/ ฉันเคยใช้ชีวิตอยู่แถบลอนดอนตะวันออก
ซึ่งเป็นบรรยากาศของสถาปัตยกรรมสไตล์ยุโรป
จึงพยายามหาภาพอ้างอิงสไตล์นั้น
เพราะอยากให้บ้านนี้เป็นการผสมผสานของความดิบ ๆ
แบบโรงงานสไตล์ลอฟต์ และรายละเอียดเก๋ ๆ แบบวินเทจ /
บ้านไซส์กะทัดรัดของ คุณโอ๊ต-พงศ์ภากรณ์ ธรรมศุภพงษ์ แทรกตัวอยู่ในคอนโดมิเนียมร่วมสมัยท่ามกลางโครงการตึกสูงระฟ้าย่านทองหล่อ เมื่อสิบกว่าปีก่อนที่นี่ยังเป็นเซอร์วิสอพาร์ตเม้นท์ คุณพ่อคุณแม่ของเขาลงทุนซื้อห้องชุดขนาด 70 ตารางเมตรนี้ไว้เพื่อปล่อยให้เช่า เมื่อเวลาผ่านไป ความทรุดโทรมเปิดโอกาสให้คุณโอ๊ตได้จัดการแปลงโฉมที่นี่ให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ชนิดที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ
“สภาพที่นี่ก่อนรีโนเวตโทรมมาก ม่านก็ขาด เฟอร์นิเจอร์เริ่มพังในแบบที่ไม่น่าจะปล่อยเช่าได้แล้ว ถึงคราวต้องรีโนเวต จริงๆ แล้วละ ผมคิดว่าทำทั้งทีก็ทำให้ดี แล้วย้ายมาอยู่เองเลยแล้วกัน”
คุณโอ๊ตเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของ บริษัท AQ Estate และมีโอกาสรู้จักกับ คุณโอ๋-อรุจิตร เลิศกิจจา อินทีเรียร์ดีไซเนอร์จาก Coquo Studio จากการทำงานในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ เมื่อคุณโอ๊ตทาบทามคุณโอ๋ให้มาดูแลโปรเจ็คท์นี้ การระดมสมอง และรวบรวมไอเดียจึงเกิดขึ้นเพื่อจัดการ “เมคโอเวอร์” บ้านโฉมใหม่ในแบบที่เขาฝันไว้
“ด้วยความที่เราไม่ได้เป็นดีไซเนอร์ บางทีก็ไม่รู้ว่าสไตล์ที่อยากได้เรียกว่าอะไร ผมจึงพยายามเปิดนิตยสารแล้วหาคีย์เวิร์ด ส่งภาพเรฟเฟอร์เรนซ์ประมาณสองร้อยกว่าภาพไปให้พี่โอ๋ดู จริง ๆ สไตล์ที่ผมชอบจะต้องดูดิบๆ กว่านี้นิดหนึ่ง เป็นไม้เยอะๆ หน่อย แต่พอดีพี่โอ๋เขาเห็นว่า Wennie อยู่ด้วย จึงเติมดีเทลให้ออกหวาน ๆ โดยเลือกสีของไม้ให้มีโทนอ่อนลงสักนิด”
จากภาพอ้างอิงและการพูดคุยนับครั้งไม่ถ้วนระหว่างเจ้าของบ้านและดีไซเนอร์ ความต้องการและตัวตนของเจ้าของบ้านทั้งคู่ได้รับการเรียบเรียงขึ้นใหม่อย่างลงตัวในสไตล์กึ่งอินดัสเทตรียลลอฟต์ จากห้องแบบสองห้องนอน คุณโอ๋ปรับเปลี่ยนผังห้องให้มีลักษณะเป็นสตูดิโอมากขึ้น โดยให้เหลือห้องนอนเพียงห้องเดียว แล้วทุบกำแพงออกเพื่อสร้างพื้นที่โปร่งโล่ง เชื่อมต่อกับครัว ห้องรับประทานอาหาร และห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน พร้อมทั้งเพิ่มประตูกั้นเพื่อแยกพื้นที่ส่วนตัวอย่างห้องนอน ห้องน้ำ และห้องแต่งตัวออกจากพื้นที่ส่วนอื่นๆ อย่างชัดเจน
ฝ้าเพดานที่สูงจากพื้นเพียง 2.5 เมตร ตามสไตล์คอนโดวิเนียมเก่าถูกรื้อออกทั้งหมด เปลือยให้เห็นงานระบบที่คุณโอ๋เดินท่อใหม่ให้เป็นระเบียบ นอกจากจะเพิ่มความดิบเท่สไตล์อินดัสเทรียลแล้ว ยังช่วยให้เพดานสูงโปร่งขึ้นอีกเกือบยี่สิบเซนติเมตร วัสดุผิวสัมผัสกระด้างอย่างผนังอิฐสีขาว และบานกรอบเหล็กสีดำ ได้รับการนำมาใช้ในรูปแบบที่เรียบเฉียบ และโมเดิร์นขึ้น และเพื่อประหยัดงบประมาณ แถมยังเพิ่มความอบอุ่น และลดความแข็งกระด้างให้บรรยากาศโดยรวม คุณโอ๋และคุณโอ๊ตจึงตัดสินใจคงพื้นไม้สักเดิมเอาไว้ แค่ขัดและกัดสีให้ซีดลงเพื่อให้ห้องดูสว่างขึ้นเท่านั้น
นอกจากนี้เฟอร์นิเจอร์บิลท์อินและลอยตัวยังเข้าชุดกันอย่างดี โดยคุณโอ๋ได้เลือกใช้ไม้สักขูดเสี้ยนลงสีขาวเพื่อให้เกิดลุคที่ดูอ่อนโยน ผสมผสานกับเฟอร์นิเจอร์จากบ้านเดิม ผสมกับฝีมือการเลือกซื้อของคุณโอ๊ตเอง
“การเลือกเฟอร์นิเจอร์ ผมจะปรึกษาพี่โอ๋ตลอด จะส่งรูปให้ดูก่อนจะซื้อ เขาก็จะให้คำแนะนำ หรือบางทีเขาเดินเจออะไรที่เขาว่าใช่เขาก็จะซื้อให้ไปก่อนเลย”
นอกจากการตกแต่งที่ลงตัวในทุกด้าน เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกบางอย่างที่ทำให้ “บ้าน” แตกต่างจากการเป็นแค่ “ที่อยู่อาศัย” ความรู้สึกแบบ “โฮมมี่” ทำให้บ้านลอฟต์กลิ่นอายอินดัสเทรียลแห่งนี้ดูละมุนละไมจนน่าแปลกใจ บางที…ความรู้สึกนั้นอาจมาจากรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะที่อบอุ่นของเจ้าของบ้านทั้งคู่ก็ได้
เรื่อง : Mone
ภาพ : ดำรง
คอลัมน์ : Room To Room
เล่ม : February 2014 No.132