คงต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ร้านสวยน่านั่งผุดขึ้นมาให้เราเลือกเต็มไปหมด แต่ถ้าจะจัดอันดับร้านที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นอาหารอร่อย บรรยากาศดี แถมยังให้ความสำคัญกับงานดีไซน์โดยเฉพาะการตกแต่งด้วย “กระเบื้อง” ที่ทำให้แต่ละร้านมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว ไปแล้วจำได้ไม่ลืม เหมาะที่จะถ่ายรูปเช็คอินสุด ๆ รับรองว่าทั้ง 3 ร้านที่เราเลือกมานี้ ต้องติดโผในใจใครหลายคนแน่นอน
Blue Whale
ขอประเดิมร้านแรกด้วยการพาไปสัมผัสบรรยากาศในคาเฟ่ไอเดียเก๋ ย่านท่าเตียน ที่ดัดแปลงอาคารเก่าสองชั้นครึ่งให้กลายเป็นคาเฟ่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยแรงบันดาลใจจาก “วาฬสีน้ำเงิน” และคอนเซ็ปต์ใต้ท้องทะเล คาเฟ่จึงถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้า ขาว ไล่เลเยอร์จากสีฟ้าเข้มไปจนถึงฟ้าอ่อนแซมลวดลายงานเพ้นท์ภาพวาฬสีขาวบนพื้นหลังสีฟ้าเข้ม เมื่อกวาดตามองไปก็ต้องสะดุดตากับการตกแต่งฝาผนังบางส่วนด้วยกระเบื้องเซรามิกคล้ายเกล็ดปลา แต่ในอีกมุมหนึ่ง มองไปมองมาบางทีก็เหมือนเกลียวคลื่น ลงตัวกับพื้นไม้โทนสีน้ำตาลอบอุ่นสอดรับกันอย่างพอดิบพอดี
บอกเลยว่าที่นี่เหมาะแก่การมานั่งเล่น ดื่มด่ำบรรยากาศใต้ท้องทะเลไปพร้อมกับการจิบกาแฟ หรือจะรับประทานอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย เน้นเมนูง่าย ๆ ในรูปแบบที่ดีต่อสุขภาพและพิเศษสุด ๆ สำหรับเมนูเครื่องดื่มต้อนรับช่วงคริสต์มาสกับ Snowy Berry เบอร์รี่สมูทตี้ผสมกับโยเกิร์ตน้ำผึ้ง สุดเฮลท์ตี้ ไม่แต่งกลิ่น รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี และเมนู Monkey Mingle สำหรับคนรักกล้วยที่นำเอากล้วยมาปั่นกับช็อคโกแล็ตเข้มข้น จนได้เนื้อสมูทตี้สูตรเฉพาะที่เข้ากันอย่างลงตัว ทั้ง 2 แก้ว มีกราโนล่ากรุบกรอบโรยด้านบนเพิ่มการลิ้มรส ไปลองกันได้เลย
Blue Whale เปิดให้บริการ เวลา 10.00-20.00 น. ปิดทุกวันพฤหัสบดี
ตั้งอยู่บนถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
หรือติดตามได้ที่ Blue Whale Maharaj-Wat Pho
The Blooming Gallery Tea Cafe and Bar
อีกร้านที่น่าไปนั่งชิล จิบชา ชาร์จพลัง กับคาเฟ่ชาแห่งใหม่ย่านทองหล่อ ในสไตล์ Sweet Rustic มีแรงบันดาลใจในการตกแต่งส่วนหนึ่งมาจากผลงานภาพวาดแนว Impressionist ของศิลปินนักวาดภาพสีน้ำมันชาวฝรั่งเศสนามว่า Oscar Claude Monet เขานิยมวาดภาพทิวทัศน์ธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้ จึงไม่น่าแปลกใจ เมื่อเราเข้าไปในร้านจะได้พบบรรยากาศการตกแต่งด้วยไอเดียของสวนดอกไม้แสนสวยสไตล์ยุโรปสมชื่อ และสร้างความสดชื่น เขียวขจี แต่งแต้มไปทั่วทั้งร้าน ฉาบสีสันด้วยสีธรรมชาติของดอกไม้ที่เพลินตาเพลินใจ ยิ่งมาจัดวางผสมกับโทนสีรัสติค ทั้งจากสีน้ำตาลของอิฐและไม้จริงเข้าด้วยกัน ชวนให้บรรยากาศด้านในอบอุ่นเป็นกันเอง
