โควิดเป็นเหตุสังเกตได้…จากตอนแรกที่ตั้งใจจะทำเป็นพื้นที่โคเวิกกิ้งสเปซให้กับพนักงานในออฟฟิศหลังจากที่ขยับขยายขึ้นไปชั้นบนทำให้ชั้นล่างว่างโล่ง แต่พอโรคระบาดดังกล่าวมาส่งผลให้งานของออฟฟิศหลายโปรเจ็กต์ถูกพับไว้ก่อน จึงเปลี่ยนวิกฤตนี้มาเป็นโอกาส ด้วยการสร้างพื้นที่ที่จะสามารถเพิ่มรายได้อย่างคาเฟ่ ” PLANT ME ON THE MOON ” ขึ้นมา
“ผมไม่ได้คิดว่าต้นไม้ก็คือต้นไม้ แต่ต้นไม้คือของที่ประดับบ้านได้”
ส่วนชื่อร้านได้แรงบันดาลใจมาจากชื่อเพลง “Fly me to the moon” ที่นำมาเล่นคำเลยกลายเป็น “Plant me on the moon” ซึ่งเข้ากับคอนเซ็ปต์ของร้านพอดีประหนึ่งปลูกต้นไม้ไปได้เรื่อย ๆ จนถึงดวงจันทร์ นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ให้ความสำคัญอย่างเพลงที่เปิดในร้านก็เลือกเพลลิสต์เป็นพิเศษสำหรับเอาไว้เปิดให้ต้นไม้ฟังโดยเฉพาะ ไปจนถึงรูปที่จัดเตรียมสำหรับมาตกแต่งผนังก็เลือกรูปจากหนังเรื่อง Léon: The Professional หนังที่เกี่ยวกับอาชญกรที่ไปเก็บเด็กมาเลี้ยง แล้วทั้งคู่มีความสัมพันธ์ผ่านกระถางต้นไม้หนึ่งกระถาง ที่มือปืนและเด็กกำพร้าต้องช่วยกันดูแล และเรื่องอื่น ๆ ที่กำลังค้นหาอยู่และทะยอยกันมาเติมเต็มพื้นที่แห่งนี้ให้อบอวลไปด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง “ต้นไม้ และ ดวงจันทร์”
ที่ตั้ง
เลชที่ 17 ซอยลาดพร้าว 93 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองเจ้าคุณสิงห์ เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ
โทร. 06-3358- 2256
https://www.facebook.com/plantmeonthemoon/
ออกแบบ: The Embassy of Design Territory
เรื่อง: Woofverine
ภาพ: อนุพงษ์, หทัยรัตน์