ในขณะที่ใครหลายคนยังต้องเดินทางออกไปทำงานในเช้าวันศุกร์ไม่ต่างจากวันอื่น แต่สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านทาวน์เฮ้าส์หลังย่อมคู่นี้กลับไม่ต้องรีบร้อนไปไหน รอเพียงเวลาที่นัดกับเราไว้ ก่อนออกมาต้อนรับเราเข้าสู่บ้านหลังใหม่ของพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: IF Integrated Field
“ถ้าเราซื้อที่เพื่อสร้างบ้านงบประมาณจะต้องเยอะมาก และกว่าจะรอสร้างเสร็จก็ต้องใช้เวลานาน แต่สำหรับโครงการนี้ อย่างน้อยเขามีตึกโล่ง ๆ ให้เรา ผมว่าน่าจะง่ายกว่าในการต่อเติมอะไรใหม่ ๆ เข้าไปตามแบบที่เราชอบ”
เจ้าของบ้านฝ่ายชายพูดพร้อมขยับท่วงท่าสบายบนโซฟาในห้องรับแขก ช่วงสายของวันศุกร์เขายังไม่ออกไปทำงานที่ไหน ไม่ใช่เพราะถือโอกาสหยุดงานหรือเป็นวันพิเศษ กลับกัน ดินสอ พู่กัน กระป๋องสี ผ้าใบ และกระดาษเปื้อนภาพร่างที่กองเกลื่อนบนโต๊ะและพื้น บอกว่าวันนี้เป็นอีกวันที่เขาต้องสะสางงานจนดึกดื่น แต่อย่างที่บอกเขาไม่ต้องออกไปไหน เพราะ “บ้าน” กับ “ที่ทำงาน” ของเขาเป็นสถานที่เดียวกัน
“ช่วงนั้นเราหาดูบ้านกันค่ะ” หนนี้เป็นเจ้าของบ้านฝ่ายหญิงเล่าให้ฟังเพิ่มเติม “เห็นโครงการนี้ผ่านเว็บไซต์ที่เพื่อนแนะนำ พี่กิฟท์เขาออกไปดูแวบหนึ่ง สักพักโทรมา ‘พี่จองแล้วนะ’ อ้าวพี่! (หัวเราะ) เรางงเลย และเขาก็บอกว่าลงเงินไปแล้วด้วย อีกวันเราจึงไปดูด้วยกัน ตอนนั้นพอได้เห็นก็ชอบเลยค่ะ”
พวกเขานั่งสนทนากับเราอยู่ข้าง ๆ กัน เหมือนรูปคู่ของสองคนที่ติดอยู่บนผนังข้างหลังพวกเขา ผนังของบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่พวกเขาย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันได้ราว 2 ปีแล้ว
“เป็นรูปแต่งงานครับ” ฝ่ายชายเล่าความหมายของภาพถ่าย ที่ดูจะเป็น “ภาพศิลปะ” มากกว่า “ภาพแต่งงาน” ใด ๆ ที่เราเคยเห็น คงเพราะความเป็น “ศิลปิน” ของทั้งคู่ ที่ทำให้พวกเขาอดที่จะเติมสิ่งพิเศษลงไปบนบ้านโล่ง ๆ ไม่ได้
ศิลปินสองคนที่เรากำลังพูดถึงคือ คุณกิฟท์ – รักกิจ ควรหาเวช กับ คุณเบียร์ – พิชญา ศรีระพงษ์ สตรีทอาร์ตหนุ่มและจิเวลรีดีไซเนอร์สาว ทั้งคู่ตัดสินใจเริ่มต้นชีวิตคู่และเริ่มมองหาที่อยู่อาศัยที่จะตอบรับกับวิถีชีวิตของคนสองคนได้อย่างลงตัว เงื่อนไขทั่วไปในการเลือกบ้านของพวกเขาไม่ต่างจากคนอื่นเท่าใดนัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ ทำเลที่ตั้ง ขนาดพื้นที่ใช้สอย หรือบรรยากาศความน่าอยู่
