Restaurant & Bar Archives - Page 6 of 10 - room

ARROM ORCHID ชมกล้วยไม้ใต้สถาปัตยกรรมไม้ไผ่

จาก “สวนบัวแม่สา” แหล่งท่องเที่ยวสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่บนถนนสายแม่ริม-สะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนี้ได้รับการแปลงโฉมให้กลายเป็นร้านอาหารและคาเฟ่ในสวนกล้วยไม้ในชื่อ ARROM ORCHID (อารมณ์ ออร์คิด) เชียงใหม่นอกจากมีมนต์เสน่ห์ด้านวัฒนธรรม ขนมธรรมเนียมประเพณี และธรรมชาติสวย ๆ แล้ว อีกสิ่งที่น่าจดจำคืองานหัตถกรรม หรืองานคราฟต์ ที่ละเอียดลออ ผ่านสองมือของสล่า (ช่างพื้นบ้าน) โดยเฉพาะงานจักสานและไม้ไผ่ เมื่อถึงคราวปรับโฉมสวนบัวแม่สา มาเป็น “ARROM ORCHID” ไอเดียการรังสรรค์ความงามให้แก่ของพื้นที่รายล้อมไปด้วยธรรมชาติอย่างกล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ พร้อมการนำเสนอตนเองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของการเลือกใช้ไม้ไผ่เพื่อทำเป็นโครงสร้าง รวมกับความชำนาญในงานไม้ไผ่ของช่างท้องถิ่น เกิดโปรเจ็กต์งานออกแบบที่สวยงามสื่อถึงธรรมชาติอย่างกลมกลืน การออกแบบโดยรวมเป็นวางผังโดยได้คงโครงสร้างหลักที่เป็นเหล็กกาวาไนซ์เดิมไว้ และใช้วัสดุ “ไม้ไผ่” ซึ่งให้ความรู้สึกถึงความเป็นธรรมชาติ เเละมีน้ำหนักเบา เข้าไปติดตั้งร่วมกับโครงสร้างเดิมสำหรับตกแต่งในส่วนของฟาซาด ฝ้าเพดาน เเละผนัง โดยใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดนำมาประกอบกันหลายรูปแบบ จนเกิดเเพตเทิร์นเเละเส้นสายเเสงเงาที่สวยงาม ยามเมื่อเเสงลอดผ่านลงมายังพื้นที่ด้านใน  การใช้ไม้ไผ่หลากหลายขนาดและรูปทรงมาประกอบการตกแต่งทั้งภายในร้านอาหารและภายนอกซึ่งเป็นสวนกล้วยไม้ขนาดใหญ่นั้น ทำให้ภาพของไม้ไผ่ดูทันสมัยขึ้น ทั้งจากเส้นสายลวดลายกราฟิกและแสงเงาที่ส่องผ่านเข้ามา อีกทั้งยังทำหน้าที่ช่วยกรองเเสง ดีทั้งกับลูกค้าผู้มาใช้บริการ รวมถึงบรรดากล้วยไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่อยู่ในโรงเพาะชำ ซึ่งสถาปนิกได้จัดวางผังทางเดินใหม่ให้ลดเลี้ยวไปมา จึงสามารถเดินชมกล้วยไม้ที่ออกดอกบานสะพรั่งได้อย่างใกล้ชิด  เรียกว่ามาถึงที่นี่เเล้วได้ชมทั้งสวนกล้วยไม้ และรับประทานอาหารรสชาติอร่อยไปพร้อมกัน ครบจบในที่เดียว ที่ตั้ง 332 หมู่ที่ 1 […]

MEDITERRA รีโนเวตบ้านเก่าเป็นร้านอาหารที่มอบเสน่ห์แบบอิตาลีตอนใต้

รีโนเวตบ้านเก่า อายุร่วมร้อยปี ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางย่านอโศก ให้กลายเป็นร้านอาหารสไตล์โฮมคุกกิ้ง เพื่อมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารแบบฉบับอิตาลีตอนใต้ โดยใช้ชื่อว่า ” MEDITERRA ” เชื่อมโยงความรู้สึกอบอุ่นคุ้นเคยอย่างบ้านไทยให้เข้ากับซุ้มโค้งอันเป็นสถาปัตยกรรมอิตาลี  สำหรับขั้นตอนการ รีโนเวตบ้านเก่า ครั้งนี้ ดีไซเนอร์รักษาโครงสร้างไม้สักของบ้านเดิมไว้ แล้วทำการเติม “ซุ้มโค้ง” สัญลักษณ์ของความเป็นอิตาลีลงไป เพื่อช่วยเติมความงามให้เเก่สถาปัตยกรรม ในทันทีที่เข้าสู่ส่วนรับประทานอาหารจะพบกับพระเอกของร้านอย่างผืนผนังกรุกระเบื้องโมเสกพิมพ์ลายทิวทัศน์แลนด์สเคปของเมือง Puglia ที่อยู่ทางตอนใต้ของอิตาลี พร้อมกับครัวเปิดให้เห็นเตาอบพิซซา ไฮไลต์ของร้านอยู่ที่เคาน์เตอร์บาร์กรุเมทัลลิกสีน้ำเงินสด มีแรงบันดาลใจมาจากสีของท้องเรือนักตกปลา ร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ที่มีกลิ่นอายงานคราฟต์ เพื่อสร้างบรรยากาศเเบบหมู่บ้านชาวประมงอย่าง เก้าอี้หวาย ทำแพตเทิร์นเป็นเส้นสายดูต่อเนื่องกับโคมไฟด้านบน  ขับให้ร้านสีขาวโพลนดูไม่จืดชืดเกินไป ขณะที่ชั้น 2 จะพบกับส่วนไพรเวต โดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์กรุพรมพิมพ์ลวดลายสดใสสไตล์อิตาลี และเคาน์เตอร์ Wine Tasting มีส่วนรับประทานอาหารแบบโต๊ะยาว และห้องส่วนตัวอีกหนึ่งห้อง โดยรวมชั้นนี้เน้นการเปิดมุมมองทุกส่วนให้มองเห็นบรรยากาศการตกแต่งภายใน และพื้นที่เอ๊าต์ดอร์สีเขียวได้กว้างสุดสายตา มอบประสบการณ์การใช้งานและความเชื่อมโยงกันของพื้นที่ ผ่านมุมมองที่เปลี่ยนไปในทุกจุดของการใช้งาน Idea To Steal  เปลี่ยนจากช่องเสาแบบเดิม ๆ เติมมุมโค้งเพียงเล็กน้อย ผลลัพธ์ที่ได้คือ มุมมองแปลกใหม่ในพื้นที่ใช้งานที่คุ้นเคย เจ้าของ : คุณอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ และ […]

