Commercial Space Archives - Page 26 of 79 - room

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์บล็อกแก้ว ที่เชื่อมเมืองกับสวนสาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์ ที่ใช้เวลาในการทำเพียง 4 เดือน ด้วยงบประมาณและเวลาก่อสร้างอันจำกัด สถาปนิกถึงพยายามใช้โครงสร้างและสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด ผู้ออกแบบให้ความสำคัญกับความเชื่อมต่อของพื้นที่หน้ ร้านเบอเกอร์ RICCO BURGER ซึ่งเป็นถนนและสวนสาธารณะด้านหลัง ตัวอาคารของร้านจึงทำหน้าที่เป็นตัวประสานพื้นที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยให้ร้านเปรียบเสมือน “ตัวกรอง” มลภาวะเเละความวุ่นวายทางสายตาต่าง ๆ ออกไป บรรยากาศของพื้นที่ฝั่งสวนสาธารณะใช้โครงเหล็กและบันไดที่จะนำไปสู่พื้นที่ร้านอาหารชั้น 1 และเมื่อเข้ามาในร้าน ลูกค้าจะได้รับความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งกินเบอเกอร์อยู่ในห้องน้ำ ด้วยผนังกรุกระเบื้องแผ่นเล็กของห้องน้ำเดิมยังคงอยู่โดยถูกดัดแปลงให้กลายเป็นส่วนของห้องครัว ผนังที่เหลือถูกกระเทาะออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงพื้นไม้เดิมที่ยังคงเก็บรักษาไว้ อีกหนึ่งรูปแบบที่เชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกันคือขนาดของวัสดุ 20×20 เซนติเมตร ทั้งในส่วนของกระเบื้องสีขาว แผ่นปูพื้น และบล็อกแก้ว ส่วนพื้นที่ที่ทำขึ้นมาใหม่ของร้านนี้ ก็คือส่วนของเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร และที่นั่งแบบหล่อในที่ ฝ้าเพดานถูกรื้อออกหมด เพื่อโชว์โครงสร้างเผยผิววัสดุตามเเบบที่เรียกว่าสัจวัสดุ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่าใช้วัตถุดิบเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และเน้นไปที่กระบวนการเตรียมอาหาร พื้นที่ในร้านชั้น 1 และทางเท้าเลือกใช้วัสดุปูพื้นชนิดเดียวกัน เพื่อเชื่อมพื้นที่ให้ดูลื่นไหล ต่อเนื่อง ผนังด้านหน้าและหลังร้านกั้นด้วยบล็อกแก้วที่ใช้โครงสร้างเหล็ก ด้วยคุณสมบัติของบล็อกแก้วที่ยอมให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ในร้าน แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายใน อีกทั้งช่วยสร้างเอฟเฟ็กต์ของแสงสียามค่ำคืน สร้างความน่าสนใจสำหรับใครที่ผ่านไปมา ออกแบบ : BLOCO Arquitetos ภาพ : […]

BAANSOMTAM BANG NA ร้านส้มตำที่เติมความแซ่บและเป็นพื้นที่สีเขียวให้เมือง

“บ้านส้มตำ” ร้านส้มตำสุดเก๋าที่เปิดมายาวนานกว่า 15 ปี และมีสาขาอยู่ทั่วมุมเมือง ล่าสุดกับสาขาที่ 10 สาขานี้เปรียบเสมือนเป็นแฟล็กชิปสโตร์ของบ้านส้มตำ ที่แสดงออกถึงตัวตนและอัตลักษณ์ของเเบรนด์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใส่ใจในรายละเอียด การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ และดีเทลในการบริการ ผ่านการวางพื้นที่ใช้สอยและการใช้วัสดุตกแต่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หลังจากศึกษาและวิเคราะห์ที่ตั้งของร้าน ซึ่งอยู่ในย่านบางนาที่ยังขาดพื้นที่สวนระดับชุมชน หรือไม่มีสวนขนาดเล็กแทรกอยู่ในชุมชนเมืองเลย ประจวบเหมาะกับที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เมื่อหักลบจากพื้นที่ร้าน บ้านส้มตำ และคาเฟ่แล้ว ยังเหลือพื้นที่อีกมาก จึงเกิดเป็นไอเดียในการสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ที่ใช้ “พื้นที่สีเขียว” เป็นจุดดึงดูดความสนใจของโครงการ พื้นที่สีเขียวที่เกิดขึ้นอาจจะเรียกว่าสวนกึ่งสาธารณะ นอกจากช่วยดึงผู้คนให้มาใช้พื้นที่ของร้านบ้านส้มตำและคาเฟ่แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง โดยสิ่งนี้ได้กลายเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งในเเง่ฟังก์ชันการใช้พื้นที่และโมเดลธุรกิจ และเมื่อพูดถึงอาหารอีสาน หลายคนมักนึกถึงความสนุกสนาน อันเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์จากสิ่งที่เป็นเบสิก ท่ามกลางบรรยากาศการรับประทานอาหารที่เป็นการพูดคุยอย่างออกรสเเละเป็นกันเอง อันสื่อถึงความเป็นครอบครัวและความอบอุ่น นำไปสู่การออกแบบตัวอาคารให้มีความกลมกลืนระหว่างฟังก์ชันกับรูปฟอร์มได้อย่างลงตัว ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็นสองก้อนหลัก ๆ คือ ส่วนของร้านบ้านส้มตำ และส่วนของร้านหอมคาเฟ่ที่เชื่อมต่อกันอยู่ในรูปทรงของ Spiral Shape โดยส่วนของคาเฟ่เป็นส่วนของขดก้นหอยที่มีลักษณะเป็นวงกลม ตอบโจทย์การใช้งานของบาร์กาแฟ ขณะหางที่ต่อออกมาใช้เป็นส่วนของบ้านส้มตำ ที่มีลักษณะของอาคารทรงจั่วอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เอื้อต่อการวางฟังก์ชันครัว ซึ่งทั้งสองมีการเชื่อมต่อทางมุมมองและการเข้าถึงสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไฮไลต์ที่อดกล่าวถึงไม่ได้คือพื้นที่สวนโดยรอบอาคารที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง สวนด้านหน้าเป็นสวนของไม้ดอกที่มีกลิ่นหอม เช่น จำปี ปีบ […]

