S.O.S Roastery (San Phee Suer) คาเฟ่เชียงใหม่ โฮมคาเฟ่ดีไซน์อบอุ่น

S.O.S Roastery (San Phee Suer) คาเฟ่เชียงใหม่ เปลี่ยนหน้าบ้านให้เป็นโฮมคาเฟ่ดีไซน์อบอุ่น

หลายคนอาจเคยปักหมุดมาเยือนร้านกาแฟสเปเชียลตี้นามว่า Single Origin Store สาขาท่าแพ คาเฟ่เชียงใหม่ วันนี้ room จะพาย้อนไปถึงจุดกำเนิดเริ่มแรกกับคาเฟ่สาขาแรกของแบรนด์ ซึ่งเริ่มต้นมาจากภายในรั้วบ้านกับ S.O.S Roastery (San Phee Suer)

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: FLAT12x

โดยที่นี่เคยเป็นเพียงร้านกาแฟเล็ก ๆ หน้าบ้านมาก่อน หรือจะเรียกว่าเป็นสาขาแรกของแบรนด์ก็ว่าได้ แล้วได้รับการรีโนเวตใหม่อีกครั้ง พร้อมพื้นที่โรงคั่ว ห้องแพ็คเกจจิ้ง ครัวขนมอบ และพื้นที่หน้าร้านใช้รองรับลูกค้าให้เข้ามานั่งเล่นดื่มกาแฟ มีความครบวงจรมากขึ้นกว่าเดิม ผลงานการออกแบบจาก FLAT12x ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้ที่สาขาท่าแพมาแล้ว

การออกแบบร้านสาขาสันผีเสื้อ คุณจุล – จุลสมโณ พงษ์เสฐียร ผู้ออกแบบได้พยายามเชื่อมโยงอัตลักษณ์แบรนด์ของ Single Origin Store ที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดอนุรักษ์ ความเป็นพื้นถิ่น และวัสดุพื้นบ้าน เมื่อโจทย์การออกแบบมาพร้อมกับการเป็นบ้านของเจ้าของเองอย่างครั้งนี้ จึงต้องให้ความสำคัญว่า อะไรที่จะตั้งอยู่หน้าบ้าน แล้วต้องอยู่ได้นาน โดยยังคงให้ความรู้สึกว่ามีความเป็นบ้านอยู่ เป็นทั้งโฮมบริวเวอร์ และมีไมโครโรสเตอร์อยู่ในนั้น ความท้าทายของการทำงานจึงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ร้านกาแฟดูเข้ากับบ้าน ขณะเดียวกันก็ต้องมีฟังก์ชันใหม่สำหรับใช้เป็นร้านกาแฟโผล่เข้าไปในพื้นที่ด้วย

การออกแบบครั้งนี้ จึงตีความออกมาผ่านบรรยากาศที่อบอุ่นแบบโฮมคาเฟ่ ต่อเติมพื้นที่อาคารใหม่เพิ่มลงไป เป็นกล่องสี่เหลี่ยม 8 x 8 เมตร หลังคาหน้าจั่ว รูปทรงเหมือนภาพวาดศิลปะเด็ก เมื่อเรานึกถึงภาพวาดของบ้านสักหลัง เกิดโถงเพดานที่สูงชะลูดช่วยให้พื้นที่ภายในร้านดูปลอดโปร่ง มีมุมรองรับลูกค้าที่ถือเป็นไฮไลต์อย่าง พื้นที่นั่งแบบเซมิเอาต์ดอร์ ซึ่งสาขาท่าแพไม่มี เมื่อมาที่นี่แล้วทุกคนจะรู้สึกเหมือนได้นั่งตากอากาศ สามารถเปิดบานเฟี้ยมออกได้ทั้งหมดเพื่อรับลมเย็นสบายโดยเฉพาะในฤดูหนาว ฝ้าเพดานสูงโปร่งไม่อึดอัด พิเศษด้วยการออกแบบที่นั่งแบบลึกลงไปต่ำกว่าพื้นปกติ หรือหลุมที่นั่งที่เรียกว่าแบบ Sunken มีฟังก์ชันที่ให้ลูกค้าจะต้องเดินขึ้นมา แล้วลงนั่งแบบนั่งห้อยขาได้อย่างสบาย ๆ

เมื่อมองขึ้นไปด้านไปจะเจอกับช่องแสงด้านบนที่ผ่าตรงกลางจั่ว ใช้กระจกนิรภัยหนา 10 มิลลิเมตร และอีกจุดคือเหนือบาร์กาแฟที่ออกแบบกล่องช่องแสงสองชั้นที่เว้าเข้ามาช่วยนำแสงเข้ามาจากด้านข้างอาคาร เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้มองเห็นท้องฟ้าในแต่ละฤดูกาล สำหรับคอนเซ็ปต์การออกแบบช่องแสงด้านข้างอาคาร คุณจุลเล่าว่า เขานึกถึงการคว่ำลงของกระบะ หรือตะกร้าที่ใช้ใส่เมล็ดกาแฟหลังการเก็บเกี่ยว เวลาเทเมล็ดกาแฟลงมาจะเหมือนกระบะที่คว่ำและหงายที่ซ้อนกัน ก่อนแปรภาพออกมาเป็นการออกแบบช่องแสงข้างอาคารอย่างที่เห็น เป็นดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ อันเกิดจากการสังเกตของนักออกแบบ