 984WOLF เยี่ยมรังหมาป่า ดื่มด่ำกับมื้อดินเนอร์สุดโรแมนติกใต้พระจันทร์ดวงโต

รีโนเวตบ้านไม้เก่าแบบครึ่งปูนครึ่งไม้อายุ 60 ปี ย่านสาทร ให้เป็นร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นยูโรเปียน จัดเสิร์ฟอาหารยุโรปรสชาติที่คนเอเชียชอบรับประทาน ในชื่อ 984wolf ที่ร้าน 984wolf แห่งนี้เน้นกรรมวิธีการปรุงอาหารโดยใช้ไฟ ฟืน และเปลวไฟเป็นหลัก ส่งอิทธิพลไปถึงการตกแต่งซึ่งมีความโดดเด่นเพื่อสื่อถึงกรรมวิธีดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นการปิดผิวด้วย YAKISUGI หรือไม้เผาผิวจนไหม้เกรียมภูมิปัญญาโบราณของชาวญี่ปุ่นที่ใช้ในการถนอมเนื้อไม้ หรือจะเป็นส่วนของเคาน์เตอร์ต้อนรับกรุทองเหลืองสื่อถึงโลหะที่ผ่านการเผาไหม้ รวมถึงผนังในครัวที่ใช้อิฐแดงซึ่งมีคุณสมบัติทนไฟ พื้นที่ชั้นล่างเปิดเป็นบาร์สำหรับนั่งดื่มระหว่างรออาหาร หรือจะมานั่งชิล ๆ ดื่มไวน์หลังกินอาหารเสร็จก็ได้ เพิ่มความมีชีวิตชีวาดูทันสมัยขึ้นด้วยสีแดงอิฐ ตัดกับชุดเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนดูสบายตา ส่วนพื้นที่ชั้นสองทำการรื้อผนังและฝ้าเดิมออก แต่ยังเก็บโครงสร้างไม้และช่องเปิดเดิมไว้ แบ่งสัดส่วนพื้นที่ด้วยการจัดโต๊ะแบบโซฟาโค้งดูลื่นไหล แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวอยู่ เเถมมีบานเฟี้ยมสำหรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวพิเศษ สิ่งที่ดึงดูดผู้คนคงหนีไม้พ้น “พระจันทร์” ดวงโตกลางห้องครัวที่สะกดสายตาให้ต้องเหลียวมอง เเม้พื้นที่ส่วนอื่นจะมองไม่เห็นดวงโคมนี้ทั้งหมด ผู้ออกเเบบก็ได้ใช้วิธีติดตั้งโคมไฟวงกลมเป็นจุด ๆ เน้นส่องลงบนโต๊ะเเทน เพื่อให้แขกโฟกัสอยู่กับอาหารและคู่สนทนา พร้อมกับมีแสงสว่างจากพระจันทร์ที่ปรับแสงสีได้ตามเทศกาล ส่องผ่านผิวไฟเบอร์กลาส ให้ความรู้สึกเสมือนเปล่งออกมาจากพระจันทร์ดวงจริง ดังแนวคิดของเจ้าของร้านที่ว่า“แสงไม่มีตัวตน แต่มีความรู้สึก” เจ้าของ : คุณญาดา เรืองสุขอุดม ออกแบบ : SALT&PEPPER STUDIO, FOS Lighting Design Studio ที่ตั้ง […]

ZAAB ELI E-SARN BISTRO เสิร์ฟอาหารอีสานแซ่บ ๆ ในร้านบรรยากาศสุดชิค

ยกระดับร้านอาหาร Zaab Eli สู่กลุ่มลูกค้าตลาดต่างชาติให้มากขึ้น ด้วยการตีโจทย์งานดีไซน์จากความเป็นคนไทยแบบโลคัลที่มีสีสันผสานเข้ากับความเป็นสากล จนออกมาเป็น ZaabEli E-Sarn Bistro DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Tastespace.co ดีไซเนอร์ตีความงานดีไซน์จากเอกลักษณ์ของอาหารอีสานที่มีเบสของเครื่องปรุงอย่างกะปิและปลาร้าออกมาเป็นสีหลักของร้าน Zaab Eli สาขานี้ นั่นคือ “สีกะปิ” สื่อถึงวัตถุดิบหลักของอาหาร ในขณะเดียวกันก็เป็นสีที่ดูผู้ใหญ่และเป็นทางการ เพื่อให้สีสันของอาหารในจานและสีของฝ้าเพดานที่เพ้นต์โดยนักวาดภาพประกอบ Freya.art กลายเป็นจุดโฟกัสภายในร้าน ส่วนประกอบของความเป็นอีสานหลายรูปแบบ ทั้งภาพลายเส้นตัวอาคาร แพตเทิร์นจากผ้าถุง ลายดอกไม้สีสดใส ถูกนำมาวางเรียงกันแบบสุ่มสลับกันไป จนสร้างมิติของการมองเห็นเป็นแพตเทิร์นร่วมสมัย การเลือกสรรวัสดุที่ดูเป็นท้องถิ่นอย่างไม้ไผ่และหินที่ดูเป็นคราฟต์ ร่วมกับเส้นโค้งจากช่องเปิดและฝ้าเพดานทรงโค้ง สร้างความรู้สึกอบอุ่นและดูร่วมสมัย เมื่อรวมกับสีสันของอาหารที่ถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบการตกแต่ง ทำให้รู้สึกมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมากินอาหารอีสานบ้านเรา Idea to Steal การเลือกใช้ทรงโค้งสไตล์ยุโรปผสมผสานเข้ากับวัสดุแบบไทย ช่วยสร้างบรรยากาศไทยแบบเป็นสากลได้อย่างกลมกลืน เจ้าของ : Zaab อีลี่ ออกแบบ :  Tastespace.co ที่ตั้ง The Market Bangkok ชั้น G โซน M1 ถนนราชดำริ […]

