“ลาเทลิเย่ พอชเทล” ( L’atelier Poshtel ) ตั้งอยู่ ณ โครงการบายพาส สแควร์ ไม่ใกล้ไม่ไกลนักจากย่านเมืองเก่าของภูเก็ต คำว่า “พอชเทล” หลายคนอาจฟังดูไม่คุ้นหู แต่รับรองว่าที่นี่ก็โดดเด่นด้วยบรรยากาศไม่คุ้นตา ซึ่งแตกต่างจากโฮสเทลอื่นๆ เช่นกัน ด้วยการออกแบบที่ดึงศาสตร์แห่งศิลป์ของอารยธรรมตะวันตกเข้ามาประยุกต์ใช้เพื่อสร้างรูปแบบเฉพาะ ทำให้ที่นี่อยู่เหนือความคาดหมาย และกลายเป็นจุดหมายใหม่ของนักเดินทาง
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Klickken Studio
จากประสบการณ์การออกแบบโฮสเทลมาหลายต่อหลายที่ วันนี้คุณพีรเดช นรเศรษฐกร สถาปนิกผู้ก่อตั้ง Klickken Studio ผันตัวมาเป็นเจ้าของธุรกิจโฮสเทลด้วยตัวเอง ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน OTA (Online Traveling Agency) ของทีมผู้ร่วมก่อตั้ง ประกอบกับการวิเคราะห์เชิงการตลาด ลาเทลิเย่ พอชเทล ( L’atelier Poshtel ) จึงเปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปี 2018 ที่ผ่านมา โดยยึดทำเลใกล้ชุมทางท่ารถ สะดวกสบายสำหรับการเดินทางทั้งไปสู่สนามบินหรือแหล่งท่องเที่ยวบนเกาะต่างๆ
สำหรับธุรกิจโรงแรมที่พักที่มีการแข่งขันสูงในปัจจุบัน นอกจากทำเลที่ตั้ง ความสะดวกสบายในการเดินทาง การออกแบบรูปลักษณ์ก็คืออีกจุดขายสำคัญที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว คุณพีรเดชรีโนเวตอาคารพาณิชย์เก่า 4 ชั้น ให้กลายเป็นที่พักแบบโฮสเทลที่มีบรรยากาศของความหรูหรา ลึกลับ น่าค้นหา ผ่านการหลอมรวมสไตล์ของงานศิลปะที่เขาหลงใหลส่วนตัว
“เราไม่ได้อยากได้สไตล์ซึ่งเป็นที่นิยมตอนนี้ ไม่อยากให้ลุคมันออกมาล็อฟต์มาก หรือโมเดิร์นจ๋า เพราะถ้าวันหนึ่งไม่ได้รับความนิยมแล้วเราก็ต้องรีโนเวตใหม่ เปลี่ยนสไตล์ทั้งหมดเพื่อตามใจตลาด แต่ถ้าเราสร้างคาแรคเตอร์ของตัวเอง ที่นี่ก็จะเป็นตัวของตัวเองไปได้เรื่อยๆ”
“ผมเลยตัดสินใจนำสไตล์กอธิก คลาสสิก ล็อฟต์ โมเดิร์นมารวมกัน อาจเรียกว่าโมเดิร์นกอธิก หริอคอนเทมโพรารี่กอธิกก็ได้ นอกจากนี้เรายังพยายามผสมผสานศาสตร์ต่างๆ ของงานศิลปะเข้าด้วยกันในพื้นที่แห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นศาสตร์ด้านสถาปัตยกรรม การออกแบบตกแต่งภายใน เฟอร์นิเจอร์ ประติมากรรม กราฟฟิก จิตรกรรม ไลท์ติ้ง งานคราฟต์ รวมถึงงานวิศวกรรม”
การหลอมรวมของสไตล์ที่แตกต่าง นอกจากจะสร้างคาแรคเตอร์ใหม่ให้แก่การออกแบบแล้ว ยังนำไปสู่การเลือกใช้สีสันและวัสดุที่ช่วยสร้างสเปซลวงตา อาทิเช่น ทางเดินทึบแคบสีดำในบรรยากาศน่าเกรงขามที่เปิดออกสู่สเปซโปร่งโล่ง สะอาดตาน่าผ่อนคลายภายในห้องพัก ซึ่งทำให้ผู้เข้าพักได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างตลอดเวลาแม้ในพื้นที่จำกัด
เมื่อประยุกต์ใช้แนวคิดจากงานสร้างสรรค์จากยุคโบราณ ในการออกแบบจึงเลือกใช้วัสดุที่เผยผิวสัมผัสเนื้อแท้ ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต หินอ่อน เหล็กหรือไม้ โดยหัวใจสำคัญคือการจับคู่ให้วัสดุผิวสัมผัสละเอียดอ่อนหรูหรา ซึ่งเป็นส่วนที่ผู้ใช้งานต้องสัมผัสใกล้ชิดอยู่กับวัสดุตกแต่งที่ดิบหยาบกระด้างได้อย่างลงตัว และก่อให้เกิดความขัดแย้งที่น่าสนใจ
แม้การออกแบบโครงการนี้จะดูเหมือนว่ามีจุดเริ่มต้นมาจาก “สไตล์” เป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้มองข้ามการตอบสนองความต้องการด้านไลฟ์สไตล์การพักผ่อน และการพบปะสังสรรค์สร้างมิตรภาพใหม่ซึ่งเป็นรูปแบบเฉพาะของที่พักแบบโฮสเทล จึงมีพื้นที่อำนวยความสะดวกส่วนกลางครบครัน ทั้งแพนทรี่ มินิเธียเตอร์ พื้นที่เอ๊าต์ดอร์ ฯลฯ
ส่วนชั้นบน ประกอบด้วยห้องพัก ทั้งแบบเตียงสองชั้นรวมทั้งหมด 36 เตียง พร้อมห้องพักแบบส่วนตัว 4 ห้อง และด้วยข้อจำกัดของขนาดอาคารพาณิชย์ซึ่งมีหน้ากว้างเพียง 5 เมตรและลึก 16 เมตร การจัดสรรพื้นที่ทั้งหมดจึงเป็นเรื่องท้าทายอยู่ไม่น้อย
“พอเรื่องของสไตล์ลงตัวเราจัดการกับพื้นที่ใช้สอย โดยคำนึงถึงกฏหมายควบคุมอาคารสาธารณะเป็นหลัก เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยโดยตรง ดังนั้น เวลายื่นขออนุญาตปรับปรุงอาคาร ขอใช้อาคาร หรือขออนุญาตประกอบกิจกรรมโรงแรม หัวใจหลักของเราคือต้องถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาภายหลัง”
สำหรับนักเดินทางที่อยากลองไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่อีกสักครั้งที่ภูเก็ต นอกเหนือไปจากที่พักสไตล์ชิโนโปรตุกีส หรือวิลล่าเล็กๆ ริมทะเล ลองมาเยี่ยมเยือน “พอชเทล” ในบรรยากาศที่อบอุ่น หรูหราและแตกต่าง พร้อมเปิดรับมิตรภาพจากเพื่อนใหม่ทั่วโลก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
L’atelier Poshtel
101/31 โครงการบายพาส สแควร์ ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9
ภูเก็ต 83120 โทร. 076 684 430
เรื่อง MNSD
ภาพ นันทิยา
_______
OUI J’AIME โรงแรมเหล็กในเมืองแปดริ้ว ที่ทุกคนต้องบอกว่า “ใช่ ฉันชอบ”
