room, Author at room - Page 25 of 26

MONAZ RIVER KWAI KANCHANABURI ที่พักกลางธรรมชาติ เพื่อให้ชีวิตสุขสมดุล

แวะพักค้างแรม ณ ที่พักกลางธรรมชาติในตัวเมืองกาญจนบุรี ภายใต้การบริการและบรรยากาศที่เป็นกันเอง เงียบสงบ ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวครึ้ม ขึ้นคลุมให้ทั่วทุกมุมของ Monaz River Kwai Kanchanaburi แห่งนี้ ราวกับอยู่กลางผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ ที่นี่แตกต่างจากโรงแรมหรูแห่งอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ติดริมแม่น้ำแคว หรือไกลออกไปก็เป็นรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ในธรรมชาติ แต่สำหรับ ที่พักกลางธรรมชาติ แห่งนี้ กลับแตกต่างด้วยการเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ที่ตั้งอยู่ใจกลางตัวเมือง แถมยังมีขนาดไม่ใหญ่ บรรจุห้องพักไว้เพียง 30 ห้อง เท่านั้น Monaz River Kwai Kanchanaburi คอนเซ็ปต์ของโรงแรมแห่งนี้ คือการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นลอฟต์ เน้นการใช้วัสดุดิบ ๆ ที่ทำสีและพื้นผิวเลียนแบบธรรมชาติอย่าง ผนังปูนทำผิวขรุขระ การใส่สีน้ำตาลลงไปในเนื้อปูน ควบคู่ไปกับการโชว์พื้นผิวปูนเปลือย ทั้งยังเลือกใช้ไม้จริงสีธรรมชาติเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ในงานตกแต่ง สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของที่นี่คือการจัดวางแปลนพื้นที่ใช้งาน โดยอาศัยลักษณะที่ดินเดิมซึ่งเป็นเนินลาดลงต่ำกว่าระดับถนน ด้วยการวางตำแหน่งสระว่ายน้ำเป็นแนวยาวไว้ตรงกลาง ขนาบข้างด้วยอาคารที่พักทั้งสองฝั่ง ช่วยให้ลักษณะของโรงแรมมีความสมมาตรโดดเด่นชัดเจน ให้ความรู้สึกโอ่อ่าหรูหรา แม้จะมีขนาดเล็กก็ตาม นอกจากนี้ยังเน้นปลูกต้นไม้ปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่เพื่อช่วยเพิ่มความร่มรื่น แม้จะอยู่ติดถนนสายหลักเช่นเดียวกันกับโรงแรมอื่น ๆ แต่ Monaz River […]

