Commercial Space Archives - Page 22 of 79 - room

CHERNYI บาร์ที่ใช้แสงไฟในการดึงดูดใจคุณประหนึ่งเป็นแมงเม่าตัวน้อย

บาร์ CHERNYI ตั้งอยู่ยังจุดศูนย์กลางของเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน โดยวางตัวอยู่ในชั้นล่างของอาคารที่พักอาศัย โดยก่อนตัดสินใจรีโนเวตพื้นที่นี้ เจ้าของได้ทำการรื้อพาร์ทิชั่นเดิมออกทั้งหมด แล้วขยายช่องแสงด้วยการทลายหน้าต่างให้มีความสูงเพิ่มขึ้นจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ก่อนจะแทนที่ด้วยกระจกสี รวมถึงทำประตูทางเข้าให้สามารถเข้าถึงได้จากถนนหลัก สำหรับความท้าทายในการรีโนเวตร้าน CHERNYI ครั้งนี้ นั่นก็คือโครงสร้างเสา 2 ต้น ที่ยังคงอยู่กลางพื้นที่ สถาปนิกจึงแบ่งการใช้งานทั้งหมดออกเป็นโซนเล็ก ๆ โดยแต่ละโซนจะมีฟังก์ชันที่ต่างกันออกไป โดยมีแนวคิดที่มาจากการสังเกตพฤติกรรมของแมงเม่าที่มักหลงเพริดไปกับแสงสี มาใช้ในการออกแบบพื้นที่ที่มีทั้งมืดและสว่างในการดึงดูดผู้คน “Chernyi” ถูกออกแบบสเปซให้มีแสงและเงาซึ่งเป็นที่มาของสีดำ สะดุดตาด้วยการเพิ่มพื้นผิวสะท้อนแสงเรียบลื่นในส่วนของเคาน์เตอร์เพื่อเสริมลุคให้ดูหรูหราและสร้างมิติที่หลากหลายลุ่มลึก โดยเท็กซ์เจอร์ที่เห็นเกิดจากความร่วมมือกับ TSEKH ในการสร้างผนังใหม่กับผิวสัมผัสทรายควอตซ์สีดำ ซึ่งเกิดจากการทดลองสัดส่วนระหว่างผนังทรายกับผนังแบบทาสี จนเกิดเป็นภาพในอุดมคติในที่สุด และเพื่อลดทอนความแข็งกระด้างของพื้นผิวทราย จึงได้เพิ่มสเตนเลสขัดเงาลงไป ซึ่งต้องใช้มืออาชีพและความชำนาญในการทำเป็นพิเศษ ทีมผู้ออกแบบจึงตัดสินใจสะท้อนความเป็นมืออาชีพในการชงกาแฟและค็อกเทลผ่านผิวสัมผัสนี้ เราจึงเห็นผิวสัมผัสดังกล่าวปรากฏอยู่บนทั้งพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ ผนัง และฝ้าเพดาน เพื่อสร้างการสะท้อนที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ โดยการทำฝ้าเพดานซ้อนอีกชั้นในระดับที่ต่ำลงมานั้น ก็ยังช่วยให้เกิดช่องว่างสำหรับใช้ซ่อนท่อระบายอากาศและหลอดไฟ ก่อให้เกิดเอ็ฟเฟ็กต์ดึงดูดใจให้หลงใหลเข้าไปกับแสงสีแบบไม่รู้ตัว ออกแบบ: Ponomarenko bureau ภาพ: Ivan Avdeenko photography เรียบเรียง: BRL ESCAPE BANGKOK เติมอารมณ์ให้สายปาร์ตี้ไปกับบีชบาร์สไตล์บาหลี CACTUS BANGKOK […]

GOOSE LIVING บูติกโฮเทลสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัลในตึกแถวเก่า

