Commercial Space Archives - Page 25 of 84 - room

THE MOTIFS ECO HOTEL โรงแรมที่เปิดโอกาสให้สัมผัสสายลม และแสงแดดในแบบจันทบุรี

The Motifs Eco Hotel ตั้งอยู่ที่จันทบุรี บนถนนท่าแฉลบ ตัวโรงแรมห่างออกมาจากตัวเมืองไม่ไกล ภายในชุมชนเล็ก ๆ ที่เป็นบ้าน 2-3 ชั้น กับความตั้งใจของเจ้าของที่อยากสร้างโรงแรมในที่ดินตกทอดของครอบครัว ให้เป็นส่วนเดียวกันกับชุมชน เพื่อถ่ายทอดเสน่ห์และอัตลักษณ์ของเมืองจันท์ ทั้งยังส่งเสริมวิถีการใช้ชีวิตแบบ Eco จึงกลายมาเป็น The Motifs Eco Hotel โดยมีสถาปนิกที่โดดเด่นด้านการสร้างอาคารที่สอดรับกับธรรมชาติอย่างคุณแก้ว-คำรน สุทธิ จาก Eco Architect มาเป็นผู้รับหน้าที่ออกแบบให้ โรงแรมในแบบ Chantaburi-Modern-Craft สถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์หนึ่งของจันทบุรีคือ หมู่ตึกแถวเก่าที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร ซึ่งสิ่งที่ The Motifs Eco Hotel ได้เลือกนำมาใช้ คือเอกลักษณ์ของบานหน้าต่าง ลวดลาย และซุ้มโค้ง ที่ทำให้เมื่อมองผ่านจากห้องสู่ภายนอก หรือจากพื้นที่หนึ่งสู่อีกพื้นที่หนึ่งจะได้บรรยากาศที่โรแมนติกในแบบเมืองจันท์ มีความคล้ายบ้านเก่า แต่ในการปรับใช้นั้นก็ได้มีการคลี่คลายรายละเอียดเพื่อให้องค์ประกอบดั้งเดิมนั้น สามารถเข้ากันได้กับสถาปัตยกรรมโมเดิร์นได้ดียิ่งขึ้น ลดหลั่นความใหญ่โต เลือกใช้วัสดุ ให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น เพราะอยู่ในชุมชนเล็ก ๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นบ้าน 2-3 ชั้น จึงทำให้โรงแรมนั้นต้องไม่ดูเป็น […]

