Raydus.Thailand คาเฟ่ธีมโมเดิร์น ตั้งต้นแบรนด์จากวงล้อรสกาแฟ - room

Raydus.Thailand คาเฟ่ใต้โรงแรม 5 ดาว ที่ดีไซน์ภาพลักษณ์แบรนด์จากวงล้อรสกาแฟ

เปิดจุดเช็กอินใหม่ ณ Raydus.Thailand คาเฟ่ผสมบาร์ในย่านถนนกิ่งแก้ว ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: STUDIO VILAA

โดยพื้นที่ของคาเฟ่ Raydus.Thailand ขอยึดชั้นล่างของโรงแรม 5 ดาว สยาม แมนดาริน่าเป็นที่ตั้ง คุมธีมดีไซน์ด้วยสีขาว-เทา-ดำ ร่วมกับการทดลองเล่นกับคุณสมบัติของวัสดุ กลายเป็นการผสมผสานกันระหว่างงานออกแบบกับแบรนดิ้ง เพื่อผลลัพธ์ของธุรกิจที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่

ทางเข้าคาเฟ่จากฝั่งติดถนนที่ผู้ออกแบบตั้งใจให้คนค่อย ๆ ดื่มด่ำไปกับพื้นที่สีเขียวภายนอก
เคาน์เตอร์บาร์กึ่งกลางร้าน แบ่งการเสิร์ฟออกเป็นสองฝั่ง คือโซนคาเฟ่สำหรับเสิร์ฟเครื่องดื่ม และในโซนบาร์สำหรับการชงเครื่องแอลกอฮอลล์ที่จะเปิดให้บริการในเวลากลางคืน
ผนังซ่อนไฟที่ช่วยสร้างความต่อเนื่องของพื้นที่จากเพดานวงรีและผนังเคาน์เตอร์ซ่อนไฟ

วาดตัวตนให้ร้านผ่านฝีมือดีไซเนอร์

โจทย์แรกเริ่มของที่นี่ คือการออกแบบคาเฟ่ให้ฉีกภาพลักษณ์จากสไตล์ของที่ตั้งอย่าง โรงแรม สยาม แมนดาริน่า ที่เน้นความเรียบนิ่งและหรูหรา โดยออกแบบมาด้วยการใช้เส้นสายโค้งมนและโทนสีขาว- เทา- ดำ ที่คุณบอส – ฐิติ พนาจรัส สถาปนิกแห่ง สตูดิโอ VILAA สื่อสารผ่านการใช้วัสดุแบบต่าง ๆ ทั่วร้าน ทำให้คาเฟ่เหมือนเป็นพื้นที่ทดลองกลาย ๆ สำหรับผู้ออกแบบ เพราะในเวลาเดียวกัน คุณเป้-เปเป้ อรุณานนท์ชัย เจ้าของร้านและทายาทของโรงแรมที่ตั้งก็ยินดีเปิดอิสระให้สเปซขนาด 150 ตารางเมตรแห่งนี้ สามารถบรรจุไอเดียจากผู้ออกแบบได้ไม่จำกัด ตรงกับวิสัยทัศน์ของคุณเป้ที่อยากรีเฟรชให้พื้นที่ของโรงแรมกลายเป็นศูนย์รวมทุกไลฟ์สไตล์ของคนทุกคน โดยเฉพาะการสอดใส่คาแรกเตอร์สดใหม่ผ่านร้านกาแฟของเขา Raydus

มีจุดเด่นเป็นเพดานรูปวงรีซ้อนกัน ใส่ไฟหลืบบนฝ้าเพื่อช่วยเพิ่มมิติให้เพดานดูโปร่งขึ้น ล้อไปกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่มาจากวงล้อรสชาติกาแฟ
สร้างความต่อเนื่องจากวงรีที่มีไฟซ่อนฝ้ามายังเคาน์เตอร์บาร์ ที่ใช้เส้นตรงเข้ามาตัดมู้ดแต่ยังซ่อนไฟเพื่อให้ร้อยเรียงไปกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์
เฟอร์นิเจอร์สีขาว-เทาในโซนคาเฟ่ออกแบบให้ดูเรียบง่าย แต่ยังซ่อนความสนุกและเล่นไปกับวัสดุด้วยผนังเอียงซ่อนหลืบไฟ

