room, Author at room - Page 19 of 30

บ้านตอบโจทย์ครอบครัวต่างวัย เปิดสเปซเชื่อมต่อความสุข

เมื่อถึงคราวต้องปรับเปลี่ยนที่อยู่อาศัย จากบ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ในตัวเมืองเชียงใหม่ สู่การสร้างบ้านหลังใหม่ ซึ่งเป็นอีกบทหนึ่งของชีวิต แน่นอนว่าต้องเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ เหนืออื่นใดคือต้องเติมเต็มความสุขให้สมาชิกทุกคน แม้จะต่างวัยกันแค่ไหน แต่ก็อยู่ร่วมกันได้อย่างอบอุ่น จากทำเลที่มองเห็นวิวดอยคำ ดอยสุเทพ และใกล้กับอุทยานหลวงราชพฤกษ์ ในจังหวัดเชียงใหม่ ครอบครัวขยายของสองทันตแพทย์ ทพ. วัลลภ ธีรเวชกุล และ ทพญ. สรินภรณ์ ธีรเวชกุล ได้ไว้วางใจให้ทีมสถาปนิกจาก STUDIO SATi มารับหน้าที่ออกแบบบ้านให้สอดคล้องกับบริบท และความต้องการของสมาชิก 3 เจเนอเรชั่นที่ย้ายเข้ามาอยู่พร้อมหน้ากันถึง 7 คน โดยมีคุณยาย 2 ท่าน คุณพ่อคุณแม่ ลูกชาย ลูกสาว และหลาน ความท้าทายจึงอยู่ที่การออกแบบให้ทุกคนสามารถมีปฏิสัมพันธ์กัน ไปพร้อม ๆ กับมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมส่วนตัว รวมถึงเป็นพื้นที่ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ ในบ้านด้วย เนื่องจากตัวบ้านหันไปทางทิศใต้กึ่งตะวันตก ซึ่งเป็นทิศที่รับแดดบ่ายโดยตรง การออกแบบสถาปัตยกรรมจึงต้องคำนึงถึงปริมาณแสงและความร้อนเป็นพิเศษ สถาปนิกออกแบบผนังด้านหน้าบ้านเป็นลักษณะแนวผนังทึบก่ออิฐมอญบิดมุมให้เกิดองศาที่พอเหมาะเพื่อช่วยบังสายตาและกันแสงแดด โดยมีช่องเปิดให้ลมพัดผ่านและมองเห็นวิวได้ “เราออกแบบให้ตัวโถงบันไดและสระว่ายน้ำอยู่ด้านหน้าบ้าน ให้เป็นส่วนรับแดดช่วงบ่าย การใช้น้ำมาเป็นองค์ประกอบจะช่วยให้บ้านไม่ร้อนมาก และมีโถงบันไดด้านหน้าซึ่งเป็นจุดรับความร้อนได้ดี ออกแบบให้มีผนังอิฐเฉียงเพื่อบังแดดและบิดมุม […]

บ้านไม้ไผ่ อยู่อย่างเป็นมิตรกับธรรมชาติในกาลาปากอส

บ้านไม้ไผ่ รูปทรงโมเดิร์นตั้งอยู่ที่เกาะซานกริสโตบาล ส่วนหนึ่งของหมู่เกาะกาลาปากอส ในประเทศเอกวาดอร์ ก่อสร้างขึ้นโดยใช้ทรัพยากร พลังงาน แรงงาน และการขนส่งในพื้นที่ โดยพยายามให้เกิดความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติมากที่สุด Dany และ Jenny คู่สามีภรรยาเจ้าของ บ้านไม้ไผ่ ตั้งใจสร้างที่นี่ขึ้น หลังจากที่ทั้งคู่มีลูกคนแรก แล้วต้องการพื้นที่พักอาศัยที่กว้างขึ้น โดยได้รับคำปรึกษาจาก ESEcolectivo ก่อนออกมาเป็นบ้านที่ใช้โครงสร้างไม้ไผ่ทั้งหลัง โดยใช้แรงงานและภูมิปัญญาท้องถิ่นภายใต้งบประมาณที่ไม่สูงนัก เพื่อให้เข้ากันดีกับบริบททางธรรมชาติอันเปราะบางของหมู่เกาะกาลาปากอส บ้านทั้งหลังจึงต้องออกแบบให้สามารถอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล ลดการใช้พลังงาน และพึ่งพาตนเองได้ เห็นได้จากการแบ่งพื้นที่รอบบ้านสำหรับทำแปลงปลูกผักใช้รับประทานในครอบครัว ขณะที่พื้นที่ใช้สอยภายในขนาด 120 ตารางเมตร สถาปนิกได้แบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ชั้น ชั้นล่างประกอบด้วยส่วนห้องน้ำ ส่วนซักล้าง และห้องพักสำหรับผู้สูงอายุ แบ่งพื้นที่รอบแกนบันไดให้มีขนาดกว้าง เพื่อทำหน้าที่เป็นทางเดินไปขึ้นสู่ชั้นบนสุดมองเห็นวิวทะเลได้ ทั้งยังช่วยในการไหลเวียนอากาศทั่วทั้งบ้าน ชั้น 2 มีห้องพัก 2 ห้อง คือ ห้องนอนใหญ่ และห้องเด็กเล่น เผื่อสำหรับในอนาคตเมื่อลูกเติบโตขึ้น เขาสามารถย้ายมาพักที่ห้องนี้ได้เพื่อความเป็นส่วนตัว ส่วนชั้น 3 มีห้องสตูดิโอขนาดเล็ก และจุดชมวิวที่สามารถทอดสายตาชมวิวทะเล และพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างโรแมนติก ด้านการตกแต่งเน้นเฟอร์นิเจอร์และส่วนต่าง ๆ […]

WORKPLACE Saimai-Phaholyothin โฮมออฟฟิศตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่