จากโมเมนต์ประทับใจในสวนสาธารณะกลางมหานครนิวยอร์กสู่บูติกโฮเทลสไตล์โมเดิร์นทรอปิคัลใจกลางเมือง GOOSE living โรงแรมและคาเฟ่ในตึกแถวเก่าย่านสุขุมวิท คือผลลัพธ์จากการตีความการพักผ่อนรูปแบบใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ “living a goose life… wild, fresh and free.”  หลังจากจบการศึกษาด้านการทำอาหารที่นิวยอร์ก คุณสราภา เวชภัทรสิริ กลับมาพร้อมกับความทรงจำ และโมเมนต์สุดประทับใจ เพื่อเริ่มต้นต่อยอดความฝันในการสร้างสรรค์ร้านอาหารและโรงแรมใจกลางกรุง  ด้วยเหตุนี้ อาคารพาณิชย์ 2 คูหาเก่าแก่ของครอบครัวย่านพระโขนงอายุกว่า 40 ปี แห่งนี้ จึงได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นทั้งบูติกโฮเทล และร้านอาหาร ภายใต้แนวคิดที่ได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของ ‘goose’ หรือ ‘ห่าน’ ที่อาศัยท่ามกลางธรรมชาติอย่างเรียบง่ายและรักอิสระ ซึ่งเป็นความประทับใจที่คุณสราภาได้พบเห็นระหว่างเดินเล่นในสวนสาธารณะกลางนิวยอร์ก GOOSE living จึงเชิญชวนทุกคนมาใช้ชีวิตในไลฟ์สไตล์ที่เรียบง่าย ยืดหยุ่น หากแต่แฝงไปด้วยมุมมองที่กล้าจะทดลองประสบการณ์ใหม่ โครงการนี้ได้ทีมสถาปนิกจาก SIM STUDIO มารับหน้าที่ชุบชีวิตตึกแถวเก่า 5 ชั้น แห่งนี้ ให้กลับมาสร้างชีวิตชีวาให้ย่านสุขุมวิท 71 อีกครั้ง พื้นที่ใช้สอยขนาด 900 ตารางเมตร ประกอบด้วยพื้นที่คาเฟ่บนชั้นล่าง ห้องพัก 20 ห้อง และบาร์บนชั้นดาดฟ้า พื้นที่ภายในออกแบบผ่านการตีความจากที่อยู่อาศัยของฝูงห่าน […]

เอฟ.วี คาเฟ่กึ่งแกลเลอรี่ย่านทรงวาด ที่มีเรือนไทยอีสานกลางตึกแถว

เอฟ.วี (F.V) ตั้งอยู่ในตึกแถวย่านทรงวาด ที่นี่คือคาเฟ่กึ่งแกลเลอรี่ที่ไม่ลับแต่ซับซ้อนและน่าค้นหามากที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนี้ ด้วยแนวความคิดที่จะพัฒนาต่อยอด “สิ่งที่ไม่มีใครต้องการหรือมองข้าม” อย่างทรัพยากรจากผืนดิน น้ำ หรือพืชพรรณธัญญาหารของไทย เพื่อสร้างสรรค์ความเป็นไปได้ใหม่ พร้อมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และเป็นส่วนหนึ่งของรากฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืน . แนวคิดการก่อตั้ง เอฟ.วี เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2559 หรือในช่วงหลังการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้คุณโอภาส จันทร์คำ เจ้าของโครงการต้องการที่จะสานต่อความดี และทำให้ที่นี่กลายเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาความยั่งยืนให้เเก่ประเทศไทย จากความตั้งใจนี้ได้รับการส่งต่อให้กับทีมบริหารโครงการที่หวนกลับไปพิจารณาถึงทรัพยากรอันล้ำค่าในบ้านเรา นั่นก็คือดิน น้ำ และพืชพรรณธัญญาหารทั้งหลาย ที่แม้จะสำคัญมากขนาดไหน แต่ทรัพยากรเหล่านี้กลับถูกเพิกเฉยด้านการให้คุณค่า จึงเป็นที่มาของแนวคิดการออกแบบ “UNWANTED” ที่พยายามดึงสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่มีใครต้องการกลับมาสร้างคุณค่าให้กับตัวเองและชุมชนต่อไป F.V หรือ Fruit and Vegetable คือชื่อของร้านที่ต้องการแสดงถึงความตรงไปตรงมาเพื่อสื่อถึงผลิตภัณฑ์ผ่านการตั้งใจเลือกสรรพืชพรรณต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งผัก และผลไม้ที่หาได้ทั่วไปตามฤดูกาลมาสร้างคุณค่า และความหมายในรูปแบบที่ตอบโจทย์ ไลฟ์สไตล์ผู้คนยุคปัจจุบัน ผ่านการวิจัยอย่างเป็นระบบและได้มาตรฐาน เพื่อให้ได้สัดส่วนของส่วนประกอบที่มีประโยชน์ต่อร่างกายลูกค้า โดยมีเมนูยอดฮิตอย่างชาไมยราบ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยให้หลับสบาย และมะกรูดเชื่อม สมุนไพรขึ้นชื่อของไทยที่มีกลิ่นหอมชวนผ่อนคลาย นอกจาก 2 เมนูนี้เเล้วยังมีเครื่องดื่ม […]