แต่เงื่อนไขที่สำคัญที่สุด อันเป็นจุดสิ้นสุดของการตามหาและทำให้พวกเขาตัดสินใจเลือกทาวน์เฮาส์ของโครงการ HOF (Home & Office) ในซอยสุขุมวิท 101/1 บนย่านบางนา กรุงเทพมหานครแห่งนี้เป็นบ้านหลังใหม่ ก็เพราะพวกเขาทั้งคู่ล้วนมองหาบ้านซึ่งจะมีพื้นที่ยืดหยุ่นมากพอที่ทั้งสองคนจะใช้ “บ้าน” เป็น “ที่ทำงาน” ไปได้พร้อม ๆ กัน
ชีวิตเติบโต
“เมื่อก่อนผมเป็นกราฟิกดีไซน์ สเปซของการทำงานกราฟิกดีไซน์ไม่จำเป็นต้องเยอะมาก ใช้แค่คอมพิวเตอร์เท่านั้น แต่พอเริ่มจับงานสตรีทอาร์ต ข้าวของต่าง ๆ ก็เลยเริ่มเยอะขึ้น ที่บ้านเก่าก็จะรกและเละมาก เราเริ่มสงสารแม่ ก็เลยเริ่มมองหาที่อยู่กันใหม่”
หากใครอยู่ในวงการศิลปะหรือติดตามข่าวสารเกี่ยวกับแวดวงนี้ เชื่อว่าจะต้องรู้จักสตรีทอาร์ติสที่ดังไกลทั้งในและต่างประเทศ จากชื่อรักกิจ ควรหาเวช เขาผลิตผลงานสตรีทอาร์ตแนวกราฟฟิตีที่ใช้สีสันลายเส้นเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น ชนิดที่ว่าปรากฏที่ไหนทุกคนก็จะต้องจำได้ เมื่อต้องการหาที่อยู่ใหม่ของครอบครัว จึงจำเป็นจะต้องตอบโจทย์หลาย ๆ อย่าง ทั้งชีวิตที่ขยับขยายจากคนเดียวกลายเป็นคู่ รวมถึงการมีสถานที่ทำงานเป็นหลักแหล่งช่วยให้สามารถควบคุมชีวิตได้ง่ายขึ้น
“เมื่อก่อนบางทีเราต้องหิ้วคอม ฯ ไปพรีเซนต์งานตามที่ต่าง ๆ ให้ลูกค้า ตอนนี้ไม่ต้องแล้ว เพราะเราเชิญเขามาที่บ้านเลยดีกว่า จะได้เห็นงานที่เราเพ้นต์ด้วย นี่จึงเป็นที่มาของการทำบ้านให้เป็นออฟฟิศใช้รองรับลูกค้าได้ในตัว”
ส่วนในฐานะจิเวลรี่ดีไซเนอร์มือรางวัลอย่างคุณเบียร์ที่เพิ่งได้รับรางวัล Demark Award 2017 จากผลงานกำไลข้อมือจากสายกีตาร์ในชื่อ “Dylan Bracelet” ภายใต้แบรนด์จิเวลรี่ “PITCH” ของตนเอง เธอก็ต้องการพื้นที่ทำงานส่วนตัวเช่นกัน
“เราทำงานกับเงินกับทองเหลือง มีเครื่องเป่าไฟ และเครื่องมือที่เป็นเหล็ก ระหว่างทำงานก็จะต้องใช้ไฟ ควัน น้ำมัน ถ้าอยู่ในโซนของบ้านมันจะอันตราย ในอนาคตจึงอยากจะปรับเปลี่ยนโรงจอดรถนอกบ้านให้เป็นส่วนเวิร์คชอป” หลีกเลี่ยงอันตรายระหว่างการทำงานไม่ให้อยู่ในส่วนของที่พักอาศัย เรียกได้ว่าบ้านหลังนี้สามารถขยับขยายได้ตลอดเวลา ไปพร้อม ๆ กับชีวิตของทั้งคู่ที่กำลังเติบโตขึ้น