WORKPLACE Saimai-Phaholyothin คืออีกหนึ่งโครงการภายใต้แบรนด์โครงการโฮมออฟฟิศโดย SC Asset รองรับทั้งการอยู่อาศัยและการประกอบธุรกิจ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้านักธุรกิจรุ่นใหม่ เจ้าของกิจการที่ต้องการขยายสาขา หรือกำลังมองหากิจการใหม่ ๆ เช่น คลินิก ร้านอาหาร คาเฟ่ ฯลฯ รวมถึงกลุ่มนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์  โครงการ WORKPLACE Saimai-Phaholyothin ทำเลติดถนนสายไหม ต่อเนื่องกับโครงการทาวน์โฮม เวิร์ฟ สายไหม-พหลโยธิน เนื่องจากมีจำนวนยูนิตน้อย รวมถึงทุกยูนิตหันหน้าเข้าถนน จึงพร้อมรองรับทั้งลูกค้าจากภายนอก และสมาชิกในหมู่บ้าน โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์เรียบเท่สไตล์ Modern Loft  ที่เพิ่มเส้นสายสร้างชีวิตชีวา และความสนุกสนานแบบ Festival ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ทั้งยังมีการออกแบบให้เชื่อมโยงกับโครงการทาวน์โฮมด้านหลัง เพื่อสร้างความเป็นต่อเนื่องของภาพรวม  โฮมออฟฟิศแบบไหนตอบโจทย์ธุรกิจคนรุ่นใหม่ คุณภาณุ พิศาลกิจวนิช ตำแหน่ง  Marketing Manager Low Rise และ คุณภาณุพงษ์ ชินมหาวงศ์  Senior Manager Project Architect ของโครงการ เวิร์คเพลส สายไหม–พหลโยธิน บอกเล่าถึงแนวโน้มความนิยมที่อยู่อาศัยประเภทโฮมออฟฟิศในตลาดคนรุ่นใหม่ ที่มองหาพื้นที่ธุรกิจพร้อมๆ กับที่อยู่อาศัย “แนวโน้มของโฮมออฟฟิศกำลังเริ่มดีขึ้น คนรุ่นใหม่เริ่มทำธุรกิจเร็วขึ้น […]

PROTAGONIST BAR คาเฟ่กึ่งบาร์ที่มี “สัจวัสดุ” เป็นพระเอก

คาเฟ่กึ่งบาร์ ที่แปลชื่อได้ว่า “ตัวเอก” มีโจทย์อยู่ที่การสร้างพื้นที่โดยใช้ “สัจวัสดุ” ซึ่งได้กลายมาเป็นงานออกแบบตัวเอกของสถานที่นี้ พื้นที่ภายในเน้นบรรยากาศเผยให้เห็นความเป็น สัจวัสดุ ซึ่งเป็นร่องรอยโครงสร้างดั้งเดิม ทั้งการฉาบฝ้าเพดาน พื้นผิวคอนกรีตมองเห็นรอยที่เคยปูกระเบื้อง เเละเนื้อปูนที่เชื่อมประสานอิฐแต่ละก้อน แล้วจัดสรรสเปซเพื่อให้สอดรับกับฟังก์ชันการใช้งานมากที่สุด เพราะให้ความสำคัญกับเสียงเพลงและดีเจเป็นพิเศษ นอกจากจะออกแบบระบบเสียงอย่างดีแล้ว บู๊ธดีเจของที่นี่ยังแสดงถึงกลิ่นอายวินเทจนิด ๆ ด้วยการนำสเตอริโอโบราณจากยุคโซเวียตมาตัดครึ่งแล้วขยายออก ก่อนเติมดีเทลความเป็นโมเดิร์นลงไป จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเอกของพื้นที่ส่วนที่เป็นจุดโฟกัสของสเปซอย่างพื้นที่รับประทานอาหารส่วนกลาง เลือกใช้โต๊ะอาหารแบบยาววางกลางห้อง เปิดมุมมองออกสู่หน้าต่างบานกว้างแบบพานอรามา เหนือโต๊ะเป็นประติมากรรมโคมไฟขนาดยักษ์ตีกรอบล้อมรอบด้วยผิวเมทัลลิกมันวาว พื้นที่ส่วนกลางนี้ประกบข้างด้วยบาร์เต็มรูปแบบอยู่ฝั่งซ้ายมือของโต๊ะ และผืนผนังบล็อกแก้วที่สะท้อนความเป็นไปภายในร้านผ่านแสงและสีสัน ทั้งหมดนี้สามารถมองเห็นรายละเอียดการตกแต่งที่เรืองรองออกมาจากกล่องหน้าตาธรรมดาตรงบริเวณหัวมุมถนนโดดเด่นกว่าใคร    Idea to Steal เปลี่ยนจากเครื่องใช้ไฟฟ้าวินเทจให้กลายเป็นพร็อปส์ตกแต่งสุดเก๋ด้วยการทดลองตัด ต่อ และเติม ข้อมูล ที่ตั้ง เมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน ออกแบบ : belbek bureau เวลาทำการ : ทุกวัน 10.00 น. – 02.00 น. IG: prtgnst.bar    

ออฟฟิศ ม่านไม้เลื้อยเพื่อสร้างความสุขในการทำงาน A&P OFFICE BUILDING

หากใครมีโอกาสผ่านเข้าไปในซอยประชาชื่น 31 จะพบอาคารคอนกรีตสูง 5 ชั้นที่ตั้งใจเลือกใช้ฟาซาดจากธรรมชาติ เป็นม่านไม้เลื้อย ซึ่งอาคารแห่งนี้เป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ของบริษัท เอ แอนด์ พี เมนทิแนนซ์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ในแวดวงธุรกิจจะรู้จักกันดีในชื่อ A&P ซึ่งเป็นบริษัทรับคลีนนิ่งระดับประเทศ ที่รับทำความสะอาดทั้งอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ ศูนย์การค้า สนามบิน ตลอดจนหน่วยงานราชการต่างๆ โดยอาคารสำนักงานดังกล่าวเป็นการออกแบบและสร้างใหม่บนที่ดินขนาด 1.5 ไร่ ออกแบบโดยคุณศรีศักดิ์ พัฒนวศิน ภายใต้แนวความคิดการหลอมรวมธรรมชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงาน เพื่อสร้างความสุขให้กับพนักงานขององค์กรอย่างยั่งยืน อาคารสำนักงานแห่งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของผู้ออกแบบไม่น้อย เนื่องจากต้องทำการออกแบบและก่อสร้างภายใต้ข้อจำกัดมากมาย ทั้งในเรื่องของระยะเวลาและการออกแบบเพื่อให้ใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่าที่สุด ในการออกแบบเบื้องต้น ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้ตัวอาคารที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 2,000 ตร.ม. วางไว้ด้านในของที่ดิน เนื่องจากทางเจ้าของโครงการมีแผนจะสร้างอาคารเพิ่มเติมยังบริเวณด้านหน้าที่ดินในอนาคต อีกทั้งด้วยตำแหน่งของที่ตั้งทำให้จำเป็นต้องหันด้านหน้าอาคารไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นด้านที่จะได้รับความร้อนตลอดทั้งวัน ผู้ออกแบบจึงกำหนดให้มีชุดผนังกระจกบานเลื่อนซ้อนในทุกๆ ฟังก์ชันเผื่อในกรณีที่ต้องการเปิดรับลมได้มากสุด ก็จะทำให้อากาศนั้นหมุนเวียนไปได้ทั่วอาคาร เสริมกับการเลือกใช้ต้นลีกวนยูมาเป็นฟาซาดด้านหน้าอาคารก็เพื่อช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ทำหน้าที่เสมือนเป็นอุปกรณ์บังแดดทางธรรมชาติที่ยอดเยี่ยมให้กับอาคารอีกชั้นหนึ่งด้วย ทั้งนี้ตัวอาคารยังออกแบบพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่าด้วยการกำหนดผนังทั้ง 2 ด้านของอาคารนั้นเป็นผนังทึบ ทำให้ระยะร่นระหว่างจากอาคารถึงแนวเขตกำแพงนั้นมีน้อยลงตามที่ข้อกฎหมายได้กำหนด ส่งผลให้อาคารมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น นอกจากนั้นเพื่อช่วยกันความร้อนและเพื่อย่นระยะเวลาในการก่อสร้าง ผู้ออกแบบยังวางตำแหน่งห้องน้ำ บันไดหลักของอาคาร บันไดหนีไฟและลิฟต์ไว้ตำแหน่งตรงกันทุกชั้น เพื่อช่วยให้การติดตั้งงานระบบสุขาภิบาลและไฟฟ้าทำได้ง่ายและรวดเร็ว […]