JACQUELINE BANGKOK จิบค็อกเทลในบาร์ที่จะพาคุณย้อนสู่ยุค50’s

ย้อนบรรยากาศกลับสู่ยุค 50’s กับ JACQUELINE BANGKOK บาร์สไตล์ American Mid-Century บนชั้น 2 ของโครงการสิริเฮ้าส์ ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตีเฮ้าส์ย่านชิดลม ด้วยการหยิบคาเเร็กเตอร์สุดเฟียร์สของแจ็คเกอลีน เคนเนดี มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบตกแต่ง จากบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในยุค 50’s ภายในซอยสมคิด ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อเปิดเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ เเละโดยเฉพาะบาร์แห่งนี้ จากประวัติอันยาวนานเเละรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทุกอย่างจึงดูลงตัวเข้ากับคอนเซ็ปต์บาร์ยุคซิกซ์ตี้อย่างยิ่ง โดยทันทีที่คุณเดินขึ้นมายังพื้นที่บาร์จะสัมผัสได้กับบรรยากาศที่เป็นกันเอง คล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักตากอากาศช่วงซัมเมอร์ริมชายหาดไมอามีอย่างไรอย่างนั้น ด้านหน้าเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่นำไอเดียคอปเปอร์บาร์ของบ้านตัวร้ายในภาพยนตร์ Dr. No (1963) มาดีไซน์กลายเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีทองเเดงสามารถรับบริการเครื่องดื่มจากบาร์เทนเนอร์ได้รอบทิศทาง ท็อปด้านบนปูด้วยหินขัดเทอร์ราซโซ วัสดุยอดนิยมของยุคนั้น พร้อมกับประดับโคมไฟเเขวนสไตล์สเเกนดิเนเวียนช่วยย่อสเปซลงมา รอบ ๆ เคาน์เตอร์ทั้งในเเละนอกจัดวางสตูลบาร์ตัวสูงทำจากหวายสไตล์ทรอปิคัล ดูรีเเล็กซ์เข้ากับบรรยากาศร่มครึ้มของไม้ใหญ่ในโครงการ ขยับเข้ามาที่โซนด้านในจะพบกับชุดเฟอร์นิเจอร์บุเบาะกำมะหยี่สีสันสดใสหนานุ่ม ร่วมด้วยองค์ประกอบอย่าง เเพตเทิร์นไม้เเต่งผนังสีน้ำตาลเข้ม ทาสีผนังด้วยสีน้ำเงินเเกมเขียวสื่อถึงสไตล์วินเทจ รู้สึกได้ทั้งความเป็นเฟมินีนเเละโฮมมี่พร้อม ๆ กัน หากอยากออกไปสูดอากาศด้านนอกก็มีระเบียงให้นั่งเล่น บนเบาะสีฟ้าขลิบขอบขาว ซึ่งนิยมใช้ในสถานที่ตากอากาศริมทะเลสมัยก่อน นอกจากบรรยากาศเเละของตกแต่งที่อิงมาจากเรื่องราวชีวประวัติของแจ็คเกอลีน เคนเนดี เเล้ว เมนูค็อกเทลยังตั้งชื่อตามช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ […]

ADHOC อร่อยกับเมนูเชฟส์เทเบิ้ลในบรรยากาศไพรเวตไดน์นิ่งสุดเอกซ์คลูซีฟ

ADHOC ร้านอาหารไพรเวตไดน์นิ่งกับคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นเเขกคนพิเศษ ผู้ได้รับคำเชิญจากเชฟเจ้าของบ้านให้มาดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นสุดเอกซ์คลูซีฟ กับมื้ออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ทั้งอร่อยเเละมีหน้าตาราวกับงานศิลปะ สร้างสรรค์โดยเชฟเเท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Studio Act of Kindness จากธีมของร้าน ADHOC ที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น หนึ่งคำสามารถสัมผัสได้ครบทุกรสชาติ ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม จากธีมของร้านที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น […]

