KLĀY Flagship Store รีโนเวทบ้านเก่าสู่คาเฟ่ผสมร้านเครื่องหอม - room

KLĀY Flagship Store รีโนเวทบ้านเก่า เป็นคาเฟ่และร้านเครื่องหอม

KLĀY Flagship Store จากแบรนด์เครื่องหอมสู่คาเฟ่บรรยากาศ Home Living กลางเมืองเชียงใหม่ พร้อมเสิร์ฟ All day brunch และเครื่องดื่มจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: STUDIO WØM

เล่าย้อนไปถึงที่มาของ KLĀY (คลาย) ถือเป็นแบรนด์เครื่องหอมที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเริ่มต้นมาจากการจำหน่ายทางออนไลน์ ก่อนนำมาสู่การมีหน้าร้านเป็นของตนเอง จากความสำเร็จดังกล่าว KLĀY Flagship Store แห่งนี้ จึงถือเป็นร้านสาขาที่ 3 ของแบรนด์ ตั้งอยู่ที่นิมมานเหมินท์ ซอย 5

สถาปัตยกรรมดูถ่อมตัว ไม่โดดเด่นแข่งกับใคร แต่ขณะเดียวก็สร้างแรงดึงดูดและสะดุดตาในแง่ของการตั้งคำถามว่าร้านนี่คืออะไร
พื้นที่แสดงผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและเซรามิก เด่นด้วยชั้นวางของออกแบบให้บล็อกคอนกรีตเหมือนฝังตัวลงไปในผนังไม้

โดยเป็นความตั้งใจของหุ้นส่วนที่อยากให้ร้านนี้เป็นดังสื่อกลางถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ที่ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมผ่านงานออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ตลอดไปจนถึงเมนูอาหารที่สร้างสรรค์จากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างใส่ใจ

โครงสร้างหลังคาเดิมไม่ได้มีการเปลี่ยน หรือต่อเติมเพิ่มเนื่องด้วยความสวยงามของเนื้อวัสดุ และการเกิดผลกระทบต่อเพื่อนบ้านหากมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง เพราะยังมีการใช้โครงสร้างบางส่วนและผนังร่วมกันอยู่

เดิมทีตัวร้านเป็นร้านแฮมเบอเกอร์ของหนึ่งในหุ้นส่วนมาก่อน แต่ด้วยทำเลที่มีศักยภาพจึงตัดสินใจรีโนเวทอาคารใหม่ให้กลายเป็น KLĀY Flagship Store จำหน่ายอาหารแบบ All day brunch เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมในที่เดียวกัน มีความท้าทายตั้งแต่เรื่องของระยะเวลาและงบประมาณการก่อสร้าง รวมถึงการออกแบบและการก่อสร้างที่ต้องทำงานกับช่างท้องถิ่น ประกอบกับความตั้งใจในการออกแบบให้ทั้งภายนอกและภายในมีเอกลักษณ์และสื่อสารภาพจำของแบรนด์ให้ออกมาเด่นชัดกลมกลืนไปกับบริบท

ส่งผลให้ผู้ออกแบบจาก STUDIO WØM แม้ดีไซเนอร์จะเป็นลูกค้าของแบรนด์อยู่แล้ว แต่ก็ยังต้องทำการบ้านอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องของการดึงกลิ่นอายความเป็นเชียงใหม่ออกมาผ่านงานคราฟต์ ผสมกับความรู้สึกร่วมสมัย อบอุ่น ท่ามกลางบรรยากาศที่เข้าถึงง่ายน่าเชื้อเชิญ

ขั้นตอนการออกแบบจึงเริ่มจากการแบ่งพื้นที่ใช้สอยขนาด 150 ตารางเมตร ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนจัดแสดงสินค้าเครื่องหอม พื้นที่เวิร์กชอปที่ปัจจุบันปรับเป็นพื้นที่รองรับลูกค้าแทนชั่วคราว และส่วนรับประทานอาหารที่มีให้เลือกทั้งภายในและนอกร้าน ทั้งยังมีการสร้างห้องน้ำเพิ่มเติม

เอกลักษณ์ของร้านเห็นได้จากพื้นที่ภายในซึ่งมีความโปร่งโล่ง อันเกิดจากการรื้อฝ้าเพดานออก โชว์ให้เห็นโครงสร้างหลังคาที่ทำจากไม้ สเปซจากพื้นถึงฝ้าเพดานจึงสูงโปร่ง เพิ่มพื้นที่แนวตั้งให้ร้านไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป อีกทั้งวัสดุ “ไม้” ยังเป็นหนึ่งในสัจวัสดุที่ผู้ออกแบบตั้งใจเลือกใช้ เพราะทำหน้าที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้พื้นที่ อีกทั้งสีและผิวสัมผัสของไม้ยังช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของพื้นปูนเปลือย ผนังคอนกรีต และเซรามิกให้มีความอ่อนโยนลงตัวมากขึ้น