10 ที่พักหน้าฝน ชุ่มฉ่ำในวันฝนพรำ

บรรยากาศชุ่มฉ่ำของฤดูฝน ชวนให้ต้นไม้กระปรี้กระเปร่าแข่งกันผลิใบ ไม่แพ้ไปกว่าหัวใจของผู้ชื่นชอบการท่องเที่ยว และกำลังรอออกไปสัมผัสกับสีสัน และความเย็นฉ่ำแห่งฤดูกาล ซึ่งคงจะดีไม่น้อยหากมี ที่พักหน้าฝน ดีไซน์สวย บรรยากาศดี และร่มรื่นไปด้วยแมกไม้คอยทำหน้าที่ต้อนรับ ท่ามกลางกลิ่นอายสายฝนที่ไหลรินมาจากฟ้า ก่อนแดดจ้าจะมุดก้อนเมฆหลังฝนซา มากระทบกับหยาดละอองจนสวยพราว วันนี้ room ได้รวบรวม ที่พักหน้าฝน มาให้แล้วถึง 10 แห่ง ซึ่งต่างก็มีการออกแบบตกแต่งเพื่อเปิดรับธรรมชาติอย่างเต็มที่ ช่วยให้การท่องเที่ยวปลายฤดูฝนของคุณเต็มไปด้วยความสุข รอคอยการเปลี่ยนผ่านสู่ฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะมาเยือน รายา เฮอริเทจ | เชียงใหม่ โรงแรมวิถีศิลป์แห่งนี้จะพาคุณไปพบกับความเป็นล้านนาในวิถีเรียบง่ายรุ่มรวยไปด้วยวัฒนธรรม กับจำนวนห้องพัก 33 ห้อง ภายในอาคาร 3 ชั้น ที่ตั้งเรียงขนาดไปกับวิวแม่น้ำปิง ตัวอาคารเด่นด้วยสถาปัตยกรรมและการตกแต่งสุดประณีต ซึ่งเกิดจากการร่วมงานกับสล่าพื้นบ้านในการสร้างและออกแบบที่พัก ซึ่งถือเป็นการช่วยสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ให้สูญหาย โดยทุกพื้นที่คุณสามารถสัมผัสได้กับความชุ่มฉ่ำจากต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นอยู่รายรอบ หลาย ๆ ต้นเป็นต้นไม้ที่ขึ้นอยู่เดิมในพื้นที่ ผสานด้วยพื้นที่คอร์ตสีเขียว รับกับสายตาก่อนเปิดมุมมองออกสู่สวนสวยเขียวครึ้มและวิวแม่น้ำด้านนอก ด้านการให้บริการขอแนะนำสปาบำบัดตำรับพื้นเมือง ที่คัดสรรสมุนไพรท้องถิ่นจากธรรมชาติแท้ ๆ มาช่วยปรนนิบัติให้เกิดความผ่อนคลาย  หรือจะเป็น “ลานชา” มุมพักผ่อนจิบน้ำชายามบ่ายเคล้าสายฝนที่รินอยู่นอกชายคา  หรือหากวันไหนอากาศเย็นสบายปลอดฝนให้แวะมาที่  “บ้านท่า” เล้านจ์ค็อกเทลที่จัดเสิร์ฟเครื่องดื่มในบรรยากาศริมน้ำยามเย็น รับรองว่าโรแมนติกอย่าบอกใคร […]

OTSU BAR บาร์ญี่ปุ่นที่ชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย

เลิกงานเย็นนี้ชวนแก๊งเพื่อนไปแฮ้งเอ๊าต์ที่ OSTU BAR บาร์ญี่ปุ่นบรรยากาศสดใสจี๊ดจ๊าด ที่เซอร์ไพร้ส์กันตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้า ตลอดจนถึงพื้นที่ด้านใน กับการตกแต่งด้วยสีแดงยั่วตา ก่อนพาคุณไปดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสูตรพิเศษ มาปลดเปลื้องความเหนื่อยล้าจากงานตลอดทั้งวันกับบาร์ญี่ปุ่น ที่จะชวนคุณมาเปิดโลกเหล้าบ๊วย โดยชื่อร้าน OSTU BAR มาจากวลีในภาษาญี่ปุ่น “Otsukaresama” ที่แปลว่า “ขอบคุณที่ทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย” ไว้สำหรับกล่าวกับเพื่อนร่วมงานหลังจากทำงานกันอย่างเต็มที่มาตลอดทั้งวัน และเตรียมตัวออกไปดื่มสังสรรค์ ทั้งยังพ้องเสียงกับ Oyatsu หรือที่แปลว่า “ของทานเล่น” อีกด้วย  บาร์แห่งนี้เกิดจากการรีโนเวตทาวน์เฮ้าส์ที่เคยเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขนาด 2 คูหา มาเป็นบาร์ขนาด 1 คูหา ในบรรยากาศที่เข้าถึงง่ายและเป็นกันเอง เริ่มจากการปรับผังใหม่โดยการเพิ่มบันไดให้ดูเป็นพระเอกของร้าน ใช้แผ่นอะคลิริกสีแดงมากรุเป็นราวกันตก สร้างความโดดเด่นให้กับสเปซได้เป็นอย่างดี แล้วออกแบบเคาน์เตอร์บาร์แบบหันหน้าทางเดียว เพื่อให้บาร์เทนเดอร์สามารถดูแลลูกค้าได้ทั่วถึง ช่วยให้บาร์เทนเดอร์ไม่รู้สึกเกร็งจนเกินไป อีกทั้งเป็นการประหยัดพื้นที่ไปในตัว ในแง่ของการใช้วัสดุ ที่นี่เน้นเลือกใช้วัสดุที่มีราคาถูกแต่ออกมาดูดี ไม่ว่าจะเป็นไม้อัด OSB ที่นำมากรุในส่วนของเคาน์เตอร์ ซึ่งยังคงความรู้สึกอบอุ่นและมินิมัลแบบไม้ รวมไปถึงการนำไม้บัวมาเรียงต่อกันเเล้วทาสีแดงบริเวณฟาซาดด้านหน้าร้าน กลายเป็นจุดนำสายตาเเละเอกลักษณ์มองเห็นได้เเต่ไกล ประกอบกับซุ้มทรงโค้งที่ออกแบบให้ดูมีมิติแบบกึ่งปิด-กึ่งเปิด ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับร้านไม่น้อยทีเดียว ที่ตั้ง 1064/59 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ เปิด วันอังคาร-ศุกร์ 17.30 […]

