Restaurant Archives - Page 5 of 10 - room

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ในบรรยากาสย้อนยุคสุดคลาสซี่

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คุณได้มาดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติก ที่สามารถมองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณฯได้อย่างชัดเจน จัดเสิร์ฟเมนูอาหารไทยที่ผสมผสานตะวันตกอย่างร่วมสมัย เคล้าไปกับเครื่องดื่มที่นำวัตถุดิบอย่างไทยมาเป็นส่วนผสม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้มองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้อย่างชัดเจน เจ้าของร้านจึงตั้งใจตั้งชื่อร้านว่า “ท่าอรุณ” ตามทำเลอันโดดเด่น เมื่อประกอบกับความชอบในงานวินเทจยุครัชกาลที่ 4 – 5 ทางร้านจึงได้ออกแบบตกแต่งร้านโดยใช้แนวคิด “เห่อฝรั่ง” ตามยุคสมัยที่สยามได้เคยเป็นเมืองท่าสำคัญในการค้าขาย เเละรับอิทธิพลวัฒนธรรมเเบบยุโรปมาใช้ในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทัดเทียบกับนานาอารยประเทศในเวลานั้น ภายนอกร้านออกแบบโดยใช้โครงสร้างเหล็กสีดำผสมกับไม้ประกอบกับกระจก เพื่อให้มองเห็นภายในร้านได้อย่างชัดเจน โลโก้ออกแบบโดยอ้างอิงจากงานกราฟิกยุคโบราณ ขณะที่บรรยากาศด้านในดูวิจิตรหรูหราอย่างกับบ้านเรือนในยุโรป แต่แอบเเทรกกลิ่นอายสไตล์ไทย จีน โปรตุเกส และฝรั่งเศส ไว้ในส่วนของการตกแต่งต่าง ๆ เช่น การก่อผนังอิฐเปลือยเป็นดั่งกำแพง เข้ากันได้ดีกับผนังด้านหนึ่งซึ่งออกแบบเลียนแบบตู้ยาจีนสูงจากพื้นจรดเพดาน เพดานติดโคมไฟระย้าสไตล์ยุโรปขับให้ห้องสีมืดทึมดูสว่างและอ่อนหวานขึ้น ทั้งนี้ยังตกแต่งฝ้าเพดานด้วยกรอบกระจกเพิ่มลูกเล่นและสร้างมิติให้ร้านดูสูงโปร่ง ส่วนอาหารที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารไทยแต่ปรับรูปลักษณ์ให้ดูสวยทันสมัยมากขึ้น สมกับการตั้งใจให้บรรยากาศเป็นแบบย้อนยุคแต่คลาสซี่แบบ “เห่อฝรั่ง” อย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากจะได้ดื่มด่ำรสชาติอาหาร และฟุ้งไปกับกลิ่นอายความศิวิไลซ์ที่เหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต สมกับที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำแล้ว ยังจะได้สัมผัสชีวิตริมน้ำและชุมชนเก่าแก่รอบเกาะรัตนโกสินทร์อีกด้วย ที่ตั้ง : 392/61 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เวลาทำการ : วันจันทร์-พฤหัสบดี 11.30 น. […]

DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่น จำลองกลิ่นอายยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายย้อนยุคแห่งนี้มีชื่อว่า DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ดูโดดเด่นกับการจำลองภาพบรรยากาศของร้านให้เหมือนอยู่ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่รายล้อมไปด้วยของสะสมสไตล์วินเทจ และโครงสร้างอาคารเก่าที่ยังคงเก็บรักษาองค์ประกอบที่มีเสน่ห์แห่งวันวานเอาไว้ จากชื่อร้านที่เห็นนั้น มีชื่อย่อจากอักษรจีน 3 คำ คือ DAO刀 TU 涂 และ FOOK 福 ซึ่งหมายถึง 3 สิ่ง คือ กระบี่ (หรือนัยหนึ่งคืออาวุธในการทำอาหาร) การประยุกต์แนวทางของศิลปะและการภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรวมไปถึงเป็นการย่อคำแบบภาษาอังกฤษจากคำว่า “Down To Food” ที่ต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์อันถ่อมตน และการใส่ใจกับคุณภาพอาหารในบรรยากาศแบบเอเชีย DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE เบื้องต้นอาคารแห่งนี้เป็นบ้านเดิมของครอบครัวเจ้าของร้าน ถูกบูรณะโดยสร้างภาพลักษณ์ของร้านให้ย้อนยุค เป็นดั่งภาพของร้านอาหารในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยโครงสร้างทั้งหมดเกิดจากการปล่อยโครงสร้าง ผนัง เพดาน พื้น ให้เป็นของเดิมของอาคารนี้ทั้งหมด เพิ่มเติมเพียงเคาน์เตอร์บาร์หน้าบันไดซึ่งออกแบบใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน โดยก่อล้อมเสาเดิมและกรุกระเบื้องสีเขียว ซึ่งก็เป็นกระเบื้องเดิมที่พบอยู่กับตัวบ้านเช่นกัน ด้านหน้าร้านถูกทุบผนังใส่โครงสร้างเหล็กติดกระจกบานใหญ่ แต่บังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยรางม่านสไตล์ย้อนยุค […]