THE NẮNG SUITES ที่พักเมืองดานัง นอนสบายเหมือนอยู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติ

The Nắng Suites ที่พักเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ที่สถาปนิกตั้งใจออกแบบบรรยากาศให้อยู่สบายเเหมือนอยู่บ้าน ไม่ว่าจะมาพักในระยะสั้น หรือระยะยาว โดยหัวใจสำคัญของที่นี่คือคอร์ตกลางอาคารที่เปิดโล่งจากชั้นแรกทะลุถึงท้องฟ้า เกิดเป็นพื้นที่เปิดโล่งและวิวของที่พัก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสงธรรมชาติและความอึดอัดของตึกที่มีลักษณะเป็นอาคารสูงแคบได้อย่างดี ที่พักเมืองดานัง แห่งนี้พื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ พื้นที่พักผ่อนแบบไพรเวตในชั้นบนจำนวน 8 ห้อง และพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัว ส่วนรับประทานอาหาร เล้านจ์ ห้องสมุด ห้องดูหนัง ห้องซักรีด และที่จอดรถ ในส่วนของฟาซาด สร้างจังหวะให้กับอาคารด้วยแผงไม้ และหน้าต่างเต็มบานที่มีความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน สร้างความรู้สึกทั้งปิดทึบและปลอดโปร่งด้วยเเสงสว่าง โดยแผงไม้ทำเป็นรูปแบบของไม้สาน ช่วยในการนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในเเละระบายอากาศ ทั้งยังช่วยกรองแสงแดดได้ในตัว และเมื่อคุณเดินเข้ามาจะเจอกับคอร์ตตรงกลางทำหน้าที่เสมือนสะพานเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายในกับภายในเข้าด้วยกัน การตกแต่งภายในได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1960s และทำให้ดูร่วมสมัยสไตล์คอนเทมโพรารี โดยใช้คีย์สีหลักอย่าง แดง เขียว และน้ำเงิน เพิ่มความอบอุ่นด้วยไม้วอลนัทสีเข้มที่ทำเพียงเคลือบใสเพื่อเผยผิวธรรมชาติ เพิ่มผิวสัมผัสความเป็นธรรมชาติด้วยหินขัดในส่วนของห้องน้ำ และเพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับบริบทโดยรอบที่เป็นภูเขา จึงยกไม้แบบทรอปิคัลมาไว้ในส่วนต่าง ๆ ของที่พัก ไม่ว่าจะเป็นระเบียงด้านหน้า หรือคอร์ตด้านใน นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นแล้ว […]

NOURSABAH PATTAYA โรงแรมที่ผสมผสานโคโลเนียล ไทย ยุโรปและอารบิคไว้ด้วยกัน

แปลกใหม่ตั้งแต่ที่มาของชื่อโรงแรมไปจนถึงการตกแต่งกับดีไซน์ของ ที่พักพัทยา ที่ผสมผสานการออกแบบทั้งโคโลเนียล ไทย ยุโรปและอารบิคเข้าด้วยกัน โดย ‘ณุศบา’ มีที่มาจากภาษาอารบิคประกอบจาก คำว่า Nour (นูร) แปลว่า แสง และ sabah (ซอบาฮฺ) แปลว่า สายลมยามเช้าทำให้การออกแบบของที่นี่จึงเน้นในเรื่องของการใช้แสงและสายลมธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบของตัวอาคารนั่นเอง ที่พักพัทยา สไตล์ไทยโคโลเนียลมี 3 ชั้นภายนอกเป็นสีขาวสะอาดตา ส่วนภายในตกแต่งตามธีมและชื่อแต่ละชั้นไม่ซ้ำกัน โดยห้องพักแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ห้องแกรนด์ดีลักซ์ ห้องดีลักซ์ทวินและห้องดีลักซ์ ตัวอาคารของโรงแรมถูกวางตำแหน่งให้หันระเบียงเข้าหากันเพื่อเห็นวิวสระว่ายน้ำที่กรุด้วยหินอ่อนรูปกุญแจบริเวณคอร์ตตรงกลางที่ถูกออกแบบเพื่อแทนถึงทะเลของพัทยา ส่วนภายในห้องพักออกแบบให้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.5 ม. เพื่อให้ลมธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ เลือกใช้ธีมสีเพื่อความสบายตาลสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนด้วย สีฟ้า เทา ชมพู เขียว เหลืองและครีม พร้อมการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำใหม่ทั้งหมดจากเชียงใหม่ โดยเน้นเป็นไม้เนื้อแข็งเพื่อความอบอุ่น รวมไปถึงการสร้างกิมมิคในรายละเอียดอย่าง การออกแบบประตูบานเฟี๊ยมจากไม้จำปีซึ่งเป็นขนาดสั่งทำเป็นพิเศษ หรือจะเป็นกระเบื้องและการฉลุลายไม้ที่มีกลิ่นอายของโมรอคโคและของมุสลิมซึ่งนำมาใส่เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของโรงแรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น NOURSABAH PATTAYA มีบริการที่จอดรถและเสิร์ฟอาหารเช้าให้แขกที่เข้าพัก นอกจากนั้นยังบริการอาหารว่างในแบบฮาลาลและทั่วไปบริเวณพื้นที่ล๊อบบี้ ซึ่งบริเวณนี้เองที่คุณจะเลือกนั่งชิลภายในห้องแอร์หรืออกมานั่งริมสระว่ายน้ำแบบเอาท์ดอร์ได้ตลอดทั้งวัน Ideas to steal สร้างมุมพักผ่อนเล็กๆ ที่มุมอาคารในแต่ละชั้นเพื่อสร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับโรงแรมโดยไม่ต้องเสียพื้นที่ใช้สอย […]