MAD BARS HOUSE บาร์ 5 ร้านในตึกแถว ที่เรียงลำดับชั้นตามดีกรีของแอลกอฮอล์

MAD BARS HOUSE คืออาคารขนาด 6 ชั้น ที่มีแนวคิดสุดแหวกแนว ด้วยการรวมบาร์และร้านอาหารจำนวน 5 ร้าน มาไว้ในตึกเดียวกัน โดยมีคอนเซ็ปต์การจัดวางร้านว่า ยิ่งชั้นสูง เปอร์เซ็นต์ของแอลกอฮอล์ก็สูงตามไปด้วย อาคารของ MAD BARS HOUSE ตั้งอยู่บนถนนคนเดินท่ามกลางเมืองประวัติศาสตร์ของเมือง Lviv ประเทศยูเครน ผู้ออกแบบพยายามออกแบบโดยคำนึงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่นและงานฝีมือแบบดั้่งเดิม และนี่คือเรื่องราวของการดื่มด่ำ แอลกอฮอล์ แจ๊ส ความเพลิดเพลิน และเวทมนตร์ แม้ว่าทุกชั้นจะบรรจุไว้ด้วยบาร์คนละร้าน แต่ก็เชื่อมกันไว้ด้วยโทนสีและบรรยากาศเดียวกัน ผนังบางส่วนถูกกระเทาะออก เผยให้เห็นความงามของอาคารยุคศตวรรตที่19 พร้อมกับตกแต่งด้วยวัสดุไม้ หุ้มราวบันไดด้วยหนัง เพื่อระลึกถึงประวัติศาสตร์ของอาคารที่เคยเป็นพื้นที่ัทำรองเท้า การเพิ่มขึ้นของปริมาณแอลกอฮอล์ของบาร์แต่ละชั้น ถูกนำเสนอผ่านกระเบื้องโมเสกที่กรุอยู่บนพื้นชานพักบันได โดยคุณสามารถเริ่มต้นที่ผับชั้น 1 ก่อนจะขึ้นไปเจอกับไวน์และอาหารรสเลิศ ถัดไปเป็นบาร์ในบรรยากาศสบาย ๆ พร้อมค็อกเทลแบบซิกเนเจอร์ หรือจะไปจบที่เครื่องดื่มพื้นเมืองใต้หลังคา ทั้งหมดนี้คุณสามารถใช้ลิฟต์เพื่อไปยังชั้นใดชั้นหนึ่งโดยเฉพาะเจาะจงก็ได้ ชั้น1 Varvar Pub เสิร์ฟคราฟท์เบียร์ ไซเดอร์ และกาแฟไนโตรโคลบริว มาพร้อมจอฉายการแข่งขันกีฬา และโต๊ะไม้ยาวที่ไม่มีรอยต่อ โดยทำมาจากไม้โอ๊กอายุกว่า150 ปี ตัวบาร์จัดการด้วยบาร์เทนเดอร์เพียงคนเดียว […]

BLU395 อาคารที่ตั้งใจสร้างพลังงานดีๆคืนสู่ย่านและผู้คน

อาคารสีขาวที่ถูกคว้านเป็นทรงกรวยแปลกตาทั้งยังห่อหุ้มไว้ด้วยเหล็กตะแกรงนี้ตั้งอยู่ในย่านสะพานควาย ย่านที่พลุกพล่านที่สุดย่านหนึ่งของกรุงเทพฯ เพื่อสร้างให้เกิดภาพจำเชิงสัญญะแก่ผู้สัญจร และเพื่อให้อาคารแห่งนี้เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่จะสร้างพลังงานที่ดีคืนแก่บริบทของย่านและเหล่าผู้คนที่ผ่านไปมาริมถนน การออกแบบความเชื่อมโยงระหว่างภายนอกและภายในจึงเป็นส่วนสำคัญ และผู้ที่เข้ามารับหน้าที่นี้ก็คือ PHTAA สตูดิโอออกแบบที่โดดเด่นในการตีความสร้างนิยามใหม่ๆให้กับงานทุกชิ้นที่ได้ผ่านมือพวกเขา BLU395 เป็นอาคารแบบ Mixed Used ที่มีห้องพัก 84 ห้อง และร้านค้า 3 ร้านผสมเข้าด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าอาคารหลังนี้มีจริตแบบ Modernism อยู่ในตัว ด้วยการแสดงออกอย่างชัดเจนจากภายนอกถึงลักษณะของโครงสร้างและพื้นที่การใช้งาน จากภายนอก ผู้สัญจรจะสามารถมองเห็นตะแกรงเหล็กที่นำมาใช้เป็น Facade ได้อย่างเด่นชัด ทั้งเป็นองค์ประกอบที่สร้างขึ้นเพื่อกำหนดขอบเขต แต่ก็โปร่งพอที่จะเห็นลักษณะของอาคารได้อย่างชัดเจน พื้นที่พิเศษเพื่อพักสายตาแล้วเดินต่อ ส่วนที่โดดเด่นที่สุดของอาคาร BLU395หลังนี้คงหนีไม่พ้น ต้นไม้ใหญ่ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของโถงบันไดซึ่งวางตัวเป็นทรงกรวยตั้ง ค่อยๆบานออกที่ชั้นบน โถงบันไดนี้มีการขึงผ้าใบสีขาวเรียบเกลี้ยงเอาไว้กั้นระหว่างความเป็นภายนอกและภายใน ทั้งทำหน้ากรองแสง กั้นความเป็นส่วนตัว และทำหน้าที่รับเงาของแสงที่ส่องผ่านโครงสร้างเปลือกอาคารลงมาเกิดเป็นเส้นโค้งที่ล้อไปกับรูปฟอร์มและตำแหน่งของไม้ใหญ่ ขับเน้นให้มุมมองสายตาที่ไล่เรียงจากชั้นพื้นที่ไม้ใหญ่นั้นเหมือนเป็นส่วนหนึ่งส่วนเดียวกับบาทวิถี ค่อยๆไล่เรียงขึ้นไปยังอาคาร และแหงนมองสู่ฟ้าในที่สุด พื้นที่นี้เป็นทั้งพื้นที่ที่ให้ความรู้สึกพิเศษ ทั้งสำหรับตัวผู้ใช้อาคารเอง และผู้ที่สัญจรผ่านไปมา ได้พักสายตาจากหมู่ตึกและการจราจรที่คับคั่งอีกด้วย แฝงกลิ่นอาย “ตึกแถวไทย” ด้วยรูปแบบการใช้อาคารหลังนี้อาจพาให้นึกไปถึง “ตึกแถวไทย” ได้แต่ทั้งหมดนั้นก็ได้ถูกตีความและสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ในแบบ PHTAA โดยที่จากชั้นล่างซึ่งเปรียบได้กับพื้นที่หน้าตึกแถวที่มักมีสวนเล็กๆและพื้นที่หย่อนใจ ซึ่งมักเป็นพื้นที่แบบ Semi-Public ก่อนที่จะขึ้นสู่ชั้นบนด้วยโถงบันไดนำพาไปยังพื้นที่ส่วนตัวซึ่งเป็นห้องพักในที่สุด ประกอบกับพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่ชั้นล่าง […]