YORK BAR BY DUMBO แจ๊สรูฟท็อปบาร์ย่านพหลโยธิน ดื่มด่ำวิวกรุงเทพฯ ได้อารมณ์แบบนิวยอร์ก

ใครชอบกลิ่นอายบาร์สไตล์อินดัสเทรียลแบบอเมริกัน York Bar by Dumbo บาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร INN-Office Building ถนนพหลโยธิน คือคำตอบ ! เพราะทุกอณูได้ถูกแต่งแต้มให้ชวนนึกถึงเมืองนิวยอร์ก เท่แต่ไม่ดุดัน วินเทจแต่ไม่หวานจนเลี่ยน จึงเหมาะมาแฮ้งเอ๊าต์ยามค่ำกับคนรัก หรือเพื่อน ๆ  สัมผัสกับวิวเมืองย่านพหลโยธิน มองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งฝ่าความมืดท่ามกลางแสงสีของกรุงเทพฯ York Bar by Dumbo คือบาร์ลับที่ซ่อนตัวอยู่บนชั้น 5 ของอาคาร INN-Office Building ถนนพหลโยธิน ซึ่งมีหุ้นส่วนเป็นเจ้าของเดียวกับร้าน Dumbo Jazz & Vinyl Bar บนชั้น 6 ของตึก เป็นที่มาของการตั้งชื่อร้านทั้งสองให้สอดคล้องกัน เพราะหากเราจะไปย่านดัมโบ้ที่นิวยอร์ก เราต้องขึ้นรถไฟใต้ดินที่สถานี York เสียก่อน ซึ่งก็เชื่อมโยงกันกับทำเลที่ตั้งของร้านนี่เช่นกัน เพราะสามารถมองเห็นรถไฟฟ้าวิ่งผ่านหน้าอาคารได้อย่างพอดิบพอดี จากโครงสร้างอาคารพาณิชย์เดิมที่เคยเป็นร้านเพชรมาก่อน การออกแบบนั้นใช้การคงเหล็กดัดหน้าต่างรอบ ๆ อาคารไว้ ซึ่งมีซี่เป็นเส้นตรงธรรมดา ทว่ามีเอกลักษณ์ นอกจากนั้นยังเก็บผนังปูนเเละเพดานโชว์คานเอาไว้ โดยผู้ออกแบบได้เพิ่มผนังด้านหนึ่งเป็นกระเบื้องจัตุรัสสีขาว […]

“แกงเวฬา” รีโนเวตโกดังเก่าให้กลายเป็นร้านข้าวแกงน่านั่งสไตล์วินเทจ

บนพื้นที่ใกล้แยกต้นเกว๋น ของถนนรอบเมืองเชียงใหม่ โกดังเก็บของเก่าหลังหนึ่งถูกรีโนเวตให้กลายเป็นร้านอาหารสไตล์วินเทจในชื่อ “แกงเวฬา” มีดีที่แกงมัสมั่น และเมนูแกงต่าง ๆ ที่ผลัดเปลี่ยนกันมาเรียกน้ไย่อยแบบไม่ให้ซ้ำ การปรับปรุงร้านเริ่มจากการรื้อหลังคาเดิมที่ปิดทึบและทำความสะอาดพื้นที่ภายใน แต่เหลือโครงสร้างที่สูงโปร่งไว้อย่างเดิมและเติมหลังคาแบบโปร่งเข้าไปภายหลัง จากนั้นออกแบบฟาซาดหน้าร้านด้วยการใช้ผนังดินอัดตอกมือเพื่อสร้างเอกลักษณ์ ประกอบกับการออกแบบประตูทางเข้าเป็นห้องโถงทำจากเหล็กที่ช่วยดึงดูดสายตา ในขณะที่พื้นที่ภายในไม่ได้ตกแต่งมากมาย เพียงแต่ใช้เฟอร์นิเจอร์เก่าที่เป็นของสะสมและการประดิษฐ์เองจากความชอบของเจ้าของ โดยแบ่งฝั่งหนึ่งสร้างเป็นเตาย่างถาวรที่จะใช้กับร้านบาร์บีคิว ส่วนที่เหลือเป็นการวางเคาน์เตอร์ข้าวแกง และชุดโต๊ะรับประทานอาหารกระจายไปทั่วร้าน และมีการปรับเปลี่ยนการจัดวางตามความต้องการการใช้งานที่เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ความน่าสนใจอยู่ที่การใช้ประโยชน์จากความโปร่งเบาของโครงสร้าง เปิดรับแสงธรรมชาติช่วยสร้างบรรยากาศน่าสบายเป็นกันเอง เข้ากับการใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้สอยได้ตามรูปเเบบร้านที่เปลี่ยนไปเสมอ ๆ เจ้าของ-ออกแบบ : คุณฮะนีฟ พิทยาสาร, คุณรัชดาพล หมื่นหนู เเละคุณชิดชนก หมื่นหนู ที่ตั้ง แยกต้นเกว๋น ตำบลหนองควาย อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ เปิดเฉพาะวันจันทร์ ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์  เวลา 8.30 น.-14.00 น. โทร. 06-2449-9425 www.facebook.com/kangvela รีโนเวตโกดังยาทัมใจอายุกว่าร้อยปี ให้กลายเป็นร้านอาหารเวียดนาม การันตีความอร่อยด้วยเชฟจากดุสิตธานี