แสดงความหมายแบรนด์ด้วยดีไซน์

จุดเด่นแรกของคาเฟ่ Raydus ที่เชื่อว่าชวนให้ทุกคนสะดุดตา คือลำแสงที่แผ่ออกจากโลโก้และเส้นโค้งในการตกแต่งทั่วร้านที่สถาปนิกใช้เป็นองค์ประกอบในการสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ ลำแสงและเส้นสายเหล่านี้ มีที่มาจากไอเดียการหยิบ “Coffee Taster’s Flavor Wheel” หรือในวงการคาเฟอีนอาจรู้จักในชื่อ “วงล้อรสชาติ” มาตีความ อันเป็นโจทย์ที่เจ้าของยื่นให้กับผู้ออกแบบตั้งแต่แรกสุด จนนำมาสู่การตีความออกมาเป็นงานออกแบบที่ล้อการแผ่ของลำแสงที่จำลองจากเฉดสีของรสชาติกาแฟ และใช้การดึงวงโค้งของล้อมาเน้นย้ำสร้างตัวตนของแบรนด์เหมือนกับชื่อร้านที่ว่า “Raydus” อันล้อมาจากคำว่า “Radius” ที่แปลว่า รัศมี ซึ่งเราจะได้พบเห็นจากงานออกแบบที่เน้นการโดยซ่อนไฟอยู่ทั่วร้าน เพื่อสร้างความรู้สึกเหมือนกับการแผ่ขยายของลำแสงอย่างสมจริง

โซนคาเฟ่ที่เจ้าของได้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัว เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดอีเวนต์ได้
โซนที่จะมีการปรับเปลี่ยนพื้นที่เป็นบาร์ในเวลากลางคืน โดยมีการออกแบบเคาน์เตอร์บาร์สำหรับชงเครื่องของบาริสต้าและที่นั่งหน้าบาร์สำหรับลูกค้า
กระจก U Glass ที่ผู้ออกแบบได้ทดลองเล่นกับคุณสมบัติของวัสดุโดยการดัดเป็นวงโค้งล้อไปกับที่นั่ง เพื่อสร้างความสนุกให้กับการนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่

ดีเทลที่แอบซ่อนไว้ด้วยความท้าทาย

การดีไซน์และตกแต่งที่ดูเหมือนเรียบง่าย แต่กลับซ่อนความน่าสนใจในแง่ของรายละเอียด โดยเฉพาะการทดลองเล่นกับวัสดุ ซึ่งเป็นจุดเด่นด้านภาพลักษณ์ของคาเฟ่แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็น การใช้แผ่นอะลูมิเนียมพ่นสีทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ที่ดูเนี้ยบ แต่ซ่อนการสร้างมิติจากแท็กซ์เจอร์ และแฝงหลืบไฟไว้ด้านหน้า เคาน์เตอร์บาร์นี้วางเส้นสายให้ต่อเนื่องกับฝ้าซ่อนไฟรูปวงรี อันเป็นเอกลักษณ์เด่นที่กลางร้านของคาเฟ่แห่งนี้ โดยยังแฝงดีเทลเพิ่ม คือการต้องซ่อนไฟให้ได้ความสว่างกึ่งสลัวที่พอดี ให้ได้ภาพลักษณ์การกระจายแสงที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ลูกเล่นนี้ตัดกับการใช้แผ่นกระจกสเตนเลสกรุเพดานที่อยู่ติดกัน เป็นการปะทะกันของวัสดุให้ความรู้สึกแปลกใหม่ นอกจากจะเป็นการร้อยเรียงคอนเซ็ปต์ผ่านวัสดุแล้ว ยังเป็นการเอาชนะปัญหาความเตี้ยของเพดาน ช่วยเปิดสเปซภายในให้โปร่งขึ้นอีกด้วย

ที่นั่งกึ่งเอาต์ดอร์ด้านหน้าคาเฟ่ที่ออกแบบให้เชื่อมกับบรรยากาศภายนอกด้วยผนังบล็อกแก้ว และเพดานครึ่งวงกลมที่มีช่องเปิดให้แสงธรรมชาติไหลเข้ามา
โถงดับเบิ้ลสเปซในโซนบาร์ เพื่อสร้างความโปร่งให้กับภายในร้านร่วมกับช่องเปิด

ดีไซน์เสริมการสลับฟังก์ชันให้บริการตั้งแต่เช้ายันเย็น

เมื่อคาเฟ่ผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ใต้โรงแรม เจ้าของร้านจึงจำเป็นต้องคว้าโอกาสในเชิงทำเลที่มีลูกค้ามาใช้บริการโรงแรมตลอดทั้งวัน ปรับฟังก์ของคาเฟ่ Raydus ให้ตอบโจทย์ด้านธุรกิจด้วย โดยเจ้าของได้วางโมเดลให้พื้นที่แห่งนี้สามารถเสิร์ฟกาแฟในตอนเช้า พอมาถึงช่วงเย็นก็สามารถพลิกฟังก์ชันให้กลายเป็นบาร์ ที่แน่นอนว่าตั้งใจเสิร์ฟเครื่องดื่มในบรรยากาศที่ฉีกออกจากคอนเซ็ปต์เดิมของ โรงแรม สยาม แมนดาริน่า ด้วย