The Roof Cafe Roiet คาเฟ่ทรงหลังคา(เมทัลชีท) ที่ไม่ธรรมดาด้วยพื้นที่สอดแทรกธรรมชาติอย่างลงตัวในจังหวัดร้อยเอ็ด

หลังคา เมทัลชีท ที่เป็นมากกว่าหลังคา เพราะนี่คือคาเฟ่ที่อาจเรียกได้ว่าแนวที่สุดในจังหวัดร้อยเอ็ดก็ว่าได้ในวันนี้ กับ The Roof Cafe Roiet เพราะด้วยโจทย์ของเจ้าของที่มาจากธุรกิจจัดจำหน่ายแผ่นหลังคาเมทัลชีท โดย Sangthai Metal Sheet ทำให้ คุณกัน-ธุวานนท์ เรืองกนกศิลป์ แห่ง YIN + D Studio ต้องตีความ “พื้นที่ที่จะแสดงตัวตนของหลังคาเมทัลชีท” ออกมาให้ได้มากกว่าแค่ภาพจำเดิม ๆ “ เมทัลชีท = หลังคา” การตีความที่ล้อเลียนภาพจำ ทำให้เกิดคำถามเมื่อผู้มาเยือนได้เริ่มเดินเข้าไปในคาเฟ่แห่งนี้ สถาปนิกตั้งใจออกแบบโดยสร้างภาพของหลังคาขนาดใหญ่ขึ้น เนื่องจากที่ตั้งของคาเฟ่อยู่ริมถนนไฮเวย์รอบตัวเมืองจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อให้เป็นที่จดจำของรถราที่เดินทางผ่านเส้นทางนี้ได้โดยง่าย รูปฟอร์มที่จดจำได้ง่ายและบอกเล่าต่อกันได้ด้วยคำ ๆ เดียวถือเป็นสิ่งสำคัญ “คาเฟ่หลังคาเมทัลชีต” จึงเกิดขึ้น แต่เมทัลชีทในคาเฟ่กลับถูกใช้หลากหลายกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็นแนวกำแพง หรือผนัง ไปจนถึงเคาน์เตอร์กาแฟ ทั้งหมดได้รับการออกแบบขึ้นโดยใช้เมทัลชีทเป็นวัสดุหลัก สถาปนิกเลือกลอนของเมทัลชีทที่เป็นแบบลอนเรียบ และเว้นจังหวะของสัดส่วนช่องเปิดต่าง ๆ ให้พอดีกับลักษณะลอน ทำให้จังหวะแพตเทิร์นที่มาจากรูปแบบลอนนั้น กลายเป็นจังหวะและสัดส่วนที่ร้อยรัดพื้นที่ทั้งหมดให้กลายเป็นภาษาเดียวกัน ในส่วนของบรรยากาศภายใน นอกจากกำหนดพื้นที่ใช้งานหลัก ๆ เช่น […]