CHERNYI บาร์ที่ใช้แสงไฟในการดึงดูดใจคุณประหนึ่งเป็นแมงเม่าตัวน้อย

บาร์ CHERNYI ตั้งอยู่ยังจุดศูนย์กลางของเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน โดยวางตัวอยู่ในชั้นล่างของอาคารที่พักอาศัย โดยก่อนตัดสินใจรีโนเวตพื้นที่นี้ เจ้าของได้ทำการรื้อพาร์ทิชั่นเดิมออกทั้งหมด แล้วขยายช่องแสงด้วยการทลายหน้าต่างให้มีความสูงเพิ่มขึ้นจากพื้นจรดฝ้าเพดาน ก่อนจะแทนที่ด้วยกระจกสี รวมถึงทำประตูทางเข้าให้สามารถเข้าถึงได้จากถนนหลัก สำหรับความท้าทายในการรีโนเวตร้าน CHERNYI ครั้งนี้ นั่นก็คือโครงสร้างเสา 2 ต้น ที่ยังคงอยู่กลางพื้นที่ สถาปนิกจึงแบ่งการใช้งานทั้งหมดออกเป็นโซนเล็ก ๆ โดยแต่ละโซนจะมีฟังก์ชันที่ต่างกันออกไป โดยมีแนวคิดที่มาจากการสังเกตพฤติกรรมของแมงเม่าที่มักหลงเพริดไปกับแสงสี มาใช้ในการออกแบบพื้นที่ที่มีทั้งมืดและสว่างในการดึงดูดผู้คน “Chernyi” ถูกออกแบบสเปซให้มีแสงและเงาซึ่งเป็นที่มาของสีดำ สะดุดตาด้วยการเพิ่มพื้นผิวสะท้อนแสงเรียบลื่นในส่วนของเคาน์เตอร์เพื่อเสริมลุคให้ดูหรูหราและสร้างมิติที่หลากหลายลุ่มลึก โดยเท็กซ์เจอร์ที่เห็นเกิดจากความร่วมมือกับ TSEKH ในการสร้างผนังใหม่กับผิวสัมผัสทรายควอตซ์สีดำ ซึ่งเกิดจากการทดลองสัดส่วนระหว่างผนังทรายกับผนังแบบทาสี จนเกิดเป็นภาพในอุดมคติในที่สุด และเพื่อลดทอนความแข็งกระด้างของพื้นผิวทราย จึงได้เพิ่มสเตนเลสขัดเงาลงไป ซึ่งต้องใช้มืออาชีพและความชำนาญในการทำเป็นพิเศษ ทีมผู้ออกแบบจึงตัดสินใจสะท้อนความเป็นมืออาชีพในการชงกาแฟและค็อกเทลผ่านผิวสัมผัสนี้ เราจึงเห็นผิวสัมผัสดังกล่าวปรากฏอยู่บนทั้งพื้นผิวของเฟอร์นิเจอร์ ผนัง และฝ้าเพดาน เพื่อสร้างการสะท้อนที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์ โดยการทำฝ้าเพดานซ้อนอีกชั้นในระดับที่ต่ำลงมานั้น ก็ยังช่วยให้เกิดช่องว่างสำหรับใช้ซ่อนท่อระบายอากาศและหลอดไฟ ก่อให้เกิดเอ็ฟเฟ็กต์ดึงดูดใจให้หลงใหลเข้าไปกับแสงสีแบบไม่รู้ตัว ออกแบบ: Ponomarenko bureau ภาพ: Ivan Avdeenko photography เรียบเรียง: BRL ESCAPE BANGKOK เติมอารมณ์ให้สายปาร์ตี้ไปกับบีชบาร์สไตล์บาหลี CACTUS BANGKOK […]