HANJI ฮ็อตพ็อตสไตล์ไต้หวันซุกตัวอยู่ในงานรีโนเวตบ้านเก่าย่านทองหล่อ

แรงบันดาลใจจากการท่องเที่ยวและการได้รับประทานฮ็อตพ็อตสูตรดั้งเดิมจากไต้หวัน นำมาสู่ความต้องการดึงรสชาติถูกปากที่ยังไม่มีในกรุงเทพฯมาเปิดเป็นร้าน “ Hanji ” ร้านฮ็อตพ็อตสไตล์ไต้หวันที่แฝงตัวอยู่ในงานรีโนเวตบ้านเก่ากลางซอยทองหล่อ23 จุดเด่นของร้าน Hanji นอกจากเรื่องรสชาติคือพื้นที่ร้านที่โปร่งโล่งและเป็นกันเอง ยังมีคอนเซ็ปต์คือการสร้างร้านอาหารที่เหมือนได้มารับประทานอาหารในบ้านของคนไต้หวัน โดยผู้ออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากหมู่บ้านประวัติศาสตร์ Erkan บนเกาะเผิงหู ทางทิศตะวันตกของไต้หวัน ซึ่งยังคงมีธรรมชาติและเก็บรักษาสถาปัตรยกรรมท้องถิ่นดั้งเดิมไว้ จากความประทับใจนั้น ได้ถูกถ่ายทอดความต้องการสู่ผู้ออกแบบ ก่อนนำองค์ประกอบทางสถาปัตรยกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องประตูโค้ง (Arch) การปูกระเบื้องพื้นช่องลมเซรามิก รวมถึงการใช้สีที่พบได้แก่ สีเทา สีแดง และสีเขียวน้ำทะเลมาใช้ นอกจากนั้นยังเป็นความต้องการของเจ้าของร้านให้แขกที่มาเยือนไม่ต้องรีบรับประทาน แต่ให้สามารถใช้เวลาอยู่ในร้านได้เรื่อย ๆ พื้นที่ภายในจึงถูกจัดอย่างสบาย ๆ ไม่แออัด ประกอบกับการเปิดพื้นที่ชั้น 2 ของบ้านเดิมออกให้กลายเป็นดับเบิ้ลสเปซ ช่วยให้ร้านมีบรรยากาศสบายยิ่งขึ้น โดยในส่วนนี้ก็ได้งานประติมากรรมไม้ไผ่จากคุณกรกต อารมย์ดี มาช่วยเสริมบรรยากาศ รวมไปถึงภาพจิตรกรรมรอบ ๆ ร้านโดย Cabret Moon ที่เป็นการสะท้อนภาพของควันและกลิ่นที่โชยจากหม้ออาหาร คล้ายจะช่วยเรียกน้ำย่อยระหว่างรอเซตอาหารจนแทบจะอดใจรอไม่ไหว เจ้าของ : คุณอิทธินันท์ – คุณวริทธิ์นันท์ ไตรรัตโนภาส ออกแบบ : DIN […]

BLACKSMITH เปลี่ยนร้านส้มตำในบ้านไม้อายุกว่า 20 ปี มาเป็นคาเฟ่กึ่งบาร์ลุคดิบเท่

Blacksmith บาร์และคาเฟ่สไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์ผสมโคโลเนียล โดยเจ้าของร้านและหุ้นส่วนได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองตีเหล็กในเกม Ragnarok เกมออนไลน์ในตำนานที่ทั้งสองเคยเล่นด้วยกัน ประกอบกับคุณปู่เป็นช่างตีเหล็ก จึงยกบรรยากาศดิบ ๆ ของโรงตีเหล็กมาซ่อนตัวอยู่หลังรั้วเหล็กแบบโค้งกลางอารีย์เสียเลย เดิมทีตัวร้าน Blacksmith มีเพียงอาคารไม้หนึ่งหลัง เมื่อเข้ามาทำการปรับปรุงจึงต่อเติมอาคารเพิ่มด้วยโครงสร้างเหล็กและคอนกรีต แล้วเปลี่ยนลานจอดรถเป็นพื้นที่นั่งกึ่งเอ๊าต์ดอร์สำหรับรองรับการใช้งานที่เพิ่มขึ้นโดยตอนกลางวันพื้นที่ชั้นบนเปิดเป็นคาเฟ่ เติมเต็มบรรยากาศด้วยการนำผืนหนังมาแขวนกับฝ้าเพดาน ส่วนด้านล่างพร้อมแปลงร่างเป็นร้านอาหารและบาร์ในยามเย็น หัวใจของที่นี่คือการผสานพื้นที่เอ๊าต์ดอร์และอินดอร์เข้าไว้ด้วยกันผ่านสเปซและการใช้วัสดุ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนลานจอดรถเป็นพื้นที่กึ่งเอ๊าต์ดอร์แบบเปิดโล่งที่คงต้นไม้เดิมไว้ทั้งหมด เสริมด้วยการโรยพื้นด้วยกรวดสีน้ำตาลได้บรรยากาศของโอเอซิสกลางทะเลทราย ทว่ามีหลังคาปกคุลมอยู่ เพิ่มความลื่นไหลของมุมมองไปยังพื้นที่คาเฟ่ชั้นสองด้วยบานหน้าต่างไม้กรุกระจกใสเต็มบาน ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุสร้างความกลมกลืนบนความคอนทราสต์ด้วยการนำวัสดุที่นิยมใช้ภายนอกอย่างศิลาแลง เเละอิฐมอญ มาใช้ตกแต่งภายในให้อารมณ์ความลึกลับของห้องเก็บสมบัติในเกม แล้วนำวัสดุตกแต่งภายในอย่าง หนังวัว ที่มีความอ่อนนุ่มมาตกแต่งทั่วทุกบริเวณของร้าน เกิดเป็นส่วนผสมที่มีกลิ่นอายของความดิบเท่ปนหรูอยู่ในตัว เจ้าของ – ออกแบบ คุณก้องภพ กันตถาวร ที่ตั้ง 9/1 อารีย์ซอย3 สามเสนใน พญาไท  กรุงเทพฯ เวลาทำการ วันอังคาร – อาทิตย์ คาเฟ่ 11.00 น. – 18.00 น. ร้านอาหารและบาร์ 17.00 น. – 24.00 น. […]

MISU ร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศอินเดียที่ได้แรงบันดาลใจจากโบสถ์โรมัน

