KLAI Thai Spa สปาไทย ตีความ "ฤๅษีดัดตน" ในมุมมองใหม่

KLAI Thai Spa สปาไทย ดีไซน์ร่วมสมัย ตีความ “ฤๅษีดัดตน” ในมุมมองใหม่

KLAI Thai Spa ที่นี่คือหมุดหมายแห่งการพักผ่อนเชิง Wellness ภายใต้แนวคิดที่อยากชักชวนทุกคนให้มาสัมผัสกับศาสตร์การนวดแผนไทยผ่านแง่มุมและประสบการณ์ใหม่ในสปาใจกลางเยาวราช ที่นำศาสตร์ “ฤๅษีดัดตน” มาเล่าใหม่ผ่านสเปซร่วมสมัย

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ:  SIXSEVENS

ซึ่งเกิดจากความตั้งใจของคุณโจ – สมิทธิ์ เมฆอรุณกมล ประธานบริหารบริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ที่อยากนำศาสตร์การนวดไทยมาเล่าใหม่ให้ดูทันสมัยมากขึ้นภายใต้แบรนด์ KLAI Thai Spa แบรนด์สปาน้องใหม่ของออนเซ็นฯ โดยมีสตูดิโอออกแบบ SIXSEVENS (67s) มาช่วยตีความและออกแบบสปาให้มีฟังก์ชั่นที่ช่วยส่งเสริมไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ที่ปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับเฮลท์ตี้ไลฟ์สไตล์กันมากขึ้น

เส้นสายโค้งเว้าลงไปบนฟาซาดถ่ายทอดด้วยภาษางานออกแบบที่ตีความมาจากท่วงท่าการดัดตัวของฤๅษีดัดตน ร่วมกับเส้นนอนที่ตีความมาจากฐานอาคารสถาปัตยกรรมไทย
เคาน์เตอร์ต้อนรับใช้ราวบันไดไม้กันตกสีเข้ม สะท้อนคาแร็กเตอร์ของท่านฤๅษีผู้เข้มขลัง
เปรียบที่นี่ราวกับว่าเป็น “อาศรมฤๅษี” ผู้มีองค์ความรู้พร้อมมาบำบัดรักษาผู้คน ผู้ออกแบบจึงตีความบ้านไทยมาใช้ 
(ซ้าย) คุณโจ – สมิทธิ์ เมฆอรุณกมล ประธานบริหารบริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และ(ขวา) คุณแนน – กรกนก เมฆศิลป์ นักออกแบบจาก 67s

ตีความฤๅษีดัดตนสู่สปาไทยร่วมสมัย

จากตัวอาคารเดิมซึ่งเป็นตึกแถวและเคยเป็นโรงแรม “ซินไต้ตง” ที่มีกลิ่นอายจีนผสมโคโลเนียล บนถนนพาดสาย เยาวราช ได้รับการรีโนเวตใหม่ให้กลายเป็นสปาร่วมสมัยที่ตีความเรื่องราวของ “ฤๅษีดัดตน” หรือ ‘เส้นประทานสิบ’ สู่งานออกแบบแบรนดิ้งและออกแบบพื้นที่ด้วยการดึงคาแร็กเตอร์ของฤๅษีดัดตนมาใช้ เริ่มตั้งแต่ฟาซาดอาคารที่ออกแบบให้ปิดทึบที่ชั้น 2 และชั้น 3 เพื่อความเป็นส่วนตัวของพื้นที่อาคารชั้นบนซึ่งเป็นห้องทรีตเม้นต์ โดย คุณปกรณ์ รัตนสุธีรานนท์ สถาปนิกจาก 67s ได้ใส่สัญลักษณ์ หรือเส้นสายโค้งเว้าลงไปบนฟาซาด เพื่อถ่ายทอดด้วยภาษางานออกแบบ ที่ตีความมาจากท่วงท่าการดัดตัวของฤๅษี ร่วมกับเส้นนอนที่ตีความมาจากฐานอาคารสถาปัตยกรรมไทย

