KAO.PIAK.SEN หรือ ร้านข้าวเปียก – อุดรธานี สะท้อนก้าวสำคัญโดยทายาทคนรุ่นใหม่ ช่วยเปลี่ยนร้านอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม ที่ครองใจชาวอุดรฯ มานานกว่า 40 ปี ให้มีดีไซน์ใหม่ดูร่วมสมัยถูกใจลูกค้าเก่าและใหม่ ก่อนเติบโตสู่สาขากรุงเทพฯ

BACKGROUND
จาก “ข้าวเปียกอุดร” ร้านอาหารเช้าสไตล์เวียดนามที่ขายเมนูไข่กระทะ ขนมปังเวียดนาม และเมนูเด่นอย่างข้าวเปียกเส้น ซึ่งเปิดให้บริการอยู่ในตึกแถวขนาดหนึ่งคูหาในอำเภอเมืองฯ จังหวัดอุดรธานี มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2503 หรือกว่า 45 ปี แต่เนื่องจากข้อจำกัดด้านพื้นที่แบบตึกแถว ทำให้ไม่ตอบโจทย์ทั้งให้แง่ของผู้ให้บริการและลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้น ประกอบกับทายาทรุ่นใหม่ต้องการยกระดับจากร้านอาหารเช้าท้องถิ่นสู่การเป็นร้านอาหารเวียดนามสไตล์โมเดิร์นที่ดูร่วมสมัย มีอัตลักษณ์ชัดเจน และสามารถต่อยอดแบรนด์ให้รับรู้ได้ในวงกว้าง นำมาสู่การย้ายร้านไปยังฝั่งตรงข้ามเป็นตึกแถวขนาด 3 คูหา และเปลี่ยนชื่อร้านเป็น “KAO.PIAK.SEN” หรือ “ข้าวเปียกเส้น” ตามชื่อเมนูชูโรง ภายใต้การดูแลพัฒนาโดยกลุ่มเจ้าของร้านรุ่นหลานผู้เป็นนักออกแบบในเวลาเดียวกัน






CHALLENGES
การเปลี่ยนภาพจำที่สั่งสมมานานกว่า 45 ปี ให้ยังคงความคุ้นเคยกับกลุ่มลูกค้าเก่าและสร้างความรู้จักกับกลุ่มลูกค้าใหม่ จึงเป็นความท้าทายที่เจ้าของต้องใช้เวลาปรับแบรนด์นานถึง 1 ปี ครึ่ง โดยเริ่มจากการปรับภาพลักษณ์อาหารผ่านภาพบนโปสเตอร์แล้วนำไปแปะตามผนังของร้านเก่า และการปรับแพ็คเกจจิ้งสินค้าด้วยการผสมผสานโลโก้รุ่นเก่าและรุ่นใหม่เข้ากับผลิตภัณฑ์ภายในร้าน เสริมด้วยการแทรกสี CI (Corporate Identity) ไปยังจุดเล็ก ๆ ภายในร้าน ช่วยให้เมื่อย้ายไปร้านใหม่ลูกค้าเดิมก็ยังสามารถจดจำภาพผ่านหน้าตาจานอาหารได้ แม้โลเกชั่นและหน้าตาเมนูอาหารจะปรับโฉมใหม่ รวมถึงราคาของอาหารจะปรับขึ้นเล็กน้อยก็ตาม


