Bonsai House Ratchaburi คาเฟ่และคอมมูนิตี้ของคนรักบอนไซ - room

Bonsai House Ratchaburi คาเฟ่และคอมมูนิตี้ของคนรักบอนไซ

Bonsai House Ratchaburi สร้างสรรค์พื้นที่ให้อยู่ในอาคารทรงปั้นหยาโปร่งสบายปกคลุมด้วยธรรมชาติ อันมีจุดกำเนิดมาจากความหลงใหลในบอนไซของคุณพ่อเจ้าของสถานที่ ก่อนจะได้รับการบ่มเพาะและทำนุบำรุงให้เติบโตโดยผู้เป็นลูก สื่อสารและส่งต่อให้นักออกแบบผู้เคารพในบริบทธรรมชาติอย่าง Studio Miti

DESIGNER DIRECTORY
ออกแบบ: Studio Miti

Bonsai House Ratchaburi ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพักใจของคนที่รักในการปลูกบอนไซ รวมถึงผู้คนทั่วไปที่สามารถแวะเวียนมาพักผ่อนดื่มด่ำกับชาและกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น นับเป็นจุดเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่มีโอกาสได้แวะเวียนมาทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความหลงใหลที่มีต่อธรรมชาติร่วมกันอย่างเป็นกันเอง

โดดเด่นด้วยอาคารโปร่งสบายปกคลุมด้วยพืชไม้เลื้อยอย่างต้นเหลืองชัชวาลย์แห่งนี้ เดิมทีเป็นพื้นที่พักบอนไซอยู่ด้านหน้าที่อยู่อาศัยของพ่อผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ทว่าเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณพื้นที่นี้ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ธุรกิจเล็ก ๆ โดย ทัศพงศ์ บัวผัน ลูกชาย พร้อมด้วยภรรยา ผู้ปรารถนาอยากละทิ้งชีวิตการทำงานแสนเหนื่อยล้า แล้วมาประกอบธุรกิจที่บาลานซ์ชีวิตด้วยความสุขในการดูแลพ่อ และการทำคอมมูนิตี้แก่คนรักบอนไซและคนชื่นชอบกาแฟ

อาคารทรงปั้นหยาที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติแห่งนี้ออกแบบโดยอ้างอิงจากคาแรกเตอร์ของพ่อผู้มีความใจเย็น สังเกตได้จากต้นไม้แต่ละต้นที่แวดล้อมตัวบ้านนั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและใช้เวลาจนแตกใบเขียวชอุ่ม ตัวอาคารนี้จึงได้พยายามสื่อสารถึงตัวตนของคุณพ่อด้วยตัวของมันเอง

สภาพแวดล้อมของที่ดินแห่งนี้มีฝั่งหนึ่งติดกับทุ่งนา ส่วนด้านหลังมีต้นไม้ล้อมรอบ ฉะนั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากบริบทที่ตั้งได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารจึงถูกออกแบบให้แบ่งเป็น 2 ส่วน เชื่อมต่อกันเป็นรูปตัวแอล (L) และตั้งอยู่สูงกว่าถนนทางเข้าเล็กน้อยเพื่อรับลม โดยอาคารส่วนแรกเป็นทางเข้าที่ติดกับถนนด้านหน้านั้นเป็นอาคารชั้นเดียว รองรับส่วนคาเฟ่สำหรับผู้ที่ตั้งใจมาดื่มกาแฟ มีเคาน์เตอร์บาร์ขนาดพอดีทำจากไม้ที่ลูกชายเป็นผู้ออกแบบช่วยเสริมบรรยากาศให้มีความเป็นกันเองร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยรอบ

