด้านหน้าจะเป็นที่จอดรถบัสเข้าเมือง แต่ผมและเพื่อนร่วมทริปเลือกใช้บริการเรียกแท็กซี่ผ่านแอพลิเคชั่นเพราะว่าสะดวก รวดเร็วราคาถูกมากที่สำคัญถูกกฎหมายด้วย ไม่ต้องกลัวปัญหาแท็กซี่เขม่นกันเอง
ที่พักของพวกเราเป็นคอนโดมิเนียมริมทะเลวิวสวยมากอยู่แถวถนน Lebuh Sungai Pinang 1ซึ่งอยู่ในย่านที่ห่างจากกลางเมืองจอร์จทาวน์ไปประมาณ 3 กิโลเมตร หลังเข้าที่พักและเก็บกระเป๋าเรียบร้อยก็รีบหาอาหารเที่ยงรับประทานกัน ซึ่งมาลงเอยที่ร้านอาหารอินเดียแถวที่พัก ลักษณะเหมือนร้านข้าวแกงบ้านเรา แต่ ผมเลือกเมนูที่ดูคุ้นตาหน่อย พอถึงตอนเก็บเงินพวกเราก็โดนดีจนได้ครับ มื้อนี้เราแต่ละคนกินข้าวราดกับสองอย่าง แต่ต้องจ่ายถึงคนละ 10 – 15 ริงกิต ซึ่งแพงมากแอบชำเลืองบิลของโต๊ะอื่นที่กินเหมือนๆกับเราก็จ่ายแค่4 ริงกิต เรียกว่ามื้อแรกก็โดนฟันเสียแล้ว แม้จะเสียอารมณ์กับพิษสงของอาบังคนขายข้าวอยู่บ้าง แต่เราก็ปล่อยผ่าน ไม่เก็บมาใส่ใจ เดี๋ยวจะหมดสนุกเสียเปล่าๆ
พออิ่มท้องแล้วก็เลยถือโอกาสเดินย่อยกันเสียหน่อย จุดหมายของเราคือตึกเก่าใจกลางเมืองจอร์จทาวน์ คณะเราเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ เจอตึกถ่ายตึกเจอสวนถ่ายสวน กระทั่งในที่สุดก็มาถึงย่านสตรีทอาร์ตซึ่งเป็นเป้าหมายของนักท่องเที่ยวสายเช็กอิน
จะว่าไปแล้วปีนังถือเป็นเมืองที่เก็บรักษาบรรยากาศและกลิ่นอายความศิวิไลซ์เมื่อครั้งอดีตได้ดี คนรุ่นใหม่ก็ใช้ชีวิตอยู่ในตึกเก่าเหมือนอย่างวันคืนที่ผ่านมาโดยไม่ขัดเขิน มีการทำนุบำรุงและเก็บรายละเอียดของตึกเก่าเป็นอย่างดีสมแล้วที่ได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองมรดกโลกการได้เดินมาชมตึกเก่าและองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมแบบเก่าที่ยังคงงดงาม ก็ทำให้ผมรู้สึกดีจนลืมเรื่องแย่ๆในวันนี้ไปได้เลย
เย็นนี้เราฝากท้องไว้ที่ศูนย์อาหาร CF Food CourtบนถนนGat Lebuh Armenianซึ่งมีอาหารให้เลือกหลากหลายชนิด คณะเราเลือกสั่งกันเต็มที่ เป็นการปิดท้ายวันแรกในปีนังอย่างอิ่มหนำ
วันที่สอง
เช้าวันนี้ผมตื่นเจ็ดโมงกว่าๆ โอ้สายแล้วหรือนี่ มาคิดอีกที จริงๆแล้วที่ปีนังเร็วกว่าบ้านเราหนึ่งชั่วโมง คือเราก็ตื่นเท่าที่บ้านเรานั่นแหละ กิจวัตรทุกเช้าของผมคือการออกกำลังกาย ผมตั้งเป้าหมายไว้ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่จะต้องตื่นมาวิ่งให้เหมือนตอนที่เราอยู่บ้านเพราะนี่คือการใช้ชีวิตปกติของเรา ผมลงไปวิ่งริมทะเลซึ่งทางรัฐบาลทำทางวิ่งและทางจักรยานไว้ให้ประชาชนได้มาออกกำลังกายและพักผ่อนในยามว่าง อยากบอกว่าวิวสวยจริงๆครับ วิ่งไปชมวิวไปแป๊บเดียวก็จบโปรแกรมวิ่งแล้ว บวกกับสภาพอากาศที่ดีด้วยก็เลยทำให้ไม่เหนื่อย
ในเมื่อออกแรงไปแล้ว เราก็ต้องหาอาหารเช้ามาเพิ่มพลัง รอบๆบริเวณที่พักถือเป็นแหล่งรวมร้านอาหารหลายประเภทเช่นอาหารญี่ปุ่น อาหารเกาหลี อาหารไทย อาหารฝรั่ง รวมถึงร้านกาแฟร้านดังที่มีสาขาทั่วโลก มื้อเช้าของเราเริ่มเมื่อใกล้เที่ยงด้วยเวลาที่เร็วกว่าไทยเลยทำอะไรก็ดูเร็วไปหมด แต่พวกเราไม่รีบ กินข้าวเสร็จก่อนเที่ยงก็เรียกแท็กซี่ผ่านแอพลิเคชั่นอีกครั้งเป้าหมายอยู่ที่ Penang Botanical Gardens ตั้งอยู่ที่ถนน JalanKebunBungaเวลาเปิดตี 5–2ทุ่ม ไม่เสียค่าเข้าชม ภายในสวนพฤกษศาสตร์แห่งนี้มีบรรยากาศร่มรื่นมาก ลักษณะเป็นสวนป่าขนานแท้ คนที่มาที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นคนพื้นที่ กิจกรรมยอดนิยมคือการเดินป่าบ้างก็มาวิ่งในสวน เห็นแล้วก็นึกอิจฉาอยากมีสวนป่าไว้เดินเล่นแบบนี้บ้าง
เราเรียกรถแท็กซี่อีกครั้งเพื่อกลับไปยังจอร์จทาวน์ในโซนที่เป็นที่ตั้งของส่วนราชการอย่างเช่น City Hall และ Town Hall ใครที่ชอบเครื่องดื่มเย็นๆกับบรรยากาศแบบบ้านๆ แนะนำให้มาที่หลังศาลเจ้ากวนอิมเต็ง จะมีร้านค้าส่งที่ชื่อAntarabangsa Enterpriseตั้งอยู่ที่ถนนLorong Stewartที่นี่มีที่นั่งให้ดื่มกันแบบสบายๆเลยล่ะครับ