Machue Bar บาร์เชียงใหม่ บรรยากาศโอเปร่าเฮ้าส์เคล้าเพลงแจ๊ส - room

Machue Bar & Eatery Nimman บาร์เชียงใหม่ บรรยากาศราวกับอยู่ในโอเปร่าเฮ้าส์

มอบบรรยากาศแห่งการกินดื่มใหม่ให้กับย่านนิมมานฯ ผ่านบาร์ที่ออกแบบสเปซตามอย่างกับโอเปร่าเฮาส์ ที่ Machue Bar & Eatery Nimman หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “มาชู” ที่พร้อมอ้าแขนต้อนรับผู้คนที่มาแวะเวียนมาเมืองเชียงใหม่

ตอบโจทย์ยุคนี้ที่การดื่มด่ำรสชาติเครื่องดื่มและเสียงเพลงในบาร์ ต้องมาพร้อมบรรยากาศที่สนุกและธีมการนำเสนอที่แตกต่าง เพื่อให้นักท่องราตรีได้สัมผัส “ Machue Bar ” บาร์เชียงใหม่ แห่งนี้ จึงขอดึงดูดสายตาทุกคนตั้งแต่แรกเห็นด้วยอาคารรูปทรงคล้ายดอกเห็ด ก่อนจะเข้ามาพบกับความหวือหวาสุดเซอร์ไพรส์โอบล้อมสเปซแบบโถงโอเปร่า เชิดชูเหล่านักดนตรีและเปิดประสบการณ์การกินดื่มในอาคารที่ดีไซน์แสนพิเศษ

ภายนอกอาคารออกแบบอย่างเรียบง่ายด้วยวัสดุคอนกรีต ใช้เส้นสายโค้งมนสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร เชื้อเชิญให้คนเข้าไปสัมผัสบรรยากาศพิเศษภายในสเปซแสนโอ่อ่า
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับโถงโอเปร่าที่ต้อนรับผู้คนด้วยบาร์และสเตจกลางร้านสร้างบรรยากาศแปลกใหม่

คุณเมย์ – วรวิทย์ นนทิกรนารีรัตน์ สถาปนิกอิสระสายเลือดเชียงใหม่ ผู้เคยฝากผลงานไว้กับบาร์ที่ตั้งใจใช้งานออกแบบเสิร์ฟเสียงเพลงให้กับลูกค้าอย่าง Mahoree City of Music และ The A ter คือผู้ที่มาต่อยอดไอเดียจาก คุณหมอแมงมุม – ภรต หอมดอก หมอฟันผู้สวมหมวกผู้ประกอบการบาร์มาชู

คุณหมอแมงมุม – ภรต หอมดอก เจ้าของโครงการ

โดยคุณแมงมุมได้ตั้งใจวางทิศทางของร้านจากคอนเซ็ปต์ของการให้ร้านสร้างความน่าจดจำและเชิดชูความสุขเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามระหว่างทางของการใช้ชีวิต ซึ่งเปรียบได้กับดอกเห็ดที่ซ่อนตัวในสภาพแวดล้อมธรรมดา ๆ ไม่เป็นที่มองเห็น แต่กลับเติบโตได้ดี ประกอบกับที่เจ้าของมีความชื่นชอบในโอเปร่าเฮาส์ จึงกลายเป็นที่มาของคอนเซ็ปต์ที่สถาปนิกได้นำมาต่อยอดสร้างสรรค์จนกลายเป็นองค์ประกอบของบาร์ที่หยิบยืมเสปซแบบโอเปร่าเฮ้าส์มาใช้ได้อย่างสวยงาม

บันไดขึ้นสู่พื้นที่ชั้น 2 ซึ่งเชื่อมกับสเตจสำหรับนักดนตรี และที่นั่งที่แวดล้อมคอร์ตตรงกลางร้าน
วางที่นั่งบนชั้น 2 ให้ขนานไปตามกรอบอาคาร แล้วเปิดช่องวางตรงกลางให้เป็นคอร์ตรับกับโถงสูงคล้ายโรงละครซึ่งเป็นจุดเด่นของบาร์

จากทำเลของบาร์ซึ่งเป็นบ้านเก่าตั้งอยู่ในนิมมานเหมินท์ ซอย 6 สถาปนิกได้รื้อบ้านหลังเก่าบนที่ดินออก แล้วทดแทนด้วยอาคารรองรับธุรกิจบาร์ขนาด 2 ชั้น โดยดึงองค์ประกอบบางส่วนอย่างโถงโอเปร่ามาจาก The A ter เพื่อสร้างบรรยายกาศแปลกใหม่ผ่านจุดเด่นของงานสถาปัตยกรรมให้เกิดขึ้นกับธุรกิจบาร์ในเชียงใหม่ ทั้งยังใช้เส้นสายโค้งมนที่ประกอบกันขึ้นเป็นฟังก์ชันสำคัญภายใน เช่น บาร์กลางร้านที่ตั้งเป็นจุดเด่นปะทะกับทางเข้า ในท่ามกลางสเปซแบบห้องโถงโรงละคร

เสาทั้ง 4 ต้นของร้านออกแบบให้มีลักษณะคล้ายกับต้นไม้ แต่ยังเพิ่มความน่าสนใจด้วยการเพิ่มความตื้นลึกให้กับรายละเอียดของตัวเสา ที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับร้านและลดการสะท้อนของเสียง
เจาะช่องตรงกลางโถงเป็นคอร์ตให้มองเห็นบรรยากาศชั้น 1