นอกจากนี้ ยังออกแบบให้อาบพื้นที่ภายในด้วยแสงธรรมชาติซึ่งลอดผ่านหลังคาลอนใส ปกคลุมและกรองแสงด้วยต้นเหลืองชัชวาลย์ อันมีโครงเหล็กใต้หลังคาช่วยในการรับน้ำหนัก รับกับองศาความเอียงของจั่วที่เอียงองศาด้านหน้าให้ลาดลงมามากกว่าอีกฝั่ง เพื่อเปิดพื้นที่ให้แสงได้หล่อเลี้ยงต้นเหลืองชัชวาลย์ที่แผ่ปกคลุม ประกอบกับการออกแบบหลังคายืดสูงยังช่วยระบายความร้อนก่อนเข้ามาภายในอาคารได้ด้วย

ถัดมาจากส่วนคาเฟ่นั้นเป็นอาคารส่วนที่ 2 ที่หักสู่ด้านที่เป็นทุ่งนาทำให้เชื่อมกันเป็นรูปตัวแอล (L) อาคารส่วนนี้ คือพื้นที่ที่ตั้งใจออกแบบให้คนรักธรรมชาติและบอนไซ โดยมีพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 2 ชั้น ประกอบด้วยสเปซที่กว้างขวางบนชั้น 1 ที่สามารถจัดให้เป็นทั้งพื้นที่เวิร์กชอปและพูดคุยกัน อีกทั้งยังสามารถเดินทะลุไปด้านหลังร้านสู่พื้นที่พักบอนไซและสวนเล็ก ๆ ของเจ้าของได้

ถัดขึ้นไปที่ชั้น 2 คือ ห้องพักสำหรับแขกและญาติ ซึ่งเกิดจากการใช้ประโยชน์จากหลังคาที่ยืดสูงนี้ทำเป็นห้องพักใต้หลังคาขึ้น โดยภายในผู้ออกแบบได้ตั้งใจหันทิศทางของช่องเปิดด้านหนึ่ง อันเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งให้รับวิวภูเขาด้านนอก แล้วใช้ประโยชน์จากสเปซที่ค่อนข้างแคบนี้จำกัดทิวทัศน์เพื่อให้คนที่พักได้โฟกัสและใช้เวลากับธรรมชาติที่มองเห็นผ่านช่องเปิด เพื่อหลงลืมความเร่งรีบของเมืองใหญ่ไปเพียงชั่วครู่ โดยห้องนี้ได้ใช้แผ่นฉนวนในการทำหลังคา และทำฝ้าให้มีระยะของช่องว่างห่างจากหลังคา เพื่อให้เกิดการระบายความร้อนแม้จะมีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดพื้นที่

Bonsai House จึงนับว่าเป็นอาคารที่สะท้อนจากความรักในบอนไซของคุณพ่อ และความปรารถนาของลูกที่อยากให้ความสุขใหลเวียนในพื้นที่ธุรกิจเล็ก ๆ โดยทั้งหมดทั้งมวลได้รับเชื่อมโยงให้เป็นหนึ่งเดียวโดยนักออกแบบ ผู้สื่อสารและสร้างสรรค์ให้กลายเป็นอาคารโปร่งสบาย กลมกลืนกับธรรมชาติด้วยเถาวัลย์สีเขียวที่ปกคลุมโดยรอบ แสดงถึงความรักและความใส่ใจของคุณพ่อที่มีต่อต้นไม้ และผู้เป็นลูกที่ช่วยดูแลให้เติบโตแผ่กิ่งก้านปกคลุมคอมมูนิตี้แสนอบอุ่นของเมืองราชบุรีแห่งนี้

ที่ตั้ง
139/1 หมู่ที่ 8 ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองฯ จังหวัดราชบุรี
พิกัด https://maps.app.goo.gl/JGsAU6RwbLdtsirh6
เปิดทุกวัน 9.00 – 15.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์ – วันพุธ)
โทร. 08-2212-9200

เจ้าของ: คุณทัศพงศ์ และคุณกมลชนก บัวผัน
ออกแบบ: Studio Miti

เรื่อง: Kangsadan K.
ภาพ: ธนายุท วิลาทัน


SOP CAFÉ อุโมงค์สนิมที่จะพาข้ามมิติแห่งแสงและกาลเวลา