นับเป็นอีกก้าวสำคัญและน่าตื่นเต้นสำหรับวงการผ้าในประเทศไทยที่ยกระดับขึ้นมาอีกขั้นกับการผลิตผ้าเอ๊าต์ดอร์ได้เป็นครั้งแรกในชื่อแบรนด์ SOL OUT ภายใต้ Gold House Decor ที่เราคุ้นเคยและรู้จักกันดี
โดยทุกขั้นตอนตั้งแต่การผลิตเส้นใย ไปจนถึงการถักทอ ล้วนได้รับการผลิตในประเทศไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ เส้นใยพิเศษที่นำมาใช้ทำมาจากอะคริลิกผสมสีพร้อมสารเคมี ก่อนจะผลิตออกมาเป็นเส้นด้ายที่เรียกว่า Solution-dyed Acrylic ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อแสงแดด และความเค็มจากน้ำทะเล ให้สีสันสดใสยาวนาน การันตีคุณภาพการใช้งานอย่างน้อย 5 ปี อีกทั้งยังสามารถดูแลรักษาง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดคราบสกปรกออกเบา ๆ เท่านั้น
นอกจากเรื่องคุณสมบัติของผ้าเอ๊าต์ดอร์ที่ SOL OUT ให้ความสำคัญแล้ว ทางแบรนด์ยังมองถึงอนาคตเพื่อการต่อยอดผ้าเอ๊าต์ดอร์ไปสู่งานด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะในแวดวงงานดีไซน์ที่ได้ร่วมมือกับดีไซเนอร์มากความสามารถ ทั้งจาก CAMP STUDIO, PALINI และ Mitr. ซึ่งต่างมีแนวทางการออกแบบที่แตกต่าง ชัดเจน มีเอกลักษณ์ มาออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยมีวัสดุหลักอย่างผ้าเอ๊าต์ดอร์เป็นหัวใจสำคัญ
Mitr.
การรวมตัวกันของกลุ่มนักออกแบบที่มาแรงที่สุดในเวลานี้อย่าง MITR ทุกโปรเจ็กต์ล้วนริเริ่มขึ้นจากพื้นฐานแนวคิดที่ต้องการให้ผลงานออกมามีความดิบและสดใหม่ไม่ซ้ำใคร
แม้จะมีประสบการณ์ในการทำงานกับผ้ามาบ้าง แต่เป็นครั้งแรกที่ดีไซเนอร์ได้ลุยงานกับผ้าและโปรดักส์เอ๊าต์ดอร์ โดยตั้งใจเปลี่ยนร่มชายหาด และตะกร้าแบบเดิม ๆ ให้ใช้งานได้หลากหลายมากขึ้น มีแรงบันดาลใจมาจากต้นไม้ที่แผ่กิ่งก้านอยู่ริมทะเล สร้างความรู้สึกร่มรื่นสบายตา จึงนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบร่มกันแดด โดยใช้เหล็กที่อบด้วยเทคนิคพาวเดอร์โค้ตดิ้งมาทำเป็นโครงสร้างยื่นออกมา 3 กิ่ง โดย 2 กิ่งด้านบนสามารถปรับเปลี่ยนองศาได้ตามทิศทางของแสงแดด ส่วนกิ่งล่างสุดที่มีลักษณะคล้ายห่วงพันด้วยเชือกไนล่อน เป็นฟังก์ชันสำหรับการแขวนผ้าเช็ดตัว หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ แล้วใช้ผ้าเอ๊าต์ดอร์ทำ shading แทนผ้าใบแบบทั่วไป พิเศษด้วยลายผ้าที่เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง SOL OUT พัฒนาลวดลายขึ้นมา เริ่มจากการทำชาร์ตสี วิเคราะห์เฉดสีทะเลว่ามีเฉดอะไรบ้าง ก่อนจะเลือกเฉดสีของผ้าและลวดลายว่าจะทำอย่างไรให้มีความโดดเด่น กระทั่งมาลงตัวที่การเลือกใช้เส้นตัดและเส้นแนวขวางผสมผสานกันทออยู่บนผ้าโทนสีสว่าง ดูสวยงามตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลและชายหาดสีขาวนวลตา
แม้จะเป็นครั้งแรกที่เหล่าดีไซเนอร์ได้มีโอกาสออกแบบผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยมีผ้าเอ๊าต์ดอร์เป็นวัสดุหลัก นอกเหนือจากความท้าทายและข้อจำกัดบางประการระหว่างทาง แต่การทำงานครั้งนี้ก็เต็มไปด้วยความสนุกและประสบการณ์แปลกใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวิธีการผลิตผ้า ความยากและปัจจัยหลายอย่างในการทำลวดลาย ซึ่งสิ่งนี้ได้ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ดีไซเนอร์ทุกท่านสามารถพัฒนาโปรเจ็กต์ออกมาจนแล้วเสร็จ กลายเป็นผลงานที่ทั้งสวยงามและสามารถบอกเล่าศักยภาพของผ้าเอ๊าต์ดอร์ออกมาได้อย่างหลากหลายน่าชื่นชม