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารไทยร่วมสมัย ในบรรยากาสย้อนยุคสุดคลาสซี่

“ท่าอรุณ” ร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา ให้คุณได้มาดินเนอร์ในบรรยากาศโรแมนติก ที่สามารถมองเห็นวิวพระปรางค์วัดอรุณฯได้อย่างชัดเจน จัดเสิร์ฟเมนูอาหารไทยที่ผสมผสานตะวันตกอย่างร่วมสมัย เคล้าไปกับเครื่องดื่มที่นำวัตถุดิบอย่างไทยมาเป็นส่วนผสม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้มองเห็นพระปรางค์วัดอรุณฯ ได้อย่างชัดเจน เจ้าของร้านจึงตั้งใจตั้งชื่อร้านว่า “ท่าอรุณ” ตามทำเลอันโดดเด่น เมื่อประกอบกับความชอบในงานวินเทจยุครัชกาลที่ 4 – 5 ทางร้านจึงได้ออกแบบตกแต่งร้านโดยใช้แนวคิด “เห่อฝรั่ง” ตามยุคสมัยที่สยามได้เคยเป็นเมืองท่าสำคัญในการค้าขาย เเละรับอิทธิพลวัฒนธรรมเเบบยุโรปมาใช้ในการพัฒนาประเทศ เพื่อให้ทัดเทียบกับนานาอารยประเทศในเวลานั้น ภายนอกร้านออกแบบโดยใช้โครงสร้างเหล็กสีดำผสมกับไม้ประกอบกับกระจก เพื่อให้มองเห็นภายในร้านได้อย่างชัดเจน โลโก้ออกแบบโดยอ้างอิงจากงานกราฟิกยุคโบราณ ขณะที่บรรยากาศด้านในดูวิจิตรหรูหราอย่างกับบ้านเรือนในยุโรป แต่แอบเเทรกกลิ่นอายสไตล์ไทย จีน โปรตุเกส และฝรั่งเศส ไว้ในส่วนของการตกแต่งต่าง ๆ เช่น การก่อผนังอิฐเปลือยเป็นดั่งกำแพง เข้ากันได้ดีกับผนังด้านหนึ่งซึ่งออกแบบเลียนแบบตู้ยาจีนสูงจากพื้นจรดเพดาน เพดานติดโคมไฟระย้าสไตล์ยุโรปขับให้ห้องสีมืดทึมดูสว่างและอ่อนหวานขึ้น ทั้งนี้ยังตกแต่งฝ้าเพดานด้วยกรอบกระจกเพิ่มลูกเล่นและสร้างมิติให้ร้านดูสูงโปร่ง ส่วนอาหารที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารไทยแต่ปรับรูปลักษณ์ให้ดูสวยทันสมัยมากขึ้น สมกับการตั้งใจให้บรรยากาศเป็นแบบย้อนยุคแต่คลาสซี่แบบ “เห่อฝรั่ง” อย่างแท้จริง ซึ่งนอกจากจะได้ดื่มด่ำรสชาติอาหาร และฟุ้งไปกับกลิ่นอายความศิวิไลซ์ที่เหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต สมกับที่ตั้งซึ่งอยู่ในย่านประวัติศาสตร์ริมแม่น้ำแล้ว ยังจะได้สัมผัสชีวิตริมน้ำและชุมชนเก่าแก่รอบเกาะรัตนโกสินทร์อีกด้วย ที่ตั้ง : 392/61 ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เวลาทำการ : วันจันทร์-พฤหัสบดี 11.30 น. […]

