มาเติมบรรยากาศดีๆ ในบ้านด้วยกลิ่นหอมเฉพาะตัว ให้รู้สึกผ่อนคลายในทุกวัน
บ้านที่อยู่สบาย ประกอบไปด้วยปัจจัยหลายอย่างซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการรับรู้ทางร่างกายหรือที่เรียกว่าประสาทสัมผัสทั้ง 5 บ้านที่เย็นสบายที่ผิวกายรับรู้ อากาศปลอดโปร่งถ่ายเทให้สูดหายใจได้เต็มปอด แสงเป็นมิตรกับสายตา เสียงที่เงียบสงบลดการถูกรบกวน และกลิ่นหอมๆ ที่เป็นมาตรวัดความน่าอยู่ของบ้านได้เป็นอย่างดี หลายคนอาจจะไม่เคยสังเกตว่า “บ้าน” แต่ละหลังมีกลิ่นเฉพาะตัว เพราะความคุ้นชิน ซึ่งกลิ่นเหล่านี้ล้วนสื่อถึงตัวตนของเจ้าของบ้านได้ด้วย ฉะนั้นอย่าแปลกใจถ้าหากเข้าไปในบ้านของนักดริปกาแฟแล้วจะได้กลิ่นหอมไหม้ของเมล็ดกาแฟคั่วหลงเหลือ หรืออาจจะได้กลิ่นหอมกรุ่นของชีสและเนยในบ้านที่มีนักทำขนมหวานเป็นเจ้าของ กลิ่นเนื้อไม้ที่เกิดจากพื้นไม้สัมผัสกับความชื้น กลิ่นหอมของดอกมะลิที่ลอยตามลมมาในห้องนั่งเล่นหรือกลิ่นอับกระดาษในห้องหนังสือแต่ก็มีหลายคนหลงใหล เอกลักษณ์เฉพาะตัวของกลิ่นต่างๆ ในบ้านเหล่านี้ทำหน้าที่เชื่อมความสัมผัสของช่วงเวลาของคนกับสถานที่ หากจังหวะที่เปิดประตูเข้าบ้านแล้วได้สัมผัสกับกลิ่นที่คุ้นเคยทำให้รู้สึกนึกย้อนถึงความทรงจำครั้งเก่า นั่นคือ กลิ่นของบ้าน ได้หน้าที่ของมันอย่างสมบูรณ์แล้ว นอกจากทำหน้าที่เก็บความทรงจำ “กลิ่นของบ้าน” ยังทำหน้าที่เป็นไมตรีจิต ต้อนรับเชื้อเชิญแขกผู้มาเยือนอีกด้วย ในสมัยอียิปต์โบราณแม่บ้านชาวฮีบรูจะเก็บใบมิ้นต์จากสวนมาโปรยลงพื้นบ้านซึ่งเป็นดินอัดแข็ง จากนั้นใช้ส้นเท้าบดขยี้เพื่อให้เกิดกลิ่นหอมเย็น เมื่อมีแขกมาเยือนจะสัมผัสกลิ่นหอมของมิ้นต์เป็นคำต้อนรับในขั้นแรก ซึ่งวิธีนี้เป็นการทำให้บ้านหอมในยุคแรกๆ ก่อนโลกจะรู้จักการนำเครื่องหอมมาอบร่ำห้องและรู้วิธีสะกัดกลิ่นหอมต่างๆ จากพรรณไม้ พร้อมรับรู้ว่าแต่ละกลิ่นล้วนแต่กระตุ้นประสาทสัมผัสให้ร่างกายเกิดความรู้สึกแตกต่างกัน เช่น กลิ่นให้ความสดใสตื่นตัว: หากได้กลิ่นของเลม่อน มะนาว มิ้นต์ หรือกลิ่นหอมของโรสแมรี่ จะสร้างความรู้ตื่นตัว สดใส ขึ้นมาทันที กลิ่นสร้างความผ่อนคลาย : กลิ่นหอมนุ่มๆ ของดอกลาเวนเดอร์ ดอกมะลิ ดอกซากุระ หรือไม้ดอกหอมอื่นๆ อย่างดอกซ่อนกลิ่น ดอกปีป ดอกลีลาวดี ล้วนแต่สร้างความผ่อนคลาย […]