“มีวนา” แบรนด์กาแฟไทยกับวิถีวนเกษตรอินทรีย์ คนกับป่าพึ่งพากันอย่างยั่งยืน

ทุกครั้งที่ยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม ถ้าได้รู้ถึงที่มาของความอร่อยตรงหน้า ความสุขจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีรึเปล่านะ? สำหรับเราความรู้สึกนี้ได้เกิดขึ้นหลังจากการไปเยือน MiVana Coffee Flagship Store  แฟล็กชิปสโตร์คาเฟ่ที่มีบรรยากาศร่มรื่นย่านศรีนครินทร์ของ “ มีวนา ” โดยเปิดขึ้นเพื่อหวังให้ที่นี่เป็นโมเดลต้นแบบในการส่งต่อแนวคิดการดูแลธรรมชาติ ผ่านไลฟ์สไตล์การดื่มกาแฟ กระตุ้นให้คนเมืองสนใจกาแฟออร์แกนิกกันมากขึ้น ตลอดการทำงานมากว่าสิบปีของแบรนด์กาแฟ “มีวนา” ได้ดำเนินธุรกิจภายใต้แนวทางเพื่อสังคม ผลิตกาแฟอาราบิก้าด้วยระบบวนเกษตรแบบอินทรีย์ กับการปลูกกาแฟแทรกไปกับต้นไม้ในผืนป่า แตกต่างจากการทำไร่กาแฟที่ต้องใช้ปุ๋ยและสารเคมีที่สามารถควบคุมปริมาณผลผลิตได้ตามความต้องการของตลาด ขณะที่การปลูกกาแฟใต้ร่มเงาป่าของมีวนา แม้จะไม่สามารถสู้เรื่องจำนวนการผลิตได้ แต่ในด้านคุณภาพที่ปลอดภัยและเป็นมิตรกับระบบนิเวศควบคู่ไปกับการส่งเสริมให้ชาวบ้านมีอาชีพและปลูกฝังความหวงแหนรักษาป่าละก็นั่นนับเป็นพันธกิจและเป้าหมายอันสำคัญกว่า เบื้องหลังแนวคิดนี้ คุณมิกิ-ชัญญาพัชญ์ โยธาธรรมสิทธิ์ รองกรรมการผู้จัดการงานพัฒนาธุรกิจและการตลาด บริษัท มีวนา จำกัด คือตัวแทนที่จะมาเล่าให้ฟังถึงแนวทางการทำงานของมีวนา ภายใต้เหตุผลของความยั่งยืนดังกล่าวว่า สิ่งนี้ได้สร้างผลลัพธ์ใดกลับคืนสู่สังคมและโลกใบนี้อย่างไร นอกเหนือจากมูลค่าทางธุรกิจ การปลูกกาแฟอินทรีย์กับการอนุรักษ์ป่าสองเรื่องนี้มาบรรจบกันได้อย่างไร คุณมิกิ : “เนื่องจากกาแฟอาราบิก้าต้องปลูกในพื้นที่สูงมีระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,000 เมตร ขึ้นไป และต้องมีสภาพภูมิอากาศที่เย็นจึงจะได้ผลผลิตที่ดีในเชิงของพื้นที่ป่าที่เราเข้าไปทำงานในเชียงราย จะมีสองส่วนคือพื้นที่ป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์อยู่แล้ว เราก็อนุรักษ์ไว้แล้วก็เอากาแฟไปปลูกใต้ร่มเงาป่าในพื้นที่ อีกส่วนคือป่าเสื่อมโทรมหรืออาจจะถูกทำลายไปแล้วเราจะปลูกต้นกาแฟควบคู่ไปกับต้นไม้ที่มีความหลากหลายทางนิเวศ เป็นไม้ที่ให้ร่มเงาในระดับที่แตกต่างกัน ทำให้พื้นที่ป่ามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นเรื่อย ๆ “ในอดีตที่ผ่านมาคนอาจจะคุ้นเคยกับการทำไร่กาแฟแบบเป็นแปลงปลูก จะไม่ได้เป็นการปลูกแบบร่วมกันกับป่าเท่าไหร่มากนัก เขาจะมีการจัดการบริหารที่ง่ายกว่าเรา เดินตามแปลงก็จบ บริหารจัดการง่าย พอเจอศัตรูพืชก็ใช้สารเคมีเร่งดอก เร่งผล […]

MIVANA COFFEE FLAGSHIP STORE ดื่มกาแฟไปพร้อมการอนุรักษ์ป่า ในคาเฟ่บรรยากาศธรรมชาติ