ยิ่งเมื่อแสงจากภายนอกส่องเข้ามากระทบกับพื้นกระเบื้องสีขาวลายตารางคล้ายกลีบดอกไม้ ยิ่งขับให้บรรยากาศรวมด้านในดูกว้าง สว่าง และโดดเด่น ยิ่งถ้าได้จิบชาดี ๆ ที่รวบรวมมาจากทั่วโลก และยังมีชาเบลนด์พิเศษสูตรเฉพาะของทางร้าน รวมไปถึงขนมและอาหารมากมายให้เลือก รับรองว่ามาที่นี่ได้พกความ
ฟินกลับไปอย่างแน่นอน อย่าลืมสั่งเมนูอาหารแนะนำ ควินัวกะเพรากุ้ง (หรือเนื้อวากิว) เสิร์ฟคู่กับไข่ดาว เหมาะกับสายเฮลท์ตี้ส่วนใครชอบชีสเค้กต้องลอง A Path in the Forest (Matcha Mousse Soft Cheesecake) ชีสเค้ก 4 เลเยอร์ตัวเด็ดของทางร้านที่เสิร์ฟในถ้วยหินอ่อน เพื่อคงความเย็นของขนม ลองแล้วจะติดใจ
The Blooming Gallery Tea Cafe and Bar เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-22.00 น.
ชั้น LG The Ei8htThonglor Plaza สุขุมวิท 55 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110 หรือติดตามได้ที่ The Blooming Gallery
ร้านอาหารสายลมบางปู
ปิดท้ายด้วยการพามาไกลจากกรุงเทพฯ อีกนิด ขับรถไม่กี่อึดใจ ก็จะได้พบกับ ร้านอาหารสายลมบางปู ร้านอาหารทะเลขึ้นชื่อที่หลายคนรู้จักกันดี ในยามที่นึกถึงอาหารทะเลเลิศรสที่มาพร้อมบรรยากาศสดชื่นริมทะเลและฝูงนกนางนวล ให้ความรู้สึกสุดคลาสสิก ที่มากกว่านั้นเจ้าของร้านยังมีความชื่นชอบในงานเซรามิก จึงมีการจัดร้านตกแต่งด้านในได้อย่างไม่ธรรมดา เน้นโครงสร้างเป็นปูนเปลือย เปิดกว้างรับลมทะเล ตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าเข้ากับบรรยากาศริมทะเล โดดเด่นด้วยการนำชิ้นงานเซรามิกหลากหลายสีสันมาปูพื้นและตกแต่งตามผนังร้านสร้างคาแรคเตอร์ชวนจดจำ กลายเป็นมุมความทรงจำผ่านเลนส์หลายจุด ทั้งภายในร้านอาหาร เรื่อยมาจนถึง “เซรามิก คาเฟ่” ที่ออกแบบในสไตล์โมรอคโคซึ่งเต็มไปด้วยงานเซรามิกจากแบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ ที่สวยอย่างมีเอกลักษณ์ แถมยังสามารถช้อปกลับบ้านไปเป็นของฝาก พร้อมกับการจิบกาแฟของร้านได้แบบไม่มีเบื่อ รับรองว่าคนรักงานคราฟท์เป็นอันตกหลุมรัก
ร้านอาหารสายลมบางปู เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-21.30 น.
ตั้งอยู่ที่ ร้านอาหารสายลมบางปู ซอยบางปู 72 เมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
หรือติดตามได้ที่ ร้านอาหารสายลมบางปู
จะเห็นได้ว่าทั้งสามร้านต่างก็มีคอนเซ็ปต์ชัดเจน โดยเพิ่มเติมการตกแต่งลวดลายกระเบื้องเข้ามาเป็นการสร้างงานดีไซน์ได้อย่างสวยงามเฉพาะตัวไม่ซ้ำใคร เราเองก็สามารถสร้างบ้านด้วยดีไซน์โดดเด่นแบบนี้ได้จากการหาคอนเซ็ปต์ความชอบให้ชัดเจนเพื่อกำหนด Mood&Tone ก่อนลงมือเลือกกระเบื้อง เพื่อสร้างบ้านของเราให้มีคาแรคเตอร์ตรงใจมากที่สุด