/ แม้บ้านหลังนี้จะเป็นอะไรที่คิดว่าเป็นแค่บ้านชั่วคราว
แต่พอเริ่มอยู่ไปเรื่อยๆ ของตกแต่งต่างๆก็เยอะขึ้น ผมรู้สึกมีความสุขกับบ้านชั่วคราวหลังนี้แล้วครับ /
บ้านหลังนี้เป็นทั้งพื้นที่เวิร์คชอป สตูดิโอออกแบบ และที่พักอาศัยส่วนตัวของสองดีไซน์เนอร์ที่เคยฝากผลงานดีไซน์สุดคูลมาแล้วทั้งในและต่างประเทศ อย่าง คุณต้น – วรพงศ์ มนูพิพัฒนพงศ์ และ คุณฟาง – อดา จิระกรานนท์
นอกจากนี้ทั้งคู่ยังร่วมกันสร้างสรรค์งานออกแบบที่น่าสนใจหลากหลายสาขา เช่น งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ สถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน งานอิลลัสเตรชั่น และงานศิลปะ นี่คือบ้านสุดเรียบง่ายสะท้อนไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้อย่างชัดเจนที่เรามีโอกาสได้มาเยี่ยมเยือน จากภายนอกเรามองเห็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้นเรียงรายอยู่ติดถนนพหลโยธิน บริเวณย่านสะพานใหม่ แต่ทว่าฟาซาดหน้าบ้านหลังนี้กลับโดดเด่นด้วยประตูเหล็กบานเฟี้ยมสีดํากรุกระจกใส ทําให้เรารู้โดยอัตโนมัติว่าที่นี่คือบ้านของ ATELIER2+ แน่นอน
“เราเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนสถาปัตย์ที่ลาดกระบัง พอเรียนจบก็แยกย้ายกันไปทํางาน ต้นไปเรียนคอร์สพื้นฐานทางศิลปะ เช่น วาดรูป ถ่ายภาพที่อเมริกา และเรียนต่อคอร์สสถาปัตย์ที่เนเธอร์แลนด์ จากนั้นก็ไปเรียนต่อที่ประเทศสวีเดน ส่วนฟางทํางานออฟฟิศที่เมืองไทย จากนั้นจึงไปเรียนต่อปริญญาโทที่ Konstfack University College of Arts, Crafts and Design ประเทศสวีเดนพร้อม ๆ กับต้น” คุณฟางเล่า ส่วนคุณต้นเองก็กล่าวเสริมว่า
“ฟางเรียน Textile เพราะชอบวิธีการถักทอ ชอบงานโครงสร้าง ส่วนต้นเรียนวิชาออกแบบภายในกับเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์ สิ่งที่เราเรียนจะเกี่ยวข้องกับ Interior Space สัมพันธ์กับ Human Scale สามารถนํามาใช้ได้จริง การเรียนที่นี่จะเน้นงานคราฟต์และงานอาร์ตจึงส่งผลให้เราทั้งคู่ชี่นชอบดูงานศิลปะเป็นพิเศษ”
หลังจากเรียนจบและย้ายกลับมาเมืองไทยเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ก็เริ่มหาทําเลสําหรับทําสตูดิโอออกแบบจนมาลงตัวที่ตึกแถวของคุณป้าซึ่งกําลังว่างอยู่พอดี จากนั้นก็ค่อยๆ ปรับปรุงมาเรื่อยๆ โดยเริ่มจากชั้นหนึ่ง ด้วยสเปซของตึกแถวมักมีข้อเสียเรื่องขาดความต่อเนื่องของพื้นที่ คุณต้นจึงลงมือปรับปรุงให้แต่ละชั้นเชื่อมโยงถึงกันด้วยการทุบพื้นเดิมบางส่วนออกเพื่อให้เกิดดับเบิ้ลสเปซสร้างความโปร่งโล่ง และมีฟังก์ชันตรงกับความต้องการ รวมถึงสอดคล้องกับไลฟ์สไตล์
