7 ปีก่อนหลังจากที่คุณแม็กซ์ หรือ Mr. Maxime Gheysen โปรแกรมเมอร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์เจ้าของบ้านเดินทางมาเยือนเมืองไทย แล้วได้พบกับ คุณนิว – รัตติกาล คงใหญ่ มาวันนี้เขาเลือกลงหลักปักฐานใช้ชีวิตคู่ภายใน บ้านโมเดิร์นชั้นเดียว หลังแรกกับคนรัก บนที่ดินผืนงามท่ามกลางบรรยากาศโปร่งสบายของชนบทในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
บ้าน MAXIME RESIDENCE หรือบ้านโมเดิร์นชั้นเดียวหลังนี้ ตั้งชื่อตามเจ้าของ อยู่ท่ามกลางที่ดินที่โล่งกว้าง ห่างไกลจากความพลุกพล่านทั้งหลาย ใช้เวลาเดินทางขับรถไปยังอำเภอแม่ริมราว 20 นาที และตัวเมืองเชียงใหม่อีกราว 30 นาที ละแวกรอบ ๆ บ้านดูเงียบสงบ รายล้อมไปด้วยสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติที่สดชื่น ไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ พื้นที่เกษตรกรรม และลำคลองสาธารณะที่ไหลไปลงยังเขื่อนแม่งัด
“เราเลือกเอง หาโอกาสเอง ผมมาเมืองไทยครั้งแรกก็เพื่อมาเที่ยวใช้เวลาอยู่ที่เชียงใหม่ราวหนึ่งเดือน ผมชอบอะไรหลาย ๆ อย่าง จึงทำให้อยากกลับมาอีก อยากมาอยู่นานกว่านี้”
จุดประสงค์ของเขาชัดเจนพอ ๆ กับสำเนียงภาษาไทยที่พูดได้คล่อง เจ้าของบ้านชาวต่างชาติผู้นี้ยังเล่าความเป็นมาของการสร้างบ้านหลังนี้ให้ฟังว่า
“ตอนเด็ก ๆ ผมมีบ้านอยู่นอกเมืองเหมือนกัน (บ้านที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ระยะทางอยู่ไกลจากตัวเมืองใกล้เคียงกับบ้านหลังนี้ ซึ่งผมชอบมาก หลังจากได้เข้ามาทำงานในเมือง ผมไม่ชอบบรรยากาศที่แออัดไปด้วยตึกสูง ผู้คน และอากาศที่ร้อน ผมชอบออกไปข้างนอกมากกว่า”
“แม็กซ์หนีจากสวิตเซอร์แลนด์มาอยู่เชียงใหม่ ก็เหมือนเราหนีจากในตัวเมืองมาอยู่แม่ริม ทีแรกเราได้ไปดูบ้านจัดสรร แต่บ้านเหล่านั้นมีหน้าตาซ้ำ ๆ เหมือนกันไปหมด ชายหลังคาก็ติด ๆ กัน เราจึงคิดว่าราคาประมาณนี้ น่าจะสร้างบ้านเองดีกว่า” คุณนิวกล่าวเสริม
เจ้าของบ้านผู้ชื่นชอบในความสงบ โปร่งโล่ง และเรียบง่าย จึงได้ว่าจ้างกลุ่มสถาปนิกรุ่นใหม่มากฝีมือ จาก “Blank Studio” ให้มาช่วยออกแบบที่พำนักถาวรหลังใหม่ของครอบครัวเล็ก ๆ ให้ค่อย ๆ ก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างขึ้นตามความต้องการ
“สภาพแวดล้อมที่นี่สวย เราจึงไม่อยากไปปิดกั้น ด้วยการเปิดมุมมองให้สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้รอบ ๆ” คุณตั้ม – อุกฤษฏ์ บวรสิน สถาปนิกหนึ่งในทีมออกแบบกล่าว
