จากพื้นที่ว่างบริเวณสวนของบ้านไม้หลังเดิมในซอยสบายใจ ซึ่งมีทั้งต้นไม้และบ่อปลาคาร์พบรรยากาศร่มรื่น วันนี้ได้รับการปรับเปลี่ยนใหม่ให้กลายเป็น คาเฟ่สุทธิสาร พื้นที่นัดพบของคนรักกาแฟ และโชว์รูมของหอพักในอนาคต ภายใต้แบรนด์ของ POB โดยใช้ชื่อที่นี่ว่า POB coffee & living space
#ความโค้งมนที่ตอบรับกับบริบท
ด้วยความจำกัดของพื้นที่ตั้ง ซึ่งเป็นบ้านเดิมที่อยู่บริเวณหัวมุมถนน และยังมีต้นไม้เดิมที่อยากเก็บรักษาไว้ ส่งผลให้การออกแบบครั้งนี้ ต้องเลือกใช้การออกแบบเปลือกอาคารให้มีลักษณะโค้งมนลื่นไหลล้อไปกับต้นไม้ใหญ่ และใช้สีทาผนังด้วยสีเทาโทนอุ่น ตัดกับสีเขียวชอุ่มของต้นไม้ซึ่งเป็นฉากหลัง โดยเลือกออกแบบความสูงของเปลือกอาคารให้มีความสูงแบบลดหลั่นกัน โดยเฉพาะช่วงตรงกลางของอาคารที่ต้องมีความสูงระดับพอดี ในการบดบังบ้านด้านหลังที่อยู่ติดกันเพื่อความเป็นส่วนตัว
#ต่อยอดองค์ประกอบสวนของบ้านสู่ร้านกาแฟที่ใช้อยู่ร่วมกัน
ความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านทำให้ผู้ออกแบบได้แนวคิดการดัดแปลงออกแบบให้มีทั้ง Soft Scape และ Hard Scape ซึ่งเป็นสิ่งที่บ้านมีอยู่แล้วมาออกแบบใหม่ ใช้ส่งเสริมบรรยากาศให้มีความร่มรื่น เหมาะกับการดื่มกาแฟยิ่งขึ้น อีกทั้งบ่อปลาคาร์พที่มีน้ำไหลเวียนตลอดยังช่วยสร้างความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ส่วนศาลาไม้เดิมของบ้านก็ได้รับการทำสีใหม่ให้ดูเข้ากับคาเฟ่ สำหรับเสิร์ฟลูกค้าที่มากันหลายคน ให้สามารถออกมาดื่มด่ำกับบรรยากาศของสวนด้านนอก
#เชื่อมโยงบรรยากาศสวนสู่ภายในด้วยแสงธรรมชาติ
เมื่อเข้ามาในร้านจะเห็นบาร์เก้าอี้สูง และแผงไม้ตกแต่ง ใช้แนวคิดเดียวกับเปลือกอาคารภายนอก เลือกใช้สีของไม้โทนเข้มกว่าส่วนอื่นเพื่อความรู้สึกสะดุดตา เพิ่มความอบอุ่น สบาย และผ่อนคลายกับสีไม้โทนอ่อน ผ่านที่นั่งรอบข้างที่มีดีไซน์โค้งมนลื่นไหล สิ่งสำคัญคือช่องแสงธรรมชาติภายในร้าน ยังทำหน้าที่ช่วยเปิดมุมมองให้เห็นบริบทภายนอกของชุมชนรอบ ๆ มองเห็นเรือนยอดของต้นไม้เดิมด้านหน้า และมิติของแสงเงาที่สาดส่องเข้ามา นอกจากนี้เท็กซ์เจอร์ของผิวผนังช่องแสงอาคารที่ก่อผนัง 2 ชั้น ซึ่งเป็นพื้นผิวโค้งเข้าด้านใน ตรงข้ามกับเปลือกอาคารด้านนอกที่โค้งออก ยังทำออกมาได้อย่างสวยงาม เพิ่มลูกเล่นในเรื่องของแสง ด้วยการซ่อนแสงไฟ LED ที่ขอบด้านบนของแบ็กกราวน์ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ เน้นให้เห็นเท็กซ์เจอร์ของผนังได้ชัดขึ้น และยังซ่อนไว้ตามขอบช่องไม้ลามิเนตสีน้ำตาลโทนกาแฟ เกิดลำแสงของแสงไฟประดิษฐ์ล้อไปกับแสงจริงจากธรรมชาติ ที่จะหักเหองศาไปเรื่อย ๆ ตามแต่ละช่วงเวลาของวัน
