คาเฟ่ที่เราเคยคุ้นชิน ร้านกาแฟปากซอยที่ไปนั่งเล่นกับกลุ่มเพื่อน พูดคุย พบเจอคนแปลกหน้าเป็นบางคราว หอบงานไปทำได้อย่างสบายใจ ด้วยความเชื่อเช่นนั้นของสองพาร์ทเนอร์ จึงเกิดเป็น Flying Fish Coffee Company พื้นที่ที่พวกเขาเรียกว่าเป็น “คาเฟ่เพื่อนบ้านของชาวเอกมัย” ที่ผสานความสนใจที่หลากหลายไว้อย่างลงตัว
“อยากมีคาเฟ่แบบสมัยก่อนที่เราเคยชอบหอบงานไปนั่งทำ และได้เจอเพื่อนใหม่ ๆ และบ่อยครั้งที่นั่งเล่นยืดยาวจากเช้าไปจนบ่าย จริง ๆ คือเราอยากทำคาเฟ่ของเราเอาไว้เป็นเหมือนออฟฟิศของเราเองด้วย” วุฒิกร สุทธิอาภา บรรณาธิการ/นักเขียน หนึ่งในผู้ก่อตั้งร่วมกับนิรดา วิทยาเวช ศิลปินเซรามิกที่ผันตัวมาทำอาชีพบาริสต้าด้วยความสนใจในศาสตร์ของกาแฟเล่าว่า กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านเวลามากว่า 7 ปีแล้วที่ทั้งคู่เคยทำงานในคาเฟ่ชั้นนำ และออกร้านในนามของ Flying Fish Coffee Company “ที่เราตั้งชื่อว่าปลาบิน เพราะปลามันต้องว่ายน้ำ แล้วเราสองคนเป็นพวกชอบทำอะไรเกินตัว เป็นปลา แต่อยากจะบิน อยากทำหลายอย่าง ก็เลยคิดว่าเราทำสถานที่ที่รวมความชอบของคนหลาย ๆ คนเอาไว้ด้วยกัน มาเล่าสู่กันฟัง ไว้แชร์ความชอบให้คนอื่นๆ ด้วย ก็คงจะเป็นเรื่องที่ดี” วุฒิกรกล่าว
#คาเฟ่ที่รวมสารพัดPassionเอาไว้ในที่เดียว
ลำโพงขนาดยักษ์(ที่ใช้ได้จริง) กล้องวินเทจ หนังสือดีไซน์ เกมกระดาน เครื่องปั้นดินเผา อุปกรณ์กาแฟ งานออกแบบรักษ์โลก เครื่องเขียนสะสม และอีกมากมายที่วนเวียนเข้ามาถูกจัดวางอยู่ในชั้นวางขนาดใหญ่อันโดดเด่นที่เห็นตั้งแต่ยังไม่เปิดประตูเข้าร้าน คือสารพัดความชอบทั้งจากสองผู้ก่อตั้ง รวมไปถึงเพื่อนฝูง ทั้งเพื่อนเก่า และเพื่อนใหม่ที่พบเจอหลังเปิดร้านแห่งนี้ โดยชั้นวางไม้นี้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบหลักของงานออกแบบ จากแนวคิดในการสร้าง Storage Showcase Display ที่จะสามารถนำเอาทุกความสนใจแสดงขึ้นไปไว้ในที่เดียวได้พร้อม ๆ กัน ในเวลาปกติชั้นวางนี้จะคละไปด้วยสิ่งของสะสมตามความสนใจ แต่ในช่วงอีเวนต์ชั้นวางนี้ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่แสดงผลงานได้เช่นกัน ซึ่งผลลัพธ์คือการสร้างบรรยากาศของร้าน ด้วยขนาด และนับได้ว่าชั้นวางนี้เป็นระนาบที่ใหญ่ที่สุดในร้านก็ว่าได้ วุฒิกรเล่าว่า เขาต้องการให้ที่นี่คือพื้นที่ที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมอย่างการชิมกาแฟ การแจมดนตรี หรือแม้แต่ Workshop ไพ่ยิปซี “ก็ถ้าปลามันบินได้ เราก็คิดว่ามันไม่มีอะไรที่แปลกเกินไป ความสนใจของคนเป็นอะไรที่น่าค้นหาเสมอ และเรายินดีเปิดรับทุก ๆ ความสร้างสรรค์เสมออยู่แล้ว ซึ่งนั่นน่าจะเป็นจุดเด่นของร้านเราที่คนจดจำ”