พาไปเยี่ยมเยือนแฟล็กชิบสโตร์ของแบรนด์กาแฟ “มีวนา” กับ MiVana Coffee Flagship Store  คาเฟ่สไตล์กลาสเฮ้าส์ที่ตั้งอยู่ใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพรีเมียร์คอร์เปอเรทปาร์ค ย่านถนนศรีนครินทร์ ที่ MiVana Coffee Flagship Store คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศเย็นสดชื่น แวดล้อมด้วยกลิ่นอายความเป็นธรรมชาติ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีวนาต้องการสื่อสารไปยังลูกค้า เพื่อบอกถึงที่มาของกาแฟรสชาติดีในมือว่า ทุกคนก็เป็นส่วนหนึ่งในการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำได้ ผ่านกาแฟที่ค่อย ๆ บรรจงดื่มด่ำนี้ไปพร้อมกันมีป่า มีน้ำ มีกาแฟ น่าจะเป็นคำจำกัดความที่ตรงตัวของแบรนด์ กับการส่งเสริมกระบวนการปลูกกาแฟอาราบิก้าอย่างเป็นระบบ ด้วยวิถีวนเกษตรอินทรีย์ ภายใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทีมส่งเสริมของมีวนากับเกษตรกรท้องถิ่นกว่า 7 หมู่บ้าน ไปพร้อมกับการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของลำน้ำแม่สรวย แม่กรณ์ และแม่ลาว เรียกง่าย ๆ หากไม่มีป่า ก็ไม่มีน้ำ และพื้นที่สำหรับปลูกกาแฟอินทรีย์คุณภาพดีดังนั้น เมื่อตั้งใจเปิดคาเฟ่เพื่อส่งต่อถ้อยความนี้ คุณณรงค์ จันทรมาศ สถาปนิกผู้ออกแบบ จึงเลือกถ่ายทอดผ่านการออกแบบตัวอาคารให้เป็นกลาสเฮ้าส์ เพื่อให้ได้ร่มเงาของไม้ใหญ่ที่ปลูกอยู่โดยรอบ เผยให้มองเห็นภาพของความอุดมสมบูรณ์และความชุ่มชื้นของสวน สะท้อนเรื่องราวของกาแฟมีวนาที่ปลูกและเติบโตใต้ร่มเงาป่าต้นน้ำ  ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และของประดับงานแฮนด์เมดจากวัสดุธรรมชาติ สื่อถึงกลิ่นอายความเป็นท้องถิ่น และวิถีชาวบ้านภาคเหนือ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้ โคมไฟ […]

CHURN BUTTERY คาเฟ่สไตล์นอร์ดิก ที่สายละมุนคนชอบเบเกอรี่ห้ามพลาด!!

เอาใจคนชานเมืองย่านถนนร่มเกล้า กับคาเฟ่บรรยากาศดีน่านั่ง CHURN Buttery ซึ่งมีที่มาจากคำว่า “Churn” ในภาษาอังกฤษ หมายถึงเครื่องตีเนย และปั่นนม เพื่อบอกเล่าจุดเด่นของร้านที่เน้นเมนูเบเกอรี่สูตรโฮมเมด อร่อยจนลืมอ้วน กินคู่กับกาแฟออสเตรเลียรสละมุน เป็นสองความอร่อยที่ลงตัว ผสมผสานอยู่ในคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่น ตกแต่งเรียบง่ายสไตล์นอร์ดิก CHURN Buttery มีจุดเริ่มต้นมาจากแพสชั่นความหลงใหลของคู่สามีภรรยา คือคุณนที เตชะอาภรณ์กุล สัตวแพทย์ผู้หลงใหลเรื่องราวของกาแฟ และคุณจุฑาภัค สีตบุตร ที่ชื่นชอบการทำเบเกอรี่ โดยมีสูตรขนมอร่อย ๆ จากคุณแม่ แม้ทั้งคู่จะมีงานประจำกันอยู่แล้ว แต่ก็เลือกนำความชอบส่วนตัวของแต่ละคนมาสร้างสรรค์เป็นคาเฟ่ โดยเลือกทำเลย่านถนนร่มเกล้าเพราะเห็นว่าถนนสายนี้แทบไม่มีคาเฟ่สำหรับนั่งพักผ่อน หรือหาที่นั่งคุยกันค่อนข้างยาก นำมาสู่การออกแบบคาเฟ่ผ่านรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารทรงจั่วที่ให้อารมณ์เหมือนบ้านหลังใหญ่ คุณกฤติน เจริญพรวรนาม สถาปนิกผู้ออกแบบเล่าให้ฟังว่า “ตอนดีไซน์เราอยากให้ที่นี่มีความรู้สึกสบาย ๆ ลักษณะของร้านจึงมีความเป็นนอร์ดิกขาว ๆ มีจั่วและหลังคาทรงสูง แทรกความอบอุ่นด้วยงานไม้ นอกจากนี้ยังนำเส้นสายของซุ้มโค้งมาใช้ในส่วนของกรอบหน้าต่าง ต่อเนื่องไปยังกำแพงฝั่งที่จอดรถ แล้วไปจบที่มุมซุ้มกำแพงสีขาวดูคล้ายสตูดิโอถ่ายรูปตรงโซนด้านหลัง ส่วนช่องเปิดได้ติดตั้งกระจกขนาดใหญ่ และมีช่องแสงสกายไลท์อยู่ด้านบน เพื่อให้แสงสามารถส่องเข้ามาในร้านได้ทั่วถึง ให้มิติของแสงเงาและบรรยากาศที่ดูอบอุ่นอย่างเต็มที่ และยังเป็นเหมือนการโฆษณาตัวร้านได้ด้วย” นอกจากความละมุนละไมของบรรยากาศภายในแล้ว จุดเด่นที่ถือเป็นไฮไลต์คืองานออกแบบแลนด์สเคปที่มีสระน้ำอยู่ทั้งสองฝั่งทางเข้า “การออกแบบให้มีสระน้ำ ผมอยากให้มีบรรยากาศแบบ Stepping stone […]

