ทิศทางสตูดิโอ ออก แบบสำนักงาน บริษัท Bit Studio ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บิดเบือนที่ว่าง”
แบบสำนักงาน Bit studio

BIT STUDIO สถาปัตยกรรมบิดเบือนที่ว่าง

หลังกลับมาจากเรียนต่อและทำงานอยู่ที่อเมริกา คุณบุ้น - เกียรติยศ พานิชปรีชา ก็ได้เริ่มก่อตั้ง Bit Studio ซึ่งทำงานทางด้าน Creative Technologists ด้วยการปรับทาวน์เฮ้าส์ใจกลางเมืองย่านลาดพร้าวให้กลายเป็นโฮมออฟฟิศ โดยใช้พื้นที่ชั้น 1 และ 2 เป็นส่วนของออฟฟิศและชั้นบนเป็นส่วนพักอาศัย

แต่เมื่ออยู่ไปสักพักพื้นที่เริ่มไม่เอื้ออำนวยทั้งด้านฟังก์ชันและจำนวนคนที่เพิ่มมากขึ้น ทิศทางสตูดิโอ จึงเข้ามารับหน้าที่รีโนเวตเปลี่ยนบรรยากาศเสียใหม่ โดยออก แบบสำนักงาน แห่งนี้ให้มีฟังก์ชันเหมาะสมชวนน่าทำงานมากขึ้น

แบบสำนักงาน Bit studio

จากลักษณะของงานที่เป็นการออกแบบ Interactive Installation ทุกโปรเจ็กต์ต้องผ่านกระบวนการทางความคิด แล้วแปรรูปออกมาโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวสื่อสารจึงเป็นที่มาให้ทีมสถาปนิกนำคาแร็คเตอร์นี้มาสื่อสารผ่านสเปซต่าง ๆ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บิดเบือนที่ว่าง” หรือการออกแบบที่บิดเบือนมุมมองของพื้นที่เดิม ไม่ว่าจะเป็นรูปทรงของสเปซหรือแม้แต่วัสดุที่เลือกใช้ เห็นได้จากการต่อเติมพื้นที่ในส่วนออฟฟิศเดิมที่ค่อนข้างจำกัดไปด้านหลังเพื่อเพิ่มพื้นที่ห้องประชุมทั้งสองชั้น ทั้งยังต่อเติมห้องเวิร์คชอปสำหรับทดลองงานไปยังพื้นที่ด้านหน้าของบริเวณที่จอดรถชั้น 1 รองรับการใช้งานที่ค่อย ๆ ขยายตัวขึ้น และเนื่องจากทำงานทางด้านเทคโนโลยี

แบบสำนักงาน Bit studio

แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นเรื่องของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่ต้องใช้งานเป็นประจำ ที่เก็บของจึงเป็นอีกส่วนที่ทีมสถาปนิกให้ความสำคัญ ด้วยการออกแบบตู้บิลท์อินดีไซน์เรียบเต็มบริเวณฝาผนังด้านขวาของห้องประชุมชั้น 1 และห้องเวิร์คชอปเพื่อใช้เก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเลือกใช้สีขาวเพื่อความกลมกลืนกับผนัง เช่นเดียวกับส่วนของเคาน์เตอร์ครัวและส่วนรับประทานอาหาร แม้จะอยู่ในตำแหน่งที่ถัดจากประตูทางเข้าออฟฟิศและเชื่อมต่อกับห้องประชุมใหญ่แต่ก็ไม่ได้รู้สึกรกตา เพราะดีไซน์บานตู้บิลท์อินสีขาวให้ล้อไปกับบานตู้เก็บของในห้องประชุมสร้างความรู้สึกปลอดโปร่ง และเข้ากันดีกับชุดเฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นในมุมรับประทานอาหาร