DESIGN
สำหรับโลเกชั่นใหม่อย่างตึกแถว 3 คูหาแบ่งเป็นหนึ่งชั้น 1 คูหาและสามชั้น 2 คูหา การออกแบบเริ่มมาจากการแก้ปัญหาพื้นที่หน้าแคบแนวลึกที่ดูอึดอัดให้โปร่งโล่งด้วยการทลายผนังเดิมออกเพื่อเชื่อมทุกคูหาเข้าหากัน ทั้งยังทุบพื้นในบางจุดเพื่อเชื่อมพื้นที่แนวตั้งเกิดเป็นพื้นที่แบบดับเบิ้ลสเปซดูน่าสนใจ ตามมาด้วยการวางงานระบบให้ทางสัญจรภายในร้านสะดวกมากยิ่งขึ้นด้วยการจัดวางส่วนครัวและเซอร์วิสทั้งหมดไว้ด้านซ้ายสุด แล้วให้อีกสองคูหาเป็นพื้นที่ให้บริการบริเวณชั้น 1 และ 2 ที่สามารถรองรับลูกค้าได้สูงสุดถึง 150 ที่นั่ง พร้อมกัน
บริเวณชั้นหนึ่งจัดวางโต๊ะแบบเส้นตรง (Linear) ขนานไปกับผนังร้านแถวหนึ่งและกลางร้านอีกแถวหนึ่ง ช่วยให้พนักงานและลูกค้าสัญจรได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ยังกั้นห้องส่วนตัวสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่ม โดยออกแบบให้อยู่ด้านในสุดของอาคารซึ่งเป็นพื้นที่ที่ต่อเติมขึ้นใหม่ด้วยการมุงหลังคาแผ่นอะคริลิกช่วยให้แสงธรรมชาติส่องลงมาอย่างทั่วถึง



ชั้นสองตกแต่งให้มีความป็อปแบบคาเฟ่ โดดเด่นด้วยฝ้าแบบวาฟเฟิลเชื่อมต่อกับพาร์ทิชั่นทรงโค้งทาสีเขียวเข้มสี CI ของร้าน ทำหน้าที่แบ่งพื้นที่และลดความแข็งกระด้างของกรอบอาคาร ตัดกับสีไม้เข้มของผนัง ชั้นวางของ และเคาน์เตอร์ ดูคอนทราสต์กับพื้นที่ชั้นล่างแต่ยังคงได้กลิ่นอายของความคลาสสิกร่วมกัน ส่วนพื้นที่ชั้นสามปรับเป็นพื้นที่เก็บของอย่างเป็นระบบ


BRANDING
เมื่อทำการรีแบรนด์ใหม่ “ข้าวเปียกเส้น” จึงตั้งใจไม่ให้ร้านเป็นเพียงร้านอาหารเช้าแต่ให้เป็นร้านที่สามารถเข้ามานั่งทานได้ทั้งวันภายใต้แนวคิด“All Day Vietnamese”ได้รับการออกแบบ-ตกแต่งด้วยคอนเซ็ปต์ Modern Vietnam โดดเด่นด้วยโทนสีเขียวแสดงอยู่บนหลายพื้นผิวหลากวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าร้าน บันไดวน ผนัง ฝ้าเพดาน และกระเบื้องเซรามิกที่กรุฟาซาดและผนังภายในบางส่วน ซึ่งเป็นกิมมิกที่เป็นเสน่ห์ของตึกแถวในเวียดนามมาใช้ แล้วเพิ่มความอบอุ่น เป็นกันเองด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้จริงผสมหวายสไตล์วินเทจ
โดยคอนเซ็ปต์ทั้งหมดยังสื่อไปถึงโลโก้การถ่ายภาพเมนูอาหาร ภาชนะ ไปจนถึงบรรรจุภัณฑ์ต่างๆ ภายใต้ธีมModern Vietnam ที่ยังคงแทรกกลิ่นอายความวินเทจ มาจากความมุ่งหวังให้แบรนด์เป็นที่จดจำและไม่เลือนหายไปตามกาลเวลาเข้ากับกลุ่มฐานลูกค้าเดิมที่ค่อนข้างมีอายุให้ยังคงเข้าถึงง่าย ไม่ฉูดฉาดจนเกินไปพร้อมทั้งยังต้องสะดุดตาคนรุ่นใหม่ ซึ่งนำมาสู่การเลือกใช้กลุ่มสีน้ำตาล ครีม และเขียวตุ่นเป็นสี CI ในทุกสาขา


