MISC. Archives - room

SUNNE VOYAGE และเรือลำใหม่ ในทะเลที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในระยอง

การเดินทางยังดำเนินต่อ เพราะนี่คือเรือลำใหม่ จาก Sunne Voyage ที่ตั้งใจสร้างบรรยากาศแบบเรือประมงดั้งเดิมของทะเลระยอง จากเรือลำแรก Sunne Voyager สู่เรือลำที่สอง Sunne Explorer ที่ยังคงวิ่งไปกลับท่าเรือแหลมตาล สู่เกาะมันนอก แต่สิ่งที่แตกต่างไปคือครั้งนี้ทาง Sunne Voyage ตั้งใจออกแบบลำเรือให้มีความดั้งเดิมมากที่สุด ด้วยความตั้งใจนำเสนอประสบการณ์ใหม่ ผ่านบรรยากาศของเรือท่องเที่ยวที่แตกต่าง ด้วยลำเรือขนาดกะทัดรัดเรียบง่าย แต่กลับโดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้เนื้อแข็งสีธรรมชาติ พร้อมนำเสนอคุณค่าของฝีมือช่างต่อเรือประมงไทย ที่ส่งต่อประสบการณ์รุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน เรือ Sunne Explorer เกิดจากการต่อยอดประสบการณ์การทำเรือลำแรกของ Sunne Voyage ซึ่งได้เพิ่มความท้าทายในการออกแบบ โดยคงรูปแบบแปลนเรือประมงดั้งเดิมไว้ให้มากที่สุด เช่นการที่ห้องคนขับอยู่ด้านท้ายเรือ ปรับทรงเรือให้ออกมาสวยงาม สมดุล และแตกต่างจากเรือนำเที่ยวอื่น ๆ ที่สำคัญต้องเหมาะสมกับการล่องเรือ ทั้งการสู้คลื่นและแล่นได้อย่างราบรื่น เพื่อให้แขกที่มาใช้บริการได้ใกล้ชิด และได้รับความสุขจากธรรมชาติเต็มที่ ส่วนความแตกต่างจากเรือลำแรก เห็นได้ชัดที่สุดคือการนำที่นั่งมาไว้ด้านหน้าเรือ และห้องคนขับในเรือแบบเดิมถูกเปลี่ยนไปไว้ด้านหลัง ทรงเรือแบบนี้ หัวเรือจำเป็นจะต้องชันกว่าด้านหลังเพื่อสู้คลื่น แต่มีการปรับทรงเรือจนได้ที่นั่งที่มีองศาเหมาะสม มีความสบายขณะล่องเรือ สามารถชมวิวได้รอบทิศทาง แถมยังรับลมทะเลได้มากกว่าที่เคย บาร์หลังเรือ และห้องคนขับ ออกแบบให้อยู่ในตำแหน่งที่สามารถดูแลผู้โดยสารได้ทั่วถึง เพื่อความปลอดภัยของทุกคนขณะอยู่ในน้ำตลอดเวลา ใต้ท้องเรือยังมีที่นั่งและห้องน้ำแบบ […]