NAN BEI ร้านอาหารจีนที่เจือกลิ่นอายโมเดิร์นวินเทจสุดฟู่ฟ่ากลางใจเมือง

ห้องอาหารจีนบนโรงแรมหรูใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากนิทานพื้นบ้านของจีนเรื่อง “หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า” ตำนานความรักต้องห้ามระหว่างหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลกมนุษย์กับสาวทอผ้าในดินแดนสวรรค์ ที่มีทางช้างเผือกเป็นสะพานเชื่อมทั้งสองให้ได้มาพบกัน Nan Bei “Nan Bei” ที่ได้ชื่อร้านมาจากภาษาจีน “Nan” ที่แปลว่าทิศเหนือ กับ “Bei” ที่แปลว่าทิศใต้ ได้นำเสนอเรื่องราวนิทานผ่านการจัดวางผังร้านที่เน้นความสมมาตร และการออกแบบห้องแต่ละห้องให้พ้องกับเรื่องเล่าในนิทาน เริ่มจากส่วนต้อนรับ ที่แขกจะพบกับโซน “Moon Gate” เป็นมุมถ่ายรูปหน้าโถงกระจกห้อยประดับด้วยงานออกแบบแสงระยิบระยับเป็นตัวแทนของจักรวาลพระจันทร์ที่กั้นช่องทางเดินแบ่งเป็น 2 ฝั่งที่จะนำพาไปสู่ส่วนหลักของร้านอาหารภายในอันจะพบกับครัวโชว์ ที่แบ่งตามคอนเซ็ปต์ร้านอย่างชัดเจน เช่น ทิศเหนือ เป็นที่ครัวที่เสิร์ฟเป็ดปักกิ่งและบรรดาอาหารย่าง ในขณะที่ทิศใต้จะเสิร์ฟอาหารทะเลในนี้ออกแบบให้มีที่นั่ง Long Table ตรงกลาง และบาร์ประกบส่วนประกอบอาหาร 2 ฝั่งเพื่อชมเชฟในขณะปรุงได้ ได้ขณะที่ทิศตะวันออก เป็นส่วนของห้องส่วนตัว 2 ห้องขนาดใหญ่และเล็กออกแบบด้วยคอนเซ็ปต์การเป็นห้องฝั่ง “คนเลี้ยงวัว” ที่ประกอบด้วยภาพบนผนังตามเรื่องเล่าในนิทาน และการออกแบบองค์ประกอบทั้งโคมไฟและเฟอร์นิเจอร์ที่สื่อถึงหนุ่มเลี้ยงวัวบนโลกมนุษย์ เช่นเดียวกับฝั่งตะวันตกที่เป็นส่วนของบาร์และเลานจ์แอลกอฮอล์ เป็นส่วนของ “หญิงทอผ้า” ที่มีการออกแบบองค์ประกอบต่างๆ ที่อิงจากสาวทอผ้าบนสรวงสวรรค์ ภาพรวมของร้านต้องการออกแบบเพื่อสื่อถึงความเป็นตะวันออกโดยเน้นไปที่ความโมเดิร์นของเมืองเซี่ยงไฮ้ในยุค Mid-Century ที่เต็มไปด้วยความหรูหรา ฟู่ฟ่าโดยเน้นสีเขียว เหลือง น้ำเงิน และการใช้โลหะที่ขับเน้นเอกลักษณ์ของร้านได้ชัดเจนและเป็นเอกลักษณ์น่าจดจำ เจ้าของ […]

BURAPA EASTERN THAI CUISINE & BAR ร้านอาหารไทยในโบกี้รถไฟย้อนยุค

“บูรพา” ที่แปลว่าทิศตะวันออก เป็นที่มาของชื่อร้าน Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar ที่เน้นการรังสรรค์เมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างภาคตะวันออกกับภาคเหนือ ในรูปแบบอาหาร Thai regional fine dining จากแนวคิดของเจ้าของร้านที่ต้องการเชื่อมพรมแดนของทั้ง 2 ภูมิภาคของไทยเข้าหากัน ผ่านการออกแบบร้านในตึกแถว 3 ชั้น เป็นเสมือนโบกี้รถไฟ ซึ่งคนทั้ง 2 ภูมิภาค ใช้นำวิถีชีวิตรวมถึงอาหารของพวกเขา เดินทางเข้ามาอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่อย่างเมืองกรุงเทพฯ เป็นตัวกำหนดทิศทางการออกแบบร้าน Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar โดยมีคอนเซ็ปต์การทำโบกี้รถไฟแบบที่ย้อนไปสู่ยุคแรก ๆ ที่คนสยามพึ่งพารถไฟเพื่อเดินทางเข้าสู่เมืองหลวง อย่างในยุครัชกาลที่ 5 แต่ในรูปแบบที่หรูหราขึ้น หรือเป็นโบกี้รถไฟสำหรับท่องเที่ยวของคนชั้นสูง แบบที่อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสได้สัมผัส ภาพลักษณ์ของร้านจึงอ้างอิงไปสู่ศิลปะและองค์ประกอบการตกแต่งในแบบ Art Deco ตอนช่วงราวต้นศตวรรษที่ 20 ที่โดดเด่นที่การใช้โลหะ และเส้นสายที่ดูวิจิตรซึ่งการตกแต่งในร้านแบ่งออกเป็น 3 แบบแตกต่างกันไปตามการใช้งานในแต่ละชั้น เริ่มจากชั้น 1 เป็นบาร์และส่วนรับประทานอาหารกลางแจ้งใช้สีน้ำเงินเป็นหลัก เมื่อขึ้นมาชั้น […]

LENNON’S บาร์ลับย่านเพลินจิตกลิ่นอายย้อนยุคบนชั้นสูงสุดของโรงแรม ROSEWOOD BANGKOK