ร้านขายยาจีนเก่า ที่ปรับลุคให้ร่วมสมัย Tai Chang Tang Traditional Medicine Clinic

Curtis Chung จาก Dig Design สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในรุ่นใหม่ของไต้หวันได้เข้ามารับหน้าที่ปรับโฉมร้านขายยาจีนในตึกแถวเก่าย่านจงซาน ให้โมเดิร์นเข้ากับยุคสมัย และเป็นมิตรกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น สอดคล้องกับปณิธานของร้านที่จะสืบสานวิชา และตำรับยาโบราณจากบรรพบุรุษ ให้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ส่งต่อสู่คนรุ่นต่อไป เพื่อสร้างบุคลากรที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน ผ่าน Tai Chang Tang ร้านขายยาและคลินิกแพทย์แผนจีนในกรุงไทเป ร้านขายยาจีนเก่า ภายใต้ภาพลักษณ์ที่ร่วมสมัย กลิ่นเครื่องยาจีนที่อบอวล และตู้ลิ้นชักไม้เก็บสมุนไพรที่รายล้อมดูเหมือนจะเป็นหัวใจหลักซึ่งเชื่อมโยงบรรยากาศวันวานของ Tai Chang Tang ร้านขายยาและคลินิกแพทย์แผนจีนในกรุงไทเป เข้ากับวิถีชีวิตปัจจุบัน แม้ที่นี่จะไม่ใช่โรงพยาบาล แต่ก็เป็นหนึ่งในแหล่งบ่มเพาะศาสตร์และองค์ความรู้ด้านสุขภาพ ซึ่งฝังรากลึกในวัฒนธรรมของชาวไต้หวันมาอย่างยาวนาน มาวันนี้ เมื่อผู้ก่อตั้ง Tai Chang Tang ตั้งใจจะวางมือ และส่งต่อกิจการให้กับศิษฎ์ก้นกุฏิ ซึ่งเป็นทีมแพทย์แผนจีนรุ่นใหม่สามคน Curtis Chung จาก Dig Design สตูดิโอออกแบบตกแต่งภายในรุ่นใหม่ของไต้หวันจึงได้เข้ามารับหน้าที่ปรับโฉมร้านขายยาจีนในตึกแถวเก่าย่านจงซาน ให้โมเดิร์นเข้ากับยุคสมัย และเป็นมิตรกับคนรุ่นใหม่มากขึ้น สอดคล้องกับปณิธานของร้านที่จะสืบสานวิชา และตำรับยาโบราณจากบรรพบุรุษ ให้กลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่า ส่งต่อสู่คนรุ่นต่อไป  เพื่อสร้างบุคลากรที่จะช่วยเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้คน งานออกแบบปรับปรุงอาคารนี้เกิดขึ้นจากการตีความแนวคิดข้างต้น เพื่อปรับประยุกต์ใช้กับรูปแบบแบบสมัยนิยม พร้อมกับการสอดแทรกสัญลักษณ์ที่มีความหมาย องค์ประกอบต่าง […]

WETTER COFFEE คาเฟ่เปิดใหม่ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ขาว คลีน มินิมัลสุดใจ