และเพื่อเล่าเรื่องราวสุดเอ็กโซติก (Exotic) ของฤๅษีแบบไทย ๆ ให้เข้ากับคอนเซ็ปต์ดีไซน์ อินทีเรียร์ดีไซเนอร์ได้เปรียบที่นี่ราวกับว่าเป็น “อาศรมฤๅษี” ผู้มีองค์ความรู้ พร้อมมาบำบัดรักษาผู้คน ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ไม่ใช่สปาหรูหรา หากแต่ดูเฟรนด์ลี่ อบอุ่น โดยตีความบ้านไทยมาใช้ อาทิ บรรยากาศพื้นที่ต้อนรับที่มีระดับฝ้ากดต่ำ ดูราวกับกำลังนั่งอยู่ใต้ถุนบ้าน มีไฟแลนเทิร์นส่องผ่านฝ้าลงมา ให้อารมณ์เหมือนพื้นไม้ของบ้านสมัยก่อน สะท้อนคาแร็กเตอร์ของท่านฤๅษีผ่านโทนสีและวัสดุที่มีความคราฟต์ ผสานภาพที่ชวนให้นึกถึงอาศรมฤๅษีที่เข้มขลัง มีความแอนทีคเข้ามาผสมผสานเพื่อสร้างลูกเล่น

เปลี่ยนประสาทสัมผัสผ่านพื้นที่

จากถนน ผู้คน และการจราจรที่พลุกพล่านของเยาวราช เข้าสู่พื้นที่ของสปาที่สร้างความเปลี่ยนผ่านทางความรู้สึก หรือที่เรียกว่า Sensory Design โดยจะได้รับรู้ทั้งเรื่องของกลิ่น ซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่ต่างจากสปาทั่วไป ออกแบบกลิ่นโดยคุณศิริรัตน์ เหล่าทัพ จาก Patchouli.scent.design นักออกแบบกลิ่นผู้มาช่วยสร้างประสบการณ์กลิ่นหอมที่ทำให้เฉพาะสปาแห่งนี้ โดยให้ทั้งความผ่อนคลายและเป็นธรรมชาติ เคล้าไปกับซาวน์ธรรมชาติอย่างเสียงน้ำรินไหลและเสียงนกร้องยามเช้า ผลงานจากนักเก็บเสียงธรรมชาติ โดย มะเดี่ยว – วรพจน์ บุญความดี ที่เปิดคลอเบา ๆ ให้ใจได้ผ่อนคลายกับเสียงที่คนกรุงยากจะยลยิน

อีกสิ่งหนึ่งคือความแตกต่างของการออกแบบสเปซ จากด้านหน้าที่มีสเปซกดต่ำ แต่ทันทีที่เข้ามายังโถงดับเบิ้ลสเปซด้านในที่ทำหน้าที่แจกจ่ายแขกไปยังห้องเวิร์กชอป ห้องทรีตเม้นต์ และคาเฟ่ที่อยู่ชั้นบน เปรียบได้ดังการเปลี่ยนฉากละคร โดยโถงดับเบิ้ลสเปซนี้จะโปร่งโล่ง รับแสงธรรมชาติที่ส่องลงมาผ่านสกายไลท์ ต่างจากพื้นที่ด้านหน้า ทั้งยังตอบรับกับกิจกรรมที่อยากนำเข้ามาในพื้นที่สปา ด้วยการให้โถงภายในนี้เป็นพื้นที่จัดเวิร์กชอปเรื่องราวสมุนไพรไทย เช่น การทำลูกปะคบ และทำยาดมที่ลูกค้าปรุงกลิ่นได้เอง ทำให้สปามีฟังก์ชั่นและลูกค้าได้มีส่วนร่วมกับแบรนด์ที่เน้นส่งเสริมไลฟ์สไตล์ผู้คน ไม่ได้มาแค่นวดแล้วกลับบ้านไป

นอกจากทำทรีตเม้นต์แล้ว ลูกค้ายังสามารถทำเวิร์กชอปยาดม หรือลูกประคบ ฯลฯ จากเหล่าสมุนไพรไทรไทย ซึ่งทางแบรนด์จะมีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้ามีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคใหม่ โดยสามารถติดตามกิจกรรมเวิร์กชอปต่าง ๆ ได้จากเพจเฟซบุ๊ก KLAI Thai Spa
นำศาสตร์การนวดแผนไทยในราชสำนัก และการนวดเชลยศักดิ์ ที่ใช้กันแพร่หลายในหมู่ประชาชนทั่วไป มาแยกย่อยเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งยืดคลาย นวดคลาย เหยียบคลาย คบร้อนคลาย คลายเส้น และคลายเท้า