LENNON’S ตั้งอยู่บนชั้นบนสุดของโรงแรมหรู Rosewood Bangkok ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากห้องบันทึกเสียงแบบโฮมสตูดิโอกับการตกแต่งที่พาย้อนไปสู่ยุค Vienna Secession หรือยุคของงานศิลปะที่แสดงความรุ่มรวยและฟู่ฟ่าของสังคมยุคปลายศตวรรษที่ 19 บาร์ลับย่านเพลินจิต แห่งนี้ โดดเด่นทั้งการตกแต่งและล้นไปด้วยแผ่นเสียงไวนิล ที่ใช้เปิดในร้าน “Lennon’s” และใช้โชว์ตกแต่งไปในตัว นับรวมกันแล้วมีมากกว่า 6,000 แผ่น นับตั้งแต่ทางเข้าจากโถงลิฟต์ ซึ่งจะพบกับโซนโชว์และจำหน่ายแผ่นเสียงจำนวนนับไม่ถ้วนสำหรับเป็นส่วนต้อนรับ ก่อนจะนำเข้าสู่ตัวบาร์ที่โดดเด่นด้วยผนังกระจกเผยทัศนียภาพของเมืองกรุงเทพฯ อย่างเต็มตา พื้นที่บาร์ตกแต่งอย่างหรูหรา ด้วยการเน้นองค์ประกอบของแสงไฟตามแบบอย่างการออกแบบตกแต่งในยุค Vienna Secession รวมถึงการใช้ทองเหลือง ไม้วอลนัท และหินอ่อนสีเทาที่กลมกลืนและสร้างบรรยากาศชวนสนุก พื้นที่นั่งแบบเลานจ์สำหรับกลุ่มเพื่อนถูกแบ่งเป็น 2 ฝั่ง กรุพื้นด้วยไม้สีเข้ม กรุผนังด้วยผ้าบุสีชมพูอ่อน และองค์ประกอบการตกแต่งที่ได้แรงบันดาลใจจากบรรดาเครื่องดนตรีทองเหลือง ในที่นี้ จะพบบันไดเวียนโลหะสีดำที่ตกแต่งโดยรอบด้วยศิลปะแบบ Vienna Secessionที่นำไปสู่ห้องเลานจ์สำหรับสูบบุหรี่ โดยรวมแล้วที่นี่ถูกออกแบบด้วยแรงบันดาลใจจากความเฟื่องฟูของยุควินเทจ และแรงบันดาลใจจากเครื่องเล่นแผ่นเสียง ที่ปรากฏทั้งเป็นองค์ประกอบตกแต่งทั่วร้าน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับการออกแบบโคมไฟและแสง ที่เป็นส่วนประกอบหลักของที่แห่งนี้ก็ว่าได้ เจ้าของ: Rende Development Co., Ltd. ออกแบบ: AvroKO ภาพ : Owen Reggett […]

RARE

ร้านอาหารขนาดเล็ก นามว่า RARE กับบรรยากาศสบาย ๆ แต่ละมุนในกลาสเฮ้าส์สไตล์ FINE DINNING

ร้านอาหารขนาดเล็ก จุดเด่นอยู่ที่ความพิถีพิถันในการปรุงอาหาร บรรยากาศร้านกึ่งลำลองแต่แฝงไว้ด้วยความหรูหราร่วมสมัย เหมาะกับจัดปาร์ตี้ในหมู่เพื่อนฝูง พร้อมสนามหญ้าให้ออกไปสูดอากาศเล่นภายนอก ร้าน RARE หรือ RARE BKK บนถนนนครไชยศรี ย่านดุสิต โดยเชฟแบม-ธนโชติ ดลชลัยย์กร ซึ่งจบการทำอาหารจาก Le Cordon Bleu เป็น ร้านอาหารขนาดเล็ก สไตล์ Casual Fine Dinning ที่แยกตัวออกมาเป็นส่วนตัว ไม่ได้อยู่ในโซนธุรกิจอย่างสีลม ทองหล่อ หรือในโรงแรมหรูกลางเมือง แต่ที่นี่เป็นเสมือนบ้านขนาดเล็กที่อบอุ่นและเป็นกันเองในมาตราฐานโรงแรม ตั้งแต่การจัดโต๊ะ การจัดจาน วิธีการเสิร์ฟ วัตถุดิบ และเมนู โครงสร้างการตกแต่งที่ร้าน RARE โครงกาสเฮ้าส์เพดานสูง เน้นสีสะอาดตา ครัวเป็นแบบโอเพ่นคิทเช่นที่สามารถเห็นกิจกรรมในครัวได้ตั้งแต่แรกเข้ามาในร้าน เชฟสามารถสื่อสารกับแขกที่มาได้อย่างใกล้ชิดเป็นกันเอง เมนูของทางร้านจะแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือ เมนูตามสั่ง เน้นไปที่สเต็กและเนื้อรมควันคัดสรรเนื้อคุณภาพดี เกรดลายหินอ่อน เมนูส่วนที่สองเป็นคอร์สซึ่งเชฟจะเปลี่ยนใหม่ทุกๆ 3 เดือน เป็นเมนูฟิวชั่นนานาชาติ ตามเทศกาลและความคิดสร้างสรรค์เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ในรับประทานอาหาร ซึ่งจุดเด่นของทุกเมนูคือการใช้วัตถุดิบที่ดี ผ่านการปรุงอันพอเหมาะจากขั้นตอนการทำที่ผสมผสานความหลากหลายได้อย่างน่าประทับใจ ด้วยร้านที่มีขนาดกะทัดรัด ร้าน […]