เพิ่มความคึกคักให้ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ด้วยคาเฟ่น้องใหม่อย่าง Wetter Coffee ที่ได้กลิ่นอายความมินิมัลแบบเกาหลีมาแต่ไกล ถึงแม้จะมาในขนาดกะทัดรัดแต่ซ่อนไว้ด้วยมุมถ่ายรูปปัง ๆ เพียบ โดยความมินิมัลสุดคลีนนี้เป็นฝีมือของ คุณฐิติ พนาจรัส ดีไซเนอร์จาก STUDIO VILAA ที่ชื่นชอบเส้นสายเรียบง่าย สไตล์มินิมัลเช่นเดียวกันกับเจ้าของร้านจนได้มีโอกาสมาร่วมงานกัน หลังจากทำการสำรวจพื้นที่โครงการมีลักษณะเป็นที่ดินแนวยาวลึกเข้าไป ซึ่งข้างหลังเป็นพื้นที่สวน นำมาสู่การวางผังที่ดินให้ตัวอาคารอยู่ด้านหน้าติดกับถนน แล้วทิ้งสเปซด้านหลัง เป็นที่จอดรถ ที่สามารถมองจากร้านออกไปเห็นวิวสวนด้านหลังแทน และด้วยความที่ด้านหน้าติดถนนเป็นทางทิศใต้ ซึ่งเป็นทิศที่แดดร้อนจัดจึงออกแบบตัวอาคารให้เป็นแมสที่ดูหนาหนัก มีความ Solid ทำหน้าที่เป็นเกราะบังแสงแดด แล้วสร้างความเซอร์ไพร้ส์ด้วย Shock Space ทางด้านหลังที่เป็นทิศเหนือ ผ่านผนังกระจกสูงที่ดูโปร่งคอนทราสต์กับด้านหน้า ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัวแอล (L) เอื้อให้เกิดร่มเงาเกือบตลอดวัน กลายเป็นพื้นที่เอ๊าต์ดอร์ด้านหลังร้านที่สามารถออกมานั่งชมวิวสวน รับลมชิลๆ ที่ยังคงความรู้สึกเป็นส่วนตัวและปลอดภัยจากมุมมองนอกร้านเพราะล้อมไปด้วยรั้วต้นไม้ในระดับสายตา เฟอร์นิเจอร์นอกร้านเลือกนำอิฐบล็อกมาซ้อนกันง่าย ๆ เข้ากันดีกับเก้าอี้หัวกลมสีสเตนเลสขับความมินิมัลได้อีกเท่าตัว สำหรับการแบ่งพื้นที่ภายในร้าน เริ่มจากโครงสร้างระบบกริดขนาด 4×4 เมตร จำนวน 3 ช่วงเสา จากนั้นจึงค่อย ๆ จำแนกพื้นที่ด้วยการลดระดับ โดยแบ่งออกเป็นส่วนของเคาน์เตอร์บาร์ ส่วนของพื้นที่นั่ง และส่วนพื้นที่พิเศษบริเวณริมสุดที่กรอบสเปซไว้ด้วยผนังโค้งที่ก่อด้วยบล็อกแก้ว […]

SEPTEMBER COFFEE รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ เป็นคาเฟ่บรรยากาศบ้านนกสุดน่ารัก กลางสีสันของฤดูกาลใบไม้ร่วง

รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ เป็นคาเฟ่สุดคิ้วท์ ในกรุงโฮจิมินห์ซิตี้ ประเทศเวียดนาม บอกเล่าเรื่องราวที่แสนโรแมนติกของฤดูใบไม้ร่วงและบ้านนกที่แสนอบอุ่น โดย Red5Studio ถ่ายทอดธีมความคิดนี้ผ่านพื้นที่ของร้านในโทนสีออฟไวท์ (Off-white) ซึ่งไม่ใช่สีขาวอย่างที่บางคนเข้าใจ แต่สีออฟไวท์คือสีขาวที่มีการผสมของสีเหลืองนิด ๆ และสีเทาหน่อย ๆ ให้ความรู้สึกที่ดูนุ่มนวลเป็นธรรมชาติ เป็นการ รีโนเวตทาวน์เฮ้าส์  ที่หน้าตาเหมือนบ้านตึกแถวที่อยู่ติดกันให้มีเอกลักษณ์ต่อยอดธุรกิจ ดึงดูผู้คนให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในย่านให้คึกคัก ภาพอาคารสีออฟไวท์ตัดสลับกับสีส้มตัวแทนที่บอกเล่าฤดูกาลใบไม้เปลี่ยนสีก่อนเข้าฤดูหนาว ขณะที่ภาพของรังนกถูกแสดงออกด้วยส่วนโค้งของช่องหน้าต่างและช่องแสงที่ช่วยให้บรรยากาศคาเฟ่อาบไล้ด้วยแสงแดดอุ่น ๆ อันเป็นความตั้งใจอีกหนึ่งอย่างของการออกแบบที่นี่ ที่สำคัญไม่ลืมจัดมุมสวนเล็ก ๆ ไว้ทั้งหน้าร้านและหลังร้าน เพื่อให้ความร่มรื่นเหมือนได้อยู่กลางธรรมชาติ ปลดล็อกวิถีคนเมืองสามารถมีแหล่งได้พักผ่อนหย่อนใจมากขึ้นแม้จะเป็นเพียงแต่สวนเล็ก ๆ หลังร้านกาแฟก็ตาม โดยดึงแสงให้ส่องลงมาจากช่องแสงสกายไลท์ด้านบน ช่วยให้พื้นที่ชั้นบนและชั้นล่างของร้านดูสว่าง ลบข้อจำกัดความมืดทุบของอาคารที่ต้องใช้ผนังด้านข้างร่วมกับบ้านหลังอื่น ส่วนวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างก็เน้นใช้วัสดุเรียบง่าย เช่น คอนกรีต ไม้อัดเอฟเฟ็กต์สีเพื่อให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการลงทุน โดยหันไปให้ความสำคัญกับการออกแบบช่องแสง เพื่อสร้างสรรค์ภาพและมุมมองที่ชวนอบอุ่น สบายทางสายตา ซึ่งสร้างความแตกต่างให้กับ September Coffee ได้เป็นอย่างดี ออกแบบ : Red5 Studio www.red5studio.vn ภาพ : Phu Dao# เรียบเรียง : Phattaraphon […]

OKKIO CAFFE คาเฟ่สีแดงฉาบด้วยกลิ่นอายและแรงบันดาลใจจากหนังเรื่อง “2046”