Chewa Heart Sukhumvit 62/1 ทาวน์โฮมรองรับการอยู่อาศัยและสร้างรายได้

Chewa Heart Sukhumvit 62/1 เป็นโครงการทาวน์โฮมระดับลักชัวรี่จาก บริษัท ชีวาฮาร์ท จำกัด ได้รับการพัฒนาและต่อยอดมาจากแนวคิดที่ต้องการผสมผสานการอยู่อาศัยแบบคนรุ่นใหม่ โดยแบ่งสัดส่วนการใช้งานอย่างชัดเจนเพื่อความเป็นส่วนตัว แต่ก็ยังคงตอบโจทย์ด้านการสร้างสรรค์พื้นที่สำหรับครอบครัวขยายในอนาคต ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนห้องให้เกิดรายได้ในรูปแบบ Passive income เช่นเดียวกับคอนโดมิเนียม บ้านในโครงการ Chewa Heart Sukhumvit 62/1 มีรูปแบบเดียว และมีเพียง 9 ยูนิต โดยแต่ละหลังมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มต้นที่ 210 ตารางเมตร ตัวบ้านมีความสูง 3 ชั้นครึ่ง ประกอบด้วย 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ และจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอยสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระตามความต้องการ มีการจัดสรรพื้นที่ของแต่ละห้องนอนอย่างเป็นสัดส่วนสามารถปรับให้เชื่อมต่อหรือแยกออกจากกันได้ชัดเจน พร้อมรองรับกรณีที่มีผู้เช่าที่ไม่ใช่สมาชิกครอบครัว หากมองภาพรวมอาจดูคล้ายเป็นการจัดวางห้องรูปแบบคอนโดมิเนียมในพื้นที่ทาวน์โฮม ซึ่งช่วยสร้างความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยให้แก่เจ้าของบ้าน โถงบันไดกลางบ้าน ที่เปิดโล่งจากชั้นล่างถึงชั้นบนสุด คือหัวใจสำคัญที่ช่วยเปิดรับลมและแสงธรรมชาติจากช่องเปิดบนหลังคาให้ลงมาสู่ทางเดินส่วนกลางชั้นล่างได้อย่างทั่วถึง ขั้นบันไดทำจากแผ่นอะลูมิเนียมเจาะรูพับยิ่งช่วยให้สเปซดูโปร่งมากขึ้น นอกจากนี้ ผนังกระจกรอบโถงบันไดบนชั้น 2 และ 3 ยังติดตั้งบานหมุนกระจกนิรภัย หมุนปรับระดับองศาได้ ช่วยส่งต่อลม และแสงธรรมชาติเข้ามาภายในพื้นที่ใช้งานได้เต็มที่ […]

Citizen Tea Canteen of Nowhere คาเฟ่ชาไทยในโชว์รูมหัตถกรรม

ตึกแถวในตรอกเล็กซอยน้อยคือวิถีชีวิตอันคุ้นเคยและเปี่ยมเสน่ห์ของย่านเมืองเก่าในกรุงเทพฯ​ เช่นเดียวกันกับที่ “ย่านตลาดน้อย” แม้วันนี้เราจะมีร้านชาเปิดใหม่อย่าง Citizen Tea Canteen of Nowhere เป็นเป้าหมายซึ่งอยู่ไม่ไกลข้างหน้านี้ แต่ก่อนเลี้ยวเข้าร้าน ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่าสุดปลายตรอกนี้จะมีอะไร และทะลุไปเดินเล่นที่ไหนต่อได้อีกบ้าง ช่วง 2-3 ปี นี้มานี้ คนรักงานออกแบบรับรองว่าต้องคุ้นเคยกันดีกับชื่อ Citizen of Nowhere แบรนด์หัตถกรรมร่วมสมัยของ คุณศรัณย์ เย็นปัญญา ดีไซเนอร์สุดป็อปแห่ง 56thStudio ผู้มุ่งมั่นปลุกวิญญาณศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาชายขอบที่ถูกลืมเลือนหรือด้อยค่า ให้กลับมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันยุคใหม่ และคอลเล็กชั่นหัตถกรรมของเขา ก็คือจุดเริ่มต้นของการเปิดแฟลกชิปสโตร์แห่งใหม่นี้ Citizen Tea Canteen of Nowhere ยังมาพร้อมคาเฟ่ชาไทยสีส้มหน้าตาคุ้นเคย ที่นำเสนอในภาษาใหม่ที่ละเมียดละไมขึ้น  “หลังจากแบรนด์เข้าสู่ปีที่สาม เรามีสินค้าค่อนข้างเยอะขึ้น เลยรู้สึกว่างานหัตถกรรมมันจะน่าสนใจและน่าซื้อมากขึ้นถ้าเราสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้มีปฏิสัมพันธ์ เลยเกิดเป็นโชว์รูมที่มีคาเฟ่ในตัว คนจะได้มอง ได้สัมผัส ได้สำรวจข้าวของได้แบบเพลิน ๆ” จากแกนหลักของแบรนด์หัตถกรรมที่ต้องการอุ้มชูวัฒนธรรมชายขอบ สวมเข้ากันพอดีกับคอนเซ็ปต์ของสภากาแฟหรือสภาชาแบบไทย ๆ ซึ่งเป็นเหมือนพื้นที่สำหรับการร่วมวงชวนคนใกล้เคียงมาสังสรรค์ แลกเปลี่ยนบทสนทนาผ่านเครื่องดื่มคาเฟอีนในมือ งานทั้งสองแบบแม้จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันในแง่ของระบบการจัดการ แต่สิ่งที่เหมือนกันคือการ Deconstruction – […]

