โกปี๊ฮับ l KopiHub คาเฟ่ติ่มซำ-ชาชักเจ้าดังสาขาบางแสน กับการพลิกโฉมร้านเก่าในอาคารพาณิชย์อายุกว่า 40 ปี ให้กลับมาเล่าเรื่องราวผ่านงานดีไซน์ที่สื่อถึงความพิเศษของสาขาออริจินัลที่เปิดมานานกว่า 6 ปี
DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Does studio
หลังจากเปิดกิจการมานานกว่า 6 ปี สำหรับสาขาแรกที่บางแสน หรือต้นตำรับของ โกปี๊ฮับ ก็ถึงคราวต้องรีโนเวตใหม่ เปลี่ยนบรรยากาศบ้านไม้สไตล์แอนทีคผสมสภากาแฟในอาคารพาณิชย์อายุกว่า 40 ปี ให้กลายเป็นร้านใหม่ที่สะดุดตาด้วยฟาซาดอาร์กโค้ง (Arch) จัดเต็มด้วยเรื่องราวการสร้างแบรนด์ดิ้งผ่านงานดีไซน์ ที่กลายเป็น Corporate Identity หรือ Ci ของร้านอย่างชัดเจน โดยมีสถาปนิกจาก Does studio มารับหน้าที่ออกแบบ เพื่อให้ทุกสาขาของโกปี๊ฮับเป็นที่น่าจำจด ขยับลุคร้านติ่มซำให้เป็นมากกว่าแค่ร้านอาหาร
จากที่ Does studio เคยฝากผลงานไว้กับการออกแบบโกปี๊ฮับสาขา 2 พระยาสัจจา-อ่างศิลา กับอาคารรูปแบบสแตนอโลนเด่นด้วยสถาปัตยกรรมทรงโค้งที่ถอดแบบมาจากเข่งติ่มซำ มาคราวนี้พวกเขาได้รับหน้ารีโนเวตร้านสาขา 1 ซึ่งถือเป็นสาขาออริจินอล โดยเจ้าของร้านมีโจทย์ว่าอยากให้โกปี๊ฮับไม่ใช่ร้านติ่มซำทั่วไป แต่อยากเล่าเรื่องผ่านงานดีไซน์ที่สะท้อนถึงท้องถิ่นภาคใต้ ต้นตำรับติ่มซำของร้านที่มีสูตรมาจากหาดใหญ่ โดยมีความเป็นจีนเข้ามาผสมแต่ไม่ใช่สไตล์จีนแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่อยากให้เป็นร้านอาหารของครอบครัวเหมาะกับคนทุกวัย โดยมี Ci หรือเอกลักษณ์ด้านงานดีไซน์ปรากฏขึ้นในหลายจุด ทั้งนี้มีความเชื่อมโยงไปถึงสาขาที่ 2 รวมไปถึงสาขาอื่น ๆ ที่จะเปิดเพิ่มเติมในอนาคต
สร้างทราฟิกให้ร้านใหม่มีบรรยากาศคึกคัก
จากหน้าร้านแบ่งพื้นที่ใช้งานเป็น 2 ส่วน ขวามือทักทายด้วยครัวเปิดและเตาทอดปาท่องโก๋ โชว์กรรมวิธีการทอดแบบสดใหม่ อีกเทคนิคการขายเพื่อเชื้อเชิญผู้คนให้อยากเข้ามา เป็นการสร้างทราฟฟิกให้ร้านดูไม่เงียบเหงา เพราะร้านอาหารจะต้องไม่หยุดนิ่ง ต้องมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา ส่วนซ้ายมือจัดวางชุดโต๊ะที่นั่ง 3 ชุด จำลองบรรยากาศคล้ายระเบียงบ้าน ติดตั้งหน้าต่างไม้ เหล็กดัด และบล็อกช่องลมสีแดงเลือดหมู ใช้รองรับลูกค้าที่มีสัตว์เลี้ยงให้นั่งได้ที่โซนนี้ ขณะที่เคาน์เตอร์ทอดปาท่องโก๋ได้รับการดีไซน์เป็นรูปชามโค้งมนดูสมู้ธ ก่อนนำสายตาเข้าไปจนถึงตัวเคาน์เตอร์รับออร์เดอร์ด้านใน
แก้ปัญหาร้านแคบในอาคารพาณิชย์ให้กว้างไม่อึดอัด
พื้นที่ด้านในเด่นด้วยเคาน์เตอร์ขนาดใหญ่ที่ได้รับการออกแบบขึ้นมาใหม่ เปลี่ยนจากที่เคยวางตัวในแนวยาวขนานไปกับตัวอาคาร จนเกิดปัญหาขณะที่ลูกค้ากำลังใช้เวลาเลือกติ่มซำหน้าตู้กระจกทำให้คนล้นออกมา อีกทั้งสเปซระหว่างเคาน์เตอร์กับประตูเดิมค่อนข้างแคบ เมื่อรีโนเวตใหม่จึงแก้ไขด้วยการเปิดสเปซหน้าเคาน์เตอร์ให้มากที่สุด ใช้เส้นโค้งทำให้สเปซสำหรับรอคิวเลือกติ่มซำเยอะขึ้น แล้วจัดวางโต๊ะสำหรับรองรับลูกค้า 6-7 โต๊ะ ในวันที่ลูกค้าเข้าร้านจำนวนมาก สามารถขึ้นไปนั่งรับประทานอาหารที่ชั้น 2 ได้ ทั้งยังผลักพื้นที่ห้องน้ำให้ขึ้นไปอยู่ที่ชั้น 2 ด้วย ซึ่งเป็นกลวิธีของผู้ออกแบบที่อยากให้ลูกค้าจากชั้น 1 ได้สัมผัสกับงานออกแบบตลอดทางเพื่อไปยังห้องน้ำ