แนวคิดของการออกแบบคาเฟ่จึงต้องมาบรรจบกับโมเดลธุรกิจในลักษณะนี้ ด้วยการแบ่งผังที่นั่งภายในออกแบบเป็น 2 ฝั่ง คือ โซนที่รับกับทางเข้าเป็นพื้นที่คาเฟ่ และโซนฝั่งตรงข้ามให้เป็นพื้นที่ของบาร์ที่ เจาะโถงดับเบิ้ลสเปซเพื่อลดความแออัด โดยดีไซน์เคาน์เตอร์บาร์ไว้กึ่งกลางร้านให้มีพื้นที่บริการทั้งสองฝั่ง วางตัวในแนวยาวคั่นกลางระหว่าง 2 โซน นอกจากนี้ เจ้าของและผู้ออกแบบยังคิดไปถึงการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของคาเฟ่ให้ยืดหยุ่นสำหรับการจัดอีเวนต์ เห็นได้จากการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวในโซนคาเฟ่และการติดตั้งจอโปรเจ็กเตอร์บนผนังตรงข้ามโต๊ะตรงกลางร้าน เผื่อการใช้งานที่สนุกขึ้นด้วย

จอโปรเจ็กเตอร์ที่ใช้รองรับการจัดอีเวนต์ในคาเฟ่ โดยผู้ออกแบบได้ใช้แผ่นกระจกสเตนเลสกรุเพดานในส่วนนี้ เพื่อสร้างลูกเล่นให้กับการออกแบบและเอาชนะปัญหาเรื่องความเตี้ยของฝ้า
โซนเอ๊าท์ดอร์มีพื้นที่สีเขียวสำหรับเป็นที่วิ่งเล่นให้กับสัตว์ได้ โดยมีการเจาะช่องเปิดบริเวณนี้ให้เตี้ยลงมา เพื่อลดการรบกวนของวิวบนถนน

ออกแบบบรรยายกาศให้เฟรนด์ลี่สำหรับคนและสัตว์

นอกจากการออกแบบภายในคาเฟ่ที่ใช้โทนขาว เทา ดำ ร่วมกับการใช้เส้นโค้งเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรแล้ว ภายนอกของคาเฟ่ยังมีพื้นที่เอาต์ดอร์ที่เติมเต็มด้วยแลนด์สเคปสีเขียวโอบล้อมด้วยที่นั่ง ช่วยดึงสายตาลูกค้าและแขกผู้มาพักโรงแรมจากภายนอก โดยตั้งใจให้พื้นที่เป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนรักสัตว์ได้ ผ่านสวนสีเขียวที่ได้เชื่อมต่อกับบรรยากาศภายในด้วยช่องเปิดที่เสิร์ฟมุมถ่ายรูปไม่ว่าจะภายนอกหรือภายในร้านได้

คุณบอส-ฐิติ พนาจรัส สถาปนิกแห่ง STUDIO VILAA ผู้ออกแบบโครงการ
คุณเป้-เปเป้ อรุณานนท์ชัย เจ้าของโครงการ
ทางสัญจรให้เป็นเส้นโค้ง มองเห็นวงโค้งของลำแสงที่ได้แรงบันดาลใจจากวงล้อรสชาติกาแฟ

ผนวกธุรกิจใหม่ในพื้นที่เดิมแล้วส่งเสริมด้วยดีไซน์

มากไปกว่าการสร้างตัวตนของแบรนด์ให้ร้อยเรียงเป็นเรื่องเดียวกัน คาเฟ่ Raydus ได้นำโมเดลธุรกิจในบทใหม่แทรกไปในพื้นที่เดิมของ โรงแรม สยาม แมนดาริน่า สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับการเข้าพักของลูกค้า และเสิร์ฟการผ่อนคลายด้วยเครื่องดื่มที่ต่างกันไปในแต่ละช่วงเวลา เพราะด้วยความเชื่อในเรื่องดีไซน์ที่เข้ามาสร้างภาพลักษณ์และบรรยากาศใหม่ ๆ สิ่งนี้ได้ส่งต่อความตั้งใจของผู้ประกอบการที่มุ่งหวังให้พื้นที่แห่งนี้กลายเป็นศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ของคนในปัจจุบัน ผ่านการจับคู่ระหว่างงานออกแบบและแบรนดิ้ง ที่ส่งเสริมธุรกิจได้อย่างน่าสนใจ

ที่ตั้ง
โรงแรม สยาม แมนดาริน่า 99 หมู่ 6 ถนนกิ่งแก้ว ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/3qPV55vakMzVQ5vM7
เปิดทุกวัน 08.00 – 24.00 น.
โทร. 06-3845-4453

เจ้าของ: คุณเปเป้ อรุณานนท์ชัย
ออกแบบ:  STUDIO VILAA

เรื่อง: Kangsadan K.
ภาพ: อนุพงษ์ ฉายสุขเกษม, สุรเชษฐ์ แปรกิ่ง


CASA LAPIN Flagship Store รีโนเวทโรงเรียนเก่า สู่คาเฟ่เจริญนคร