MISU ร้านอาหารญี่ปุ่น สุดคูล ในเมืองบังคาลอร์ ประเทศอินเดีย  เกิดขึ้นจากการแปลงโฉมอาคารเก่าโดยได้แรงบันดาลใจจากโบสถ์โรมันที่ยังสร้างไม่เสร็จ ผสานการตีความทั้งความคลาสสิก ความเป็นตะวันตกแบบโคโลเนียล เเละความมินิมัลแบบญี่ปุ่น เมื่อทีมออกแบบได้เห็นไซต์อาคารเก่าที่มีซุ้มโค้งเป็นครั้งแรก ก็รู้ทันทีว่าต้องเก็บกลิ่นอายเดิมไว้ การออกแบบอยู่ภายใต้ซิกเนเจอร์ของร้านโดยใช้พาเล็ตต์สี เช่น สีน้ำเงิน สีเขียว สีเหลืองมัสตาร์ด สีแดงเข้ม เเละสีทองแดง ร่วมกับองค์ประกอบของโบสถ์โรมันโบราณอย่าง กระจกสี ภาพวาดฝาผนัง และทางเดินกึ่งกลาง MISU ร้านอาหารญี่ปุ่น สำหรับผลลัพธ์อันเกิดจากการพบกันของความงามผสมเสน่ห์สไตล์กรันจ์แบบดิบ ๆ ชวนประทับใจตั้งเเต่แวบแรกที่ได้เห็น โดยทันทีที่เข้ามาสู่ภายในร้าน ทางเดินขนาบข้างด้วยเสาตาข่ายทองแดงรูปทรงเรียวยาวและเพดานโค้งมน ดำเนินต่อไปจนจบที่ภาพบนฝาผนังเป็นจุดดึงดูดสายตา ด้วยภาพแอ๊บสแตร็กต์ที่ดูคล้ายใบหน้าของผู้หญิง โดยด้านในเฟรมคือแพตเทิร์นสไตล์ญี่ปุ่น สื่อถึงความเป็นตะวันออกที่ดูทันสมัย ภายในร้านแบ่งพื้นที่ออกเป็นชั้นล่างประกอบด้วยที่นั่งแบบกลุ่มกระจายตามทางเดินและบาร์ ส่วนชั้นบนคือที่นั่งที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น จัดไลท์ติ้งแบบ Indirect Lighting ตามทิศทางส่วนโค้งของเหล็กตาข่ายและผนังสร้างบรรยากาศเป็นกันเอง ในขณะเดียวกันก็ดูขลังราวกับต้องมนต์สะกดในช่วงเวลากลางคืน IDEA ลดทอนความแข็งกระด้างภายในอาคารด้วยซุ้มหน้าต่างโค้ง ก่อผนังเบิ้ลสำหรับทำที่วางจุกจิกของริมหน้าต่าง เจ้าของ      :  AA Hospitality ออกแบบ   : FADD Studio ภาพ    […]

BRITANNICA BRASSERIE รวมสารานุกรมความอร่อยจากเมนูอาหารตะวันตกหลากหลายเชื้อชาติ

BRITANNICA Brasserie ร้านอาหารสไตล์ยุโรปแนว Casual Fine-Dining และ Cafe เกิดจากแนวคิดของเจ้าของที่ได้มาจากการเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วโลก ผนวกเข้ากับการตกแต่งที่ตั้งใจให้ที่นี่เป็นเหมือนห้องสมุด รวบรวมสารานุกรมความอร่อยไว้มากมายจากเมนูอาหารตะวันตกจากหลายประเทศ แม้ว่าที่นี่จะอยู่ในโซนลับตาของ Gaysorn Village ชั้น 1 แต่ BRITANNICA Brasserie กลับสะดุดตากว่าใคร ด้วยเส้นสายโค้งเว้าของเสา ประตู และสีขาวสว่างสะอาดตา  BRITANNICA Brasserie ร้านอาหารสไตล์ยุโรป ร้านอาหาร gaysorn เห็นได้จากการใช้โครงสร้างเสาแบบซุ้มโค้งที่ได้แรงบันดาลใจมาจากงานสถาปัตยกรรมยุโรปสื่อถึงความเป็นสากล โดยผนวกกับการใช้เส้นสีดำตัดขอบกับพื้นสีขาวซึ่งเป็นสีหลัก เส้นเหล่านี้มาจากเส้นโค้งของตัวอักษร BB อันเป็นตัวย่อของชื่อร้าน อันแสดงให้เห็นถึงการเชื่อมต่อ ปฏิสัมพันธ์ ความทรงจำ และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่สัมผัสได้ภายในร้าน นอกจากการใช้เฟอร์นิเจอร์หรูหราสไตล์ผู้ดีอังกฤษ  ที่นี่ยังใส่ใจรายละเอียดการตกแต่งอื่น ๆ  ไม่ว่าจะเป็นการใช้พื้นที่มีลายกราฟิก BB ทั่วร้าน รวมถึงโลหะที่ใช้ประกอบในเฟอร์นิเจอร์และพื้น ซึ่งไม่ลืมการใช้เส้นโค้งเพื่อเล่าถึงความสัมพันธ์ที่เกี่ยวเนื่องกันไปเเบบไม่มีสิ้นสุด นอกจากนี้ยังพบการหยอดสีแดงเบอร์กันดีไปตามจุดต่าง ๆ เช่น ของตกแต่งรูปหนังสือ สารานุกรมตรงส่วนโค้งของบาร์ ขอบผ้ากำมะหยี่ที่บุส่วนบนของบาร์ และส่วนพักแขนตรงโซฟา เสริมให้ภาพรวมของร้านดูหรูหรา สง่างาม […]

