กรุงเทพฯ : 18 มิถุนายน 2561 – COTTO ชูกลยุทธ์ Global Collaboration ร่วมกับดีไซน์เนอร์ระดับโลก
ต่อยอดความสำเร็จ ตอบโจทย์ Customer Centric และ Service Excellent ด้วย Innovative Product
ภายใต้แนวคิดคอลเลกชั่นใหม่ “SKIVE Collection” (สคีฟ คอลเลกชั่น) จับมือสตูดิโอออกแบบชั้นนำระดับโลกสัญชาติเดนมาร์ก “Jacob Jensen Design” เจาะตลาดไฮเอนด์ พร้อมสร้างตลาด Smart Toilet ด้วยสินค้าฝาอัตโนมัติ และสุขภัณฑ์อัจฉริยะ ทั้งในไทยและอาเซียน พร้อมบริการติดตั้งฟรี เพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ คาดตลาดโตขึ้นมากกว่าเท่าตัว ตั้งเป้าขายฝาสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ 20,000 ฝา ในปี 2562
นายอนุวัตร เฉลิมไชย แบรนด์ไดเร็กเตอร์ คอตโต้ บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กล่าวว่า “หลังจากที่ COTTO จำหน่ายคอลเลกชั่น “แพทช์เวิร์ค” โดยปิเอโร่ ลิซโซนี่ เข้าสู่ตลาดไปเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ด้วยยอดขายปีละกว่า 10 ล้านบาท จึงได้มีแผนพัฒนาดีไซน์เนอร์คอลเลกชั่นใหม่ๆ ออกมา เพื่อป้อนตลาดกลุ่มไฮเอนด์ที่ต้องการสินค้าที่โดดเด่นด้วยดีไซน์ระดับ World Class ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่”
ในปีนี้ COTTO เดินหน้ากลยุทธ์ Global Collaboration จับมือ Jacob Jensen Design สตูดิโอออกแบบชั้นนำสัญชาติเดนมาร์ก นำเสนอ “SKIVE Collection” (สคีฟ คอลเลคชั่น) ถ่ายทอดปรัชญาการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียที่ผสานฟังก์ชั่นและอีโมชั่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สะท้อนจิตวิญญาณสไตล์สแกนดิเนเวีย ผ่านความงามของธรรมชาติ รูปทรงโมเดิร์น เรียบง่าย ทันสมัย และโดดเด่น ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ COTTO ค้นหาจาก Consumer Insight ผสานเทคโนโลยีการผลิต พร้อมฟังก์ชั่นปรับอุณหภูมิน้ำด้วยระบบหน้าจอแบบสัมผัส ล้ำสมัย คำนึงถึง Customer Centric ด้วย Passion for Better Living ที่มุ่งสร้างสรรค์เพื่อสิ่งที่ดีกว่า ภายใต้แนวคิด Human-Centric Innovation ที่ตอบไลฟ์สไตล์ครอบครัวยุคใหม่ ให้ชีวิตง่ายขึ้น และสะดวกสบายสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันในยุคปัจจุบัน
SKIVE Collection โดย Jacob Jensen Design ประกอบด้วย ชุดอ่างล้างหน้า ก๊อกน้ำ โถสุขภัณฑ์ และชุดผนังอาบน้ำ ที่ได้แรงบันดาลใจหลักส่วนหนึ่งจากธรรมชาติ สะท้อนปรัชญาความแตกต่างระหว่างขั้วตรงข้ามของความห่างไกลและความใกล้ชิด ความสว่างและความมืด ความเป็นระเบียบของพื้นที่ที่ไม่เป็นระเบียบ ความหนาวเย็นและความอบอุ่น ซึ่งปรากฏอยู่ร่วมกันภายใต้ความสมดุลได้อย่างสมบูรณ์แบบ ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของการออกแบบภายในสไตล์สแกนดิเนเวียสมัยใหม่ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ของ Jacob Jensen Design บริษัทออกแบบแนวหน้าของเดนมาร์กที่ได้รับรางวัลมากที่สุดในสแกนดิเนเวีย และก้าวสู่ไอคอนด้านการออกแบบอันโดดเด่นระดับโลก COTTO ยังมีแผนที่จะร่วมมือกับดีไซน์เนอร์ระดับโลกอีกในอนาคตอันใกล้ สร้างความหลากหลายด้านดีไซน์เพื่อเป็นทางเลือกและตอบโจทย์ให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น
นายบัณฑูรย์ ปรปักษ์ขาม กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามซานิทารีแวร์ จำกัด ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “นอกจากดีไซน์เนอร์คอลเลกชั่นแล้ว COTTO ยังเล็งเห็นศักยภาพของตลาด Smart Toilet ทั้งในไทยและอาเซียน จากความต้องการที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในส่วนของสุขภัณฑ์อัจฉริยะ และฝารองนั่งแบบอัตโนมัติ ที่เป็นปัจจัยหลักของห้องน้ำในยุค 4.0 ในคอนเซปท์ Smart Toilet ที่ต้องการความสะอาด ปลอดภัย ดูแลรักษาง่าย และมีความคงทน COTTO ในฐานะผู้นำเทรนด์ จึงได้พัฒนาสินค้าฝาสุขภัณฑ์อัตโนมัติ ที่พร้อมทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นมาอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสามารถออกแบบฝาอัตโนมัติที่มีความหนาเพียง 11 เซนติเมตร ซึ่งบางที่สุดในเอเชีย และยังมีฝาอัตโนมัติแบบต่างๆ ให้เลือกมากกว่า 10 รุ่น โดยมีฟังก์ชั่นให้เลือกหลายระดับตามความต้องการไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทแบบง่ายๆ ด้วยฝาอัตโนมัติแบบไม่ใช้ไฟฟ้า หรือสมาร์ทแบบครบฟังก์ชั่นด้วยฝาอัตโนมัติแบบใช้ไฟฟ้า ซึ่งฝาดังกล่าวสามารถนำไป Match กับสุขภัณฑ์รุ่นเก่าได้มากถึง 40 รุ่น โดยไม่ต้องกังวล เพราะติดตั้งง่าย ราคาไม่สูง แต่ได้ความคุ้มค่า และความสะดวกสบาย ทนทานกว่า เมื่อเทียบกับการใช้ฝารองนั่งแบบทั่วไปกับสายฉีดชำระแบบเดิม ถือเป็นการเปลี่ยนห้องน้ำเดิมให้สมาร์ทขึ้นได้อย่างง่ายๆ โดยตั้งเป้าการขายฝาอัตโนมัติในปีนี้ไว้ 20,000 ชุด พร้อม Support ด้วยบริการติดตั้งฟรี โดยทีมช่างจาก COTTO”
“นอกจากนี้ผู้บริโภคที่มีความสนใจ สามารถสั่งซื้อฝารองนั่งอัตโนมัติได้ง่ายยิ่งขึ้น ผ่านช่องทางออนไลน์ store.scg.com หรือสั่งซื้อผ่าน Line@COTTOShop พร้อมพบโปรโมชั่นสุดพิเศษ โดย COTTO ยังมีบริการให้คำปรึกษาเรื่องการเลือกแบบฝารองนั่งอัตโนมัติให้เหมาะกับสุขภัณฑ์ในแต่ละรุ่น เพียงถ่ายรูปสุขภัณฑ์ของคุณส่งมาที่ Line@COTTOShop เจ้าหน้าที่สามารถแนะนำรุ่นที่เหมาะกับรุ่นสุขภัณฑ์และความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้ลูกค้ามากขึ้นอีกด้วย” นายบัณฑูรย์กล่าวปิดท้าย