BAAN BRAIN CLINIC คลินิกในตึกแถวที่อบอุ่นเหมือนบ้าน

Baan Brain Clinic Chiang Rai เป็นโครงการออกแบบเปลี่ยนโฉมตึกแถวตำแหน่งหัวมุมให้กลายเป็นคลินิกด้านสมองและระบบประสาทของ นพ.วัชระรัตนชัยสิทธิ์ คุณหมอด้านประสาทวิทยาที่จังหวัดเชียงราย “อยากให้คนไข้ที่มาที่นี่รู้สึกเหมือนกลับบ้านมาให้ลูกหลานดูแล” คือโจทย์ตั้งต้นในการออกแบบที่คุณหมอให้ไว้ให้กับทีม 1922 Architects ตัวอาคารมีพื้นที่ใช้สอย 70 ตร.ม. ซึ่งมีลักษณะเดิมเป็นโถงสูงด้านหน้าและมีชั้นลอยด้านหลัง เมื่อเทียบกับพื้นที่ใช้งานที่จำเป็นต้องมี ซึ่งได้แก่ โถงพักคอย เคาน์เตอร์ต้อนรับ ห้องตรวจ ห้องหัตถการ ห้องน้ำ พื้นที่พักผ่อนของคุณหมอ และพื้นที่เก็บของ ขนาดพื้นที่ 70 ตร.ม. จึงถือเป็นพื้นที่ที่จำกัดมาก อีกทั้งช่องเปิดที่มีไม่มาก ทำให้ภายในค่อนข้างมืดและอึดอัดตามลักษณะของตึกแถวทั่วไป  ผู้ออกแบบจึงรักษาลักษณะของโถงสูงหรือ Double volume ไว้สำหรับทำเป็นพื้นที่พักคอยและเคาน์เตอร์ต้อนรับด้วยความสูงของฝ้าเพดานเดิม 4.75 ม. ส่วนห้องตรวจและห้องหัตถการที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์ ก็วางฝ้าเฉียงล้อไปกับท้องพื้นของบันไดเดิมเพื่อให้ห้องที่ถูกจำกัดหน้ากว้างด้วยความแคบของตึกแถวดูโล่งมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ อีกทั้งภายในระหว่างห้องตรวจและห้องหัตถการถึงแม้จะมีประตูแยกเข้า แต่ภายในกั้นแยกโดยใช้เพียงผ้าม่านที่สามารถเปิดโล่งเชื่อมกันได้ หากต้องการใช้ห้องตรวจใหญ่เพียงห้องเดียว ซึ่งห้องตรวจนี้หากมองจากโถงต้อนรับจะเห็นเป็นผนังสูงจรดฝ้า โดยตรงมุมห้องถูกออกแบบให้เป็นผนังโค้งแทนมุมห้องสี่เหลี่ยมแบบทั่วไป ช่วยลดความอึดอัดของพื้นที่ เส้นสายที่เกิดขึ้นช่วยสร้างบรรยากาศให้อ่อนละมุนขึ้น ลดทอนความแข็งในเส้นสายขององค์ประกอบอื่นๆ ในอาคารได้อย่างลงตัว แม้ฟังก์ชันจะเรียบง่ายแต่ก็แฝงไปด้วยทุกรายละเอียดในการออกแบบ โดยเฉพาะด้านการสร้างบรรยากาศแวดล้อมภายในคลินิกเพื่อสร้างความผ่อนคลายให้กับคนไข้ที่เข้ามารับบริการ โดยทางผู้ออกแบบได้นำประสบการณ์จากการเป็นหนึ่งในทีมออกแบบโรงพยาบาลราชพฤกษ์ จังหวัดขอนแก่นมาปรับใช้ โดยให้ความสำคัญกับแสงและลมธรรมชาติ เพราะแสงธรรมชาติมีผลต่อความรู้สึกเชิงบวกของผู้ป่วยโดยตรง หน้าต่างและบล็อกแก้วใสจึงถูกนำมาใช้แทนผนังทึบด้านใน […]

NGOI SPACE นำ กระเบื้องหลังคาดินเผา มาออกแบบคอมมูนิตีสเปซ โดดเด่นกลางแยกชานเมืองฮานอย

“กระเบื้องหลังคาดินเผา” กับความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการออกแบบคอมมูนิตี้สเปซขนาดยักษ์ที่มีชื่อว่า Ngói Space อาคารอเนกประสงค์ขนาด 5 ชั้น บนพื้นที่หัวมุมถนนนอกกรุงฮานอย ที่นี่มีความพิเศษโดดเด่นอยูที่การออกแบบฟาซาด หรือเปลือกอาคารจาก กระเบื้องหลังคาดินเผา กว่า 20,000 แผ่น เพื่อบอกเล่าความเป็นไปได้ใหม่ ๆ ในการสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมจากวัสดุธรรมดาที่คุ้นเคยกันดีในเวียดนาม จุดประสงค์ของการก่อสร้างอาคารหลังนี้ ก็เพื่อให้เป็นเสมือนห้องรับแขกของชุมชน เปิดโอกาสให้ผู้คนได้เข้ามาพักผ่อน หรือทำกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ มีพื้นที่ใช้สอยหลากหลาย ซึ่งประกอบด้วยร้านกาแฟ พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับการสัมมนา และโซนจัดนิทรรศการ และสวนดาดฟ้า มีแรงบันดาลใจของแนวคิดมาจากการแตกกิ่งก้านของต้นไม้ และห้องต่าง ๆ ในถ้ำ สถานที่อยู่อาศัยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อกำหนดลักษณะการใช้งานภายในอาคารแล้ว ภายนอกอาคาร สถาปนิกจาก H&P Architects ได้เลือกกระเบื้องหลังคาดินเผา ซึ่งเป็นวัสดุที่คุ้นเคยกันดีของชาวเวียดนามมาใช้ออกแบบฟาซาด โดยหวังสร้างแรงบันดาลใจในการนำ ‘กระเบื้องที่เต็มไปด้วยหน่วยความทรงจำ’ กลับมาใช้ใหม่ แทนที่จะถูกมองข้ามและทิ้งขว้างไปอย่างเปล่าประโยชน์ เมื่อบ้านเก่าหรืออาคารดั้งเดิมต่างค่อย ๆ ต้องถูกรื้อถอน ตามการเปลียนแปลงของยุคสมัย โดยการนำกระเบื้องมาเรียงซ้อนกันเป็นรูปสามเหลี่ยม สำหรับเป็นชั้นผนังอาคารชั้นนอก ซึ่งถูกซ้อนด้วยผนังและบานหน้าต่างกระจกด้านในอาคารอีกที พื้นที่ว่างระหว่างผนังชั้นนอกกับชั้นใน ที่ได้ร่มเงาจากแผงกระเบื้องฟาซาดได้จัดวางที่นั่งสำหรับพักผ่อนดื่มกาแฟ และทำเปลตาข่ายให้ได้เพลิดเพลินไปกับกลุ่มเพื่อน […]