“เขาแค่อยากได้หนึ่งห้องนอนกับหนึ่งห้องน้ำ หลังจากมาดูไซต์ด้วยศักยภาพของพื้นที่ที่ดีขนาดนี้ จึงตั้งใจออกแบบส่วนพับลิก หรือห้องรับแขกให้โปร่งโล่งรับวิวได้เต็มที่ ในขณะที่ส่วนไพรเวตอย่างห้องนอน เราเลือกปิดและเปิดเฉพาะส่วนที่จำเป็นเท่านั้นเพื่อความเป็นส่วนตัว”
บนที่ดินว่างเปล่าซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้าน สถาปนิกยังคงสนามหญ้าเดิมที่เติบโตตามธรรมชาติไว้ และออกแบบตัวบ้านให้ตั้งอยู่ตรงกึ่งกลางพอดี เพื่อใช้ประโยชน์จากที่ว่างรอบ ๆ ช่วยมอบความโปร่งสบายให้ผู้อยู่อาศัย และใช้การกั้นกำแพงกรุหินกาบสีดำ เป็นเครื่องมือหลักในการกั้นและปิดล้อมพื้นที่ใช้สอยบางส่วนให้เกิดความเป็นส่วนตัว
ในขณะที่ส่วนใช้สอยในบ้านหลัก ๆ มีเพียงห้องนั่งเล่น ขนาดราว 5×10 เมตร ห้องนอนหลัก 1 ห้อง และห้องนอนสำรองอีก 1 ห้อง ส่วนห้องนั่งเล่นออกแบบให้คล้ายถูกแยกออกมาเป็นห้องกรุผนังกระจก 4 ด้าน เพื่อให้สัมผัสทัศนียภาพ หรือเปิดประตูรับลมเย็น ๆ และแสงแดดได้โดยรอบ
ในขณะที่ห้องนอนถูกเรียงให้อยู่ในส่วนที่ค่อนข้างปิดทึบ เลือกกรุผนังบางส่วนด้วยกระจกเพื่อรับแสงและมอบวิวสวย ๆ ได้อย่างเต็มตา โดยมีผนังกรุหินกาบสีดำทึบตันลากผ่านเชื่อมต่อสเปซให้เกิดความต่อเนื่อง และยังทำหน้าที่เป็นผนังสร้างการเข้าถึงจากภายนอกสู่ภายในบ้าน ดังที่สถาปนิกกล่าวว่า
“ผนังนี้ถือเป็นไฮไลท์และคอนเซ็ปต์ของบ้านก็ว่าได้ ผมมองว่าส่วนที่เป็นไพรเวตน่าจะได้รับการห่อหุ้มด้วยวัสดุอะไรสักอย่างที่สื่อถึงบรรยากาศธรรมชาติรอบ ๆ ซึ่งผนังหินก็ดูน่าสนใจและกลมกลืนดี
“ผนังส่วนนี้ยังทำหน้าที่เป็นผนังต้อนรับนำพาทุกคนเข้าไปยังพื้นที่ภายในบ้าน ยาวต่อเนื่องไปถึงห้องนอน ทำหน้าที่สองอย่างคือเป็นทั้งผนังช่วยสร้างจุดดึงดูดสายตา และปกปิดเพื่อสร้างความเป็นส่วนตัวไปพร้อมกัน”
ในแผนการก่อสร้างยังมีสระว่ายน้ำที่เจ้าของบ้านตั้งใจให้อยู่ที่มุมใดมุมหนึ่งของพื้นที่ว่างหลังบ้านซึ่งติดกับลำคลองสาธารณะ และยังต้องการปลูกต้นไม้ใหญ่ช่วยเพิ่มความร่มรื่น ไม่ว่าจะเป็นมะพร้าว แคนา หูกระจง จามจุรี รวมถึงไม้พุ่มริมรั้วให้กลายเป็นกำแพงต้นไม้ใช้บังสายตาจากภายนอก
ต่อจากนี้คงเหลือเพียงแต่การรอคอยให้บ้านในฝันเสร็จสมบูรณ์ ใช้หลีกหนีออกจากความวุ่นวายทั้งหลาย เพื่อมาอาศัยและพักผ่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยและเงียบสงบ
เจ้าของ : Mr. Maxime Gheysen และคุณรัตติกาล คงใหญ่
ออกแบบ : b l a n k studio
เรื่อง : กรกฎา
ภาพ : ศุภกร