Lalin Ayutthaya คาเฟ่ไม้ในตึกแถว เชื่อมฟังก์ชั่นคล้ายเสี้ยวพระจันทร์

Lalin Ayutthaya คาเฟ่ไม้ในตึกแถว เชื่อมโยงฟังก์ชั่นด้วยเส้นโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์

ที่นี่เกิดจากการรีโนเวทพื้นที่ของตึกแถวสองคูหา ริมถนนนเรศวร กลางตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน โดย Lalin Ayutthaya ตั้งใจเปิดร้านให้กลางวันเป็นคาเฟ่ ส่วนกลางคืนสลับเป็นบาร์ แถมในอนาคตยังมีแผนจะเปิดโรงแรมที่ชั้นบนเพิ่มเติมด้วย

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: BodinChapa Architects

นั่นจึงเป็นที่มาของการตั้งชื่ออันแสนไพเราะว่า “ลลิณ” มีความหมายว่า “พระจันทร์” โดยแรงบันดาลใจการตั้งชื่อร้านครั้งนี้ แสดงออกถึงการใช้งานในแต่ละส่วนที่แตกต่างกันตามแต่ละช่วงเวลา อันเป็นสิ่งที่ต่อยอดมาจากงานออกแบบ เพื่อการเล่าเรื่องราวของแบรนดิ้งได้อย่างตรงโจทย์

Lalin Ayutthaya ที่นี่เกิดจากการรีโนเวตพื้นที่ของตึกแถวสองคูหา ริมถนนนเรศวร กลางตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ให้กลายเป็นพื้นที่ที่มีฟังก์ชันการใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน
โครงสร้างของสถาปัตยกรรมกลางร้านเปรียบเสมือนกึ่งพาวิเลียน ใช้ไม้เก่าที่หาได้จากตลาดไม้ในอยุธยามาก่อสร้าง

BodinChapa Architects คือทีมสถาปนิกที่เข้ามารับหน้าที่ออกแบบ ภายหลังจากที่ตึกแถวนี้เคยผ่านการใช้งานมาแล้วหลายโปรเจ็กต์ จนกระทั่งได้รับการรีโนเวทพื้นที่ใหม่อีกครั้ง ภายใต้ชื่อ “ลลิณ” โดยปัจจุบันชั้นล่างและชั้นลอยของที่นี่เปิดบริการคาเฟ่ในรูปแบบ Everyday Coffee พร้อมเสิร์ฟเมนูอาหารรับประทานง่ายอิ่มท้อง ส่วนกลางคืนเปิดเป็นบาร์ค็อกเทล รองรับลูกค้าตั้งแต่กลางวันจรดกลางคืน และยังเตรียมพื้นที่ไว้สำหรับเปิดเป็นโรงแรมชั้นบนในอนาคต

ไม้เก่าช่วยสร้างคาแรกเตอร์บางอย่างที่สื่อถึงความอบอุ่น ลดทอนความเป็นกล่อง และแข็งกระด้างของคอนกรีตลง ไม้จึงตอบโจทย์ได้ทุกองค์ประกอบ โดยเน้นใช้ไม้แผ่นเล็ก ๆ หลากชนิด นำมาทำสีใหม่ เรียงเป็นแนวโค้งได้ง่าย
เชื่อมสเปซของบาร์ด้วยเส้นโค้งแบบครึ่งวงกลมเหมือนเสี้ยวของพระจันทร์ โดยครึ่งวงกลมที่ว่านี้ยังเชื่อมต่อเนื่องมาจนถึงบันไดสำหรับขึ้นไปที่ชั้นลอย

เรียกว่าในสถานที่เดียวสามารถบรรจุฟังก์ชั่นได้ถึง 3 รูปแบบ สถาปนิกจึงต้องคิดเผื่อสำหรับการปรับฟังก์ชั่นในอนาคต เช่น วิธีการวาง Back of House รวมถึงทางเดิน หรือ Circulation และพื้นที่บริการให้อยู่ด้านหน้า รวมถึงการวางผังการใช้งานเผื่อสำหรับการจัดการงานของโรงแรม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ง่ายกับการใช้งานทั้ง 3 ฟังก์ชัน พร้อมกับแนวทางการออกแบบที่เน้นการเปลี่ยนบรรยากาศภายในตึกแถวไปอย่างสิ้นเชิง

เพื่อลดทอนความเป็นกล่องของตึกแถวลงด้วยการนำสถาปัตยกรรม หรือพาวิเลียนไม้ที่เข้ามาประสานอยู่ภายในตัวอาคาร สร้างความรู้สึกประหลาดใจให้แก่ลูกค้าทันที เมื่อเดินเข้ามาจากหน้าอาคารที่เป็นตึกแถวสองคูหาธรรมดา ๆ โดยพื้นที่ด้านหน้าออกแบบให้มีที่นั่งหน้าร้านแบบเซมิเอาต์ดอร์ พร้อมแนวกำแพงปิดบังสายตาบางส่วน กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกน่าค้นหา ก่อนเปิดมาจะเจอกับโครงสร้างสถาปัตยกรรมหนึ่งก้อนที่เปรียบเสมือนพาวิเลียนซ้อนอยู่ด้านใน