#ห้องทดลองกาแฟของพันธมิตรด้านคาเฟอีน
“พื้นที่แห่งนี้เดิมทีเป็นพื้นที่ทดลองงานออกแบบของทีมสถาปนิก Party / Space / Design เราแวะเวียนมาสัมภาษณ์พี่โต (ศุภรัตน์ ชินะถาวร นักออกแบบผู้ก่อตั้ง Party / Space / Design) บ้าง บางครั้งก็แวะมาเยี่ยม และรู้สึกถูกชะตาพื้นที่ตรงนี้ พอมีโอกาสก็เลยขอเช่าพื้นที่นี้ แต่ทุกวันนี้ก็แบ่งพื้นที่กันใช้งานทั้งคาเฟ่ และพื้นที่ทดลองงานออกแบบ” วุฒิกรเล่าต่อ
ในพื้นที่ของร้านแห่งนี้ จึงมีเครื่องกาแฟมากกว่า 3เครื่อง เครื่องบดอีกกว่า 5 เครื่อง ไม่นับอุปกรณ์ Slow Bar และของสะสมเกี่ยวกับกาแฟอีกมากมาย ทั้งหมดมีความหลากหลาย และถูกอัพเดตอยู่เรื่อยๆ โดยต่างถูกจัดวางไว้บนบาร์ยาว 8 เมตร ที่มีความลึกมากกว่าบาร์ปกติ การออกแบบส่วนนี้มีเพื่อทำให้บาร์ของร้านมีพื้นที่พอในการปรับใช้ และทดลองการทำงานเกี่ยวกับกาแฟในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งยังสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนในบาร์ และนอกบาร์ โดยมีอุปกรณ์ หรือการทดลองงานออกแบบอยู่กึ่งกลาง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็เป็นอีกหนึ่ง Serious Hobby ของเจ้าของร่วมในพื้นที่แห่งนี้ก็ว่าได้ นอกจากนั้น ลำโพงสีน้ำเงินอันโดดเด่น ออกแบบเองโดยทีม PSD ที่ทำหน้าที่พร้อมกันกับเป็นบูธดีเจก็มีดีไซน์รับไปกับเสาลำโพงสีน้ำเงินสดซึ่งเป็นสีหลักของร้าน พื้นที่เหล่านี้จะมีเพื่อนฝูงแวะมาเปิดแผ่นทุกสุดสัปดาห์ และหากมองในแง่ของการออกแบบ สีน้ำเงิน และชุดลำโพงเหล่านี้ที่โดดเด่นออกจากสเปซโดยรวม จะทำให้เกิดภาพจำที่แตกต่างจากร้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์เชิงกราฟฟิคขององค์ประกอบต่างๆ และสีน้ำเงินที่ตัดกับสีเทาน้ำตาลของสเปซโดยรอบนั่นเอง
#บาร์ยาว8เมตรและเรื่องราวที่ยาวกว่านั้น
การกลายเป็นพื้นที่พบปะที่ดีจึงเป็นอีกหัวใจของที่นี่ ดังที่พบได้จากเคาน์เตอร์บาร์ยาว 8 เมตร ที่เป็นส่วนหลักในการดำเนินการประกอบเครื่องดื่ม และเป็นพื้นที่โปรดของคนที่อยากแวะเวียนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านกาแฟกับบาริสต้าก็ตาม พื้นที่บาร์ที่ยาว และกว้างเป็นพิเศษ เปิดโอกาสให้พื้นที่นี้เกิดกิจกรรมกาแฟทั้งโดยบาริสต้าของร้าน และลูกค้าที่สนใจอยู่ตลอด
