// PART 02 // SAFE HOUSE
ยูนิตส่วนตัวประกอบด้วยพื้นที่การใช้ชีวิตแบบครบครันราวกับเป็นบ้านหลังย่อมๆ ดูแตกต่างจากสิ้นเชิงจากพื้นที่ส่วนกลางด้วยบรรยากาศที่สว่างสดใสจากแสงธรรมชาติ แต่ขณะเดียวกันก็อบอุ่นอ่อนโยนด้วยสีสันของไม้ที่นํามาใช้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง ซึ่งช่วยสะท้อนตัวตนของเจ้าของบ้าน ได้เป็นอย่างดี
“การออกแบบยูนิตนี้แบ่งออกเป็นสองส่วน คือ ส่วนที่ต้องได้รับการรีโนเวท และส่วนที่ยังมีสภาพดีอยู่ ซึ่งทางเจ้าของบ้านอยากให้คงเดิมไว้ เช่น ส่วนแพนทรี่และห้องนอน นี่จึงเป็นความท้าทายพอสมควรที่เราจะต้องออกแบบพื้นที่ใหม่ให้ยังคงเชื่อมต่อ และกลมกลืนกับพื้นที่เดิมให้มากที่สุด แต่ก็ต้องโดดเด่นและแตกต่างที่สุดในขณะเดียวกัน ไม่ใช่แค่ในเรื่องของสไตล์ แต่รวมถึงเรื่องของฟังก์ชันการใช้งานด้วย”
จากทางเข้า ทางเดินพื้นกระจกใสพาเราเข้าไปพบกับโซนรับประทานอาหารโฉมใหม่เชื่อมต่อกับส่วนแพนทรี่เดิม และสวนระเบียงภายนอก พื้นที่ตรงนี้เดิมเป็นชุดโซฟาสําหรับนั่งเล่น ซึ่งทางเจ้าของบ้านต้องการเปลี่ยนแปลงการใช้งานให้เป็นพื้นที่นั่งรับประทานอาหารไปพร้อมกับการสังสรรค์เล็กๆ คุณดี้จึงจัดการเปลี่ยนโต๊ะกลางตัวเก่าให้กลายเป็นโต๊ะไม้ยาวตัวใหม่พร้อมเซตเลิฟซีตที่เหมาะกับการนั่งรับประทานอาหารมากกว่า
“เราตัดสินใจให้ลีลาการออกแบบส่วนหนึ่งอยู่ที่ไลติ้งด้วย และเนื่องจากเจ้าของบ้านไม่ชอบแสงไดเร็กต์ไลท์อย่างไฟดาวน์ไลท์ เราจึงเลือกเล่นระดับฝ้าเพื่อซ่อนไฟอยู่หลายจุด นอกจากจะช่วยสร้างความต่อเนื่องลื่นไหลระหว่างส่วนเก่าและใหม่ ภายในและภายนอก ยังซ่อนแหล่งกําเนิดแสงไว้ ในจุดต่าง ๆ เพื่อช่วยกระจายแสงได้อย่างเพียงพอ”
ในส่วนของห้องนั่งเล่น คุณดี้ตั้งใจให้พื้นที่นี้เป็นทั้งมินิเธียเตอร์และพื้นที่พักผ่อนนอกเหนือจากห้องนอน เพื่อช่วยเติมเต็มความสุขท่ามกลางบรรยากาศที่ดูอบอุ่นด้วยการนําไม้โทนสีอ่อนมากรุเป็นผนังด้านหลัง เข้ากับโซฟาเดย์เบดขนาดใหญ่สีเอิร์ธโทนซึ่งออกแบบและสั่งทําเฉพาะ กลายเป็นแบ็กกราวนด์ให้กับของสะสมช้ินเล็กๆ ก่อนที่จะออกมาเจอกับแกลเลอรี่ของสะสมบริเวณโถงทางเดิน
“เนื่องจากในยูนิตนี้พื้นที่เป็นรูปตัวแอล (L) พื้นที่ส่วนใหญ่จึงเป็นทางยาว เราเลยคิดว่าทำตรงจุดนี้ให้กลายเป็น Wall Gallery สนุก ๆ เปลี่ยนแนวชั้นวางของเดิมให้กลายเป็นมุมสําหรับของสะสมไปเลย โดยใช้ลวดลายกราฟิกมาช่วยให้เกิดการลวงตาที่น่าสนใจ”
แม้สุดท้ายภาพรวมของบ้านจะออกมาดูเรียบง่าย ผ่อนคลาย แต่เบื้องหลังกลับมาจากความใส่ใจในทุกรายละเอียดที่ซับซ้อน ไม่ใช่เพียงเพื่อการแก้ปัญหา หากแต่เป็นการท่ีดีไซเนอร์ “คิดเผื่อ” ไปถึงความต้องการในการใช้ชีวิตที่บางครั้งเจ้าของบ้านเองก็คาดไม่ถึง
“เราออกแบบโดยคํานึงถึงสัมผัสทั้งห้าก่อน อย่างผิวสัมผัสของไม้จริงที่เรียบแต่อบอุ่น กลิ่นสดชื่นของอากาศบริสุทธิ์ อรรถรสของการได้รับประทานอาหาร พูดคุย พักผ่อน ฟังเพลง ปาร์ตี้แบบเต็มที่ และสัมผัสที่หกคือ Beyond Experience เราพยายามกระตุ้นให้ทั้งเจ้าของ และผู้มาเยือนมีการใช้งานที่เข้าถึงมิติงานออกแบบของเรามากที่สุด เราอยากให้งานดีไซน์ของเราช่วยให้เขาได้รับประสบการณ์การใช้ชีวิตที่แตกต่างออกไป”