บล็อกคอนกรีตทำหน้าที่เป็นทั้งรั้วและผนังตกแต่งไปในเวลาเดียวกัน 

นอกจากนี้ ยังต้องดึงเสน่ห์ของผลิตภัณฑ์ให้ออกมาเป็นรูปธรรมในเชิงดีไซน์ ด้วยการนำ “คลายคิวบ์” หรือก้อนเซรามิกกระจายกลิ่น สินค้าสร้างชื่อของแบรนด์ มาตีความเป็นวัสดุก่อสร้างผ่าน “บล็อกคอนกรีต” พ่นด้วยสีพ่นเท็กซ์เจอร์ เมื่อนำมาก่อเรียงเป็นแพตเทิร์นสามารถสร้างสรรค์พื้นที่ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการก่อแบบทึบ หรือก่อเว้นช่องว่างเพื่อให้แสงลอดผ่านได้ หรือจะซ่อนไฟไว้ด้านในก็ได้เพื่อสร้างบรรยากาศที่สวยงาม

(เรียงจากซ้าย) คุณเติ้ล-ธารณ บุญศรีภูมิ เจ้าของร้าน คุณบี้ท-โสภิดา จิตรจำนอง Interior Designer STUDIO WØM
และคุณต้า-วัชรากรณ์ ต่อกิตติกุล เจ้าของร้าน

ทั้งยังเสริมฟังก์ชันการใช้งานได้หลายแบบ เช่น การก่อเป็นผนังโค้งที่หน้าร้าน ทำหน้าที่เป็นกำแพงร้านและยังเป็นผนังตกแต่งได้ในตัวเมื่อมองมาจากภายใน หรือจะก่อเป็นผนังเบากั้นพื้นที่ภายใน รวมถึงก่อเป็นผนังตกแต่ง และชั้นวางสินค้าก็ได้เช่นกัน ด้วยรูปลักษณ์และสีสันของวัสดุชนิดนี้ ยังตอบโจทย์ในเรื่องความถ่อมตน อันเกิดจากเส้นสายโค้งมน และสีของบล็อกคอนกรีตที่เรียบง่าย มีพื้นผิวที่สร้างความน่าสนใจและสร้างภาพจำให้กับร้านได้อย่างดี

ผู้ออกแบบเลือกใช้อะลูมิเนียมเป็นองค์ประกอบของเฟอร์นิเจอร์เพื่อช่วยให้ภาพรวมร้านดูโมเดิร์นขึ้น
เลือกออกแบบโลโก้ของร้านเป็นดอกไม้สีส้มเพื่อสร้างความโดดเด่น

เพื่อให้ร้านสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้นในแง่ของการสร้างประสบการณ์การใช้งานพื้นที่ ผู้ออกแบบได้เลือกใช้กระเบื้องเซรามิก แก้ว จาน-ชามที่ออกแบบและผลิตร่วมกับช่างฝีมือท้องถิ่นมาตกแต่งร้าน ไม่ว่าจะเป็นบริเวณเคาน์เตอร์ และผนังภายใน ทั้งยังมีการดึงความเป็นสี่เหลี่ยมของกระเบื้องกระจายไปตามจุดเล็ก ๆ ในร้าน เช่น มือจับประตู เพื่อเชื่อมโยงเรื่องราวและความรู้สึกเข้าด้วยกัน

KLĀY Flagship Store จึงเป็นตัวอย่างของการรีโนเวตอาคารให้กลายเป็นคาเฟ่ที่ผสมผสานฟังก์ชันหลากหลาย ใช้องค์ประกอบงานออกแบบเพื่อสื่อสารเรื่องราวของแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ และเป็นผลลัพธ์ของการต่อยอดธุรกิจออนไลน์สู่พื้นที่หน้าร้านจริงด้วยดีไซน์ที่ส่งเสริมประสบการณ์ให้แก่ลูกค้าได้อย่างดี

ที่ตั้ง
16/1 ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 5 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด https://maps.app.goo.gl/UGD4jMxiVXMe1ALP9
เปิดทุกวัน 8.30 น. – 21.00 น.
โทร. 06-5458-3565

เจ้าของ: คุณธารณ บุญศรีภูมิ, คุณอัญญ์ชิสา ศิลป์ตระการผล, คุณปวีณ์ธิดา เลาหพงศ์ชนะ, คุณเผ่าเพชร เจริญสุข
ออกแบบ: STUDIO WØM

เรื่อง: ektida n.
ภาพ: ศุภกร ศรีสกุล


เปลือกหอยแมลงภู่ ขยะจากเศษอาหาร หรือ FOOD WASTE มาใช้เป็นวัสดุเชิงทดลองให้เกิดประโยชน์