การวางแปลนร้านที่เป็นไมโครโรสเตอร์รวมอยู่ด้วยเช่นนี้ ที่นี่จึงต้องออกแบบให้มีห้องเก็บสาร (เมล็ดกาแฟ) มีห้องคั่ว มีห้องแพ็คเกจจิ้งถุงกาแฟ ห้องครัวทำเบเกอรี่ และมีบาร์หน้าร้าน ถ้ามาสาขานี้ ลูกค้าสามารถใช้เวลาได้นานขึ้นและได้เห็นครบทุกวงจร นอกจากโซนพื้นที่ของกาแฟแล้ว ยังมีโซนขายของที่เป็นของแบรนด์ด้วยเช่นเดียวกับสาขาท่าแพ ซึ่งเป็นช็อปและตกแต่งดิสเพลย์ที่น่ารัก ดูน่าสนใจ เรียกว่าใครมีบ้านแล้วอยากทำร้านกาแฟแบบนี้ละก็ S.O.S Roastery (San Phee Suer) ถือเป็นตัวอย่างที่น่าแนะนำ

สำหรับการออกแบบที่แตกต่างกันระหว่างคาเฟ่ 2 สาขาของ Single Origin Store คุณจุล ผู้ออกแบบเล่าว่า การออกแบบร้านทั้งสองนี้ เขาไม่ต้องการให้ดูคล้าย หรือโคลนนิ่งกันจนเกินไป หากแต่ยังคงหยิบอัตลักษณ์ของแบรนด์มาใช้ให้สอดแทรกอยู่ในองค์ประกอบบางอย่าง

“ผมว่าถ้าทำให้เหมือนกันมันจะดูสำเร็จรูปจนเกินไปครับ เราอยากให้ลูกค้าพอมาถึงก็ได้รับความรู้สึกที่แตกต่างจากสาขาท่าแพ แต่ที่นี่ก็ยังได้กลิ่นอายที่เป็นอัตลักษณ์แบรนด์อยู่นะ อย่างความเรียบง่ายแบบเดียวกับท่าแพเข้ามาอยู่ เช่น การเลือกใช้กระเบื้องเราใช้กระเบื้องเซรามิกสีครีมขนาด 20 x 20 เซนติเมตร ใช้ทั้งร้านเลย และหลังคาเราใช้กระเบื้องลอนเล็กที่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเห็นแล้วมาใช้มุงหลังคา ทำให้สาขาสันผีเสื้อมีความแมทช์กับบ้านเก่า รวมถึงมีความสอดคล้องกับสภาพอากาศและบริบทที่ตั้ง”

“ถ้าหากเจ้าของอยากจะย้ายออกไปแล้วไปทำสาขาที่อื่น พื้นที่ตรงนี้ก็ยังกลับมาใช้ต่อในรูปแบบของบ้านได้ ไม่ติดขัดกับฟังก์ชันที่เป็นร้านกาแฟเก่า อันนี้คือโจทย์ในการออกแบบที่เราค่อนข้างให้ความสนใจ เพราะเวลาที่เราออกแบบสิ่งที่จะต้องอยู่หน้าบ้าน ถือเป็นสิ่งที่ค่อนข้างท้าทาย ถ้าเราทำร้านกาแฟไปในแนวทางที่หวือหวา วันหนึ่งถ้าเจ้าของร้านไม่ทำแล้ว หรือต้องการขยายออกไป พื้นที่เดิมจะทำอะไรใหม่ต่อยากมาก ดังนั้น เราต้องเผื่อเรื่องพวกนี้ไว้ด้วย อย่างน้อยหากพื้นที่ตรงนี้จะกลับไปเป็นบ้าน บรรยากาศภายในก็ยังให้ความรู้สึกว่าเป็น Coffee Living Space ในบ้านได้อยู่ครับ”

ที่ตั้ง
423 หมู่ที่ 6 ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองฯ จังหวัดเชียงใหม่
พิกัด https://maps.app.goo.gl/tKorp5MmCGsYTQhCA
เปิดทุกวัน 8.00-16.00 น.
โทร. 09-6212-4156

ออกแบบ: FLAT12x
ภาพ: Bkkgrapher
เรื่อง: Phattaraphon


HQ/R เปลี่ยนเพิงที่จอดรถเก่าเป็นคาเฟ่+โรงคั่วของ HEY! COFFEE