หลาย ๆ ครั้งที่ภาพยนตร์กลายเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สะท้อนความเป็นไปของสภาพสังคม และความเป็นอยู่ของผู้คนตามเรื่องราวในช่วงเวลานั้น ๆ ได้อย่างน่าสนใจ ถ้าชีวิตคนเราเป็นเหมือนหนังสักเรื่อง ทำไมเราไม่ออกแบบฉากตามหนังในฝันของเราดูละ ว่าแล้วจะรออะไร หนึ่ง สอง สาม แอ็คชั่น!
—————————————————————————–
TRON : LEGACY
(2010)
ถ้าจะพูดถึงหนัง Sci-fi ดีไซน์เยี่ยมสักเรื่อง รับรองว่าหนังเรื่องนี้อยู่ในลิสต์แน่นอน TRON: Legacy ภาคต่อของ TRON (1982) หนังไซ-ไฟที่โด่งดัง และทรงอิทธิพลจากช่วงปี 80 ในยุคนั้น TRON ภายใต้การกำกับของ Steven Lisberger ได้จุดประกายให้กับวงการภาพยนตร์แอนิเมชั่น และคอมพิวเตอร์กราฟิกอย่างมาก ถึงขนาดที่ John Lasseter แห่ง Pixar Studio เคยบอกไว้ว่า “ถ้าไม่มี TRON ก็คงไม่มี Toy Story”
จากนวนิยายของนักเขียนชาวอเมริกัน Brian Daley ทรอนกลายเป็นหนึ่งในหนังที่นักวิจารณ์ให้คำจำกัดความว่า “Cult Film” ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบจนเกิดวัฒนธรรมเฉพาะกลุ่มขึ้นมา กระทั่งถึงภาคล่าสุดในปี 2010 แม้ตัวหนังจะทำเงินได้ไม่มากเท่าที่ควร แต่ก็สร้างอิมแพคให้กับแวดวงแฟชั่น ดนตรี งานดีไซน์ ไปจนถึงภาคเทคโนโลยี ซึ่งตอบรับปรากฏการณ์แห่งไลฟ์สไตล์นี้อย่างทั่วถึง
เบื้องหลังความอลังการของหนังเรื่องนี้ คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากผู้กำกับคนเก่ง Joseph Kosinski แม้เขาจะเป็นเจ้าของบริษัทพัฒนาเว็บไซต์ และเชี่ยวชาญในการกำกับหนังโฆษณามาก่อน แต่ก็ได้รับความไว้วางใจจากวอวอลต์ดิสนีย์ให้เนรมิต TRON ภาคใหม่ภายใต้ทุนสร้างสูงถึง 170 ล้านเหรียญ และด้วยดีกรีด้านสถาปัตยกรรมจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของเขาผสานกับความช่วยเหลือจากทีมสถาปนิก และนักออกแบบนอกวงการภาพยนตร์ เราจึงได้เห็นฉากงานสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน ไปจนถึงยานพาหนะสุดเจ๋งที่ได้รับการตีความออกมาในภาษาของงานดีไซน์สุดล้ำอนาคตสไตล์ทรอน
TRON: Legacy เป็นเรื่องราวของแซม ฟลินน์ ลูกชายของเควิน ฟลินน์ตัวเอกจากภาคก่อนที่ถูกดูดเข้าไปในจักรวาลดิจิตัล และได้พบกับพ่อที่หายตัวไปกว่า 20 ปี ภายในโลกไซเบอร์นี้เองที่ทำให้เราต้องตื่นตาตื่นใจไปกับฉากที่ออกแบบให้เหมาะมนุษย์ในโลกดิจิตัล ผสมผสานความร่วมสมัยเข้ากับความล้ำยุคแห่งอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งบ้านที่เควิน ฟลินน์สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่หลบภัย ความคลาสสิกสไตล์ทรอนสะท้อนความทรงจำของฟลินน์เกี่ยวกับความงามในโลกความเป็นจริงของมนุษย์ที่เขาคิดถึง ท่ามกลางสเปซที่สงบเยือกเย็นภายใต้บรรยากาศสลัว สิ่งของทุกอย่างล้วนดูเหมือนเรืองแสงในตัวเอง ส่วนรูปทรงเรขาคณิตที่เรียบง่าย ผิวสัมผัสมันวาวก็เป็นการสื่อถึงความงามในรูปแบบของวิทยาศาสตร์ ดูขัดแย้งกับผนังหินหยาบสกัดด้วยมือ แถมด้วยคอลเล็คชั่นเฟอร์นิเจอร์ในตำนาน สะท้อนรสนิยมชั้นเลิศได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น Barcelona Chair ของ Mies Van der Rohe, 670 Lounge and Ottoman ของ Eames หรือ Arco Lamp ของ Achille Castiglioni ทั้งหมดดูแปลกตาในบรรยากาศสุดล้ำ ปฏิเสธไม่ได้ว่าองค์ประกอบเหล่านี้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้เราอยากหยิบยืมมาใช้แปลงโฉมบ้านบ้างไม่มากก็น้อย แล้วคุณละเห็นด้วยไหม
FEEL THE FUTURE
แม้สไตล์ย้อนยุคจะน่าหลงใหล แต่ดีไซน์ของโลกอนาคตก็เจ๋งไม่ใช่เล่น Futuristic คือ สไตล์การออกแบบที่เราเชื่อว่าจะเป็นรูปแบบวิถีชีวิตแห่งอนาคต เน้นการใช้รูปแบบที่สื่อถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี หรือความล้ำยุคที่มนุษย์ใฝ่ฝันแต่ยังเอื้อมไม่ถึงในห้วงอวกาศที่ดำมืดหรือกาแล็กซี่อันไกลโพ้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่ดูมินิมัลท่ามกลางสเปซที่เวิ้งว้าง แต่น่าตื่นตาตื่นใจด้วยเส้นสายโฉบเฉี่ยวลื่นไหล และวัตถุเรืองแสงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยานอวกาศ
สร้างสเปซล้ำ ๆ ของคุณเองได้ไม่ยากด้วยการใช้วัสดุใกล้ตัวที่เป็นไปได้ เช่น วัสดุกรุผิวสีขาวแผ่นเรียบแบบไฮกลอส หรือกระจกฝ้าฝังไฟด้านหลังเพื่อให้ดูเรืองแสง เพิ่มรายละเอียดด้วยเส้นสายสีเงินเงา เน้นสเปซให้โดดเด่นด้วยสีดำของหินธรรมชาติที่มีผิวสัมผัสกระด้าง เติมรายละเอียดที่เพิ่มกลิ่นอายความเป็นบ้านด้วยของตกแต่ง และเฟอร์นิเจอร์สีเงินแวววาวหรือคริสตัล ร่วมด้วยองค์ประกอบที่ลดทอนจนดูร่วมสมัยขึ้น อย่างคิ้วบัวหรือเฟอร์นิเจอร์สไตล์คลาสสิกที่ทำจากอะคริลิกใส