#บาร์ที่เปิดพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ระหว่างบาริสต้ากับคนดื่มกาแฟ
สไตล์บาร์กาแฟที่ POB เลือกใช้เป็นแบบ Mod Bar ซึ่งบาร์แบบนี้ช่วยเพิ่มพื้นที่ และลดช่องว่างระหว่างบาริสต้ากับคนดื่ม ช่วยให้ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์กาแฟมากขึ้น ทำให้พื้นที่มีความเชื่อมโยงกัน แต่ยังคงคุณภาพของเครื่องดื่มที่ดีเช่นเดิม เป็นอีกแนวทางที่น่าสนใจ หากการออกแบบพื้นที่ของคาเฟ่ไม่ต้องการเครื่องมืออุปกรณ์ให้เด่นชัดบนบาร์มาก จนบดบังบรรยากาศโดยรอบ อีกทั้งระบบของ Mod Bar ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ทำงานให้กับบาริสต้ามากยิ่งขึ้นด้วย ทำให้สามารถแสดงขั้นตอนการประกอบเมนู ซึ่งเป็นอีกความน่าสนใจให้กับร้าน โดยเฉพาะ POB ที่ตั้งใจนำเสนอเมนูที่มีเรื่องราว
#เมนูที่มีเรื่องราวและส่งเสริมกับดีไซน์
เมนูของทาง POB Coffee & Living Space นำเสนอเรื่องราวของเจ้าของที่เป็นบาริสต้าเอง ซึ่งได้คัดสรรเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถันพร้อมคุณภาพ มาพร้อมกับการสร้างแบรนด์ บูรณาการจากประสบการณ์ เมนูต่าง ๆ ที่ได้จากการพูดคุย พบปะ แลกเปลี่ยนจากคนรักกาแฟด้วยกัน ทั้งเมนูที่ได้รับไอเดียการสร้างสรรค์โดยบังเอิญจากเกษตรกร และเมนูพิเศษซึ่งเป็นกาแฟผสมน้ำผลไม้ เอาใจคนที่ชอบดื่มกาแฟไม่เข้มนัก เป็นเครื่องดื่ม Long Drink ที่สามารถใช้เวลาลิ้มลองรสชาติ และบรรยากาศภายในร้านไปพร้อมกัน จึงช่วยเพิ่มความหลากหลาย และตอบโจทย์คนดื่มกาแฟได้อย่างดี
ที่นี่จึงถือเป็นพื้นที่เปิดประสบการณ์ให้คนรักกาแฟได้มานัดพบและแลกเปลี่ยนพูดคุยกัน เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีได้อย่างแท้จริง ตามความหมายของ POB คือ “Point of Beginning” ซึ่งผ่านการเวิร์กชอปทดลองไปด้วยกันกับผู้ออกแบบ หาจุดสมดุลระหว่างพื้นที่บริบทกับการสร้างสรรค์ตัวสถาปัตยกรรมที่โอบล้อมกับชุมชนอย่างแยบยล และช่วยส่งเสริมคาเฟ่ได้อย่างลงตัว
ที่ตั้ง: เลขที่ 2 ซอยสบายใจ แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/cT3KLDSjwng6V5NE9?g_st=ic
เปิดทุกวัน 9.00-18.00น.
https://www.facebook.com/POBsociety
ออกแบบ : Rakchai Architects
ภาพ: นันทิยา
ผู้ช่วยช่างภาพ: กรานต์ชนก บุญบำรุง
เรื่อง: Lily J.
SCHOOL COFFEE ย้อนวัยเด็กสู่คาเฟ่บรรยากาศเหมือนโรงเรียนไม้ต่างจังหวัด