INFINITY WELLBEING สปาสีมินต์โอเอซิสสีเขียวในย่านสุขุมวิท

สปา ในย่านสุขุมวิทแห่งนี้ มาพร้อมกับแนวคิดที่อยากชวนทุกคนไปผ่อนคลายท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่น กับการออกแบบพื้นที่สำหรับพักผ่อนและปรนนิบัติร่างกายให้พร้อมกลับมากระปรี้กระเปร่าอีกครั้ง เรื่องของบรรยากาศถือเป็นสิ่งสำคัญของการออกแบบ สปา  ดังที่ Space Popular สตูดิโอออกแบบชื่อดังได้ออกแบบ Infinity Wellbeing สปาแห่งใหม่ให้มีบรรยากาศราวโอเอซิสกลางซอยสุขุมวิท 20 ภายนอกรายล้อมด้วยต้นไม้และสวนสีเขียว อีกทั้งโปรแกรมการปรนนิบัติร่างกายและผิวพรรณจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกคุณภาพดี ท่ามกลางทำเลที่รายล้อมด้วยตึกสูงระฟ้า การจราจรพลุกพล่าน และร้านรวงข้างทาง ทันทีเมื่อเข้ามาที่นี่จะรู้สึกราวกับหลุดเข้ามายังโลกใหม่ บรรยากาศเรียบง่าย ให้ทั้งความรู้สึกสบายและอบอุ่น เด่นด้วยการเน้นใช้ธีมสีหลักอย่าง “สีเขียวมินต์” เพื่อสื่อสารถึงความเป็นธรรมชาติและความร่วมสมัย โดยสะท้อนผ่านเหล่าเฟอร์นิเจอร์คอลเล็กชันล่าสุดของ Space Popular ไม่ว่าจะเป็นเก้าอี้นั่งเล่น เก้าอี้บาร์ เก้าอี้ปรับเอนได้ พร้อมที่วางขาโต๊ะข้าง และโต๊ะกาแฟ โดดเด่นด้วยโครงที่ทำจากท่อโลหะสีเขียวมินต์ร่วมกับเบาะสีฟ้าอ่อน ดีไซน์น่ารัก นุ่มสบาย นอกจากเฟอร์นิเจอร์แล้ว ดีไซเนอร์ยังเลือกใช้โลหะทองแดงมาตีเป็นกริดตกแต่งเพดาน ต่อเนื่องลงมาเป็นโคมไฟสำหรับตกแต่งเหนือที่นั่งแต่ละตัวที่วางอยู่ในบริเวณโถงต้อนรับและพักคอย วัสดุและสิ่งของตกแต่งผลิตโดยช่างตัดเย็บฝีมือดีชาวไทย ผสมผสานกันอย่างละเอียดอ่อนกับวัสดุราคาไม่แพงหาได้ทั่วไปอย่าง แผ่นโฟมหุ้มบรรจุภัณฑ์สีขาว ด้วยการนำมาตกแต่งเป็นแพตเทิร์ตประดับบนเพดานของห้องทรีตเมนต์แต่ละห้อง แล้วซ่อนไฟไว้ด้านในให้แสงไฟลอดผ่านลงมาเป็นลำเเสงสีนวลตา เป็นไอเดียง่าย ๆ แต่สวยงามดูหรูหราขึ้นมาทันที พื้นที่ต้อนรับส่วนกลางและพื้นที่นั่งเล่น ออกแบบให้เชื่อมต่อกับห้องทรีตเมนต์ ซึ่งต้องเดินผ่านผนังที่ตกแต่งด้วยครีบไม้ทาสีเขียว 2 เฉดสี เพื่อสร้างมิติคล้ายเงายามถูกแสงตกกระทบ ห้องทรีตเมนต์มีทั้งแบบห้องสวีท ออกแบบให้หันหน้าไปสู่สวนที่ตกแต่งต้นไม้สวย […]