“ตอนแรกคิดไว้ว่าจะทําเป็นสตูดิโอให้เพื่อน ๆ มาทํางานด้วยกัน มีพื้นที่เวิร์คชอปแลกเปลี่ยนความคิด แชร์ Facility กัน แต่ปรากฏว่า เพื่อนๆ บ้านไกลกันมาก อีกทั้งต่างก็มีสตูดิโอเป็นของตัวเองเลยแยกย้ายกันทํางาน แต่ก็มีโอกาสได้ทํางานด้วยกันบ้าง เหตุผลที่ตั้งชื่อสตูดิโอว่า ATELIER2+ เพราะเราเริ่มต้นด้วยคน 2 คน แต่ก็คิดว่าจะมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราทำงานกับตัวเองนานๆ อาจมีเบื่อ จึงอยากทำงานกับคนอื่นบ้าง เราชอบทํางานร่วมกับคนนู้นคนนี้สนุกดีค่ะ” คุณฟางเล่าด้วยใบหน้าท่ีบ่งบอกถึงความสุข
ภายในบ้านมีพื้นที่ใช้สอยประมาณ 200 ตารางเมตร (ไม่รวมชั้น 5) มีจุดเด่นที่ความโปร่งโล่งและความต่อเนื่องกันของสเปซ เมื่อเข้ามาข้างในบริเวณชั้น 1 เป็นส่วนเวิร์คชอปสําหรับทํางานไม้ของคุณต้น ชั้น 2 เป็นสตูดิโอออกแบบ โดยทั้งสองชั้นนี้ออกแบบให้เชื่อมถึงกันด้วยการเล่นดับเบิ้ลสเปซบริเวณโถงด้านหน้า สําหรับชั้น 3 ใช้เป็นสตูดิโอและแพนทรี่รายล้อมด้วยของสะสมมากมายของคุณต้น เช่น เครื่องเล่นแผ่นเสียง ฯลฯ เชื่อมพื้นที่กับชั้น 2 ด้วยการ เล่นดับเบิ้ลสเปซให้ความรู้สึกโปร่งสบาย ผนังด้านหลังมีช่องแสงขนาดใหญ่สามารถเปิดรับลมและแสงจากธรรมชาติ ทั้งนี้ส่วนสตูดิโอออกแบบแยกความเป็นส่วนตัวออกจากส่วนพักอาศัยชั้นบนอย่างชัดเจน โดยมีโถงบันไดหลักทําหน้าที่เชื่อมและแบ่งฟังก์ชันการใช้งาน สําหรับชั้น 4 ประกอบด้วยห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องรับประทานอาหาร ระเบียงนั่งเล่นกึ่งเอ๊าต์ดอร์ ซึ่งเป็นมุมที่ทั้งคู่ชื่นชอบ
“พื้นที่บนชั้น 4 เป็นโซนท่ีต่อเนื่องกัน สามารถเชื่อมถึงกันได้หมด เราทั้งคู่ชอบทําอาหาร ชอบชวนเพื่อนๆมาปาร์ตี้ทําอาหารกินกันตรงมุมระเบียงเอ๊าต์ดอร์ซึ่งเป็นมุมโปรดของพวกเรา”
สำหรับแนวทางการตกแต่งภายในเน้นแบบเรียบง่าย เลือกใช้โทนสีสะอาดสบายตาอย่างสีขาวเป็นสีหลัก ผสมผสานกับสีของเฟอร์นิเจอร์ไม้สนในเฉดสีอ่อนและพื้นซีเมนต์ขัดมัน สร้างความรู้สึกดิบๆ ปนอบอุ่น ด้วยความที่ทั้งคู่ชื่นชอบงานคราฟต์ของตกแต่งส่วนใหญ่จึงเป็นของที่ทําขึ้นเอง นอกจากนี้ของสะสมรวมถึงผลงานออกแบบบางชิ้นก็เป็นของที่แลกเปลี่ยนกันกับเพื่อน บางชิ้นเป็นของขวัญที่เพื่อนให้มา เช่น โคมไฟ โต๊ะข้างเตียงในห้องนอน ฯลฯ
