Hallelujah Plants หรือสวนลอยฟ้าทรงกลมหลากขนาด ที่ คุณคามินท์ เลิศขจรสุข เจ้าของแบรนด์ KAMIN ผู้มากไอเดียและประสบการณ์ จากความสนใจเรื่องต้นไม้เป็นทุนเดิม ทำให้ไม่ว่าจะเดินทางไปประเทศไหนก็มักอดไม่ได้ที่จะไปแสวงหาความรู้ เทคนิคใหม่ ๆ จากนักจัดสวนที่นั่นเสมอ ล่าสุดเขานำองค์ความรู้ที่ได้จากประเทศอังกฤษและญี่ปุ่น มารังสรรค์เป็นผลงาน “Hallelujah Plants” ที่ไม่เหมือนใคร
เพียงฟังแค่ชื่อก็รู้สึกสนุกและอยากทำความรู้จักกับ “Hallelujah Plants” แล้ว คุณคามินท์เล่าว่า สวนชนิดนี้มีความน่าสนใจตรงที่สามารถเลือกและจับคู่พรรณไม้ได้ตามจินตนาการ มีองค์ประกอบหลัก ๆ คือ ต้นไม้ตามชนิดที่ชื่นชอบและฐานทรงกลมสำหรับใส่อาหารพืชซึ่งปกคลุมไปด้วยมอสส์ ให้ความรู้สึกเขียวชอุ่ม แปลกตาต่างจากไม้กระถางทั่วไป เมื่อทำเสร็จแล้วจะนำไปตกแต่งแบบแขวน ตั้งโต๊ะ หรือประยุกต์ตามพื้นที่ที่ต้องการก็ทำได้ง่ายดาย
วิธีการดูแลรักษา
หลายคนอาจกลัวและกังวลว่าเจ้าHallelujah Plants จะเลี้ยงยาก หรือต้องหมั่นคอยดูแลสม่ำเสมอ แต่แท้จริงแล้วสวนชนิดนี้สามารถอยู่ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ไม่ว่าจะกลางแจ้งหรือในร่ม โดยมีตัวแปรหลัก ๆ คือ
- ความชื้นและน้ำ แนะนำให้รดน้ำปกติ 2 ครั้ง เช้า – เย็นแต่ถ้าหากเป็นสวนที่มีขนาดใหญ่ ควรติดตั้งระบบน้ำหยดเพราะช่วยประหยัดทั้งค่าน้ำและเวลาในการดูแล
- แสงแดด รับแดดได้เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ สามารถนำไปปลูกได้ทั้งนอกอาคาร ในสวน หรือโรงรถ สำหรับผู้อยู่อาศัยในคอนโดมิเนียมนอกจากประดับไว้ที่ระเบียงห้องแล้ว ใครอยากนำมาประดับไว้ในห้องก็ทำได้ เพียงแต่ต้องใช้หลอดไฟแอลอีดีควบคุมปริมาณแสงให้เหมาะกับการเจริญเติบโต
did you know?
แสงจากหลอดไฟแอลอีดีที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของพืชมีเพียง 2 สี คือ สีน้ำเงินและสีแดง โดยใช้แสงสีน้ำเงิน (ความยาวคลื่นแสงประมาณ 400 – 500 nm) ประมาณ 20เปอร์เซ็นต์ และแสงสีแดง (ความยาวคลื่นแสงประมาณ 600 – 800 nm) ประมาณ 80เปอร์เซ็นต์
แนะนำพรรณไม้
เราสามารถเลือกใช้ต้นไม้ได้หลากหลายชนิด แต่ต้องพิจารณาพรรณไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศไม่เป็นไม้ล้มลุก และมีขนาดไม่ใหญ่เกินไป สำหรับคุณคามินท์เขาเริ่มจากเลือกพรรณไม้ที่ใช้จัดสวนในระบบปิด(Terrarium) ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่คุ้นเคย เช่น บอนไซ พืชตระกูลไม้รากอากาศ จากนั้นจึงเริ่มทดลองใช้พรรณไม้อื่น ๆตามที่สนใจมาต่อยอดให้สวนมีรูปแบบที่หลากหลายขึ้นแต่สำหรับมือใหม่ที่สนใจอยากลองทำสวนแนวนี้ เขาแนะนำว่า ควรเริ่มจากพรรณไม้ที่เลี้ยงง่าย เช่น พืชตระกูลเฟิน หรือลิ้นมังกร ส่วนขนาดของ Hallelujah Plants จะเล็กหรือใหญ่ก็ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปทรงของต้นไม้ที่เลือกนั่นเอง
เผยเคล็ด(ไม่)ลับ
ส่วนผสมที่เรามองไม่เห็นใน Hallelujah Plants คือดิน กาบมะพร้าว ปุ๋ย และส่วนผสมพิเศษ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้สวนอยู่รอดและสวยงามตลอดเวลานอกจากนี้สิ่งจำเป็นของการดูแลต้นไม้คือต้องศึกษาว่าต้นไม้นั้นชอบอะไรและมีลักษณะวิสัยอย่างไร เพื่อช่วยกำหนดส่วนผสมของวัสดุปลูกใน Hallelujah Plants แต่ละลูกได้อย่างเหมาะสม เรามีตัวอย่างพรรณไม้ 3 ชนิดและอัตราส่วนของวัสดุปลูกมาฝาก ดังนี้
tip
การจัดสวนถือเป็นการทำงานศิลปะอย่างหนึ่ง ไม่เพียงแค่ใส่ใจดูแลรักษา แต่ยังต้องคำนึงถึงความสวยงามและการจัดองค์ประกอบศิลป์ เพื่อให้รูปลักษณ์ของสวนออกมาสวยงามน่าสนใจ จึงควรเลือกชนิดพรรณไม้ที่มีรูปทรงแตกต่างกัน 4 แบบ ดังนี้
- Line พรรณไม้ที่มีลักษณะเป็นช่อหรือมีกิ่งก้านและใบเป็นเส้นแนวชัดเจน เช่น ไผ่ เฟิน หน้าวัว
- Mass พรรณไม้ที่มีลักษณะใบซ้อน เพื่อช่วยให้สวนดูมีน้ำหนักมากขึ้น และเป็นตัวกำหนดความสมดุลทางสายตา เช่น พืชสกุลทิลแอนด์เซีย แก้วแคระส้มแคระ
- Form พรรณไม้ที่มีรูปทรงเด่นชัดมีลักษณะฟอร์มต้นและใบที่เป็นเอกลักษณ์สะดุดตา เหมาะใช้เป็นจุดเด่นของสวน เช่น บอนไซสับปะรดสี บัวแก้ว
- Filler พรรณไม้ที่ใช้ในการแต่งเติมเน้นต้นไม้ที่มีใบละเอียด เป็นช่อเพื่อช่วยเติมเต็มสวนให้ดูสมบูรณ์เช่น กนกนารี พรมออสเตรเลียปีกแมลงสาบ
หากชาวรูมสนใจก็ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ร้าน KAMIN โทร. 08-1634-2245
IG : kalapela www.kalapela.com
เรื่อง ปลากริมไข่เต่า
ภาพ นันทิยา บุษบงค์
สไตล์ สมบุญ กริ่งไกร
ภาพประกอบ PT
เรียบเรียง Parichat K.