หากคุณเจอ ‘คนพิการ’ คุณจะกลัวการเข้าไปช่วยเหลือพวกเขาไหม แล้วถ้าหากคุณเจอ ‘เพื่อน’ คุณจะกลัวการเขาไปช่วยเหลือเพื่อนของคุณไหม?
นี่คือคำถามสั้น ๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่จากได้ฟังการพูดคุยระหว่าง คุณแจ็ค – นวคุณ พจน์ชพรกุล จาก มูลนิธิด้วยกันเพื่อคนพิการและสังคม- Together Foundation กับคุณเล็ก – อานันท์ ฉันทันต์ ผู้ใช้วีลแชร์ บนเวที Better Community ในงาน SX 2025 ในหัวข้อ เครือข่ายนักสร้าง Inclusive lifestyle และการร่วมออกแบบสังคมที่คนพิการและไม่พิการใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยการเป็นเพื่อนกัน

Inclusive Lifestyle คือการอยู่ร่วมกันอย่างอิสระ
มูลนิธิ “ด้วยกัน” เริ่มจากกลุ่มอาสามัคร ที่เริ่มทำอะไรด้วยกันจริง ๆ จากคอนเซ็ปต์ที่อยากเปิดพื้นที่ให้คนพิการและไม่พิการได้ทำกิจกรรมด้วยกัน จนเกิดเป็นความสัมพันธ์แบบที่เป็นเพื่อนกันขึ้นมาได้ และเมื่อรู้ว่า ‘เพื่อน’ คนหนึ่งของเราเจอปัญหา เราจะเริ่มอยากช่วยเหลือเพื่อนจากแรงขับภายในโดยธรรมชาติ
‘Inclusive lifestyle’ ของคุณแจ็ค คือการอยู่ร่วมกัน ในสังคมเดียวกันได้จริง ๆ โดยประเด็นของการอยู่ร่วมกันคือ การอยู่อย่างอิสระ อยากได้ทำอะไร ควรจะได้ทำ กลุ่มของกิจกรรมต่าง ๆ ในมูลนิธิจึงออกแบบให้เกิดการอยู่ร่วมกันกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งความเป็นเพื่อนนี้เอง ที่จะทำให้เราปฏิบัติต่อกันอย่างไม่แตกต่าง สามารถพูดหยอกล้อ ทำตัวได้ตามสบาย ชวนกันไปไหนมาไหนและช่วยเหลือซึ่งกันและกันได้ ที่สำคัญที่สุดคือเราจะมีความห่วงใยกันและกัน
ทำไมเพื่อนกันถึงสำคัญกับ Inclusive Lifestyle
คุณแจ็คเล่าถึงการรันกิจกรรมต่าง ๆ ของโครงการด้วยอาสาสมัคร พิธีรีตองใด ๆ ที่ไม่จำเป็นจึงต้องตัดออกไปให้มาก เหลือเพียงความเรียบง่ายที่ทำให้อาสาสมัครเข้าถึงได้ง่าย มาด้วยความใจจริง และเข้ามาเป็นเพื่อนกับผู้พิการได้ผ่านการลงมือทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น กิจกรรม Run2Gether ที่ทำให้คนตาบอดเข้าร่วมงานวิ่งได้จริง พร้อมบัดดี้วิ่ง ซึ่งจัดมาแล้วเกินกว่า 10 ปี
“เมื่อคุณดูแลเพื่อนตาบอดเป็นคนหนึ่ง คุณจะดูแลเพื่อนตาบอดเป็นทั้งประเทศ” คุณแจ็คกล่าวถึงการดูแลเพื่อนเป็นหนึ่งคน เราจะสามารถขยายต่อไปถึงความเข้าใจสังคมที่ใหญ่ขึ้นได้ เพราะเมื่อเรารู้ข้อจำกัดของเพื่อนเรา เราจะรู้ว่าควรสื่อสารอะไร เรื่องไหนบ้าง เมื่อเจอคนที่มีข้อจำกัดเดียวกัน ก็จะสามารถสื่อสารกันได้ตรงจุด ความเป็นเพื่อนจึงสำคัญในการออกแบบ Inclusive Lifestyle
ความพิการไม่ได้ต้องการความพิเศษ
ในส่วนของคุณเล็ก ผู้ใช้วีลแชร์ที่เข้าร่วมโครงการวิ่งด้วยกันตั้งแต่ 10 ปีก่อนที่ยังไม่มีมูลนิธิ คุณเล็กเล่าถึงเมื่อก่อนนี้ว่าสังคมผู้พิการจะแยกกันเป็นกลุ่ม ๆ ตามความพิการ แต่เมื่อมีกิจกรรมที่ได้ทำร่วมกันแล้ว จึงเกิดเป็นเครือข่ายสังคมที่เปิดกว้างมากขึ้น นำไปสู่กิจกรรมใหม่ ๆ ต่อเนื่องไปสู่อีกโลกได้ไปเป็นนักแสดงผ่านการชักชวนปากต่อปากในกลุ่มผู้ร่วมกิจกรรม