NAN BEI ร้านอาหารจีนที่เจือกลิ่นอายโมเดิร์นวินเทจสุดฟู่ฟ่ากลางใจเมือง

ห้องอาหารจีนบนโรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านของจีนเรื่อง “หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า” ตำนานความรักต้องห้ามระหว่างหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลกมนุษย์กับสาวทอผ้าในดินแดนสวรรค์ ที่มีทางช้างเผือกเป็นสะพานเชื่อมทั้งสองให้ได้มาพบกัน Nan Bei “Nan Bei” ที่ได้ชื่อร้านมาจากภาษาจีน “Nan” ที่แปลว่าทิศเหนือ กับ “Bei” ที่แปลว่าทิศใต้ ได้นำเสนอเรื่องราวนิทานผ่านการจัดวางผังร้านที่เน้นความสมมาตร และการออกแบบห้องแต่ละห้องให้พ้องกับเรื่องเล่าในนิทาน เริ่มจากส่วนต้อนรับ ที่แขกจะพบกับโซน “Moon Gate” เป็นมุมถ่ายรูปหน้าโถงกระจกห้อยประดับด้วยงานออกแบบแสงระยิบระยับเป็นตัวแทนของจักรวาลพระจันทร์ที่กั้นช่องทางเดินแบ่งเป็น 2 ฝั่งที่จะนำพาไปสู่ส่วนหลักของร้านอาหารภายในอันจะพบกับครัวโชว์ ที่แบ่งตามคอนเซ็ปต์ร้านอย่างชัดเจน เช่น ทิศเหนือ เป็นที่ครัวที่เสิร์ฟเป็ดปักกิ่งและบรรดาอาหารย่าง ในขณะที่ทิศใต้จะเสิร์ฟอาหารทะเลในนี้ออกแบบให้มีที่นั่ง Long Table ตรงกลาง และบาร์ประกบส่วนประกอบอาหาร 2 ฝั่งเพื่อชมเชฟในขณะปรุงได้ ได้ขณะที่ทิศตะวันออก เป็นส่วนของห้องส่วนตัว 2 ห้องขนาดใหญ่และเล็กออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์การเป็นห้องฝั่ง “คนเลี้ยงวัว” ที่ประกอบด้วยภาพบนผนังตามเรื่องเล่าในนิทาน และการออกแบบองค์ประกอบทั้งโคมไฟและเฟอร์นิเจอร์ที่สื่อถึงหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลกมนุษย์ เช่นเดียวกับฝั่งตะวันตกที่เป็นส่วนของบาร์และเลานจ์แอลกอฮอล์ เป็นส่วนของ “หญิงทอผ้า” ที่มีการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ที่อิงจากสาวทอผ้าบนสรวงสวรรค์ ภาพรวมของร้านต้องการออกแบบเพื่อสื่อถึงความเป็นตะวันออกโดยเน้นไปที่ความโมเดิร์นของเมืองเซี่ยงไฮ้ในยุค Mid-Century ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ฟู่ฟ่าโดยเน้นสีเขียว เหลือง น้ำเงิน และการใช้โลหะที่ขับเน้นเอกลักษณ์ของร้านได้ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์น่าจดจำ เจ้าของ […]

