Madmatter Studio ปรับลุคบ้านเก่าสู่สตูดิโอแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์

Madmatter Studio สตูดิโอแฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ ปรับลุคบ้านเก่าสู่พื้นที่สตูดิโอสุดสร้างสรรค์

แบรนด์แฟชั่นและสินค้าไลฟ์สไตล์ Madmatter ได้รับการเป็นที่รู้จักจากการใช้พื้นที่การขายในออนไลน์เป็นหลัก จนกระทั่งเมื่อแบรนด์เติบโตมากขึ้น การขยับขยาย หรือมีพื้นที่สตูดิโอที่เหมาะสมกับฟังก์ชันการทำงานจึงจำเป็นต่อการเติบโตของธุรกิจ

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: THX studio

คุณแจ๊ส-ธนิสรา โพธิ์นทีไท เจ้าของบ้านและเจ้าของแบรนด์ Madmatter จึงเลือกใช้พื้นที่บ้านเก่าหลังคาทรงปั้นหยาที่เปี่ยมด้วยความทรงจำวัยเด็กอายุเก่าแก่กว่า 20 ปี มารีโนเวตใหม่ ด้วยการเก็บรักษาโครงสร้างเดิมของบ้านสองชั้นหลังนี้ไว้ แล้วต่อเติมพื้นที่ใหม่ลงไปให้ตอบโจทย์ธุรกิจ โดยยังคงไว้ซึ่งเรื่องราวอันมีคุณค่าต่อจิตใจไปพร้อมกัน

ใช้พื้นที่บ้านเก่าหลังคาทรงปั้นหยาอายุ 20 ปี มารีโนเวตใหม่ ด้วยการเก็บรักษาโครงสร้างเดิมของบ้านสองชั้นหลังนี้ไว้ แล้วต่อเติมพื้นที่ใหม่ลงไปให้ตอบโจทย์ธุรกิจ
ห้องโชว์รูม สำหรับโชว์สินค้าและจัดงานอีเวนต์สำหรับคอลเล็กชั่นใหม่ ออกแบบโดยเปิดโชว์โครงสร้างพื้นที่แบบบีมบล็อกพื้นสำเร็จรูป ออกแบบช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้ามา พร้อมตกแต่งเฟอร์นิเจอร์สะสมของเจ้าของแบรนด์เอง

THX studio ผู้ออกแบบจึงนำคาแรกเตอร์ของเจ้าของแบรนด์และบ้านเก่าที่ยังมีกลิ่นอายความทรงจำมาเป็นคอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบ โดยตั้งใจเก็บโครงสร้างบ้านที่ยังคงสภาพแข็งแรงและมีเอกลักษณ์ของบ้านยุค 2000s เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเสา คานปูน บล็อกปูพื้นสำเร็จรูป และโครงไม้สักที่ยังมีสภาพแข็งแรง ระหว่างการรีโนเวตได้เผยให้เห็นถึงความงามของเท็กซ์เจอร์ที่โชว์สัจวัสดุ ร่วมกับการเลือกใช้วัสดุสมัยใหม่ เช่น ไม้วีเนียร์โอ๊ก หรือไม้เบิร์ช ซึ่งเป็นวัสดุราคาไม่สูงมากนัก จึงช่วยคุมเรื่องงบประมาณการก่อสร้างได้ดี นอกจากเรื่องวัสดุโครงสร้างดังกล่าวแล้ว อีกปัญหาที่ต้องเจอ คือความสูงจากพื้นที่ถึงเพดานที่มีเพียง 2 เมตร นักออกแบบจึงแก้ปัญหาด้วยการเพิ่มช่องแสง และโชว์ให้เห็นโครงสร้างคานหลังคาช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งมากขึ้น

ตั้งใจเก็บโครงสร้างบ้านที่ยังคงสภาพแข็งแรงและมีเอกลักษณ์ของบ้านยุค 2000s เอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเสา คานปูน บล็อกปูพื้นสำเร็จรูป และโครงไม้สักที่ยังมีสภาพแข็งแรง

หากพูดถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์ Madmatter จะพบว่าผู้คนรู้จักแบรนด์จากสินค้าอย่าง หมวก หรือแอ๊กเซสซอรี่ส์ที่จะเริ่มพัฒนามาเป็นเสื้อผ้า จนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เมื่อรวมกับความชื่นชอบในการสะสมเฟอร์นิเจอร์ของเจ้าของ และกลิ่นอายความคลาสสิกของสถาปัตยกรรมบ้านเดิม ซึ่งทำให้หวนนึกถึงการตกแต่งสไตล์แบบมิดเซ็นจูรี่ ผู้ออกแบบจึงสร้างสเปซและกำหนดทิศทางพื้นที่ใช้สอยต่าง ๆ ให้ยืดหยุ่น เสมือนเป็นผืนผ้าใบสีขาวที่รอให้เจ้าของีสามารถเติมแต่งลูกเล่นลงไปด้วยเหล่าของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้ตอบโจทย์ความชอบและการใช้งานพื้นที่ได้อย่างหลากหลายตามประเภทสินค้าของแบรนด์