ร้านกาแฟและบาร์สีแดงริมถนน Xuan Thuy Street ของเมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม แห่งนี้ เป็นร้านในเครือสาขาที่ 2 ของแบรนด์ Okkio Caffe ที่ขอสร้างความแตกต่าง ด้วยแรงบันดาลใจที่มาจากหนังเรื่อง “2046” โดยเน้นใช้สีแดงที่ดูสดใสกระปรี้กระเปร่า ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์เป็นหลัก ตัดสลับกับบรรยากาศของแสงไฟสลัวลางในเวลากลางคืน เพื่อบอกถึงอารมณ์แบบเหงา ๆ ดูย้อนยุค อันเป็นสไตล์ที่มักพบเห็นได้ในหนังของหว่องกาไว Red5Studio ทีมออกแบบผู้รับหน้าที่ออกแบบโปรเจ็กต์นี้เล่าให้ฟังว่า หง่องกาไวเป็นผู้กำกับที่มีอิทธิพลและสร้างแรงบันดาลใจให้กับ Okkio Caffe ดังนั้นเรื่องราวการออกแบบจึงเน้นนำฉากและบรรยากาศที่เคยเห็นในหนัง มาถ่ายทอดลงสู่พื้นที่ส่วนต่าง ๆ ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นตัวอาคารที่ออกแบบให้มีลักษณะเหมือนหน้าต่างรถไฟที่มีลูกกรงเหล็กเป็นจุดเด่น นอกจากนี้เพดานด้านในยังสร้างขึ้นโดยมีรูปทรงโค้งเหมือนกับตัวรถไฟ เปิดรับแสงธรรมชาติเพื่อแก้ปัญหามืดทึบในเวลากลางวันด้วยผนังกระจกหน้าร้าน และช่องเพดานวงกลมเหนือประตู เพื่อดึงแสงให้ตกกระทบลงที่พื้นคล้ายกำลังถูกส่องด้วยไฟสปอร์ตไลท์เฉพาะจุด สร้างความโดดเด่นให้พื้นที่ภายในร้านได้อย่างดี ในส่วนของวัสดุที่เลือกใช้ ประกอบด้วยวัสดุแบบดั้งเดิม เช่น อิฐเก่า ทองแดง และหินขัด นำมาซึ่งสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและอบอุ่นเหมือนเช่นเคยกับสาขาแรก นอกจากนั้นยังมีการแนะนำวัสดุอื่น ๆ ที่ทันสมัยกว่า เช่น เอฟเฟ็กต์การไล่ระดับสี และรูปแบบเพดานจากวัสดุพอลิคาร์บอเนต เพื่อให้สะท้อนแสงไฟที่ทีมผู้ออกแบบได้ติดตั้งไว้ โดยให้ความสำคัญกับระบบไฟ LED Hue ซึ่งติดไว้ที่มุมบาร์ […]

DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่น จำลองกลิ่นอายยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ร้านอาหารจีนแบบฟิวชั่นที่มีกลิ่นอายย้อนยุคแห่งนี้มีชื่อว่า DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE ดูโดดเด่นกับการจำลองภาพบรรยากาศของร้านให้เหมือนอยู่ในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง พร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ ที่รายล้อมไปด้วยของสะสมสไตล์วินเทจ และโครงสร้างอาคารเก่าที่ยังคงเก็บรักษาองค์ประกอบที่มีเสน่ห์แห่งวันวานเอาไว้ จากชื่อร้านที่เห็นนั้น มีชื่อย่อจากอักษรจีน 3 คำ คือ DAO刀 TU 涂 และ FOOK 福 ซึ่งหมายถึง 3 สิ่ง คือ กระบี่ (หรือนัยหนึ่งคืออาวุธในการทำอาหาร) การประยุกต์แนวทางของศิลปะและการภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และรวมไปถึงเป็นการย่อคำแบบภาษาอังกฤษจากคำว่า “Down To Food” ที่ต้องการสื่อถึงภาพลักษณ์อันถ่อมตน และการใส่ใจกับคุณภาพอาหารในบรรยากาศแบบเอเชีย DTF : THE FAMILY HUNGRY PLACE เบื้องต้นอาคารแห่งนี้เป็นบ้านเดิมของครอบครัวเจ้าของร้าน ถูกบูรณะโดยสร้างภาพลักษณ์ของร้านให้ย้อนยุค เป็นดั่งภาพของร้านอาหารในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง โดยโครงสร้างทั้งหมดเกิดจากการปล่อยโครงสร้าง ผนัง เพดาน พื้น ให้เป็นของเดิมของอาคารนี้ทั้งหมด เพิ่มเติมเพียงเคาน์เตอร์บาร์หน้าบันไดซึ่งออกแบบใหม่ให้เหมาะกับการใช้งาน โดยก่อล้อมเสาเดิมและกรุกระเบื้องสีเขียว ซึ่งก็เป็นกระเบื้องเดิมที่พบอยู่กับตัวบ้านเช่นกัน ด้านหน้าร้านถูกทุบผนังใส่โครงสร้างเหล็กติดกระจกบานใหญ่ แต่บังสายตาเพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยรางม่านสไตล์ย้อนยุค […]