BURAPA EASTERN THAI CUISINE & BAR ร้านอาหารไทยในโบกี้รถไฟย้อนยุค

“บูรพา” ที่แปลว่าทิศตะวันออก เป็นที่มาของชื่อร้าน Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar ที่เน้นการรังสรรค์เมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างภาคตะวันออกกับภาคเหนือ ในรูปแบบอาหาร Thai regional fine dining จากแนวคิดของเจ้าของร้านที่ต้องการเชื่อมพรมแดนของทั้ง 2 ภูมิภาคของไทยเข้าหากัน ผ่านการออกแบบร้านในตึกแถว 3 ชั้น เป็นเสมือนโบกี้รถไฟ ซึ่งคนทั้ง 2 ภูมิภาค ใช้นำวิถีชีวิตรวมถึงอาหารของพวกเขา เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างเมืองกรุงเทพฯ เป็นตัวกำหนดทิศทางการออกแบบร้าน Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar โดยมีคอนเซ็ปต์การทำโบกี้รถไฟแบบที่ย้อนไปสู่ยุคแรก ๆ ที่คนสยามพึ่งพารถไฟเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง อย่างในยุครัชกาลที่ 5 แต่ในรูปแบบที่หรูหราขึ้น หรือเป็นโบกี้รถไฟสำหรับท่องเที่ยวของคนชั้นสูง แบบที่อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้สัมผัส ภาพลักษณ์ของร้านจึงอ้างอิงไปสู่ศิลปะและองค์ประกอบการตกแต่งในแบบ Art Deco ตอนช่วงราวต้นศตวรรษที่ 20 ที่โดดเด่นที่การใช้โลหะ และเส้นสายที่ดูวิจิตรซึ่งการตกแต่งในร้านแบ่งออกเป็น 3 แบบแตกต่างกันไปตามการใช้งานในแต่ละชั้น เริ่มจากชั้น 1 เป็นบาร์และส่วนรับประทานอาหารกลางแจ้งใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก เมื่อขึ้นมาชั้น […]

LENNON’S บาร์ลับย่านเพลินจิตกลิ่นอายย้อนยุคบนชั้นสูงสุดของโรงแรม ROSEWOOD BANGKOK