โคมไฟแขวนสไตล์มิดเซนจูรี่ รูปทรงเรียบง่ายแต่โดดเด่น ทั้งยังช่วยนำสายตาและสร้างบรรยากาศเฉพาะตัวเข้ากับยุคของบ้าน
จัดวางเฟอร์นิเจอร์ไม้เป็นหลัก ท้งโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ มีลวดลายและผิวสัมผัสไม้ธรรมชาติที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นมิตร 

พื้นที่ชั้นแรก ได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่ใช้งานแบบกึ่งสาธารณะ มีการใช้งานบ่อย โดยสามารถรองรับแขกได้ในวาระต่าง ๆ ประกอบด้วยห้องโชว์รูมใช้เป็นพื้นที่แสดงสินค้า และจัดอีเวนต์เปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ ถัดไปคือห้องรับประทานอาหาร ออกแบบเป็นดับเบิลวอลลุ่มช่วยให้พื้นที่ดูกว้าง และสร้างบรรยากาศผ่อนคลายตอนพักในช่วงเวลาทำงาน ส่วนชั้นที่สองเป็นพื้นที่ที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นกำหนดให้เป็นส่วนห้องประชุม ห้องทำงานครีเอทีฟ จนถึงห้องทำงานส่วนตัวของเจ้าของแบรนด์นั่นเอง

ทำช่องเปิดเพื่อรับแสงและลมธรรมชาติ แสงที่เข้ายังส่งถึงห้องสตูดิโอถ่ายภาพที่ใช้แสงธรรมชาติสำหรับการทำงานในพาร์ทโปรดักชั่นของแบรนด์
บ้านหลังนี้เป็นเสมือนพื้นที่ศิลปะที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยผสานองค์ประกอบด้านศิลปะเข้ากับการใช้งานจริงได้อย่างกลมกลืน

การออกแบบยังเพิ่มบรรยากาศรอบ ๆ ด้วยการทำช่องเปิดเพื่อรับแสงและลมธรรมชาติ แสงที่เข้ายังส่งถึงห้องสตูดิโอถ่ายภาพที่ใช้แสงธรรมชาติสำหรับการทำงานในพาร์ทโปรดักชั่นของแบรนด์ได้ด้วย เน้นพื้นที่แลนด์สเคปด้วยการใช้ไม้ทรงพุ่ม เช่น หญ้าน้ำพุ และหลิวที่มีฟอร์มใบเรียวยาว ผสมผสานกับไม้ใบต่าง ๆ ที่มีกิ่งก้านพลิ้วไหวตามลม ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เพิ่มสุนทรียภาพและทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้น

ระหว่างการรีโนเวตได้เผยให้เห็นถึงความงามของเท็กซ์เจอร์ที่โชว์สัจวัสดุ ร่วมกับการเลือกใช้วัสดุสมัยใหม่
ห้องรับประทานอาหารออกแบบให้มีช่องเปิดขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติและเชื่อมต่อกับวิวภายนอก

จากจุดเด่นที่สามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างหลากหลายและสุนทรียะรอบด้าน จึงทำให้บ้านหลังนี้เป็นเสมือนพื้นที่ศิลปะที่ได้รับการออกแบบอย่างประณีต โดยผสานองค์ประกอบด้านศิลปะเข้ากับการใช้งานจริงได้อย่างกลมกลืน ทุกมุมภายในบ้านไม่เพียงแค่สวยงาม แต่ยังวางแผนอย่างชาญฉลาดให้รองรับทั้งการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและกิจกรรมต่าง ๆ ที่สอดคล้องกับความชอบส่วนตัวของเจ้าของ พื้นที่แต่ละส่วนจึงเปรียบเสมือนภาพสะท้อนตัวตน ไม่ว่าจะเป็นสีสัน วัสดุ หรือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ล้วนบ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของแบรนด์ หรือบุคลิกภาพของเจ้าของบ้านได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็นการออกแบบด้วยการรีโนเวตที่ลงตัวทั้งในเชิงฟังก์ชันและความรู้สึกได้อย่างดี

เจ้าของ: คุณแจ๊ส-ธนิสรา โพธิ์นทีไท และคุณแท็ป-ปธานิน งามกิจเจริญลาภ
ออกแบบ: THX studio
รับเหมา-ก่อสร้าง: N.A.Plus Property

เรื่อง: Lily J.
ภาพ: PanoramicStudio


รักษ์โลก ไปกับ MADMATTER STUDIO แบรนด์ธุรกิจแฟชั่นที่เติบโตไปกับความยั่งยืน