SUNNE Voyage เปิดประสบการณ์ล่องทะเลตะวันออกกับเรือไม้ดีไซน์อบอุ่น

เปิดประสบการณ์การพักผ่อนรูปแบบใหม่ไปกับ SUNNE Voyage ทริปล่องทะเลภาคตะวันออก เสพบรรยากาศสุดชิลบนเรือไม้ดีไซน์อบอุ่น โดยมีจุดหมายปลายทางคือหาดทรายสวย และน้ำทะเลใสบนเกาะมันนอก จังหวัดระยอง SUNNE Voyage (ซัน วอยาจ) เกิดจากการแปลงโฉมเรือประมงเก่าสีฉูดฉาด ที่ผ่านการใช้งานมายาวนานหลายสิบปี ให้กลายเป็นเรือท่องเที่ยวรูปแบบใหม่บนน่านน้ำทะเลระยอง ด้วยความตั้งใจที่จะนำเสนอประสบการณ์ใหม่ผ่านบรรยากาศของเรือท่องเที่ยวที่แตกต่างจากเคย เรือลำกะทัดรัดเรียบง่าย แต่กลับโดดเด่นด้วยโครงสร้างไม้เนื้อแข็งสีธรรมชาติ พร้อมนำเสนอคุณค่าของฝีมือช่างต่อเรือประมงไทย ที่ส่งต่อประสบการณ์รุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน ในปัจจุบันมีการนำเรือประมงมาดัดแปลงเป็นเรือท่องเที่ยวเชิงพาณิชย์มากขึ้น แต่ยังคงมีรูปแบบจำกัด ซัน วอยาจ จึงตั้งใจจะนำเสนอภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเรือท่องเที่ยวของทะเลตะวันออก เรือประมงเก่าได้รับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อให้ตอบรับกับการใช้งานในรูปแบบเรือท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิเช่น บันไดกลางเรือถูกรื้อออก เปลี่ยนเป็นบันไดสองด้านที่นำขึ้นไปสู่ลานดาดฟ้าสำหรับอาบแดดด้านบน เพื่อให้สเปซด้านล่างโปร่งโล่ง เปิดรับวิวสวยจากทุกด้าน พื้นที่ด้านล่าง ประกอบด้วยโต๊ะกลางขนาดใหญ่ และบาร์เครื่องดื่ม เส้นสายโค้งมนของเฟอร์นิเจอร์ และการลบเหลี่ยมมุมของชิ้นส่วนงานไม้ช่วยเพิ่มรายละเอียดการออกแบบที่น่าสนใจ ช่วยลดทอนความแข็งกระด้างของโครงสร้างเรือ การเลือกใช้ไม้เนื้อแข็ง เผยผิวเนื้อไม้ธรรมชาติแทนการทาสีอย่างที่เรือส่วนใหญ่นิยม ช่วยสร้างบรรยากาศเรียบง่าย เข้ากับสมัยนิยม อีกทั้งยังสะท้อนรายละเอียดงานฝีมือ ที่สร้างความภูมิใจให้กับช่างฝีมือท้องถิ่นอีกด้วย   ซัน วอยาจ เป็นโปรเจ็คต์ที่เกิดขึ้นโดยกลุ่มเพื่อน 5 คน ที่ตั้งใจสร้างสรรค์ธุรกิจใหม่ คู่ขนานไปกับธุรกิจที่พักบนเกาะมันนอก โดยพวกเขาตั้งใจให้ซัน วอยาจ เป็นมากกว่าแค่การให้บริการท่องเที่ยวทางเรือ แต่เป็นเหมือนคลับหรือคอมมูนิตี้ของคนรุ่นใหม่ […]

“ตำทองหล่อ” แซ่บนัวในบรรยากาศอีสานโมเดิร์น

หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วกับสาขาแรก “ตำทองหล่อ”  จึงตัดสินใจปักธงลงบนพื้นที่ผืนใหม่ เพื่อรองรับลูกค้าผู้ติดใจรสชาติแบบดั้งเดิม กันที่โครงการสินธรวิลเลจ ซอยหลังสวน โดยยังคงคอนเซ็ปต์เมนูอาหารอีสานรสเเซ่บเช่นเคย ภายใต้การออกแบบตกแต่งร้านสไตล์อีสานเเบบโมเดิร์น ตำทองหล่อ หยิบเมนูสุดฮิตอย่าง “ส้มตำ” ที่เต็มไปด้วยบรรดาสมุนไพรและผักพื้นบ้าน สีสันน่ารับประทาน มาเป็นธีมสีในการตกแต่งร้าน อาทิ การจับคู่สีอย่างสีเขียวเเละน้ำตาล เริ่มจากพื้นที่ฝ้าเพดานที่พลิกเเพลงเส้นสายมาจากหวดนึ่งข้าว โดยนำมาออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ด้านในเป็นโครงสร้างเหล็ก ก่อนจะนำหวายเทียมที่จักสานเป็นลวดลายตามที่ออกแบบไว้มาติดตั้งทับลงไป สำหรับบอกอาณาเขตตำเเหน่งโต๊ะรับประทานอาหารเเต่ละยูนิตให้เกิดจังหวะที่สม่ำเสมอ ขณะที่พื้นเลือกใช้อิฐดินเผาที่ผลิตมาจากดินชนิดเดียวกันกับที่ใช้ทำครกตำส้มตำ นำมาปูลวดลายเเบบก้างปลา เข้ากันดีกับเฟอร์นิเจอร์หวายที่จักสานอย่างประณีตเเละมีแพตเทิร์นเฉพาะตัว อีกทั้งยังเลือกกระเบื้องทำมือจากจังหวัดลำปางมากรุลงบนผนัง เเละโคมไฟสั่งทำพิเศษจากหวายฝีมือของชาวบ้านพนัสนิยม จังหวัดชลบุรี  เช่นเดียวกับความต้องการสร้างบรรยากาศภายในร้านให้เป็นหนึ่งเดียว ด้วยการเลือกใช้กระบอกไม้ไผ่ธรรมชาติมาปิดเสาอาคาร ทั้งยังนำไปหุ้มวงกบหน้าต่างทุกบาน เพื่อให้ทุกรายละเอียดแสดงถึงความเป็นอีสานอย่างแท้จริง   หากเปรียบ “ตำทองหล่อ” เป็นอาหาร ก็คงเป็นอาหารอีสานที่ยังคงความแซ่บและนัวได้อย่างไม่ขาดไม่เกิน ที่เพิ่มเติมคือการใช้งานออกแบบสื่อให้เห็นถึงเสน่ห์ของแก่นความเป็นอาหารอีสาน  ผ่านการเลือกใช้สีสันและวัสดุท้องถิ่นที่คุ้นเคย จนเกิดเป็นร้านอาหารที่พร้อมจะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอีสาน ในบรรยากาศที่ทันสมัยเเละดูแปลกใหม่ขึ้นกว่าเดิม ข้อมูล เจ้าของ : คุณพิมพ์ชนก (พลางกูร) สุภัทรพันธุ์ ออกแบบ :  Context Design Studio ภาพ : Skyground Architectural […]