SON LA RESTAURANT ร้านอาหารสถาปัตยกรรมไม้ไผ่สุดอลังการ

Son La Restaurant  ตัวอย่างการออกแบบ สถาปัตยกรรมไม้ไผ่ ให้เป็นหนึ่งในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวยังจังหวัดห่างไกล กับการเลือกใช้วัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นอย่าง ไม้ไผ่ และหิน สอดคล้องกลมกลืนไปกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวอันเป็นธรรมชาติ จังหวัดซอนลา (Son La) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์และมีภูมิทัศน์ภูเขาที่สวยงาม แม้จะมีความงดงามทางวัฒนธรรมและธรรมชาติ แต่ที่นี่กลับไม่ได้รับการพัฒนาสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวเท่าที่ควร เนื่องจากมีสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากต่อการเดินทาง โดยต้องใช้เวลานั่งรถจากฮานอยนานถึง 7 ชั่วโมง ไปตามถนนที่มีหน้าผาสูงชัน แต่ด้วยศักยภาพอันงดงามของภูมิประเทศ ทำให้ที่นี่กำลังจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อรองรับกระแสการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติดังกล่าว โปรเจ็กต์ร้านอาหาร Son La Restaurant ที่เด่นด้วย สถาปัตยกรรมไม้ไผ่ จึงเริ่มต้นขึ้น ด้วยสภาพภูมิประเทศที่จำกัด ทำให้การขนส่งวัสดุที่ใช้ก่อสร้างร้านอาหารนั้นค่อนข้างเป็นไปได้ยากลำบาก สถาปนิกผู้ออกแบบ Vo Trong Nghia (VTN Architects) จึงเลือกที่จะใช้ทรัพยากรในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ว่าจะเป็นทีมช่าง คนงาน และวัสดุในท้องถิ่นที่มีราคาไม่แพงอย่าง “ไม้ไผ่” และ “หิน” มาเป็นวัสดุหลักของอาคาร นอกจากเหตุผลสำคัญดังกล่าวอีกปัจจัยหนึ่งที่ผู้ออกแบบมองเห็นก็คือวัสดุจากธรรมชาติเหล่านั้น มีความเหมาะสมกับสภาพอากาศแบบมรสุมเขตร้อนอย่างเวียดนามได้อย่างดี ที่นี่ประกอบด้วยอาคารหิน 8 หลัง ที่แยกจากกัน […]

THE WHITE RABBIT บาร์ลับในคูเมืองเชียงใหม่ที่ได้แรงบันดาลใจภาพยนตร์ The Matrix

ถ้าใครเคยดูหนังไซไฟต์สุดล้ำอย่าง The Matrix เมื่อหลายปีก่อน แล้วยังจำได้ว่าเคยหลงเพลิดเพลินไปกับการไล่ล่าตามกระต่ายที่จะพาตัวละครจากโลกใบหนึ่งไปสู่โลกอีกใบ ด้วยประโยคที่ว่า “Follow the white rabbit” นำมาสู่แรงบันดาลใจในการออกแบบบาร์  THE WHITE RABBIT  แห่งนี้ โดยฝีมือของนักออกแบบจาก pommballstudio DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: pommballstudio ตัวบาร์แห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้น 3 ด้านในสุดของตึก โดยพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ยังคงสภาพเดิมไว้ ไม่วาจะเป็นร่องรอยบนผนัง ประตู หน้าต่าง และเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งระหว่างทางการไล่ล่าตามกระต่ายจะมีเพียงแสงไฟสลัว ๆ ดูขมุกขมัวเพิ่มความลึกลับ ก่อนที่คุณจะเปิดประตูบานสุดท้ายเพื่อก้าวข้ามไปยังโลกอีกใบ เมื่อผ่านประตูเข้ามาคุณจะได้เจอกับความเซอร์ไพร้ส์ที่บรรยากาศเปลี่ยนไปจากภายนอกอย่างสิ้นเชิง พื้นที่ถูดจัดสรรเป็นส่วนของเคาน์เตอร์บาร์รูปตัวแอล (L) สำหรับใครที่อยากนั่งจิบพร้อมพูดคุยกับบาร์เทนเดอร์ หรือใครอยากได้ความเป็นส่วนตัวก็มีมุมโซฟาขนาดเล็กไว้รองรับ ด้านหลังเคาน์เตอร์บาร์ออกแบบชั้นวางเครื่องดื่มสูงจรดฝ้าเพดาน โดยแบ่งเป็นช่องสี่เหลี่ยมที่กรุด้วยกระจกลอนใสแล้วซ่อนไฟไว้ด้านหลัง ดูเสมือนลักษณะของโพรงกระต่าย ต่อเนื่องไปยังส่วนของฝ้าเพดานกับไฟสลัวรูปวงกลมให้อารมณ์ของโคมไฟติดเพดานยุคก่อน ขับบรรยากาศกลางเก่ากลางใหม่ เพิ่มประสบการณ์ทางอารมณ์ที่มากกว่าด้วยการออกแบบไลท์ติ้งเฉพาะจุดไปยังเคาน์เตอร์ ขับให้เครื่องดื่มดูพิเศษยิ่งขึ้น ผสานกับความซ้อนซ้ำของบรรยากาศภายในร้าน เรียกว่าเติมเต็มความสนุกสนานภายในโพรงกระต่ายได้อย่างเต็มเปี่ยม ออกแบบ: pommballstudio ภาพ: Tanachat Sooksawasd เรียบเรียง: BRL […]

OTSU BAR บาร์ญี่ปุ่นที่ชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย

เลิกงานเย็นนี้ชวนแก๊งเพื่อนไปแฮ้งเอ๊าต์ที่ OSTU BAR บาร์ญี่ปุ่นบรรยากาศสดใสจี๊ดจ๊าด ที่เซอร์ไพร้ส์กันตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้า ตลอดจนถึงพื้นที่ด้านใน กับการตกแต่งด้วยสีแดงยั่วตา ก่อนพาคุณไปดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสูตรพิเศษ มาปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าจากงานตลอดทั้งวันกับบาร์ญี่ปุ่น ที่จะชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย โดยชื่อร้าน OSTU BAR มาจากวลีในภาษาญี่ปุ่น “Otsukaresama” ที่แปลว่า “ขอบคุณที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย” ไว้สำหรับกล่าวกับเพื่อนร่วมงานหลังจากทำงานกันอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งวัน และเตรียมตัวออกไปดื่มสังสรรค์ ทั้งยังพ้องเสียงกับ Oyatsu หรือที่แปลว่า “ของทานเล่น” อีกด้วย  บาร์แห่งนี้เกิดจากการรีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ที่เคยเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขนาด 2 คูหา มาเป็นบาร์ขนาด 1 คูหา ในบรรยากาศที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง เริ่มจากการปรับผังใหม่โดยการเพิ่มบันไดให้ดูเป็นพระเอกของร้าน ใช้แผ่นอะคลิริกสีแดงมากรุเป็นราวกันตก สร้างความโดดเด่นให้กับสเปซได้เป็นอย่างดี แล้วออกแบบเคาน์เตอร์บาร์แบบหันหน้าทางเดียว เพื่อให้บาร์เทนเดอร์สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง ช่วยให้บาร์เทนเดอร์ไม่รู้สึกเกร็งจนเกินไป อีกทั้งเป็นการประหยัดพื้นที่ไปในตัว ในแง่ของการใช้วัสดุ ที่นี่เน้นเลือกใช้วัสดุที่มีราคาถูกแต่ออกมาดูดี ไม่ว่าจะเป็นไม้อัด OSB ที่นำมากรุในส่วนของเคาน์เตอร์ ซึ่งยังคงความรู้สึกอบอุ่นและมินิมัลแบบไม้ รวมไปถึงการนำไม้บัวมาเรียงต่อกันเเล้วทาสีแดงบริเวณฟาซาดด้านหน้าร้าน กลายเป็นจุดนำสายตาเเละเอกลักษณ์มองเห็นได้เเต่ไกล ประกอบกับซุ้มทรงโค้งที่ออกแบบให้ดูมีมิติแบบกึ่งปิด-กึ่งเปิด ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านไม่น้อยทีเดียว ที่ตั้ง 1064/59 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ เปิด วันอังคาร-ศุกร์ 17.30 […]