BLU395 อาคารที่ตั้งใจสร้างพลังงานดีๆคืนสู่ย่านและผู้คน

อาคารสีขาวที่ถูกคว้านเป็นทรงกรวยแปลกตาทั้งยังห่อหุ้มไว้ด้วยเหล็กตะแกรงนี้ตั้งอยู่ในย่านสะพานควาย ย่านที่พลุกพล่านที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ เพื่อสร้างให้เกิดภาพจำเชิงสัญญะแก่ผู้สัญจร และเพื่อให้อาคารแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะสร้างพลังงานที่ดีคืนแก่บริบทของย่านและเหล่าผู้คนที่ผ่านไปมาริมถนน การออกแบบความเชื่อมโยงระหว่างภายนอกและภายในจึงเป็นส่วนสำคัญ และผู้ที่เข้ามารับหน้าที่นี้ก็คือ PHTAA สตูดิโอออกแบบที่โดดเด่นในการตีความสร้างนิยามใหม่ๆให้กับงานทุกชิ้นที่ได้ผ่านมือพวกเขา BLU395 เป็นอาคารแบบ Mixed Used ที่มีห้องพัก 84 ห้อง และร้านค้า 3 ร้านผสมเข้าด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าอาคารหลังนี้มีจริตแบบ Modernism อยู่ในตัว ด้วยการแสดงออกอย่างชัดเจนจากภายนอกถึงลักษณะของโครงสร้างและพื้นที่การใช้งาน จากภายนอก ผู้สัญจรจะสามารถมองเห็นตะแกรงเหล็กที่นำมาใช้เป็น Facade ได้อย่างเด่นชัด ทั้งเป็นองค์ประกอบที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขต แต่ก็โปร่งพอที่จะเห็นลักษณะของอาคารได้อย่างชัดเจน พื้นที่พิเศษเพื่อพักสายตาแล้วเดินต่อ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของอาคาร BLU395หลังนี้คงหนีไม่พ้น ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของโถงบันไดซึ่งวางตัวเป็นทรงกรวยตั้ง ค่อยๆบานออกที่ชั้นบน โถงบันไดนี้มีการขึงผ้าใบสีขาวเรียบเกลี้ยงเอาไว้กั้นระหว่างความเป็นภายนอกและภายใน ทั้งทำหน้ากรองแสง กั้นความเป็นส่วนตัว และทำหน้าที่รับเงาของแสงที่ส่องผ่านโครงสร้างเปลือกอาคารลงมาเกิดเป็นเส้นโค้งที่ล้อไปกับรูปฟอร์มและตำแหน่งของไม้ใหญ่ ขับเน้นให้มุมมองสายตาที่ไล่เรียงจากชั้นพื้นที่ไม้ใหญ่นั้นเหมือนเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับบาทวิถี ค่อยๆไล่เรียงขึ้นไปยังอาคาร และแหงนมองสู่ฟ้าในที่สุด พื้นที่นี้เป็นทั้งพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษ ทั้งสำหรับตัวผู้ใช้อาคารเอง และผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ได้พักสายตาจากหมู่ตึกและการจราจรที่คับคั่งอีกด้วย แฝงกลิ่นอาย “ตึกแถวไทย” ด้วยรูปแบบการใช้อาคารหลังนี้อาจพาให้นึกไปถึง “ตึกแถวไทย” ได้แต่ทั้งหมดนั้นก็ได้ถูกตีความและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในแบบ PHTAA โดยที่จากชั้นล่างซึ่งเปรียบได้กับพื้นที่หน้าตึกแถวที่มักมีสวนเล็กๆและพื้นที่หย่อนใจ ซึ่งมักเป็นพื้นที่แบบ Semi-Public ก่อนที่จะขึ้นสู่ชั้นบนด้วยโถงบันไดนำพาไปยังพื้นที่ส่วนตัวซึ่งเป็นห้องพักในที่สุด ประกอบกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ชั้นล่าง […]