ARROM ORCHID ชมกล้วยไม้ใต้สถาปัตยกรรมไม้ไผ่

จาก “สวนบัวแม่สา” แหล่งท่องเที่ยวสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่บนถนนสายแม่ริม-สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ในสวนกล้วยไม้ในชื่อ ARROM ORCHID (อารมณ์ ออร์คิด) เชียงใหม่นอกจากมีมนต์เสน่ห์ด้านวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี และธรรมชาติสวย ๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าจดจำคืองานหัตถกรรม หรืองานคราฟต์ ที่ละเอียดลออ ผ่านสองมือของสล่า (ช่างพื้นบ้าน) โดยเฉพาะงานจักสานและไม้ไผ่ เมื่อถึงคราวปรับโฉมสวนบัวแม่สา มาเป็น “ARROM ORCHID” ไอเดียการรังสรรค์ความงามให้แก่ของพื้นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมการนำเสนอตนเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกใช้ไม้ไผ่เพื่อทำเป็นโครงสร้าง รวมกับความชำนาญในงานไม้ไผ่ของช่างท้องถิ่น เกิดโปรเจ็กต์งานออกแบบที่สวยงามสื่อถึงธรรมชาติอย่างกลมกลืน การออกแบบโดยรวมเป็นวางผังโดยได้คงโครงสร้างหลักที่เป็นเหล็กกาวาไนซ์เดิมไว้ และใช้วัสดุ “ไม้ไผ่” ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เเละมีน้ำหนักเบา เข้าไปติดตั้งร่วมกับโครงสร้างเดิมสำหรับตกแต่งในส่วนของฟาซาด ฝ้าเพดาน เเละผนัง โดยใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดนำมาประกอบกันหลายรูปแบบ จนเกิดเเพตเทิร์นเเละเส้นสายเเสงเงาที่สวยงาม ยามเมื่อเเสงลอดผ่านลงมายังพื้นที่ด้านใน  การใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดและรูปทรงมาประกอบการตกแต่งทั้งภายในร้านอาหารและภายนอกซึ่งเป็นสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่นั้น ทำให้ภาพของไม้ไผ่ดูทันสมัยขึ้น ทั้งจากเส้นสายลวดลายกราฟิกและแสงเงาที่ส่องผ่านเข้ามา อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยกรองเเสง ดีทั้งกับลูกค้าผู้มาใช้บริการ รวมถึงบรรดากล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่อยู่ในโรงเพาะชำ ซึ่งสถาปนิกได้จัดวางผังทางเดินใหม่ให้ลดเลี้ยวไปมา จึงสามารถเดินชมกล้วยไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งได้อย่างใกล้ชิด  เรียกว่ามาถึงที่นี่เเล้วได้ชมทั้งสวนกล้วยไม้ และรับประทานอาหารรสชาติอร่อยไปพร้อมกัน ครบจบในที่เดียว ที่ตั้ง 332 หมู่ที่ 1 […]