ESCAPE BANGKOK เติมอารมณ์ให้สายปาร์ตี้ไปกับบีชบาร์สไตล์บาหลี

Escape Bangkok ยกบีชบาร์ริมทะเลมาไว้กลางกรุง บนชั้น 5 ของดิเอ็มควอเทียร์ สำหรับเป็นสถานที่แฮ้งเอ๊าต์ของหนุ่มสาวหลังเลิกงาน ได้มาปลดปล่อยตัวเองเข้าสู่โหมดแห่งความรีแล็กซ์ จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในย่านสุขุมวิทที่พลุกพล่านกลางกรุงเทพฯ  ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เป็นสายแฮ้งเอ๊าต์ Escape Bangkok รูฟท็อปบาร์บรรยากาศเอ๊าต์ดอร์แห่งนี้ รับรองไม่ทำให้คุณผิดหวัง ทันทีที่ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมมุมตึก สีสันความสนุกก็พร้อมเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางป่าคอนกรีตหนาเเน่น  รู๊ฟท็อปบาร์เเห่งนี้เปรียบได้กับโอเอซิสให้คุณมาดื่มด่ำกับกลิ่นอายคล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ริมชายหาด ระหว่างรอให้เเสงอาทิตย์ยามเย็นลับหายจากมุมตึก เเสงไฟเเต่ละตำเเหน่งก็เตรียมทำหน้าที่ฉาบไล้รอบ ๆ ด้วยเเสงสีชมพู กระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักไปตามเสียงเพลงจากบู๊ธดีเจ ซึ่งมีดีเจทั้งไทยเเละเทศผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างสีสัน พร้อมบริการเครื่องดื่มเเละอาหารรับประทานง่ายเเบบสไตล์ตะวันตก จุดเด่นของพื้นที่โอเพ่นบาร์ด้านนอก คือ Ellipse Bar บาร์ค็อกเทลขนาดใหญ่สีขาวทรงโค้งมน ช่วยให้บาร์เทนเดอร์สามารถบริการลูกค้าที่นั่งอยู่บนสตูลได้รอบทิศทาง ด้านบนประดับเเชนเดอเลียร์ผ้าพลิ้วไหวราวกับฟองคลื่น เมื่อกระทบกับเเสงไฟนีออนสีชมพูฟลามิงโก บาร์ค็อกเทลนี้ก็ยิ่งมีความพิเศษเเละเด่นสะดุดตามากขึ้น รอบ ๆ จัดที่นั่งขนาดยาวขนานไปตามเเนวระเบียง พร้อมซุ้มที่นั่งใต้กระโจมหญ้าคาเเบบบาหลี ประดับต้นไม้ ของตกแต่ง เเละเฟอร์นิเจอร์สไตล์ทรอปิคัล ให้กลิ่นอายสื่อถึงท้องทะเลเขตร้อน นอกจากนี้หากใครมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือต้องการจัดไพรเวตปาร์ตี้ ที่นี่ยังมีโซนอินดอร์ให้บริการด้วย เรียกว่าไม่ต้องไปไกลถึงทะเล คุณก็สามารถสัมผัสกับความสนุก เเละบรรยากาศชิล ๆ พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ เเม้จะอยู่ในมหานครที่เต็มไปด้วยตึกสูงก็ตาม ที่ตั้ง ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ […]

DR.FETCH บาร์ลับที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองใต้ทะเลของด็อกเตอร์สติเฟื่อง

DR.FETCH บาร์ลับในย่านสุขุมวิท กับคอนเซ็ปต์ “Ocean Laboratory Bar” ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ใต้ทะเลสุดพิลึกของดอกเตอร์สติเฟื่อง! ใครชอบภาพยนตร์เเนววิทยาศาสตร์ดูลึกลับ ๆ ละก็ บนชั้น 2 ของ Octo Seafood Bar คุณจะได้พบกับ Dr.Fetch บาร์ที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองลับใต้ทะเลของ Dr.Fetch นักวิทยาศาสตร์ผู้ชอบนำสัตว์ทะเลมาทำการทดลองเเปลก ๆ ซึ่งเป็นธีมสนุก ๆ ที่สลับฉากจากภาพร้านอาหารซีฟู้ดชั้นล่างโดยสิ้นเชิง ภายใต้ธีม “Ocean Laboratory Bar” ทันทีที่ก้าวเข้ามาคุณจะสัมผัสได้กับบรรยากาสสุดดาร์กดูมืดสลัว โดยมีเหล่าบาร์เทนเดอร์สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์สีขาวคอยปรุงเครื่องดื่ม เติมส่วนผสมนั่นนิดนี่หน่อยจนได้เเก้วเครื่องดื่มสำหรับจัดเสิร์ฟหลากหลายเมนู ขณะที่การตกแต่งภายในยังคงหยิบองค์ประกอบเพื่อบอกเล่าบรรยากาศใต้ท้องเรือโบราณ เช่นเดียวกับร้านอาหารชั้นล่างมาใช้ เติมกลิ่นอายย้อนยุคจากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มเเละหนังตอกหมุด รอบ ๆ ตกแต่งด้วยสคัลป์เจอร์ซากฟอสซิลเเละรูปสัตว์หน้าตาประหลาด เปรียบเสมือนผลลัพธ์จากการทดลองสุดเเหวกเเนว ผสมกับบรรยากาศความเป็นห้องเเล็ปที่มีเอกลักษณ์ อย่างการกรุกระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวยาวตลอดเเนวครึ่งหนึ่งของผนัง ก่อนจะตัดด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ที่ขอบด้านบนล้อกันไปกับสีกระเบื้องด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ฉาบไล้ด้วยเเสงไฟสลัว ๆ จากเหล่าโคมไฟสไตล์อินดัสเทรียล และไฟแอลอีดีที่ซ่อนอยู่หลังเเนวที่นั่ง ขับบรรยากาศให้ห้องทดลองลับแห่งนี้ดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก เรียกว่าใครกำลังมองหาสถานที่เเฮ้งเอ๊าต์กับแก๊งเพื่อน Dr.Fetch รอมอบความพิเศษเคล้าไปกับเสียงเพลงจากดีเจเเละศิลปินชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนกันมาเเสดงดนตรีสดให้ได้ฟังสร้างความบันเทิงตลอดทั้งคืน ที่ตั้ง ชั้น 2 อาคาร Octo […]