ชั้น 2 เป็นสเปซแบบดับเบิ้ลวอลลุ่ม ช่วยให้คนที่นั่งรับประทานอาหารอยู่ชั้นล่างรู้สึกไม่อึดอัดเกินไป เจาะซุ้มโค้ง 3 ซุ้ม และซุ้มขนาดใหญ่อีก 1 ซุ้ม ติดหน้าต่างสำหรับเปิด-ปิดได้ ในวันที่ลูกค้าไม่เยอะ หน้าต่างจะถูกปิดไว้เพื่อไม่ให้แอร์ไหลเข้าไปข้างบน โดยชั้น 2 นี้จัดว่าเป็นส่วนต่อเติมใหม่ภายใต้ข้อจำกัดของอาคาร โดยแก้ปัญหาฟ้าเพดานเตี้ยด้วยการเปลือยคานออกทั้งหมด โซนที่นั่งแบบยกสเต็ปทำเพดานทรงจั่วเพื่อลดความอึดอัด ช่วยให้ฝ้าเพดานดูสูงโปร่งขึ้น จั่วด้านหนึ่งเปิดให้แสงธรรมชาติลงมาได้ผ่านช่องแสงสกายไลท์ สะดุดตากับภาพเพ้นต์รูปผู้หญิงจีนที่นำเข่งติ่มซำมาติดตกแต่ง กลายเป็นงานอินสตอลเลชั่นสวย ๆ มีความหมายว่าเป็นผู้หญิงโมเดิร์นที่ดูเก๋ขึ้น คล้ายกับเรื่องราวการรีโนเวตร้านใหม่ในครั้งนี้
อินทีเรียร์ดีไซน์ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์
งานอินทีเรียร์นอกจากใช้อาร์กโค้ง (Arch) ตามอย่างสถาปัตยกรรมทางภาคใต้ที่ได้รับอิทธิพลมาจากตะวันตก สถาปนิก ยังนำหน้าต่างไม้มาใช้ในการตกแต่ง เพื่อเชื่อมโยงภาพบรรยากาศและความรู้สึกถึงร้านเก่า เพิ่มเติมด้วยภาพเพ้นต์บนผนังให้ดูน่ารักเฟรนด์ลี่ และติดแชนเดอเลียร์ทำจากเข่งติ่มซำสื่อสารถึงอาหารของร้าน
วัสดุซึ่งถือเป็น Corporate Identity หรือ Ci ของร้าน นอกจากไม้เก่าซึ่งมีเสน่ห์ด้วยสีสันแบบแรนดอม ผู้ออกแบบยังเน้นใช้กระเบื้องซับเวย์สีแดงเลือดหมู นำมากรุปิดทับเสากลาง และตกแต่งพื้นตรงขั้นบันได รวมถึงใช้กระเบื้องรูปครึ่งวงกลมสีแดงเลือดหมู รูปทรงเหมือนกระบอกไม้ไผ่ผ่าครึ่งสั่งทำพิเศษ ซึ่งเป็นวัสดุที่ร้านอาหารจีนนิยมใช้ นำมากรุตกแต่งที่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ ร่วมด้วยกระเบื้องปูพื้นลายโบราณ กระเบื้องโมเสก และผิวคอนกรีตที่มีเท็กซ์เจอร์ขรุขระเพื่อสื่อถึงบรรยากาศงานดีไซน์ย้อนยุค โดยธีมสีเลือดหมู และกระเบื้องรูปครึ่งวงกลมดังกล่าวนั้น ทีมนักออกแบบยังมีแนวคิดว่าจะนำไปใช้กับโกปี๊ฮับสาขาอื่น ๆ ในอนาคตด้วย
ด้วยความตั้งใจที่อยากให้แบรนด์โกปี๊ฮับทุกสาขามีความพิเศษที่ต่างจากร้านติ่มซำทั่วไป เจ้าของและทีมออกแบบจึงมีความใส่ใจในทุกกระบวนการอย่างมาก เพราะอยากให้ทุกคนที่มานั่งรับประทานอาหารในร้านสาขาบางแสน ได้สัมผัสถึงงานออกแบบที่กลมกล่อมไม่แพ้ไปจากรสชาติของอาหาร แม้จะอยู่ในอาคารพาณิชย์ที่มีพื้นที่จำกัด แต่ภาพความสวยงามกลับไม่ได้น้อยไปกว่าร้านขนาดใหญ่อย่างโกปี๊ฮับสาขา 2 หรือสาขาพระยาสัจจา-อ่างศิลาเลย
ที่ตั้ง
โกปี๊ฮับ l KopiHub สาขาบางแสน
420 ถนนลงหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองฯ จังหวัดชลบุรี
พิกัด https://goo.gl/maps/NsSA5MUD1DJPZDcC7
เปิดวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 7.00 – 17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ 7.00 – 19.00 น.
โทร. 08-7893-7435
เจ้าของ : คุณณิชา จารุกิตต์ธนา
ออกแบบ : Does studio
ภาพ : Shoottive
เรื่อง : Phattaraphon