ชามแกง สร้างประสบการณ์ในการกิน “แกง” ผ่านการตกแต่งร้านแบบสตรีทฟู้ด

ตลาดน้อย ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและอาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าที่ยังคงเก็บกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างเข้มข้น เเละหนึ่งในนั้นคือ “ชามแกง” ร้านอาหารเจริญกรุง ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ อยู่ภายในซอยนครเกษม 5 ประหนึ่งเป็นฮิดเด้นเพลสกลางกรุง ถ้าหากคุณอยากลิ้มลองต้องตั้งใจเดินตามหากันหน่อย เพราะร้านนี้ไม่ได้มีป้ายหน้าร้านอย่างที่อื่น ๆ เป็นหนึ่งในความตั้งใจของผู้ออกแบบนั่นเอง เมื่อก้าวผ่านบานประตูสีแดงของ ร้านอาหารเจริญกรุง แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นเครื่องแกงหอมเย้ายวน พร้อมเสียงของการเตรียมวัตถุดิบจากเชฟทั้ง 3 ได้เเก่ คุณจีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล คุณอรุษ เลอเลิศกุล และคุณอัจฉราภรณ์ เกียรติธนวัฒน์  ผู้หยิบวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มีอยู่แล้วมาพลิกแพลงใหม่ ผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารชั้นเลิศ จนเกิดเป็นเมนู  “แกง” แบบไทย ที่สร้างประสบการณ์การลิ้มรสที่พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายในร้านขนาดหนึ่งคูหานี้ มีเพียงโต๊ะสังกะสีวางเรียงต่อกัน พร้อมสตูลบาร์จำนวน 16 ที่นั่ง ด้านในสุดปลายสายตาคือครัวโชว์ขนาดย่อมที่ออกแบบมาสำหรับเชฟ 3 คนแบบพอดี ๆ ภายใต้บรรยากาศแบบร้านอาหารกึ่งบาร์ ที่ให้ความรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างสตรีทฟู้ดกับเชฟเทเบิ้ล “เราพยายามตีความหมายของแกง ซึ่งแกงที่เชฟเลือกทำเป็นแกงที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน วัตถุดิบก็สามารถหาได้ทั่วไป มีความเป็นโลคอล งานอินทีเรียร์เลยอยากทำเพื่อสะท้อนถึงอาหารที่มีความติดดิน” – คุณศิรดา เกื้อวิบูลย์วณิชย์  […]

WOODEN CAVE เปลี่ยนบรรยากาศไปนอนในถ้ำที่ประกอบขึ้นจากไม้ทั้งหมด 1,112 ชิ้น

รีโนเวตโรงแรม Hyades Mountain Resort ในประเทศกรีซ โดยยังคงโครงสร้างเดิมของห้องพักไว้ แล้วทำการตกแต่งภายในด้วยไม้แบบโค้งเสมือนเป็นถ้ำไม้อันแสนอบอุ่น ภายในห้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนของเตียงนอน 2 ตำแหน่งที่ใช้โครงสร้างไม้ต่อเนื่องลงมาจากผนังโค้ง และส่วนของที่นั่งพักผ่อนซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้เต็มตา ร่วมด้วยพื้นที่ครัวเปิดขนาดกะทัดรัด และเตาผิงที่กรุด้วยหินสีดำ เน้นการแบ่งโซนภายในห้องออกเป็นสองอารมณ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแบบ “ถ้ำ” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและที่หลบภัยของมนุษย์มาแต่ครั้งอดีตกาล หินสีดำบริเวณภายนอกเปรียบเสมือนตัวถ้ำที่มีความแข็งแกร่งสามารถป้องกันภัยได้ แต่เมื่อเข้ามาภายในกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นน่าพักผ่อนด้วยวัสดุอย่างไม้สนที่นำมาดัดเป็นเส้นโค้งดูพลิ้วไหว หิน และไม้สน ที่นำมาใช้เป็นวัสดุหลักนั้น ล้วนเเต่หาได้ง่ายในท้องถิ่น โดยไม้สนที่ดัดโค้งเป็นผนังคือไม้ทั้งท่อนที่นำมาซ้อนต่อกัน และใช้ไม้สนอัดในส่วนอื่น ๆ ซึ่งโครงสร้างไม้ที่นำมาตกแต่งภายในจะถูกติดตั้งแบบเว้นระยะจากผนังคอนกรีตเดิม เพื่อให้เหลือช่องว่างระหว่างไม้กับผนังคอนกรีตสำหรับช่วยระบายอากาศ กันความชื้น และเป็นฉนวนความร้อนอีกชั้น ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีลักษณะอากาศแปรปรวนตลอดทั้งปี นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังผนังโค้งที่ดูพลิ้วไหวนี้ ต้องประกอขึ้นด้วยไม้มากกว่า 1,112 ชิ้น ที่ไม่เหมือนกันเลย! โดยกว่าจะเเล้วเสร็จออกมาเป็นภาพจริงอย่างที่เห็นนี้ สถาปนิกได้ออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบอัลกอริทึม และเมื่อนำชิ้นส่วนมาประกอบเข้าด้วยกัน จึงค่อย ๆ แกะสลักทีละส่วนด้วยฝีมือของสถาปนิกในทีมเพียง 2 คน เนื่องจากเป็นงานที่มีความซับซ้อนเเละยากเกินกว่าช่างไม้ท้องถิ่นจะเข้าใจได้     นี่จึงเป็นการผสมผสานศาสตร์ของการออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่เหนือจินตนาการ กับฝีมือแบบงานคราฟต์ที่ยากกว่าเครื่องจักรชนิดใดจะประมวลผลได้ […]