THE YARD RESTAURANT อิ่ม อร่อย อบอุ่น ในบรรยากาศบ้านไม้เก่า

The Yard Restaurant ร้านอาหารบรรยากาศฟีลกู้ด ที่เกิดจากการรีโนเวตบ้านไม้เก่าอายุร่วม 80 ปี ให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง มาพร้อมสวนสีเขียวเติมความสดชื่นให้เเก่ย่านสาทรที่เต็มไปด้วยตึกสูง โดยผู้ออกแบบ The Yard Restaurant ได้พยายามเก็บโครงสร้างและรายละเอียดเดิมไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นผนังไม้เก่า ลายฝ้าเพดาน ลูกฟักหน้าต่าง ไปจนถึงโคมไฟ ด้วยความเก่าแก่ที่ยังคงสมบูรณ์แบบ ที่นี่จึงเปรียบเสมือนการเก็บประวัติศาสตร์เเละความเป็นอยู่ของคนสาทรในยุคก่อนเอาไว้ หลังจากการสำรวจพื้นที่ผู้ออกแบบพบว่าภายในโครงการประกอบด้วยอาคารไม้เก่า กับที่ว่างรอบบ้านซึ่งปกคุลมไปด้วยไม้ใหญ่ทั่วบริเวณ จึงเล็งเห็นความสำคัญด้านการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า และการสร้างความสมดุลระหว่างสิ่งปลูกสร้างกับธรรมชาติรอบ ๆ  เพื่อคงเสน่ห์ของสถาปัตยกรรมและเพิ่มมูลค่าให้กับที่ดินไปในตัว “เราเริ่มจากการออกแบบตัวบ้านเดิมกับพื้นที่ว่าง เพราะมองว่าบริเวณสาทรมีแต่ตึกกับคอนกรีต พื้นที่ว่างและสวนเป็นของมีค่ามากในย่านนี้ เราจึงออกแบบโครงการให้เป็นเสมือนปอดไว้หายใจและพักผ่อน สำหรับคนเมืองที่อาศัยอยู่ในสาทร จึงเกิดเป็นคอนเซ็ปต์ Hidden Yard ขึ้นมา”จากแนวคิดดังกล่าวนำมาสู่การผสมผสานงานออกแบบรีโนเวตลงไปในพื้นที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติเเบบไม่รบกวนกัน  สร้างการรับรู้เเละเปลี่ยนผ่านความรู้สึกจากบรรยากาศภายนอกที่เเสนวุ่นวาย  ด้วยทางเดินเข้าร้านที่ทำหน้าที่เป็นเสมือนระเบียงบ้าน นำทางมายังคอร์ตยาร์ดขนาดย่อมที่ทุกคนจะต้องเซอร์ไพร้ส์ไปกับบรรดาต้นไม้เขียวชอุ่ม ก่อนจะเชื้อเชิญทุกคนให้เข้ามายังพื้นที่ภายในบรรยากาศร้านด้านในยังคงความเป็นบ้านไม้โบราณ โชว์โครงสร้างหลังคาให้เห็นจันทันและแปไม้ แล้วเสริมให้ดูร่วมสมัยด้วยการเลือกของตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์สไตล์คอมเทมโพรารีสีสด โดยใช้สีไม้เก่าจากพื้นและผนัง รวมถึงผนังปูนขัดสีให้ดูเก่า ผสมผสานกับการเน้นกรอบหน้าต่างและขาเก้าอี้ด้วยอะลูมิเนียมทำสีโรสโกลด์ ข้อมูล เจ้าของ : คุณญาณี องค์วัฒนกุล ออกแบบ : Arch+Brand Design ภาพ : […]

LET’S (NOT) KICK BUTT เปลี่ยนก้นบุหรี่เป็นวัสดุใหม่ดั่งงานศิลป์

ก้นบุหรี่ ภัยร้ายที่น่ากลัวกว่าหลอดพลาสติก เชื่อหรือไม่ว่า ขยะที่ปนเปื้อนไหลลงทะเลนั้น มากกว่าหลอดพลาสติก มันคือก้นบุหรี่ที่เป็นขยะยากแก่การรีไซเคิล อาจจะดูเหมือนเป็นวัสดุนุ่มนิ่มที่น่าจะรีไซเคิลได้ไม่ยาก แต่แท้จริงแล้วก้นบุหรี่เหล่านี้ประกอบขึ้นจากพลาสติก ประเภทเซลลูโลสอะซีเตต (Cellulose Acetate) เป็นประเภทเดียวกับที่ใช้ทำแผ่นฟิล์มกันแสงจอโทรทัศน์ ฟิล์มถ่ายรูป และฝาครอบหลอดไฟ มีความเหนียว และทนทานต่อแรงกระแทก ซึ่งจะต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ในการย่อยสลายเลยทีเดียว และมักจะจบลงที่การนำไปฝังกลบ โดยเฉพาะก้นบุหรี่ใช้แล้วยังมีเศษยาสูบที่มีสารท็อกซิน นิโคติน สารหนู ยาฆ่าแมลง นิโคตินเหล็ก สารก่อมะเร็ง และเอทิลฟีนอล ซึ่งเป็นสารพิษที่จะตกค้างในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเมื่อฝังกลบแล้ว อาจถูกพัดพาไป จนเป็นขยะทางทะเลในที่สุด ด้วยเหตุนี้เอง Sachi Tungare นักออกแบบชาวอินเดีย จึงเริ่มต้นโปรเจ็กต์ let’s (not) kick butt ตั้งแต่ปี 2019 โดยเป็นหนึ่งในโปรเจ็กต์ทางการศึกษาที่ Design Academy Eindhoven ประเทศเนเธอร์แลนด์ก่อน ซึ่งในโครงการนี้ก็คือการหาวิธีที่จะนำเอาเศษก้นบุหรี่เหลือทิ้ง มาขจัดสารพิษออกด้วยวิธีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อนจะผสมสีลงไปในวัสดุเพื่อให้ดูเป็นมิตร และน่านำกลับไปใช้มากขึ้น ก่อนจะทดลองการขึ้นรูปให้กลายเป็นชิ้นงานต่อไป อย่างไรก็ตามปัจจุบันการขึ้นรูปนั้นยังทำได้ในระดับหนึ่ง ผลลัพธ์ในตอนนี้จึงเป็นเหมือนกับผลงานศิลปะ […]