ด้านบนมีชั้นลอยยื่นออกมาเป็นเวทีสำหรับนักดนตรีเหนือบาร์ที่อยู่เบื้องล่าง ออกแบบให้โปร่งด้วยการเว้นร่องไม้ เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นการเคลื่อนไหวของนักร้องและวงดนตรีเด่นชัด โดยมีแสงแบบ Warm Light ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดาน ช่วยขับบรรยากาศให้โรแมนติกและสอดคล้องไปกับอารมณ์ของเสียงเพลง บนพื้นที่ชั้นลอยนี้แวดล้อมไปด้วยที่นั่งวางขนานไปตามกรอบอาคาร แล้วเจาะช่องตรงกลางโถงเป็นคอร์ตให้มองเห็นบรรยากาศชั้น 1 ได้ นอกจากนี้ ยังออกแบบพื้นที่สำหรับแขกที่ต้องการเป็นส่วนตัวเป็นห้องอยู่ด้านหลังเวที กรุกระจกทึบให้มองกิจกรรมแค่เพียงจากภายในห้องได้เท่านั้น

การออกแบบผนังและฝ้าเพดานให้มีความตื้นและลึก เพื่อให้เสียงถูกดูดซับไปตามซอกหลืบและลดการสะท้อนได้อย่างเหมาะสม
มีแสงแบบ Warm Light ซ่อนอยู่บนฝ้าเพดาน ช่วยขับบรรยากาศให้โรแมนติกและสอดคล้องไปกับอารมณ์ของเสียงเพลง

นอกเหนือจากการออกแบบภายในให้มีโถงสูงและเวทีอย่างโอเปร่าเฮาส์แล้ว ในเชิงรายละเอียดอย่าง เสา สถาปนิกตั้งใจเพิ่มมิติให้สะดุดตาและล้อไปกับคอนเซ็ปต์ของบาร์ที่ต้องการสื่อถึงดอกเห็ด โดยเสาทั้ง 4 ต้น ได้รับการออกแบบให้แผ่ปลายเสาด้านบนสุดรับกับฝ้าเพดานที่เจาะเป็นวงโค้ง ปรับแต่งรายละเอียดของเสาให้เกิดเป็นมิติตื้นลึกสร้างจุดเด่นให้กับอาคาร เช่นเดียวกับการออกแบบผนังและฝ้าเพดานให้มีความตื้นและลึก เพื่อให้เสียงถูกดูดซับไปตามซอกหลืบและลดการสะท้อนได้อย่างเหมาะสม

ห้องส่วนตัวที่อยู่ด้านหลังของสเตจบนชั้น 2 ได้รับการออกแบบให้รองรับกิจกรรมเพื่อสร้างความสนุกสนานและเพลิดเพลินลูกค้า

เนื่องจากบริบทของบาร์แวดล้อมไปด้วยบ้านพักอาศัยของเพื่อนบ้าน เพื่อแก้ปัญหาเสียงดังรบกวนสถาปนิกจึงเลือกใช้วัสดุกรุผนังที่สามารถดูดซับเสียงได้และเหมาะสมกับงบประมาณที่เจ้าของวางไว้ในการออกแบบ แต่ทว่ายังคงรักษาบรรยากาศของบาร์ให้อบอุ่นที่เจ้าของตั้งใจไว้เช่นเดิม จนมาได้ข้อสรุปเรื่องวัสดุอย่าง ไม้ เพราะมีความยืดหยุ่นต่อการออกแบบ สามารถสร้างผิวสัมผัสและแพตเทิร์นได้อย่างหลากหลาย โดยนำมาย้อมสีให้ล้อไปกับแสง Warm Light เมื่อกระทบกันแล้วจะเกิดมู้ดแอนด์โทนที่เข้ากันดีกับดนตรีสไตล์แจ๊ส ซ้อนผนัง 2 ชั้นที่ภายในเป็น Smart Board พ่นด้วยโฟม ทั้งยังสร้างช่องเปิดแต่พอดีเพื่อป้องกันเสียงไม่ให้รบกวนที่อยู่อาศัยบริเวณรอบ ๆ บาร์

จะเห็นได้ว่าการเติบโตของธุรกิจบาร์ในเชียงใหม่ได้ใช้งานออกแบบช่วยเล่าเรื่องและสร้างประสบการณ์กินดื่มให้พิเศษนั้นมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของทั้งผู้ประกอบการบาร์ในการเพิ่มความกล้าในการลงทุนไปกับการสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้า สร้างความแปลกใหม่ให้กับย่านของธุรกิจนั้น ๆ และสถาปนิกเองก็สามารถนำเสนอไอเดียผ่านงานออกแบบที่เป็นจิ๊กซอว์ในการช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจบาร์ในเชียงใหม่สามารถยืนระยะได้อย่างยาวนาน คู่กับวัฒนธรรมดนตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของคนเชียงใหม่เอง

ที่ตั้ง
ถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 6 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด https://maps.app.goo.gl/BR518VY75CkH8o6a8
เปิดทุกวัน 18.00 – 24.00 น.
โทร. 06-1265-9813

เจ้าของ: คุณภรต หอมดอก
ออกแบบ: คุณวรวิทย์ นนทิกรนารีรัตน์

เรื่อง: Kangsadan K.
ภาพ: นันทิยา, ณัฐวรรธน์ ไทยเสน


MORESTTO ละมุนไปกับเส้นโค้งและมุมโอเอซิสชวนพักผ่อน