BAR 335 บาร์ลับสไตล์ญี่ปุ่นลุคโมเดิร์น ในบรรยากาศมืดสลัวใต้แสงเทียน

บาร์ลับ ย่านพร้อมพงษ์แห่งนี้ แม้คุณจะเปิดแมพมาเเล้ว เเต่ก็อาจหาไม่เจอได้ในทันที เพราะบาร์แห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ใต้อาคาร Metropole Residence ที่ต้องผ่านประตูหนีไฟเข้าไปอีกชั้น เเละเมื่อผ่านเข้ามาแล้วกลับยิ่งสร้างความประหลาดใจขึ้นกว่าเดิม กับการหาทางเข้าจากบานประตูที่ไร้มือจับ! บนระนาบผนังนอกร้านที่แทบจะปิดทึบ มีช่องเปิดระดับสายตาเพียงเล็กน้อยที่พอจะให้คุณมองเห็นความเคลื่อนไหวในร้าน ภายใต้บรรยากาศแบบลึกลับกระตุกต่อมความอยากรู้จนต้องผลักประตูเข้าไป ก่อนจะเจอกับ บาร์ลับ สไตล์ญี่ปุ่นลุคโมเดิร์นมืดสลัว ตามเเบบฉบับที่ คุณเป้–ธรณ์ธัญย์ ศิริวิทยเจริญ ผู้ควบตำแหน่งเจ้าของร้านและบาร์เทนเดอร์ชื่นชอบ โดยคุณเป้ได้แรงบันดาลใจการตั้งชื่อร้านมาจากเพลง room 335 ของ Larry Carlton นักกีต้าร์ชาวอเมริกัน ซึ่งเขาถือเป็นเเฟนตัวยงมาตั้งแต่สมัยเรียนดนตรี จนถึงขั้นนำชื่อเพลงมาสักลงบนแขนเละตั้งเป็นชื่อร้านเลยทีเดียว ขณะที่การตกแต่งมีไอเดียเริ่มต้นมาจากเมนูเครื่องดื่มแบบออริจินัล ซึ่งมีความพอดี ไม่มาก ไม่น้อย ไม่ซับซ้อน เพราะคุณเป้รับหน้าที่ดูแลทุกตำแหน่งในร้านเอง นำมาสู่การออกแบบเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่ไว้กลางร้าน ให้สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง ตัวเคาน์เตอร์กรุไม้สีเข้มตัดกับชั้นวางด้านหลังที่กรุด้วยหินกาบ เผยความเป็นธรรมชาติที่ปรุงแต่งเพียงเล็กน้อย แล้วเสริมความหรูหรามีระดับด้วยหินอ่อนสีดำกับพื้นกระเบื้องลายไม้ ภายในใช้ประโยชน์จากพื้นที่รูปตัวแอล (L) แบ่งส่วนหนึ่งเป็นมุมไพรเวต และอีกฝั่งเป็นที่นั่งแบบสองคนใต้แสงเทียน จากบรรยากาศที่มืดสลัว ทำให้ลูกค้าโฟกัสอยู่เเต่กับบทสนทนาของอีกฝ่ายเงียบ ๆ ท่ามกลางเสียงเพลงฟังสบายไปจนถึงคึกครื้น โดยผู้รับบทเป็นนักเปิดแผ่นเสียงก็ไม่ใช่ใครอื่น หลังเสร็จภารกิจจากบาร์เทนเดอร์คุณเป้จะหันมาเปิดเพลงเพราะ ๆ ขับกล่อมทุกคนให้อินไปกับเสียงเพลงเเละเครื่องดื่มในมือ ที่ตั้ง อาคาร Metropole Residence […]