ปัจจุบัน SOL OUT มีสีสันให้เหล่าผู้ประกอบการและดีไซเนอร์เลือกใช้ 14 รายการ โดยในเดือนสิงหาคมจะมีสีและลายให้เลือกเพิ่มถึง 60 รายการ เพื่อรองรับการขยายตัวและความคิดสร้างสรรค์ที่มีอย่างไม่จำกัดในอนาคต
CAMP STUDIO
หากใครต้องการอุปกรณ์เกี่ยวกับกิจกรรมกลางแจ้ง การตั้งแคมป์ หรือการเดินป่า แน่นอนว่าชื่อของ CAMP STUDIO จะต้องเป็นชื่อแรกที่คิดถึง
สำหรับการร่วมมือกันครั้งนี้ เมื่อได้โจทย์และผ้าเอ๊าต์ดอร์มา ดีไซเนอร์ได้ศึกษารูปแบบและความเป็นไปได้ในการนำมาออกแบบเฟอร์นิเจอร์ โดยมีหลักเกณฑ์หลัก ๆ คือ ความคงทน ใช้งานง่าย และแสดงถึงศักยภาพของผ้าได้อย่างเต็มที่ จนกระทั่งมาลงตัวที่การออกแบบเป็นเปล และทาร์ป (อุปกรณ์สำหรับกันแดดและฝนที่ติดตั้งเหนือเปล) โดยคำนึงถึงความสวยงามควบคู่ไปกับฟังก์ชันการใช้งาน
มีความพิเศษแตกต่างจากเปลทั่วไปที่ต้องผูกกับต้นไม้สองต้น ด้วยการออกแบบให้มีฐานไม้ด้านหนึ่งเพื่อยึดเปลเอาไว้ ส่วนอีกด้านสามารถแขวนกับต้นไม้หรือผนังได้ ช่วยให้การใช้เปลไม่จำเป็นต้องมีต้นไม้สองต้นคู่กันเหมือนอย่างเคย รวมถึงยังสามารถนำเปลไปใช้ในพื้นที่อินดอร์ได้แบบสบาย ๆ
ขึ้นชื่อเรื่องอุปกรณ์เดินป่าหลายคนอาจนึกถึงความยุ่งยากในการประกอบ เพื่อให้ใช้งานง่ายดีไซเนอร์จึงออกแบบให้อุปกรณ์ทุกชิ้นเป็นระบบน็อกดาวน์ สามารถถอดประกอบและขนย้ายได้สะดวก อีกทั้งยังคำนึงถึงการรับน้ำหนัก และขนาดของผ้าที่รองรับผู้ใช้งานได้ทุกสรีระ เพื่อความรู้สึกสบายขณะพักผ่อน อีกทั้งยังสามารถเลือกสีผ้าได้ตามความชื่นชอบ โดยมีให้เลือก 2 สี คือ สีเหลือง เพื่อสร้างบรรยากาศสนุกสนานและสดใส ส่วนอีกสีเป็นการผสมกันระหว่างสีครีมกับสีเทา เพื่อให้รู้สึกกลมกลืนกับธรรมชาติขณะใช้ตั้งแคมป์ในป่า
PALINI
หนึ่งแบรนด์แฟชั่นที่มีผลิตภัณฑ์สะท้อนตัวตนชัดเจนอย่าง PALINI โดยคราวนี้ดีไซเนอร์ได้ลองนำผ้ามากฟังก์ชันอย่างผ้าเอ๊าต์ดอร์มาพัฒนาและผสมผสานกับการออกแบบชุดเสื้อผ้าและหมวก ซึ่งเป็นโปรดักต์ไลน์หลักของแบรนด์ แม้ดีไซเนอร์จะมีประสบการณ์ในการใช้ผ้ามาแล้วหลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับการนำผ้าเอ๊าต์ดอร์มาใช้กับงานแฟชั่นครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก
หลังจากได้ศึกษาคุณสมบัติของผ้าแล้ว ดีไซเนอร์ได้เลือกผ้าสีพื้นจากSOL OUT มาเป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งบนหมวก และเสื้อทรงพิเศษสำหรับโปรเจ็กต์นี้โดยเฉพาะ โดยเลือกใช้ผ้าเอ๊าต์ดอร์อยู่ด้านนอกของหมวกเพื่อป้องกันแดดและฝน ส่วนด้านในเป็นผ้าลายทรอปิคอลสื่อถึงความสนุกสนานของบรรยากาศริมทะเล โดยหมวกรุ่นนี้สามารถใส่ได้ทั้งสองด้าน เช่นเดียวกับไลน์เสื้อผ้าที่เลือกแต่งแต้มลวดลายดอกไม้สีสันฉูดฉาดสไตล์ทรอปิคอลลงบนชุด มีความพิเศษอยู่ตรงที่ทุกฝีเข็บล้วนเย็บด้วยมือทั้งสิ้น แม้จะใช้เวลายาวนานกว่า แต่ก็ได้ผลงานที่ละเอียดประณีตมาแทน อีกทั้งด้วยคุณสมบัติของผ้าเอ๊าต์ดอร์ที่ทนต่อความเค็มจากน้ำทะเลและคลอรีนจากสระว่ายน้ำ ทำให้สามารถรองรับทุกกิจกรรมกลางแจ้งได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณข้อมูลจาก Gold House Decor
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Tel.: 0-2119-7888
Fax.: 0-2810-8091
LINE@ @Goldhousedecor
Email: [email protected]
เอื้อเฟื้อสถานที่: Baba Beach Club Hua Hin by Sri panwa
www.bababeachclub.com/huahin
เรื่อง Ektida N.
ภาพ นันทิยา, ณัฐพงศ์ กิตติวรพงษ์กิจ
สไตล์ วรวัฒน์ ตุลยทิพย์