LENNON’S ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของโรงแรมหรู Rosewood Bangkok ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องบันทึกเสียงแบบโฮมสตูดิโอกับการตกแต่งที่พาย้อนไปสู่ยุค Vienna Secession หรือยุคของงานศิลปะที่แสดงความรุ่มรวยและฟู่ฟ่าของสังคมยุคปลายศตวรรษที่ 19 บาร์ลับย่านเพลินจิต แห่งนี้ โดดเด่นทั้งการตกแต่งและล้นไปด้วยแผ่นเสียงไวนิล ที่ใช้เปิดในร้าน “Lennon’s” และใช้โชว์ตกแต่งไปในตัว นับรวมกันแล้วมีมากกว่า 6,000 แผ่น นับตั้งแต่ทางเข้าจากโถงลิฟต์ ซึ่งจะพบกับโซนโชว์และจำหน่ายแผ่นเสียงจำนวนนับไม่ถ้วนสำหรับเป็นส่วนต้อนรับ ก่อนจะนำเข้าสู่ตัวบาร์ที่โดดเด่นด้วยผนังกระจกเผยทัศนียภาพของเมืองกรุงเทพฯ อย่างเต็มตา พื้นที่บาร์ตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยการเน้นองค์ประกอบของแสงไฟตามแบบอย่างการออกแบบตกแต่งในยุค Vienna Secession รวมถึงการใช้ทองเหลือง ไม้วอลนัท และหินอ่อนสีเทาที่กลมกลืนและสร้างบรรยากาศชวนสนุก พื้นที่นั่งแบบเลานจ์สำหรับกลุ่มเพื่อนถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง กรุพื้นด้วยไม้สีเข้ม กรุผนังด้วยผ้าบุสีชมพูอ่อน และองค์ประกอบการตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจจากบรรดาเครื่องดนตรีทองเหลือง ในที่นี้ จะพบบันไดเวียนโลหะสีดำที่ตกแต่งโดยรอบด้วยศิลปะแบบ Vienna Secessionที่นำไปสู่ห้องเลานจ์สำหรับสูบบุหรี่ โดยรวมแล้วที่นี่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากความเฟื่องฟูของยุควินเทจ และแรงบันดาลใจจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ปรากฏทั้งเป็นองค์ประกอบตกแต่งทั่วร้าน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบโคมไฟและแสง ที่เป็นส่วนประกอบหลักของที่แห่งนี้ก็ว่าได้ เจ้าของ: Rende Development Co., Ltd. ออกแบบ: AvroKO ภาพ : Owen Reggett […]

“จากภูเขาสู่ทะเล กับการตีความใหม่ของบริบทธรรมชาติในเพชรบุรี” VALA HUA HIN – NU CHAPTER HOTELS

ประสบการณ์ใหม่ในเวิ้งอ่าวหัวหิน-ชะอำที่บูทีคโฮเทล VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels ซึ่งตีความบริบท Geography Identical ของจังหวัดเพชรบุรีออกมาเป็นงานออกแบบ และพื้นที่ที่แตกต่างกันภายในโรงแรมได้อย่างน่าสนใจ Journey of Transition เริ่มต้นตั้งแต่บริเวณล็อบบี้ของโรงแรม พื้นที่ส่วนนี้ออกแบบให้เป็นป่าอยู่ภายในครอบแก้วขนาดยักษ์คล้ายเทอร์ราเรียม นำพาสู่บริเวณสระว่ายน้ำที่ใช้คอนเซ็ปต์ของ Lagoon หรือเวิ้งน้ำ ซึ่งมีภูเขาคืออาคารที่พักรายล้อม เมื่อผ่านเข้าสู่บริเวณ Beach Front จะสามารถเดินออกไปสู่พื้นที่ส่วนตัวในโซนวิลลาได้ ในส่วนนี้ได้ออกแบบให้เป็นเหมือนกับโอเอซิสที่มีพื้นที่ริมทะเลแบบส่วนตัว พร้อมสระว่ายแบบพูลวิลลา การเปลี่ยนผ่านพื้นที่เหล่านี้เป็นเหมือนการได้เดินทางไปในบริบทของเมืองเพชรบุรีที่รุ่มรวยไปด้วยธรรมชาติทั้งภูเขาและทะเลที่สวยงาม ความพิเศษของ VALA Hua Hin – Nu Chapter Hotels คือความตั้งใจที่จะพัฒนาความยั่งยืนทั้งในแง่ของวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ในส่วนของสิ่งแวดล้อมนั้น ทางโรงแรมมีการเลือกใช้วัสดุที่ย่อยสลายง่าย การทำฟาร์มเกษตรอินทรีย์ และนำวัตถุดิบที่ได้มาใช้ในเมนูต่าง ๆ ของโรงแรม รวมทั้งยังมีความตั้งใจดึงเอาวัตถุดิบในท้องถิ่น เช่น ผักผลไม้ตามฤดูกาล หรืออาหารพื้นถิ่นมาประยุกต์ในแบบ Modern Twist ซึ่งนั่นยังรวมไปถึงเครื่องดื่มซิกเนเจอร์สูตรพิเศษที่ทางโรงแรมได้ออกแบบร่วมกับ Vesper บาร์ชื่อดังที่ติดอันดับที่ […]