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ในบรรยากาศเรือโบราณใต้สมุทร

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ไอเดียสุดแฟนตาซี ที่มาพร้อมกิมมิกสนุก ๆ ราวกับคุณกำลังอยู่ในเรือโบราณใต้มหาสมุทร โดยมีเจ้าปลาหมึกยักษ์คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้า ซีฟู้ดบาร์กลางซอยสุขุมวิท 24 แห่งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนโฉมคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก 2 ชั้นให้กลายเป็นร้านอาหารทะเลภายในกล่องกระจกใส โดยมีประติมากรรมปลาหมึกยักษ์โชว์อยู่ด้านหน้า ช่วยดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาให้ต้องเหลียวมอง เหมาะกับใครกำลังมองหาสถานที่แฮ้งเอ๊าต์กับกลุ่มเพื่อน หรืออยากพาครอบครัวไปรับประทานอาหารทะเลอร่อย ๆ แบบไม่ต้องไปไหนไกล การปรับปรุงอาคารที่เคยเป็นศูนย์การค้าเก่าให้เหมาะกับการเปิดเป็นร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบที่นี่ต้องทุบพื้นที่ทั้งหมดออกเเล้วสร้างสเปซการใช้งานด้านในขึ้นมาใหม่ ก่อนเปลี่ยนลุคเดิมของอาคารไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้งานภายใน ฟาซาดด้านหน้า พื้น และอื่นๆ ขณะที่โครงสร้างได้เน้นการใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ดูอินดัสเทรียลจนน่าอึดอัดทั้งหมดจึงถูกทาด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ เพื่อให้เข้ากับธีมที่สื่อถึงความเป็นทะเล มีความรีเเล็กซ์เเละเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยเหล่าโต๊ะเเละเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้เเละหวาย นอกจากนี้ยังหยิบองค์ประกอบชิ้นส่วนของเรือมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างวงกลม การโชว์ท่องานระบบใต้ท้องอาคาร ไม้หุ้มเสาที่ยึดด้วยนอต โคมไฟเรือ ฯลฯ กลายเป็นกลิ่นอายที่เชื่อมโยงเข้ากับเเรงบันดาลใจซากเรือโบราณ โดยไม่ต้องยกเรือทั้งลำมาให้เห็นได้อย่างเเยบยล พื้นที่ตรงกลางโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่แบบ 360 องศา ให้บริการเครื่องดื่มรสเลิศจากทุกมุมโลกเเละเสิร์ฟเบียร์สดคุณภาพ รายล้อมด้วยเหล่าร้านอาหารที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอย่างกับตลาดอาหารทะเล เเละหากมองลงมาจากชั้น 2 เคาน์เตอร์บาร์ที่ว่านี้จะดูเหมือนห้องบังคับการเรือของกัปตัน โดยมีภาพฝูงปลาเเวกว่ายอยู่ด้านบนซึ่งฉายจากโปรเจ็กต์เตอร์ขนาดใหญ่ จำลองภาพเหมือนคุณกำลังอยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่เเตกต่างจากร้านอาหารทะเลทั่วไป ที่ตั้ง 88/2,88/9 สุขุมวิท […]

LOOPER & CO. สเปซหมุนเวียนด้วยฟังก์ชันคาเฟ่กับบาร์ในโกดังเก่าเมืองเชียงใหม่

บาร์ในจังหวัดเชียงใหม่ที่เสิร์ฟค็อกเทล โดดเด่นด้วยเมนูซิกเนเจอร์หลากหลายในยามค่ำ กับร้านกาแฟมากเอกลักษณ์ในตอนกลางวัน ในโกดังราชวงศ์ ริมถนนราชวงศ์ สถานที่รวมตัวแห่งใหม่ของชาวเชียงใหม่ กับชื่อร้าน “ Looper & Co. ” ที่ต้องการสื่อถึงการหมุนเวียนไปของกิจกรรมภายในร้านตั้งแต่กลางวันจนถึงค่ำนั่นเอง ตัวร้านใช้ประโยชน์จากสภาพเดิมของโกดังเก่าอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเปิดเปลือยสภาพผนังเดิม ที่ผ่านการเป็นโกดังเก็บสินค้าวัสดุก่อสร้าง ขนาดกว้างราว 4 เมตรลึกราว 16 เมตร ซึ่งได้ทิ้งร่องรอยถลอก คราบสี และการลอกล่อนตามกาลเวลา ที่เจ้าของและผู้ออกแบบเห็นว่าเป็นเสน่ห์ที่จะกลายเป็นเอกลักษณ์ของร้าน และเล่าเรื่องที่มาที่ไปของย่านเก่าของเมืองแห่งนี้ได้ ภายในบรรจุบาร์ค็อกเทลตัวยาวพร้อมที่นั่งประกบเป็นศูนย์กลางของร้าน โดยตั้งใจให้บาร์มีความกว้างพิเศษเพื่อซ่อนการขั้นตอนการชงเครื่องดื่มของบาร์เทนเดอร์เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่ง พื้นที่ที่เหลือ จัดวางเฟอร์นิเจอร์แต่ละมุมในสไตล์วินเทจช่วยสร้างบรรยากาศ ความน่าสนใจอีกอย่างคือการเป็นโกดังติดถนน 2 ฟาก ทำให้สามารถเปิดประตูเข้าออกได้ทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งก็ได้รื้อและออกแบบใหม่ให้ทางเข้าร้านทั้ง 2 เป็นผนังกระจก ซึ่งช่วยให้ร้านที่มีความลึกดูโปร่ง และได้บรรยากาศจากภายในเข้ามาด้วยในเวลาเดียวกัน IDEA TO STEAL ควบคู่ไปกับเคาน์เตอร์บาร์ตัวยาว ร้านได้ออกแบบโคมและซ่อนไฟเป็นเส้นยาวตามลักษณะของเคาน์เตอร์บาร์ไปด้วย ซึ่งช่วยให้ตัวเคาน์เตอร์บาร์โดดเด่นขึ้นได้อย่างง่ายๆ และชัดเจน เปิด: ร้านกาแฟ ทุกวัน 10.00 น. – 17.00 […]