“ส่วนใหญ่เน้นทาสีขาวอย่างเดียว พอเริ่มรีโนเวตชั้น 4 เมื่อปีที่แล้วก็ไม่อยากจะให้มีแต่สีขาว อยากทาสีบ้าง แต่ ไม่ใช่สีสันสด ๆ สุดท้ายก็เลยเลือกทาสีเขียวอมเทาค่ะ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่ที่เห็นเราทําเองเยอะ เพราะมีพื้นที่เวิร์คชอป มีเครื่องตัดไม้อยู่แล้วก็เลยทําเฟอร์นิเจอร์ไว้ใช้เอง เช่น โต๊ะที่บริเวณมุมนั่งเล่นเอ๊าต์ดอร์ ชั้นวางหนังสือ มีช่วงหนึ่งชอบไปร้านขายของเก่า เราก็ซื้อตู้เหล็ก เก้าอี้เหล็ก นอกจากนี้ก็มีเฟอร์นิเจอร์เก่าจากบ้านเดิมซึ่งเป็นของที่ใช้มานานแล้วครับ”
ภายใต้บรรยากาศเรียบง่ายเป็นกันเอง เราสัมผัสได้ถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะมองมุมไหน ข้าวของทุกชิ้นที่นำมาจัดวางล้วนมีเรื่องราวและความทรงจำดีๆ ซ่อนอยู่ บ้านหลังนี้ค่อยๆ เติบโตผ่านกาลเวลา สะสมเรื่องราวทีละเล็กทีละน้อยจนกลายเป็นพื้นที่สำหรับรังสรรค์ผลงานพร้อมกับเป็นที่พักอาศัยได้อย่างลงตัว สะท้อนให้เห็นถึงไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่กับการเชื่อมโยงบ้านและที่ทํางานให้อยู่ภายใต้หลังคาเดียวกันได้อย่างกลมกลืน
“จริงๆ ก็รู้สึกว่าบ้านของเราค่อย ๆ โตขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงแรกที่ย้ายเข้ามา จากที่เป็นที่ทำงานอย่างเดียว ค่อยๆ มีเครื่องมือและเฟอร์นิเจอร์เพิ่มขึ้น จนสุดท้ายมาเพิ่มส่วนของที่อยู่อาศัยบนชั้น 4 เราก็เร่ิมผูกพันกับที่นี่มากขึ้น เวลาที่ต้องออกไปที่อื่นนาน ๆ พอกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกดีว่าถึงบ้านแล้วนะ หายเหนื่อย” คุณฟางยิ้ม ส่วนคุณต้นเองก็กล่าว ทิ้งท้ายได้อย่างน่าฟังว่า
“เราว่าบ้านต้องโตตามคนที่อยู่ ไม่ใช่อะไรที่สําเร็จรูป หรืออะไรที่เซตไว้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่แรก บ้านที่น่าอยู่สำหรับเราจึงเป็นบ้านที่มีเรื่องราว มีข้าวของ และความเป็นมาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าของบ้าน สะท้อนตัวตนผู้อาศัย”
เจ้าของ : คุณวรพงศ์ มนูพิพัฒนพงศ์ และคุณอดา จิระกรานนท์
ออกแบบ-ตกแต่ง : Atelier2+ โทร.08-5815-7888 www.ateliertwoplus.com, www.facebook.com/Atelier2
เจ้าของ-ออกแบบ : คุณวรพงศ์ มนูพิพัฒนพงศ์ และ คุณอดา จิระกรานนท์
สำหรับใครที่อยากร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับ คุณอดา และ คุณวรพงศ์ ในหัวข้อ Living Large in Compact Space พบกันได้ในงานเสวนา “GRAND UNITY X ROOM DESIGN TALK : BIG IDEAS FOR SMALL SPACE” วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2560 เวลา 16.00 -17.00 น. ในงานบ้านและสวนแฟร์ 2017 โซน My Home, อิมแพ็ค เมืองทองธานี
สำรองที่นั่งฟรีที่ www.baanlaesuan.com/designtalk-register
http://www.baanlaesuan.com/80598/design/atelier2/
http://www.baanlaesuan.com/81411/houses/specific-area/