HOTEL SOU โรงแรมญี่ปุ่นสไตล์ลอฟต์ เล่าความเท่ผ่านเปลือกอาคารที่(ดู)รกร้าง

รีโนเวตตึกแถวเก่า ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 บนเกาะฟุกุเอะทางตะวันตกของจังหวัดนะงะซะกิ ประเทศญี่ปุ่น ให้กลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง พร้อมรูปลักษณ์ที่ชวนฉงนว่าที่นี่คือตึกร้างที่เพิ่งโดนทุบ! หรือโรงแรมดีไซน์เท่กันแน่? hotel sou จากบริบทของที่ตั้งของ hotel sou ซึ่งเป็นเกาะเล็ก ๆ มีความเจริญรุ่งเรืองจากการผสมผสานของวัฒนธรรมต่างชาติที่หลากหลายผ่านการค้าขายมาตั้งแต่สมัยโบราณ กระทั่งถึงปัจจุบันก็ยังรายล้อมไปด้วยร้านกาแฟ ร้านอาหาร ถนนสายช้อปปิ้ง และอยู่ใกล้กับท่าเรือ ศักยภาพดังกล่าวจึงเป็นที่มาของการรีโนเวตโรงแรมขนาด 3 ชั้น เพื่อเปิดบริการใหม่ โดยยกให้เป็นหน้าที่ของทีมสถาปนิกจาก SUPPOSE DESIGN OFFICE กับแนวคิดที่ไม่ได้ต้องการสร้างสิ่งใหม่ แต่ต้องการให้อยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืนกับสิ่งที่มีอยู่ตัวอาคารด้านนอกของ ทุกคนจะได้สะดุดตากับภาพตึกสีเทาที่ถูกทุบผนังด้านหน้าออกจนเกือบหมด เหลือเพียงขอบผนังปูนที่เป็นซุ้มโค้งเผยให้เห็นเลเยอร์แบบดิบ ๆ ก่อนจะใส่บานหน้าต่างกระจกใสขนาดใหญ่ซ้อนทับอีกชั้น ลดความดิบกระด้างของโครงสร้างคอนกรีต ด้วยสวนริมระเบียงที่บริเวณห้องพักชั้น 2 – 3 ที่เน้นปลูกพรรณไม้นานาชนิดแบบเหมือนไม่ตั้งใจ ดูผสมผสานกันราวกับขึ้นเองตามธรรมชาติเมื่อเข้ามาด้านใน แต่ละห้องพักของที่นี่ซึ่งมีทั้งหมด 3 ประเภท คือ ห้องพักแบบสวีท ห้องพักแบบเตียงเดี่ยว และห้องพักแบบแฟมิลี่รูม โดยแขกจะสัมผัสได้กับบรรยากาศเรียบนิ่งจากคอนกรีตเปลือยไร้การปรุงแต่ง แต่อบอุ่นเป็นกันเองจากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอ่อนจับคู่กับงานจักสานวัสดุธรรมชาติที่ดูสว่างละมุนตาลดความอับทึบของอาคารลักษณะตึกแถว ด้วยการออกแบบภายในให้โปร่งโล่งจากการทุบผนังออกทั้งด้านหน้าและหลัง อันเป็นการเบลอขอบเขตระหว่างภายในกับภายนอก ที่ยอมแสงและอากาศให้หมุนเวียนถ่ายเทได้สะดวกอีกทั้งในแต่ละห้องพักยังจัดให้มีมุมสวนริมระเบียง ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่พบทั่วไปในพื้นที่ […]