โปรแกรมทรีตเม้นต์รวมศาสตร์นวดไทยหลากแขนง

เรื่องของทรีตเมนต์ หรือโปรแกรมการให้บริการของที่นี่ถือว่ามีความพิเศษด้วยการนำเทคนิคการนวดไทยแขนงต่าง ๆ ทั้งการนวดไทยแบบพื้นบ้านผสมกับกระบวนท่าฤๅษีดัดตน และการนวดแผนไทยในราชสำนักมาแยกย่อยเป็นโปรแกรมต่าง ๆ ทั้งยืดคลาย นวดคลาย เหยียบคลาย คบร้อนคลาย คลายเส้น และคลายเท้า ผสานกับศาสตร์การบำบัดด้วยสมุนไพรไทย เช่น การอบสมุนไพรในสุ่ม ลูกประคบสูตรเฉพาะของคลาย ไทย สปา เกลือสปาจากน่าน และไทยบาล์มสูตรเฉพาะ โดยทั้งหมดนี้สามารถวางใจได้ในมาตรฐานการบริการ ทั้งความสะอาดของสถานที่ และพนักงานผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการอบรมและใบประกอบวิชาชีพ

พื้นที่ KLAI Café เปิดให้บริการสำหรับลูกค้าได้จิบเครื่องดื่ม ผ่อนคลายหลังจากการทำสปาจัดเสิร์ฟเครื่องดื่ม Non-Alcoholic ที่ออกแบบรสชาติจากสมุนไพรไทย โดยคุณฝาเบียร์-สุชาดา โสภาจารี
จากมุมที่นั่งของ KLAI Café ออกแบบให้คล้ายกับกำลังอยู่นอกชานระเบียง หรือนอกกะชานของอาศรมท่านฤๅษี ออกแบบด้วยองค์ประกอบที่ชวนให้นึกถึงบ้านไทย ด้วยไม้สีเข้มและลูกกรงกันตกไม้

ส่วนบรรยากาศในห้องทรีตเม้นต์ ได้รับการออกแบบให้มีฟังก์ชั่นที่เฟรนด์ลี่กับพนักงานและลูกค้า มีความสะอาดปลอดเชื้อโรค แทรกกลิ่นอายไทย ๆ อาทิ ช่องนิช ( Niche ) ซ่อนไฟ มีแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของใบเสมาที่เป็นภาพจารึกท่วงท่าฤๅษีดัดตนที่้อยู่บนฝาผนังของวัดโพธิ์เพื่อสร้างภาพจำให้กับแบรนด์ ภายในห้องเน้นความเรียบง่ายเพื่อให้ทุกคนได้ใช้เวลากับตัวเอง คลายจากความตึงเครียด เพื่อมาดูแลและใส่ใจกับร่างกายตนเอง

แขวนผ้าสำหรับให้พนักงานจับทรงตัวขณะนวด ชวนให้นึกถึงภาพสมัยยังเด็กที่คุณย่าคุณยายเวลาปวดเมื่อยแล้วมักเรียกใช้หลานตัวน้อยช่วยเหยียบหลังคลายเมื่อยให้

ตอบโจทย์การดูแลสุขภาพ อายุยืนยาวแบบยั่งยืน โดยไม่ต้องอาศัยยา หรือสารเคมี ซึ่งทำให้บริการของสปายุคใหม่เปลี่ยนแปลงไป จากที่เคยมาเพื่อผ่อนคลาย แต่ปัจจุบันสปาได้กลายเป็น Human Clinic ไม่ต่างจากการไปฟิตเนสเพื่อให้สุขภาพแข็งแรง ทั้งหมดสื่อสารผ่านงานดีไซน์ร่วมสมัยที่นำเอาศาสตร์ดั้งเดิมมาตีความใหม่ให้ตรงกับความต้องการของคนปัจจุบันที่หันมาดูแลร่างกายอย่างลึกซึ้งและจริงจัง

ที่ตั้ง
101, 103-105 ถนนพาดสาย แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ
พิกัด https://maps.app.goo.gl/xhTGNZ8Hchu33QwL9
โทร. 0-2161-3226
เปิดทุกวัน 10.00 – 23.00 น.

Owner: สมิทธิ์ เมฆอรุณกมล (บริษัท ออนเซ็น รีทรีต แอนด์ สปา กรุ๊ป จำกัด)
Interior Designer: กรกนก เมฆศิลป์
Architect / Facade Design: ปกรณ์ รัตนสุธีรานนท์

เรื่อง: Phattaraphon
ภาพ: ณัฐวุฒิ เพ็งคำภู, ภูวรินทร์ ธีระวาส


ถอดรหัสศิลปะสุโขทัย ใน “The Sukhothai Spa”