MP HOUSE บ้านโมเดิร์นทรงจั่ว ฟาซาดสวยด้วยบล็อกช่องลม

บ้านโมเดิร์นทรงจั่ว ส่วนผสมระหว่างออฟฟิศกับบ้านของคู่รักนักออกแบบ ปลอดโปร่งด้วยเพดานสูง และฟาซาดบล็อกช่องลม MP HOUSE หลังนี้ ตั้งอยู่ที่เมืองตาเงรัง (Tangerang) ประเทศอินโดนีเซีย เกิดขึ้นจากความต้องการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานให้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันในบ้านที่นี่จึงได้รับการออกแบบให้มี 2 หน้าที่หลัก โดยแบ่งเป็นสำนักงานที่อยู่ชั้นหนึ่งและกึ่งชั้นใต้ดิน ส่วนพื้นที่อยู่อาศัยของพวกเขาและพ่อแม่อยู่ชั้นบน ในส่วนของพื้นที่อยู่อาศัยมวลอาคารถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ประกอบด้วยพื้นที่กึ่งส่วนตัว ซึ่งรวมถึงมุมนั่งเล่นและรับประทานอาหาร โดยออกแบบให้อยู่ด้านหน้าของบ้าน ขณะที่พื้นที่ส่วนตัวอย่าง ห้องนอน จะอยู่ที่ด้านหลังของอาคาร ทั้งสองส่วนถูกคั่นด้วยสวนหิน ซึ่งมีการระบายอากาศที่เพียงพอ และได้รับแสงธรรมชาติจากฟาซาดบล็อกช่องลม ด้วยความที่บ้านหลังนี้มีหน้าที่เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและโฮมออฟฟิศ แยกส่วนพักผ่อนให้อยู่ชั้นบน ดังนั้นผู้สูงอายุในบ้านที่มีปัญหาการเดินขึ้นบันไดจึงอาจเกิดความยุ่งยากได้ เจ้าของจึงออกแบบให้มีทางลาดเพื่อเป็นตัวเชื่อมระหว่างชั้นแทนบันได สิ่งท้าทายและน่าสนใจที่สุดของบ้านหลังนี้ คือบริเวณมุมนั่งเล่นและรับประทานอาหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่สมาชิกในบ้านมักมาใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน ดังนั้นเพื่อให้เอื้อต่อการใช้งานจึงต้องออกแบบให้มีขนาดกว้างขวาง และมีเพดานยกสูงดูสว่างปลอดโปร่ง ช่วยระบายอากาศได้ดี การออกแบบบ้านให้มีหลังคาทรงจั่ว และใช้บล็อกรับลมสร้างลวดลายฟาซาดให้กับบ้าน ได้เอื้อให้พื้นที่พักผ่อนส่วนหน้าบ้านนี้ มีบรรยากาศที่ปลอดโปร่งจากฝ้าเพดานขนาดสูง และแสงแดดสามารถส่องเข้ามาถึงภายในได้อย่างเพียงพอผ่านบล็อกช่องลม ผลพลอยได้ที่ตามมาคือเอฟเฟ็กต์ของแสงเงาที่ลอดผ่านบล็อกช่องลม ช่วยตกแต่งให้ห้องดูสวยงามระหว่างวัน ขณะที่การตกแต่งใช้ธีมสีขาว เทา และดำ ล้อไปกับวัสดุส่วนใหญ่ที่ไร้การปรุงแต่ง ดูเป็นธรรมชาติ ก่อนสร้างมิติของบรรยากาศด้วยการออกแบบไลท์ติ้งตามส่วนต่าง ๆ ที่ต้องการขับเน้นและนำสายตา เป็นอีกดีเทลที่ช่วยให้บ้านบรรยากาศเรียบนิ่งดูมีชีวิตชีวาขึ้น   ออกแบบ […]

ATHA YOGA STUDIO สุขสงบ ผ่อนคลายในดีไซน์แบบออร์แกนิก

Atha Yoga Studio สตูดิโอโยคะกลางกรุง สงบ อบอุ่นในโอบกอดของเส้นสาย และองค์ประกอบจากธรรมชาติ มาพร้อม Plant-based Café เสิร์ฟอาหารสุขภาพตอบโจทย์การดูแลร่างกายทั้งจากภายนอกและภายใน ในพื้นที่ขนาด 250 ตร.ม. ซึ่งถูกแบ่งเป็นสองส่วนของ Atha Yoga Studio ตั้งอยู่คนละฝั่งของทางเดินภายในอาคาร ด้านหนึ่งเป็นห้องสตูดิโอหลัก Surya และคาเฟ่ ส่วนอีกด้าน เป็นส่วนห้องอาบน้ำ และห้อง Private Studio จำนวน 2 ห้อง – Chandra และ Anata สเปซโดยรวมได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์กับกิจกรรมโยคะเป็นหลัก จากพื้นที่ต้อนรับ ก่อนที่จะเข้าสู่สตูดิโอหลัก Surya นักออกแบบสร้างพื้นที่เก็บรองเท้าให้กลายเป็นเหมือนถ้ำขนาดเล็ก เสมือนพื้นที่เปลี่ยนผ่าน เพื่อปรับอารมณ์ของผู้ใช้งาน ที่สับสนวุ่นวายจากภายนอก ให้มีสมาธิและปลอดโปร่ง พร้อมสำหรับการฝึกโยคะ Main Studio สตูดิโอหลักอยู่ด้านเดียวกับช่องเปิดอาคาร จึงรับแสงธรรมชาติและรับรู้ถึงห้วงเวลาภายนอกอาคาร รูปทรงและเส้นสายโค้งเว้าของฝ้าเพดาน และระนาบผนังที่โอบล้อมอยู่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ และความลื่นไหลของท่าฝึกโยคะ  สร้างอารมณ์ขัดแย้งกับความเป็นเหลี่ยมมุมกระด้างของตัวอาคารโดยรอบอย่างตั้งใจ และด้วยพื้นที่จำกัด สเปซภายในสตูดิโอจึงเชื่อมต่อกับส่วนคาเฟ่ผ่านผนังกระจกโค้ง เพื่อเปิดมุมมองที่โปร่งโล่งขึ้น    ภายในห้องเน้นการใช้ไฟซ่อนในผนัง หรือส่องไฟเข้าเพดานเพื่อสร้างแสง […]

LIL HOUSE คาเฟ่ในบ้าน ตอบโจทย์ธุรกิจและวิถีชีวิตกลางธรรมชาติ

Lil house คาเฟ่ในบ้านหลังคาจั่ว 2 ชั้น เรียบง่าย ที่ดูธรรมดาแต่โดดเด่นท่ามกลางสีเขียวของทุ่งนาและท้องฟ้า ผสานบริบทและกลิ่นอายของธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ของเชียงราย ผ่านฝีมือการออกแบบของ ALSO Design studio ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอย 159 ตารางเมตร ตอบโจทย์การอยู่อาศัย และมีฟังก์ชันของคาเฟ่ขนาด 38 ที่นั่ง การออกแบบจึงให้ความสำคัญกับมุมมองและความรู้สึกของผู้ใช้งาน ทั้งลูกค้าคาเฟ่และผู้อยู่อาศัยที่ต้องใช้สเปซร่วมกัน โดยสะท้อนข้อได้เปรียบด้านที่ตั้งกลางธรรมชาติ ภายใต้งบประมาณที่สมเหตุสมผล Lil house จึงมีลักษณะเป็น “บ้าน” อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เหมาะสมกับบริบทที่ตั้ง ซึ่งเป็นพื้นที่โล่งของทุ่งนาและสวนต้นไม้ใหญ่ โดยมีการลดทอนฟังก์ชั่นของบ้านบางส่วน และเพิ่มเติมด้วยฟังก์ชั่นของคาเฟ่ สะท้อนวิถีชีวิตและความเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ พร้อมแฝงความอบอุ่นไว้ทุกมุม บริเวณทางเข้าสร้างความน่าสนใจด้วยแผ่นเหล็กดัดโค้งสีขาว โค้งรับกับประตูทางเข้า เมื่อก้าวเข้าไปภายในร้าน บันไดวนสีขาวเป็นจุดนำสายตา และเป็นส่วนที่เชื่อมชั้นบนและชั้นล่างเข้าด้วยกัน โดยพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นส่วนของคาเฟ่แบบอินดอร์ ในขณะที่บันไดวนพาขึ้นไปสู่ชั้นลอย ที่มีที่นั่งเป็นลักษณะบาร์ ต่อเนื่องกับระเบียงภายนอก ซึ่งมีที่นั่งแบบเอ้าต์ดอร์ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศ และการสัมผัสรับรู้ทั้งสายตา เสียง และความรู้สึกของผู้ใช้งาน นอกจากนี้ ส่วนระเบียงของรองรับการใช้งานในฐานะ “บ้าน” เชื่อมต่อกับส่วนห้องนอนและห้องน้ำอีกด้วย คาเฟ่แห่งนี้ได้รับการออกแบบให้ตอบโจทย์ในทุกมุมมอง ทั้งจากระยะไกล จากผู้ใช้งานภายนอก และผู้ใช้งานภายใน องค์ประกอบต่างๆ […]