แบบสำนักงาน Bit studio แบบสำนักงาน Bit studioแบบสำนักงาน Bit studio

ส่วนมุมทำงานเดิมจากที่เคยกระจายกันอยู่คนละชั้นผู้ออกแบบได้จัดสรรพื้นที่ทำงานใหม่ด้วยการย้ายโต๊ะทำงานขึ้นมาอยู่บริเวณชั้น 2 ทางด้านทิศตะวันออกของอาคาร เพราะเป็นส่วนที่ร่มเกือบตลอดทั้งวัน และด้วยเพดานที่สูงถึง 4.30 เมตร จึงได้มีการต่อเติมชั้นลอยเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับจำนวนพนักงานในอนาคต เอื้อต่อการทำงานร่วมกันของพนักงานแต่ละฝ่าย

แบบสำนักงาน Bit studio

และด้วยความที่อาคารมีระดับพื้นของแต่ละชั้นเหลื่อมกันอยู่จึงทำให้เกิดช่องโล่งมองลอดเห็นกันได้สถาปนิกเลือกเสริมจุดเด่นนี้ด้วยการไม่ใช้วัสดุปิดทึบใด ๆ มากั้นสเปซบริเวณบันไดและคอร์ริดอร์ทางเชื่อม แต่เลือกใช้เหล็กฉีกที่สามารถมองทะลุผ่านได้กั้นแบ่งขอบเขตการใช้งานแทน ทำให้ภาพที่เห็นและมุมมองที่เกิดขึ้นดูก้ำกึ่งระหว่างพื้นที่ส่วนตัว (บริเวณพื้นที่โต๊ะทำงาน) กับพื้นที่สาธารณะ (ทางเดินเชื่อมห้องประชุม) สร้างความกลมกลืน และเชื่อมต่อกันในแต่ละพื้นที่แม้จะต่างฟังก์ชันกันก็ตามทั้งยังช่วยให้ภายในอาคารโปร่งสบายขึ้นด้วย

แบบสำนักงาน Bit studio

“เราต้องการเล่นกับมุมมองที่เกิดขึ้นกับพื้นที่ภายในจึงออกแบบรูปฟอร์มให้เรียบง่าย แต่เมื่อซ้อนทับกันผ่านมุมมองของเหล็กฉีกแล้ว ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไปคล้ายกับว่ารูเล็ก ๆ ของเหล็กฉีกเป็นตัวแทนของหน่วย Bit ในคอมพิวเตอร์ และภาพที่เกิดขึ้นหลังม่านเหล็กฉีกคือผลลัพธ์งานดีไซน์ของ Bit Studio นั่นเอง”

แบบสำนักงาน Bit studioแบบสำนักงาน Bit studio

เพื่อให้คนหรือวัตถุที่เคลื่อนไหวผ่านเหล็กฉีกโดดเด่นขึ้นมา ผู้ออกแบบจึงเลือกใช้เพียงสีขาว สีเทาของปูนขัดมัน และสีดำของเฟอร์นิเจอร์บางส่วนเท่านั้น เพิ่มมิติให้พื้นที่ภายในอีกนิดด้วยการใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสหลากหลาย เช่น บานเปิดทำสีขาวไฮกลอสแบบด้าน หรือแม้แต่สีขาวที่อยู่บนเหล็กฉีกก็ให้เอฟเฟ็กต์ที่แตกต่างกัน แนวคิดที่นำกระบวนการทำงานมาตีความ แล้วใส่ลงไปในรายละเอียดของงานสถาปัตยกรรมนั้น นอกจากจะสื่อความหมายอย่างมีนัยสำคัญแล้ว ยังสร้างประสบการณ์ใหม่ให้การใช้งาน แม้จะบิดเบือนมุมมองจากพื้นที่เดิมไปบ้าง แต่ฟังก์ชันภายในกลับยังคงชัดเจน เหมือนกับที่ทิศทางสตูดิโอได้แสดงให้เราเห็นผ่านออฟฟิศ Bit Studio นั่นเอง

เจ้าของ    คุณเกียรติยศ พานิชปรีชา บริษัท Bit Studio
ออกแบบ    บริษัททิศทางสตูดิโอ
www.tidtangstudio.com 
โทร. 08-1171-6640


เรื่อง    wannch
ภาพ    นันทิยา


INTELTION OFFICE ฉีกกฎออฟฟิศใหม่ ให้ออกกำลังกายไปพร้อมกับการทำงาน