พื้นที่ส่วนอื่นของร้านได้ถูกออกแบบในแบบลอยตัว ส่วนหนึ่งเพื่อการปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้บ่อยเท่าที่ต้องการ รวมทั้งการจัดวางเพื่อให้เหมาะสมกับกิจกรรมที่หลากหลาย แต่อีกทางหนึ่งก็ยังคงเป็นเรื่องของการทดลองการจัดวางพื้นที่สำหรับธุรกิจ F&B ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเลยของร้านนี้ ที่คุณจะพบกว่าทุกครั้งที่แวะกลับมาเยี่ยมเยือน ร้านก็ได้มีการจัดวางเฟอร์นิเจอร์เปลี่ยนไปเสมอ
วุฒิกรยังเสริมว่า “สุดท้ายแล้วเราเชื่อในการเป็น ร้านกาแฟปากซอยมากนะ เราชอบที่จะมีคนพูดคุยกับเราผ่านบาร์กาแฟแห่งนี้ แลกเปลี่ยนไอเดีย พอผ่านช่วงเปิดร้านมาได้สองสามเดือน ก็เริ่มมีลูกค้าต่างชาติหอบกาแฟกลับมาให้ลองทำ หรือเพื่อนที่เพิ่งกลับจากการเดินทางมาแนะนำให้ลองทำเมนูใหม่ ๆ มันเป็นเรื่องที่สนุก และน่าสนใจเสมอ
“และเราเปิดรับทุก Passion ของคนจริง ๆ ที่นำเสนอว่าที่นี่เป็นพื้นที่ของคนอยากมาปล่อย Serious hobby คือการที่เรามีชั้นวางจำหน่ายสินค้ารักษ์โลก และยิ่งถ้าคุณเป็นแบรนด์น้องใหม่ คุณยังไม่มีกำลัง เรายินดีเปิดให้คุณวางสินค้าฟรี ๆ เลยนะ หรือถ้าอยากจัดกิจกรรม ชอบพื้นที่ของเรา ก็มาคุยกันได้เลย”
และนี่คือคาเฟ่ที่ตั้งใจสร้างบรรยากาศที่ดีของความเป็นคาเฟ่ประจำย่านเอกมัยอีกแห่งหนึ่ง ด้วยดีไซน์ที่เปิดกว้าง ผสมผสานด้วยความต่างแต่ลงตัว เสริมด้วยความชอบอันหลากหลาย และพลวัตรของสิ่งที่สนใจในแบบ Serious hobby จึงเกิดเป็นคาเฟ่ปลาบินแห่งนี้ Flying Fish Coffee Company เหมือนที่เจ้าของร้านปิดท้ายว่า “มันคือการเปิดโลกให้กับเราด้วยไปในตัว ส่วนหนึ่งเพราะอยากให้คาเฟ่นี้เป็นพื้นที่สบายใจของทุกคน นึกไม่ออกก็แวะมา เพราะอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้น ถ้าปลายังบินได้ ไม่ว่าคุณจะมีความฝันแบบไหน สนใจเรื่องอะไร เราพร้อมจะบินไปกับคุณเช่นกัน”
ที่ตั้ง
Flying Fish Coffee Company
https://linktr.ee/FlyingFishCoffeeCompany
34 ซ. เอกมัย 21 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
พิกัด: https://maps.app.goo.gl/UtGRFFEZ1K9EKdHg8
มีที่จอดรถด้านหน้าร้าน
เปิดพฤหัส-อาทิตย์ 9.00 – 17.00 น. (ปิดจันทร์-พุธ)
โทร. 0944918838, 0804848838
เจ้าของ: วุฒิกร สุทธิอาภา และนิรดา วิทยาเวช
ออกแบบ: party / space / design
เรื่อง: กองบรรณาธิการ room Books
ภาพ: Wuthikorn Sut