SRI AYUTTHAYA ที่พักกลางเมืองเก่าอยุธยา ที่มีวิวเป็นพระปรางค์วัดพุทไธศวรรย์

บนพื้นที่ตั้งของร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าที่เจ้าของเลิกกิจการไปแล้ว ซึ่งมีลักษณะที่ดินแคบเเละลึกทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าริมถนนอู่ทอง กลางอำเภอเมืองฯ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้รับการแปลงโฉมเป็น โฮสเทลอยุธยา ขนาด 2 ชั้น ภายใต้ธีมการออกแบบตกแต่งที่เจ้าของอาคารตั้งใจให้ภาพจำของโรงแรมสื่อสารความเป็นอยุธยาออกมาให้มากที่สุด ด้วยความที่ที่นี่ตั้งอยู่ในชุมชนเก่ากลางเมืองและเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดังนั้นเพื่อให้เชื่อมโยงไปกับบริบทโดยรอบ ผู้ออกแบบจึงเน้นเลือกใช้ “อิฐ” ร่วมกับสัจวัสดุอื่น ๆ อย่างคอนกรีต และเหล็ก อีกทั้งยังได้คำนึงถึงเรื่องระยะร่น และความสูงของอาคารที่ต้องอยู่ภายใต้ข้อกำหนดการสร้างอาคารในย่านชุมชนดั้งเดิม โฮสเทลอยุธยา แห่งนี้จึงถูกออกแบบในลักษณะ 2 ชั้น แบบยกใต้ถุนสูง โดยใช้พื้นที่ด้านล่างเป็นลานจอดรถ เมื่อเข้ามายังพื้นที่ชั้น 1 ซึ่งได้รับการยกพื้นให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำท่วม จะพบกับส่วนต้อนรับและคาเฟ่ที่เปิดให้คนทั่วไปสามารถเข้ามาใช้บริการได้ โดยมีห้องพักอยู่ด้านหลังส่วนพับลิกลึกเข้าไปด้านใน และอยู่บนชั้น 2 ซึ่งมีรูปแบบให้เลือกหลากหลายทั้งแบบห้องนอนรวม ห้องนอนรวมหญิงล้วน และห้องส่วนตัว โดยห้องพักที่อยู่ด้านหน้าอาคารนั้นสามารถมองออกไปเห็นความร่มรื่นของสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามได้อย่างชัดเจน ในขณะที่พื้นที่ส่วนกลางซึ่งเป็นระเบียงทางเดินในอาคาร จัดให้มีมุมพักผ่อนริมหน้าต่างกระจก พร้อมบีนแบ็กไว้ให้อิงกายนั่งเล่น ทอดสายตามองออกไปเห็นวิวพระปรางค์วัดพุทไธศวรรย์ อีกหนึ่งรายละเอียดที่สร้างจุดเด่นให้ที่นี่ไม่น้อยนั่นคือลายเพ้นต์ติ้งบนพื้นและผนัง ช่วยบอกเล่าประวัติความเป็นมาของสถานที่ตั้งซึ่งย้อนไปถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยเน้นเรื่องการเดินทางเข้ามาค้าขายของชาติตะวันตก รวมถึงแผนที่ราชธานีเก่าอันแสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองในอดีต ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่หยิบยกเรื่องราวของที่ตั้งมาใช้เป็นธีมในการออกแบบตกแต่ง ซึ่งเป็นการสร้างความมีส่วนร่วม และมอบประสบการณ์อันน่าจดจำให้เกิดขึ้นไปพร้อมกัน   ที่ตั้ง : 18/5 ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา […]