RONGROS ร้านอาหารไทยริมน้ำ เปิดวิวมองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ

ร้านอาหารไทย ที่มีชื่อไทย ๆ ว่า RONGROS (โรงรส) เกิดจากการดัดแปลงโรงจอดรถเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้กลายมาเป็นอีกหนึ่งพื้นที่สังสรรค์ในย่านท่าเตียน บนทำเลที่มองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้เต็มสายตาไร้สิ่งบดบัง ตัวอาคารโรงรถเดิมได้รับการปรับปรุงใหม่ โดยรื้อส่วนหลังคาออกทั้งหมด แล้วก่อร่างเป็นอาคารเรือนกระจกเปิดเปลือยวัสดุ เสริมแรงด้วยโครงสร้างเหล็ก เพื่อให้อาคารเดิมยังสามารถใช้งานได้ดี และสามารถเปลี่ยนพื้นที่ชั้นดาดฟ้าเป็นมุมนั่งประทานอาหารกลางแจ้งได้ภายในร้านวางตำแหน่งเคาน์เตอร์บาร์และห้องครัวชิดขอบอาคารด้านหน้า แล้วเปิดพื้นที่ชิดแม่น้ำเป็นมุมรับประทานอาหารตลอดแนวผนังกระจก คุมโทนขรึมเข้มด้วยการเพ้นต์ผนังลายคราม ตัดสลับร่องรอยดิบกระด้างโดยการกะเทาะผิวหน้าผนังคอนกรีตให้เห็นแนวอิฐบางส่วนอีกหนึ่งจุดเด่นของร้านคือการผสานวัฒนธรรมอันหลากหลายทั้งไทย จีน และตะวันตกเข้าด้วยกัน ผ่านการใช้ของตกแต่ง เช่น การจัดวางเก้าอี้สไตล์วินเทจหลากหลายรูปแบบคละกันไปกับโต๊ะท็อปหินสีดำ แขวนประดับด้วยกรอบรูปภาพ วางฉากกั้นฉลุลายไม้กลิ่นอายจีน ตลอดจนแขวนโคมไฟระย้าเพื่อเสริมบรรยากาศให้ภายในร้านดูหรูหราและโรแมนติกมากยิ่งขึ้น – IDEAS TO STEAL – นำมู่ลี่ไม้ไผ่ที่มีความโปร่งเบามาใช้เป็นม่านบังแสงแดดยามบ่าย โดยไม่ทำให้พื้นที่ภายในดูมืดทึบ ที่ตั้ง329/16 ตรอกท่าเตียน ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯพิกัด https://goo.gl/maps/mtnRwFD1ihvNBxVh7เปิดทุกวัน 11.00 – 22.00 น.โทร.09-6946-1785เจ้าของ-ออกแบบ : คุณนัทธวัฒ ธาราภิบาลภาพ : ศุภกร ศรีสกุล

HAIR ATELIER BRUNO ออกแบบร้านตัดผม สไตล์เรียบง่าย ด้วยเสาไม้และอะลูมิเนียม DIY

ออกแบบร้านตัดผม ที่ซ่อนอยู่ในอาคารเก่าอายุ 34 ปี ของเมืองอาตามิ จังหวัดชิซูโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ให้มีบรรยากาศน่าสนใจกับการใช้วัสดุที่เรียบง่ายอย่าง เสาไม้ และอะลูมิเนียม ผสานด้วยเทคนิคและกระบวนการกึ่ง DIY สุดประณีต Hair Atelier Bruno คือตัวอย่างของการ ออกแบบร้านตัดผม ที่นำแนวคิดแบบ DIY มาจับ ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่สามารถใส่กระบวนการแนวคิดสุดสร้างสรรค์ เปลี่ยนชั้นล่างของอาคารขนาด 5 ชั้น ที่อยู่หันหน้าออกไปยังถนนใกล้สี่แยกของเมือง จากจุดเด่นของทำเลที่พลุกพล่าน Yuji Tanabe Architects จึงออกแบบร้านให้สามารถมองเห็นการตกแต่งที่น่าสนใจด้านใน ผ่านผนังกระจกใสที่กรุอยู่โดยรอบ ขณะเดียวกันก็พรางสายตาเพื่อความเป็นส่วนตัวของลูกค้า ด้วยฉากกั้นที่ทำจากเสาไม้โค้งไปตามแนวพื้นที่ใช้งาน ฉากกั้นไม้ที่กล่าวถึงนี้ สถาปนิกใช้ชื่อเรียกว่า Ku-ki Bei (หมายถึงผนังอากาศ) เป็นเสาไม้ที่เรียงรายเป็นช่วง ๆ เพื่อแยกส่วนพื้นที่ ขณะเดียวกันก็ยังยอมปล่อยให้แสง ลม และแมว! ของเจ้าของร้านเดินผ่านไปได้ และเมื่อมอง Ku-ki Bei ขนานไปกับแนวสายตา เสาไม้นี้ก็จะกลายเป็นแนวช่วยพรางสายตาไปในตัว โดยเสาไม้ทั้งหลายนี้จะถูกเชื่อมต่อด้วยแผ่นอะลูมิเนียมชุบอโนไดซ์หนา 1.5 มิลลิเมตร ซึ่งตัดด้วยเลเซอร์ […]