ข้อดีของวัสดุอย่าง ไม้เก่า คือเป็นวัสดุที่เบา ไม่เพิ่มแรง หรือน้ำหนักให้อาคารเกินไป ลดการยืดหดตัวของเนื้อไม้
ใช้วัสดุเด่นอย่าง ไม้เก่า ได้จากตลาดไม้ในอยุธยา ที่นำมาทำสีใหม่ รวมถึงยังใช้กระเบื้องดินเผา และพื้นผิวทำเลียนแบบทรายล้าง ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ

จากฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมีทั้งพื้นที่ทำงานของบาริสต้าและโซนบาร์แอลกอฮอลล์ สถาปนิกจึงเชื่อมสเปซของบาร์ด้วยเส้นโค้งแบบครึ่งวงกลมเหมือนเสี้ยวของพระจันทร์ โดยครึ่งวงกลมที่ว่านี้ยังเชื่อมต่อเนื่องมาจนถึงส่วนที่เป็นบันไดของฝั่งที่ลูกค้าสำหรับขึ้นไปที่ชั้นลอย ซึ่งซ่อนห้องน้ำ 2 ห้อง ไว้ข้างล่าง เกิดการสร้างสเปซใหม่เพื่อปิดบังและลดทอนความเป็นตึกทรงกล่อง พร้อมกับเชื่อมพื้นที่ที่เป็นฟังก์ชันต่าง ๆ ให้ซ่อนอยู่ในครึ่งวงกลม เพราะฉะนั้นพื้นที่ทำงานของพนักงานกับพื้นที่นั่งของลูกค้าจึงแยกจากกันอย่างชัดเจน มีทั้งมุมมองที่เปิดไปทางบาร์ และมุมด้านข้างที่มีความเป็นไพรเวต หรือจะเลือกขึ้นไปนั่งที่ชั้นลอยก็ได้

บนชั้นลอยออกแบบเป็นที่นั่งรองรับลูกค้าของคาเฟ่ได้ ตกแต่งด้วยไม้จริงเป็นหลัก ตามความชื่นชอบของเจ้าของร้าน
ฝ้าเป็นวัสดุไม้แท้เช่นเดียวกัน โดยมีทั้งปิดและโปร่งสลับกันบางส่วน เพื่อลดทอนความแข็งของตึกลง จนเกือบลืมไปเลยว่า ตอนนี้กำลังอยู่ในตึกแถว
แสงสว่างสามารถเข้ามายังพื้นที่ภายในของร้านได้อย่างทั่วถึงทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยความโชคดีที่ไม่มีอาคารใด มาบดบัง

โครงสร้างของสถาปัตยกรรมกลางร้านที่เปรียบเสมือนกึ่งพาวิเลียนนี้ สถาปนิกเลือกใช้ไม้เก่าที่หาได้จากตลาดไม้ในอยุธยามาก่อสร้าง ข้อดีของวัสดุอย่าง ไม้เก่า คือเป็นวัสดุที่เบา ไม่เพิ่มแรง หรือน้ำหนักให้อาคารเกินไป ลดการยืดหดตัวของเนื้อไม้ ทั้งยังสามารถสร้างคาแรกเตอร์บางอย่างที่สื่อถึงความอบอุ่น ลดทอนความเป็นกล่อง และแข็งกระด้างของคอนกรีตลง ไม้จึงตอบโจทย์ได้ทุกองค์ประกอบ โดยเน้นใช้ไม้แผ่นเล็ก ๆ หลากชนิด นำมาทำสีใหม่ เรียงเป็นแนวโค้งได้ง่าย

คุณนิกส์ – พระคุณ ไทยสม และคุณปลาย – สุดารัตน์ อัศวถาวรวานิช เจ้าของ Lalin Ayutthaya

นอกจากนี้ ยังเน้นใช้วัสดุที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้องดินเผา และพื้นผิวทำเลียนแบบทรายล้าง และพื้นผิวเท็กซ์เจอร์ ส่วนเฟอร์นิเจอร์เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมด รวมถึงยังออกแบบไลท์ติ้งสำหรับการเปิดร้านยามค่ำคืน ช่วยขับเน้นองค์ประกอบโครงสร้างสถาปัตยกรรมกึ่งพาวิเลียนนี้ให้ยิ่งโดดเด่น มองเห็นกิจกรรมของผู้คนภายใน ดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาให้อยากเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ร่วมกัน ตามความตั้งใจของเจ้าของร้านที่ต้องการให้ “ลลิณ” เป็นมากกว่าแค่คาเฟ่เวลากลางวัน ตอบโจทย์ธุรกิจยุคนี้ที่พื้นที่หนึ่งสามารถมีฟังก์ชั่นได้หลากหลาย

ที่ตั้ง
17/18-19 ถนนนเรศวร ตำบลประตูชัย อำเภอเมืองฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
พิกัด https://maps.app.goo.gl/nmygNaQbpv5vePHk6
เปิดวันจันทร์ – ศุกร์ 9.00 – 17.00 น.
และวันเสาร์ – อาทิตย์ 9.00 – 18.00 น.
(ปิดเฉพาะวันอังคาร)
บาร์ 17.00 – 23.00 น.

เจ้าของ: พระคุณ ไทยสม และสุดารัตน์ อัศวถาวรวานิช
ออกแบบ: BodinChapa Architects

เรื่อง: Phattaraphon
ภาพ: ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู


The Sailing คาเฟ่อยุธยา และร้านอาหาร สร้างสรรค์ตอบโจทย์ผ่านวัสดุสามัญ