คุณเล็กพูดถึงภาพจำเดิม ๆ ผ่านสื่อที่คนพิการต้องอ่อนแอ จับต้องไม่ได้ แต่หากได้มาเป็นเพื่อนกันลองมาสัมผัส เราสามารถสร้างภาพใหม่ร่วมกันว่าคนพิการก็เป็นคนทั่วไป ปฏิบัติเท่ากันได้อย่างเสมอภาค ไม่ต้องดูแลกันแบบ VVIP แต่พวกเราทุกคนคือ ‘คน ๆ หนึ่ง’
คีย์เวิร์ดสำคัญของการอยู่ร่วมกันกับคนพิการจึงไม่ใช่ความพิเศษ แต่คือ “ความธรรมดา ไม่ดีเกินไป ไม่ตัดสินกัน” เพราะในชีวิตจริงเราไม่มีอะไรที่เพอร์เฟคไร้ที่ติ การอยู่เป็นเพื่อนทำให้เราอยู่ร่วมกันอย่างสบาย ๆ กลมกล่อม ไม่ฝืนเกร็งกันจนเกินไป

ทุกบ่ายวันเสาร์ที่ 3 ของเดือน ณ ศูนย์กีฬาสวนเบญจกิติ Cr. Allympic – กีฬาเพื่อทุกคน
นอกจากนี้คุณเล็กยังพูดถึง ความกลัว ที่ทำให้คนปิดกั้นตัวเอง การร่วมทำกิจกรรมที่ต้องเปิดใจของตัวเองทั้งผู้พิการและไม่พิการ ต้องเริ่มจากการไม่ตัดสินตัวเอง ให้โอกาสตัวเองได้ทดลองและสัมผัสกับประสบการณ์ต่าง ๆ
กิจกรรมที่เป็นเพียงเครื่องมือของการเชื่อมโยงกัน
คุณแจ็คย้ำถึงความตั้งใจของ มูลนิธิด้วยกัน ที่อยากเป็นต้นแบบให้ดูว่าการทำกิจกรรมร่วมกันนี้มันทำง่ายกว่าที่คิด และถ้าคุณมีความถนัดอะไร ก็เอาความเข้าใจมาปรับใช้ร่วมกัน จนวันหนึ่งผู้พิการและไม่พิการจะสามารถต่อยอดไปทำกิจกรรมในมุมที่ถนัดของตัวเองได้ เช่น นักวิ่งตาบอดที่แต่ก่อนไม่เคยวิ่ง แต่ได้มาวิ่งร่วมกันกับ Guide Runner จนปัจจุบันกลายเป็นนักวิ่ง 100 กิโลเมตร หรือน้องผู้พิการที่ต่อยอดไปสู่การแข่งไตรกีฬา
“การเป็น Guide Runner นั้นไม่ได้ทำยาก อย่างการมาวิ่งกับผู้พิการทางการได้ยิน เราสามารถเป็นหูให้เค้า การวิ่งกับผู้พิการทางการมองเห็นเราสามารถเป็นตาให้เค้า พาเค้าเดินหรือวิ่งไปด้วยกัน เป็นเรื่องง่าย ๆ ที่ทำได้ อย่ากลัวการช่วยเหลือกัน แล้วเราจะเริ่มเข้าใจกันจริง ๆ”

นอกจากกิจกรรมวิ่งยังมีกิจกรรมอีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาออลลิมปิก (Allympic) ที่มีทั้งคนพิการและไม่พิการมาเล่นร่วมกันในกติกาที่เป็นลูกครึ่งของกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิก โดยมีจุดประสงค์เป็นการเล่นกีฬาร่วมกันไม่ใช่การแข่งขัน หรือการไปดำน้ำร่วมกัน ไปถึงแอปฯ ดูภาพยนตร์ของคนตาบอด ที่ทำร่วมกับภาคี ทำให้จากเดิมที่คนตาบอดดูภาพยนตร์แล้วเข้าใจหนังได้เพียง 20-30% แต่เมื่อมีเสียงบรรยายภาพเพิ่มเติมอรรถรสเข้าไปด้วยเสียงที่ฟังเพิ่มเติมอีกหูผ่านแอปพรรณา Pannana และมีเว็บโวหาร ที่ให้คนเข้าไปช่วยเพิ่มข้อมูลซับไตเติลเข้าไปในระบบ

สุดท้ายนี้ การวิ่งหรือกิจกรรมใด ๆ ก็ตาม นั้นเป็นเพียงอุปกรณ์ที่ทำให้พวกเราได้เรียนรู้กันอย่างเข้าใจ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมและสร้างการอยู่ร่วมกันอย่างเข้าใจได้จริง หากใครมีความสนใจอยากจะมาเป็นเพื่อนกัน หรืออยากสร้างสังคมดี ๆ ร่วมกัน สามารถเข้ามาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และติดตามความเคลื่อนไหวของมูลนิธิได้ที่
FB: มูลนิธิด้วยกัน เพื่อคนพิการและสังคม – Together Foundation
เพื่อน ๆ ทุกคนยังสามารถเข้ามารับชมเนื้อหาและกิจกรรมดี ๆ จากงาน SX2025 (SUSTAINABILITY EXPO 2025) กันได้ตั้งแต่วันที่
Sustainability Expo 2025 (SX2025)
จัดระหว่างวันที่ 26 กันยายน – 5 ตุลาคม 2568 | 10.00-20.00 น.
ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ (QSNCC) ชั้น G
ช้อปสินค้านวัตกรรมที่ SX MARKETPLACE พื้นที่ตลาดนัดสร้างสรรค์รวมสินค้ายั่งยืน