CHEEVA SPA พากลับสู่แก่นแท้ของธรรมชาติในบรรยากาศแบบมินิมัล

จากสปาแบบ Traditional Lanna ที่ให้บริการมาอย่างยาวนาน ด้วยเหตุการณ์สถานการณ์โควิด-19 ทำให้ Cheeva Spa แห่งนี้ ต้องหยุดให้บริการไป แต่ในวิกฤตนั้นมักมีโอกาสเสมอ ช่วงเวลาที่หยุดให้บริการไปนั้นจึงทำให้คุณกันติชา และคุณกัลยกร สมศักดิ์ ลงมือรีแบรนด์และปรับเปลี่ยนบรรยากาศของสปาใหม่จนหมดจดเลยทีเดียว DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: INLY STUDIO คุณกันติชา และคุณกัลยกร เป็นผู้ลงมือเลือกสรรและตกแต่งสิ่งต่าง ๆ ในสปาใหม่ด้วยตนเอง แต่ในด้านการออกแบบพื้นที่นั้นได้ถูกรังสรรค์โดยทีมสถาปนิกจาก INLY STUDIO โดยมีคอนเซ็ปต์ของการรีแบรนด์หลัก ๆ ก็คือการนำ Cheeva Spa กลับสู่แก่นแท้ของธรรมชาติ ทั้งการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์และบรรยากาศภายในแบบมินิมัล ที่สื่อถึงความเป็นธรรมชาติและสุขภาพที่ดีอย่างเด่นชัด การออกแบบพื้นที่ให้สว่างและเปิดโปร่งเช่นนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้องการสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้เกิดความสดใสขึ้น เพื่อให้การบริการสปานั้นถูกมองว่าเข้าถึงได้ง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยขยายกลุ่มลูกค้าให้ไปสู่คนวัยทำงานมากขึ้นด้วย และอีกส่วนหนึ่งคือการเน้นย้ำถึงการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์แบบออร์แกนิกในสปา ความสว่างและปลอดโปร่งจึงสื่อถึงสุขภาพที่ดีจากภายใน ตั้งแต่การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ พื้นที่ส่วนบริการมีกระจกบานใหญ่ที่เปิดวิวออกไปยังสวน เป็นการออกแบบที่ดึงเอาความเป็นสวนเข้ามาในพื้นที่ภายในโดยยังคงไว้ซึ่งความสบายอยู่ วัสดุและโทนสีของสปา เลือกใช้สีที่กลมกลืนกับความเป็นธรรมชาติ เช่น สีไม้ขัดเสี้ยนขาว วัสดุที่เป็นดินเผา และเซรามิก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสีขาวที่เลือกให้เป็นสีขาวที่หม่น ทั้งนี้เพื่อรับกับการเปิดช่องแสงจะทำให้แสงที่สะท้อนจากผนังยังคงนวลตาไม่เจิดจ้าจนเกินไป ในหลาย […]