TAKEAWAYS
ร้านข้าวเปียกเส้นเป็นธุรกิจครอบครัวที่ส่งต่อจากรุ่นคุณปู่คุณย่ามาจนถึงรุ่นหลานซึ่งเป็นรุ่นที่สาม ทุกเจเนอเรชั่นจึงมีความเชี่ยวชาญในด้านการทำร้านอาหารและทำธุรกิจเป็นทุนเดิม ประกอบกับหนึ่งในรุ่นหลานยังเป็นนักออกแบบจึงให้ความความสำคัญกับการสร้างอัตลักษณ์และการออกแบบร้านเพื่อตอบสนองทั้งการใช้งานและความงาม พร้อมต่อยอดและยกระดับจากร้านอาหารท้องถิ่นสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ทั้งหมดต้องอาศัยรากฐานที่สำคัญ นั่นคือการรู้ว่าเราคือใครในตลาด รู้ว่าแบรนดั้งเดิมมีคาแรกเตอร์อย่างไร และควรต่อยอดไปใหม่ในลักษณะใด
ตัวแทนจากร้านข้าวเปียกเส้นเองได้กล่าวว่า พวกเขามีจุดยืนคือความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเมนูข้าวเปียกเส้นโดยเฉพาะ ที่มีจุดเด่นของแบรนด์เป็นเมนูอาหารเวียดนามที่มีความหลากหลาย ครบเครื่อง รสชาติอร่อย ที่สำคัญตั้งใจคือตกแต่งร้านให้สวยเพื่อสร้างความแตกต่างที่ก็ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนนั่งกินข้าวที่บ้าน ส่งผลให้สามารถขยายสาขาต่อไปได้ด้วยในระยะยาว
OWNER’S INSIGHT

“ผมมองว่าความท้าทายอยู่ที่การสร้างความคุ้มค่าและความสม่ำเสมอของสูตร เพราะคนอุดรธานีนั้นจริง ๆ แล้วมีกําลังจ่ายสูง แต่เขาจะใช้จ่ายในสิ่งที่เขาพึงพอใจมากกว่า ถ้ามาทานร้านนี้แล้วประทับใจ เขาก็จะทานอีกเรื่อย ๆ ดังนั้นร้านอาหารในอุดรธานีผมมองว่าร้านที่จะอยู่ได้คือร้านที่อยู่มานาน และสองคือร้านเปิดใหม่ที่สร้างมาตรฐานของอาหารได้ดี”
คุณนันทภพ อุดมสิน หนึ่งในเจ้าของร้าน KAO.PIAK.SEN

“ความท้าทายคือการทําให้ลูกค้าเก่ายังรับรู้ได้ว่านี่คือข้าวเปียกอุดรร้านเดิมที่กล้าปรับโฉม ซึ่งเป็นความท้าทายที่เราสู้กันมาตลอด เราใช้การแทรกซึมคาแรกเตอร์ใหม่เข้าไปให้ลูกค้าเก่าเริ่มชินทําให้วันที่เราพร้อมเปิดให้บริการแล้วลูกค้ายังเข้ามาหาเราด้วยความที่ร้านมีความสะดวกสบายมากขึ้น”
คุณอรธิรา ฤกษ์รุ่งเรือง
หนึ่งในเจ้าของร้าน และผู้ออกแบบจาก Please Feel Invited
ที่ตั้ง
KAO.PIAK.SEN
20/20 ถนนศรีสุข ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองฯ จังหวัดอุดรธานี
เปิดทุกวัน 05.30 – 18.00 น.
โทร.08-1739-2247
เจ้าของ ข้าวเปียกอุดร
ออกแบบ: Please Feel Invited (www.pleasefeelinvited.com)
เปิดเมื่อปี พ.ศ.2565 – ปัจจุบัน
งบออกแบบและก่อสร้าง: 20,000,000 บาท
พื้นที่: 300 ตารางเมตร
เรื่อง: Foryeah!
ภาพ: กรานต์ชนก บุญบำรุง, อภินัยน์ ทรรศโนภาส
HOLMY บ้านไม้เมืองหนาวกลางแม่กำปอง เสิร์ฟประสบการณ์ที่แตกต่างแก่นักท่องเที่ยว