BABY BAR BANGKOK บาร์สีชมพูย่านอารีย์ในลุคหญิงสาวขี้เล่น ซ่อนไว้ด้วยความเซ็กซี่

จากความตั้งใจให้พื้นที่มีส่วนผสมของความเป็นผู้หญิงกับผู้ชาย บูทีคโฮเทล CRAFTSMAN BANGKOK ที่เป็นตัวแทนของชายหนุ่มรุ่นใหม่จึงอบอวลไปด้วยความมาสคิวลีนลุคเข้มขรึม เเต่แอบซ่อน Baby Bar บาร์อารีย์ ในลุคหญิงสาวขี้เล่น ดูสนุกสนาน และแฝงความเซ็กซี่ไว้ภายใน จนออกมาเป็นความคอนทราสต์ที่ลงตัว โดยคำว่า Baby ในภาษาอังกฤษสามารถแปลได้ว่า เด็กไร้เดียงสา ที่มีความน่ารัก สดใส หรือจะแปลว่า ที่รัก ก็ได้ ตอนกลางวันที่นี่จึงมีฟังก์ชันเป็นคาเฟ่ที่มีลุคสดใส ซุกซน เเละพร้อมจะแปลงร่างเป็น บาร์อารีย์ สุดเซ็กซี่ในเวลากลางคืน มู้ดแอนด์โทนของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากโทนสีในหนังของผู้กำกับชื่อดัง Wes Anderson โดยหยิบสีชมพูมาแต่งแต้มในทุก ๆ องค์ประกอบ แล้วตัดเลี่ยนด้วยชุดเฟอร์นิเจอร์เหล็ก และพื้นปูนเปลือย ที่แอบหยอดสีพีชลงไปเพื่อคุมโทน แบ่งการใช้งานออกเป็นพื้นที่ภายใน พื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์ และพื้นที่แบบ Sunken ริมสระว่ายน้ำ มีบาร์สีชมพูทำหน้าที่เป็นพระเอกเชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกัน บริเวณบาร์มีประตูเชื่อมให้บาร์เทนเดอร์สามารถเดินดูแลพื้นที่ได้อย่างทั่วถึงโดยไม่ต้องเดินอ้อมออกจากเคาน์เตอร์ หากคุณมาเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปรับพื้นที่ภายในได้ด้วยการรูดม่านที่เตรียมไว้ เพื่อเติมเต็มคาแร็กเตอร์ของเด็กสาวจึงแทรกกิมมิกต่าง ๆ ที่สื่อถึงตัวตนความเป็นเด็ก ไม่ว่าจะเป็นบานประตูรูปช็อกโกแลตบาร์ ของเล่นบล็อกไม้ในส่วนของเคาน์เตอร์ และโมบายกล่อมเด็กที่ดัดแปลงมาเป็นโคมไฟขนาดใหญ่ เสริมด้วยการซ่อนไฟให้ดูน่าค้นหาปนเซ็กซี่เบา ๆ ที่นี่จัดเสิร์ฟอาหารแบบ All Day […]

HOSTEL URBY BANGKOK รีโนเวตห้องเย็นแห่งแรกของไทยเป็นโฮสเทลริมแม่น้ำเจ้าพระยา

หากจะตัดสิน โฮสเทลกรุงเทพ น่าพักดี ๆ สักแห่งจากประตูทางเข้าแล้วละก็ Hostel Urby Bangkok จะทำให้คุณเดาผิดไปถนัดตั้งแต่ก้าวแรกเลยทีเดียว เพราะบรรยากาศภายนอกของที่นี่เป็นเพียงตึกเล็ก ๆ คูหาเดียวบนถนนทรงวาด แต่แอบซ่อนสเปซที่กว้างขวางไว้ภายในได้อย่างแยบยล แถมยังมีความยาวต่อเนื่องตั้งแต่หน้าถนนทรงวาด ไปจนจรดริมแม่น้ำเจ้าพระยาตลอด 50 เมตรเลยทีเดียว จุดเริ่มต้นของชื่อ Hostel Urby Bangkok เกิดจากคำแสลงของคำว่า Urban ซึ่งตั้งโดยหุ้นส่วนทั้งสามที่เรียนจบมาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สาขาผังเมือง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยพวกเขาได้ค้นหาทำเลที่มีศักยภาพเหมาะสม จนในสุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกห้องเย็นแห่งแรกของประเทศไทย ซึ่งเป็นอาคารคอนกรีตสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ยังคงสภาพดีและแข็งแรงมารีโนเวตเป็น โฮสเทลกรุงเทพ โดยมีพื้นฐานมาจากความชื่นชอบในการท่องเที่ยว แล้วนำประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ได้พบเจอมา มาถ่ายทอดลงไปในโฮสเทลแห่งนี้   เริ่มจากการจัดวางฟังก์ชัน และกำหนดขนาดของเตียงให้อยู่ที่ 60 เตียง ในรูปแบบห้องพักแบบนอนรวม (Dormitory) เป็นหลัก เพื่อตอบโจทย์แขกที่มาพักแบบเป็นกลุ่มเพื่อน ภายในตกแต่งโดยใช้ธีมสีขาว แล้วเติมด้วยสีเขียวในบางจังหวะ เพิ่มความอบอุ่นด้วยสีน้ำตาลจากไม้จริง ทั้งในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ และองค์ประกอบต่าง ๆ พิเศษกับระเบียงไม้ขนาดใหญ่ยาวตลอดแนวความกว้างของตึกที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่สุดชิคอย่าง Woodbrook […]