STUDIOLOGY เปลี่ยนภาพลักษณ์สตูดิโอ ด้วยผนังอิฐที่เปลี่ยนผันตามธรรมชาติ

จากภาพลักษณ์ สตูดิโอ ให้เช่าที่มักมีหน้าตาเป็นโกดัง หรือโครงเหล็กสไตล์อินดัสเทรียล ซึ่งเป็นการออกแบบไม่มากวิธี จนได้รับความนิยมกันอย่างดาษดื่น จะเป็นอย่างไรหากสตูดิโออยากเปลี่ยนโฉมมาเป็นอาคารกรุผนังอิฐสีส้มดูบ้าง ซึ่งให้ทั้งความโดดเด่นเเละงดงามอย่างเป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกัน DESIGNER DIRECTORY :  ออกแบบ : Atelier of Architects  ในซอยลึกของถนนประเสริฐมนูกิจ 29 ย่านลาดพร้าว อาคารอิฐ ทรงกล่องขนาดใหญ่ตั้งอยู่อย่างเด่นหรา ดูแปลกแยกจากอาคารบ้านเรือนและสุมทุมพุ่มไม้โดยรอบ กล่องทรงคล้ายลูกบาศก์ที่ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “Studiology” สตูดิโอ ให้เช่าสำหรับงานถ่ายทำทุกประเภท สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดการเปลี่ยนภาพจำของสตูดิโอถ่ายทำทั่วไปสามารถให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยขนาดของสถานที่ Studiology นั้น นับเป็นสตูดิโอขนาดกลาง ที่มีข้อดีคือการตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองอันสะดวกกับหลายทีมงานกองถ่ายที่มักทำงานอยู่ในตัวเมืองเป็นหลัก ซึ่งนับว่าหาได้ยากสำหรับสตูดิโอในขนาดเดียวกัน นอกจากนั้นความที่ตั้งอยู่ในซอยลึกห่างจากความพลุกพล่านของถนนใหญ่ ยิ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับศิลปินดาราทีมงานกองถ่ายทำ คุณทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ หนึ่งในหุ้นส่วนผู้เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในอุตสาหกรรมโปรดักชั่นเฮ้าส์เป็นทุนเดิม เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของโครงการว่า “ไอเดียของเราคืออยากให้เป็นสตูดิโอที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับลูกค้า เรามีแค่สตูดิโอเดียวเท่านั้น ดังนั้นเวลามาใช้งานทั้งพื้นที่ จะมีแต่ทีมของเรา เหมาะกับกองถ่ายที่มีดนดัง หรือศิลปินที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ตอนที่คุยกับสถาปนิก เราอยากให้มันเป็นแลนด์มาร์ก คือตัวสตูดิโอจริง ๆ จะเป็นแค่กล่องสี่เหลี่ยมที่ฟังก์ชันอยู่ข้างใน แต่ข้างนอกเราก็อยากให้มีความโดดเด่น คนจดจำได้ว่าที่นี่คือ Studology” […]

THE SHOPHOUSE 1527 เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของการอยู่อาศัยผ่านร่องรอยในความดิบ

ร่องรอยเก่าที่สุดที่พอจะระบุความเป็นมาของ อาร์ตสเปซ ในห้องแถวหมายเลข 1527 ภายใน “ชุมชนสามย่าน” ย่านชุมชนการค้าเก่าแก่กลางกรุงเทพฯ ได้ คือรอยโบกปูนรอยหนึ่งซึ่งอุดปิดทับช่องโหว่ขนาดใหญ่ที่กว้างมากพอจนสามารถมองทะลุเห็นผู้ใหญ่ได้แบบครึ่งตัวบนผนังชั้นล่าง เหนือรอยโบกปูนนั้นมีตัวเลขสลักไว้ตามลำดับคือ “31, 1, 2513” ซึ่งไม่ใช่เลขบอกใบ้ให้โชค หรือเลขเดาสุ่มไร้ที่มาประสาคนมือบอน แต่มันคือตัวเลขบอกวัน – เดือน – ปี ที่เจ้าของบ้านสร้างช่องโหว่บนผนังนี้ขึ้นอย่างไม่ตั้งใจเมื่อราว 50 ปีก่อน แล้วทำการซ่อมแซมอุดช่องโหว่นั้นเสีย จนกระทั่งปัจจุบันมันได้กลายเป็นหนึ่งในจุดไฮไลต์ให้แก่ “The Shophouse 1527” พื้นที่ทดลองชั่วคราวสำหรับการทำกิจกรรมสร้างสรรค์หรือ อาร์ตสเปซ แห่งใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นได้ไม่นาน   “ตอนที่เข้ามารีโนเวตเราพบร่องรอยความเก่าแก่ในแต่ละจุดของห้องแถวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” คุณนัฐพงษ์ พัฒนโกศัย หนึ่งในผู้ก่อตั้งสำนักงานออกแบบ Cloud-Floor ผู้เป็นทั้งเจ้าของโครงการและผู้ออกแบบพัฒนาห้องแถวนี้ ร่วมกับอีกสำนักงานออกแบบ IF (Integrated Field) เล่าให้ฟังถึงกระบวนการเปลี่ยนแปลงอาคาร “พอเริ่มตั้งใจสังเกต เราจะพบเห็นร่องรอยต่าง ๆ ปรากฏอยู่บนผนังมากมาย ซึ่งทั้งหมดเป็นร่องรอยของการอยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นรอยเขม่า รอยสี และคราบเปื้อน รวมถึงรอยที่เกิดจากการวางเฟอร์นิเจอร์ หรือแขวนข้าวของ เรารู้สึกว่ารอยเหล่านี้ไม่ต่างอะไรจากประวัติศาสตร์ของการอยู่อาศัย […]