MEDITERRA รีโนเวตบ้านเก่าเป็นร้านอาหารที่มอบเสน่ห์แบบอิตาลีตอนใต้

รีโนเวตบ้านเก่า อายุร่วมร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านอโศก ให้กลายเป็นร้านอาหารสไตล์โฮมคุกกิ้ง เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบฉบับอิตาลีตอนใต้ โดยใช้ชื่อว่า ” MEDITERRA ” เชื่อมโยงความรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยอย่างบ้านไทยให้เข้ากับซุ้มโค้งอันเป็นสถาปัตยกรรมอิตาลี  สำหรับขั้นตอนการ รีโนเวตบ้านเก่า ครั้งนี้ ดีไซเนอร์รักษาโครงสร้างไม้สักของบ้านเดิมไว้ แล้วทำการเติม “ซุ้มโค้ง” สัญลักษณ์ของความเป็นอิตาลีลงไป เพื่อช่วยเติมความงามให้เเก่สถาปัตยกรรม ในทันทีที่เข้าสู่ส่วนรับประทานอาหารจะพบกับพระเอกของร้านอย่างผืนผนังกรุกระเบื้องโมเสกพิมพ์ลายทิวทัศน์แลนด์สเคปของเมือง Puglia ที่อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี พร้อมกับครัวเปิดให้เห็นเตาอบพิซซา ไฮไลต์ของร้านอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์กรุเมทัลลิกสีน้ำเงินสด มีแรงบันดาลใจมาจากสีของท้องเรือนักตกปลา ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายงานคราฟต์ เพื่อสร้างบรรยากาศเเบบหมู่บ้านชาวประมงอย่าง เก้าอี้หวาย ทำแพตเทิร์นเป็นเส้นสายดูต่อเนื่องกับโคมไฟด้านบน  ขับให้ร้านสีขาวโพลนดูไม่จืดชืดเกินไป ขณะที่ชั้น 2 จะพบกับส่วนไพรเวต โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์กรุพรมพิมพ์ลวดลายสดใสสไตล์อิตาลี และเคาน์เตอร์ Wine Tasting มีส่วนรับประทานอาหารแบบโต๊ะยาว และห้องส่วนตัวอีกหนึ่งห้อง โดยรวมชั้นนี้เน้นการเปิดมุมมองทุกส่วนให้มองเห็นบรรยากาศการตกแต่งภายใน และพื้นที่เอ๊าต์ดอร์สีเขียวได้กว้างสุดสายตา มอบประสบการณ์การใช้งานและความเชื่อมโยงกันของพื้นที่ ผ่านมุมมองที่เปลี่ยนไปในทุกจุดของการใช้งาน Idea To Steal  เปลี่ยนจากช่องเสาแบบเดิม ๆ เติมมุมโค้งเพียงเล็กน้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือ มุมมองแปลกใหม่ในพื้นที่ใช้งานที่คุ้นเคย เจ้าของ : คุณอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ และ […]

 984WOLF เยี่ยมรังหมาป่า ดื่มด่ำกับมื้อดินเนอร์สุดโรแมนติกใต้พระจันทร์ดวงโต

รีโนเวตบ้านไม้เก่าแบบครึ่งปูนครึ่งไม้อายุ 60 ปี ย่านสาทร ให้เป็นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียน จัดเสิร์ฟอาหารยุโรปรสชาติที่คนเอเชียชอบรับประทาน ในชื่อ 984wolf ที่ร้าน 984wolf แห่งนี้เน้นกรรมวิธีการปรุงอาหารโดยใช้ไฟ ฟืน และเปลวไฟเป็นหลัก ส่งอิทธิพลไปถึงการตกแต่งซึ่งมีความโดดเด่นเพื่อสื่อถึงกรรมวิธีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการปิดผิวด้วย YAKISUGI หรือไม้เผาผิวจนไหม้เกรียมภูมิปัญญาโบราณของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ในการถนอมเนื้อไม้ หรือจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ต้อนรับกรุทองเหลืองสื่อถึงโลหะที่ผ่านการเผาไหม้ รวมถึงผนังในครัวที่ใช้อิฐแดงซึ่งมีคุณสมบัติทนไฟ พื้นที่ชั้นล่างเปิดเป็นบาร์สำหรับนั่งดื่มระหว่างรออาหาร หรือจะมานั่งชิล ๆ ดื่มไวน์หลังกินอาหารเสร็จก็ได้ เพิ่มความมีชีวิตชีวาดูทันสมัยขึ้นด้วยสีแดงอิฐ ตัดกับชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนดูสบายตา ส่วนพื้นที่ชั้นสองทำการรื้อผนังและฝ้าเดิมออก แต่ยังเก็บโครงสร้างไม้และช่องเปิดเดิมไว้ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยการจัดโต๊ะแบบโซฟาโค้งดูลื่นไหล แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่ เเถมมีบานเฟี้ยมสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวพิเศษ สิ่งที่ดึงดูดผู้คนคงหนีไม้พ้น “พระจันทร์” ดวงโตกลางห้องครัวที่สะกดสายตาให้ต้องเหลียวมอง เเม้พื้นที่ส่วนอื่นจะมองไม่เห็นดวงโคมนี้ทั้งหมด ผู้ออกเเบบก็ได้ใช้วิธีติดตั้งโคมไฟวงกลมเป็นจุด ๆ เน้นส่องลงบนโต๊ะเเทน เพื่อให้แขกโฟกัสอยู่กับอาหารและคู่สนทนา พร้อมกับมีแสงสว่างจากพระจันทร์ที่ปรับแสงสีได้ตามเทศกาล ส่องผ่านผิวไฟเบอร์กลาส ให้ความรู้สึกเสมือนเปล่งออกมาจากพระจันทร์ดวงจริง ดังแนวคิดของเจ้าของร้านที่ว่า“แสงไม่มีตัวตน แต่มีความรู้สึก” เจ้าของ : คุณญาดา เรืองสุขอุดม ออกแบบ : SALT&PEPPER STUDIO, FOS Lighting Design Studio ที่ตั้ง […]