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์บล็อกแก้ว ที่เชื่อมเมืองกับสวนสาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์ ที่ใช้เวลาในการทำเพียง 4 เดือน ด้วยงบประมาณและเวลาก่อสร้างอันจำกัด สถาปนิกถึงพยายามใช้โครงสร้างและสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด ผู้ออกแบบให้ความสำคัญกับความเชื่อมต่อของพื้นที่หน้ ร้านเบอเกอร์ RICCO BURGER ซึ่งเป็นถนนและสวนสาธารณะด้านหลัง ตัวอาคารของร้านจึงทำหน้าที่เป็นตัวประสานพื้นที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยให้ร้านเปรียบเสมือน “ตัวกรอง” มลภาวะเเละความวุ่นวายทางสายตาต่าง ๆ ออกไป บรรยากาศของพื้นที่ฝั่งสวนสาธารณะใช้โครงเหล็กและบันไดที่จะนำไปสู่พื้นที่ร้านอาหารชั้น 1 และเมื่อเข้ามาในร้าน ลูกค้าจะได้รับความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งกินเบอเกอร์อยู่ในห้องน้ำ ด้วยผนังกรุกระเบื้องแผ่นเล็กของห้องน้ำเดิมยังคงอยู่โดยถูกดัดแปลงให้กลายเป็นส่วนของห้องครัว ผนังที่เหลือถูกกระเทาะออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงพื้นไม้เดิมที่ยังคงเก็บรักษาไว้ อีกหนึ่งรูปแบบที่เชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกันคือขนาดของวัสดุ 20×20 เซนติเมตร ทั้งในส่วนของกระเบื้องสีขาว แผ่นปูพื้น และบล็อกแก้ว ส่วนพื้นที่ที่ทำขึ้นมาใหม่ของร้านนี้ ก็คือส่วนของเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร และที่นั่งแบบหล่อในที่ ฝ้าเพดานถูกรื้อออกหมด เพื่อโชว์โครงสร้างเผยผิววัสดุตามเเบบที่เรียกว่าสัจวัสดุ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่าใช้วัตถุดิบเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และเน้นไปที่กระบวนการเตรียมอาหาร พื้นที่ในร้านชั้น 1 และทางเท้าเลือกใช้วัสดุปูพื้นชนิดเดียวกัน เพื่อเชื่อมพื้นที่ให้ดูลื่นไหล ต่อเนื่อง ผนังด้านหน้าและหลังร้านกั้นด้วยบล็อกแก้วที่ใช้โครงสร้างเหล็ก ด้วยคุณสมบัติของบล็อกแก้วที่ยอมให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ในร้าน แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายใน อีกทั้งช่วยสร้างเอฟเฟ็กต์ของแสงสียามค่ำคืน สร้างความน่าสนใจสำหรับใครที่ผ่านไปมา ออกแบบ : BLOCO Arquitetos ภาพ : […]

BAANSOMTAM BANG NA ร้านส้มตำที่เติมความแซ่บและเป็นพื้นที่สีเขียวให้เมือง

“บ้านส้มตำ” ร้านส้มตำสุดเก๋าที่เปิดมายาวนานกว่า 15 ปี และมีสาขาอยู่ทั่วมุมเมือง ล่าสุดกับสาขาที่ 10 สาขานี้เปรียบเสมือนเป็นแฟล็กชิปสโตร์ของบ้านส้มตำ ที่แสดงออกถึงตัวตนและอัตลักษณ์ของเเบรนด์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใส่ใจในรายละเอียด การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ และดีเทลในการบริการ ผ่านการวางพื้นที่ใช้สอยและการใช้วัสดุตกแต่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หลังจากศึกษาและวิเคราะห์ที่ตั้งของร้าน ซึ่งอยู่ในย่านบางนาที่ยังขาดพื้นที่สวนระดับชุมชน หรือไม่มีสวนขนาดเล็กแทรกอยู่ในชุมชนเมืองเลย ประจวบเหมาะกับที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เมื่อหักลบจากพื้นที่ร้าน บ้านส้มตำ และคาเฟ่แล้ว ยังเหลือพื้นที่อีกมาก จึงเกิดเป็นไอเดียในการสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ที่ใช้ “พื้นที่สีเขียว” เป็นจุดดึงดูดความสนใจของโครงการ พื้นที่สีเขียวที่เกิดขึ้นอาจจะเรียกว่าสวนกึ่งสาธารณะ นอกจากช่วยดึงผู้คนให้มาใช้พื้นที่ของร้านบ้านส้มตำและคาเฟ่แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง โดยสิ่งนี้ได้กลายเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งในเเง่ฟังก์ชันการใช้พื้นที่และโมเดลธุรกิจ และเมื่อพูดถึงอาหารอีสาน หลายคนมักนึกถึงความสนุกสนาน อันเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์จากสิ่งที่เป็นเบสิก ท่ามกลางบรรยากาศการรับประทานอาหารที่เป็นการพูดคุยอย่างออกรสเเละเป็นกันเอง อันสื่อถึงความเป็นครอบครัวและความอบอุ่น นำไปสู่การออกแบบตัวอาคารให้มีความกลมกลืนระหว่างฟังก์ชันกับรูปฟอร์มได้อย่างลงตัว ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็นสองก้อนหลัก ๆ คือ ส่วนของร้านบ้านส้มตำ และส่วนของร้านหอมคาเฟ่ที่เชื่อมต่อกันอยู่ในรูปทรงของ Spiral Shape โดยส่วนของคาเฟ่เป็นส่วนของขดก้นหอยที่มีลักษณะเป็นวงกลม ตอบโจทย์การใช้งานของบาร์กาแฟ ขณะหางที่ต่อออกมาใช้เป็นส่วนของบ้านส้มตำ ที่มีลักษณะของอาคารทรงจั่วอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เอื้อต่อการวางฟังก์ชันครัว ซึ่งทั้งสองมีการเชื่อมต่อทางมุมมองและการเข้าถึงสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไฮไลต์ที่อดกล่าวถึงไม่ได้คือพื้นที่สวนโดยรอบอาคารที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง สวนด้านหน้าเป็นสวนของไม้ดอกที่มีกลิ่นหอม เช่น จำปี ปีบ […]