DAI LOU ชวนกินอาหารจีนกับลูกพี่ในบรรยากาศของโรงเตี๊ยมร่วมสมัย

เพราะต้องการเพิ่มศักยภาพย่านอารีย์ที่ได้กลายเป็นจุดมุ่งหมายใหม่ของคนเมืองและชาวออฟฟิศทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน ด้วยการสร้างคอมมูนิตีที่รวม ร้านอาหารอารีย์ สไตล์อาหารจีน ร้านตัดผม และร้านตัดขนสุนัขเข้าไว้ด้วยกัน ผ่านการรีโนเวตบ้านไม้หลังเก่า พร้อมกับสร้างอาคารใหม่เพื่อเชื่อมเป็นพื้นที่เดียว เกิดเป็นร้านอาหารจีนนาม Dai Lou หรือ ไต่โหล ไต่โหล ในภาษาจีนมีความหมายว่า “พี่ใหญ่” ชวนให้นึกถึงบรรยากาศโรงเตี๊ยมที่มีเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลมานั่งรับประทานอาหาร เเล้วรายล้อมด้วยเหล่าผู้ติดตาม นำไปสู่การตกแต่ง ร้านอาหารอารีย์ สไตล์ร่วมสมัยร้านนี้ โดยใช้สีน้ำเงินเข้มมาเป็นโทนสีหลัก ขับให้ร้านดูโมเดิร์นขึ้นต่างจากรูปแบบร้านอาหารจีนแบบเดิม ๆ พื้นที่ส่วนของบ้านไม้เก่าคงโครงสร้างเดิมไว้ทั้งหมด สำหรับส่วนต่อเติมใช้โครงสร้างเหล็กเป็นหลัก เปลี่ยนพื้นทั้งหมดเป็นพื้นเทอร์ราซโซเข้ากันดีกับผนังหินขัดสีน้ำเงิน และผนังบล็อกคอนกรีตสีเทาอมฟ้าที่ตกแต่งด้วยลูกคิดโบราณ อันเป็นต้นกำเนิดกิจการแห่งนี้ เสริมด้วยโคมไฟสั่งทำสีทองจัดจังหวะแบบแรนดอม ช่วยสร้างความน่าสนใจให้กับระนาบเหนือศีรษะ ซึ่งมีระดับฝ้าที่ต่ำตามโครงสร้างเดิมของบ้าน บริเวณหลังร้านด้านนอกกรุพื้นและทำเฟอร์นิเจอร์เอ๊าต์ดอร์ด้วยโมเสกสีฟ้าทั้งผืน ดูเชื่อมต่อกับบรรยากาศภายในร้าน สำหรับเป็นลานดนตรีในวันที่มีอีเว้นต์ กลายเป็นมุมสงบกลางเมืองให้ลูกค้าได้มาพักผ่อนหย่อนใจ ขณะที่ที่นั่งในร้านสามารถรองรับลูกค้าได้หลากหลาย ไม่ว่าจะมาเป็นคู่ หรือมาเป็นกลุ่มโดยมีโต๊ะตัวยาวไว้สำหรับจัดปาร์ตี้  หากต้องความเป็นส่วนตัวก็มีโซนไพรเวตกั้นด้วยม่านโปร่งที่บริเวณชั้นล่าง หรือหากมาเป็นครอบครัวพร้อมสัตว์เลี้ยง สามารถขึ้นไปที่ชั้นสองซึ่งเป็นโซน Pet Friendly สำหรับคนที่พาสุนัขมาด้วย ที่ตั้ง 77 ซอยพหลโยธิน 5 ถนนพหลโยธิน  แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ เวลาทำการ เปิดทุกวัน […]

ฟังเพลงยุค90’s เคล้าบรรยากาศคลาสสิกผสมสีสันสุดป็อปที่ THE CHATROOMS

เมื่อกระเเส90’s หวนคืนกลับมาให้หายคิดถึง หลายคนเเค่ได้ฟังเพลงสมัยที่ยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่นในยุคนั้น ภาพที่เหมือนผ่านมานานเเล้วก็กลับลอยฟุ้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของบาร์ที่มีชื่อว่า The Chatrooms เด่นด้วยโลโก้เเป้นหมุนโทรศัพท์เเบบวงกลมเเละสีสันทีนป็อปสุดจี๊ดจ๊าด หลังจากที่ The Cassette Music Bar ซึ่งเป็นผับที่อยู่ด้านล่างของโครงการเวิ้งโบราณย่านเอกมัยซอย 10 สามารถจับกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลดนตรีเต้นรำยุค90-2000 เเต่ด้วยลักษณะร้านที่เป็นผับไม่เหมาะมานั่งชิล ๆ คุณภา- พิณภัสร์ สิริอัครเศรษฐ ผู้ก่อตั้ง The Cassette Music Bar จึงเกิดไอเดียทำร้าน The Chatrooms ขึ้นมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการฟังเพลงสบาย ๆ ความหมายแบบ Positive ยุค 90’s พร้อมกับจัดเสิร์ฟเมนูอาหารรับประทานง่าย เเละค็อกเทลสูตรซิกเนเจอร์ เคล้าเสียงพูคคุยเฮฮาไปกับกลุ่มเพื่อนคอเดียวกัน สมกับชื่อร้านซึ่งมีที่มาจาก “chat room” โปรเเกรมห้องสนทนาในตำนานก่อนสมาร์ทโฟนจะเฟื่องฟู จากชื่อร้าน เเล้วอะไรกันละที่จะสื่อถึงการพูดคุยที่จับต้องได้ เจ้าของเเละทีมออกแบบจึงนึกถึงโทรศัพท์ โดยเฉพาะโทรศัพท์เเอนะล็อกเเบบแป้นหมุม นำมาสู่กิมมิกที่ใช้ตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของร้านให้ดูโดดเด่น ตั้งเเต่ประตูทางเข้า เรื่อยมาจนถึงพื้นที่ด้านใน ท่ามกลางสีสันที่หลากหลายสดใส ภายใต้ธีมการตกแต่งสไตล์คลาสสิกที่มีความป็อปเข้าไปผสม มัดรวมไอเดียสนุก […]