CHOCOLATE BOX MINT จากตึกเก่าแปลงสู่ Poshtel ลุคสบาย ๆ เรียบง่ายสไตล์มินิมัล

รีโนเวตตึกแถวขนาดสูงใหญ่ในซอยสีลม22 สู่ Chocolate Box Mint ที่พักแบบ Poshtel ซึ่งมีบริการที่พิเศษกว่าโฮสเทลทั่วไป กับบรรยากาศมินิมัลโทนสีขาว-ดำ ตัดกับความเขียวชอุ่มของหมู่แมกไม้สีเขียว สมกับชื่อที่พักที่มีคำว่า “Mint” ห้อยท้าย โฮสเทลที่ชูความพิเศษของการตกแต่งและการให้บริการใจกลางย่านสีลม “Chocolate Box Mint” ขอวางตำแหน่งให้ตนเป็น Poshtel พร้อมการตกแต่งที่มีบรรยากาศเต็มไปความเป็นส่วนตัว พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักที่ครบครัน รวมถึงอาหารเช้าแบบจัดเต็ม ภายใต้ภาพลักษณ์ของโรงแรมสีขาว ตกแต่งสไตล์มินิมัล ให้ความสงบสะอาดตา หลีกหนีความวุ่นวายจากใจกลางย่านพลุกพล่าน ที่นี่เกิดขึ้นจากการรีโนเวตตึกแถวขนาดใหญ่สูง 4 ชั้น 2 ตึก โดยตึกหนึ่งหันหน้าเข้าสู่ซอยสีลม 22 อีกตึกหันหน้าเข้าสู่ซอยสีลม 22/1 จากสภาพที่ตั้งดังกล่าวจึงเกิดช่องว่างตรงกลางระหว่างทั้งสองตึก ผู้ออกแบบจึงนำมาใช้สร้างจุดเด่นให้กับโรงแรม      โดยทำลายกำแพงกั้นระหว่างสองตึกนี้ลง แล้วเชื่อมช่องว่างด้านหลังของทั้งสองตึกเพื่อทำเป็นคอร์ตใจกลางโรงแรม ร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้น้อยใหญ่ท่ามกลางอาคารคอนกรีต ให้ทั้งความรู้สึกเย็นสบายและสดชื่นเปรียบเหมือนสีเขียว “Mint” ซึ่งเป็นคำที่ใช้ห้อยท้ายชื่อของโรงแรมนั่นเอง ที่ตั้ง 29/15-17 ซอยสีลม 22 บางรัก กรุงเทพฯ โทร.09-9627-2372 https://www.facebook.com/Chocolateboxmint เรื่อง  : […]

Flat White Café x Poshtel โฮสเทลสีขาวสะอาดตา มีคาเฟ่และที่พักรวมอยู่ในที่เดียว

Flat White Café x Poshtel ที่พักในจังหวัดลำปาง รวมคาเฟ่และที่พักไว้ในที่เดียวกันกับโฮสเทลสีขาวสะอาดตา กับคอนเซ็ปต์ที่ต้องการสื่อถึงความบริสุทธิ์และความสงบ เพื่อสร้างความประทับใจและเติมเต็มการพักผ่อนให้แก่แขกผู้เข้าพักอย่างแท้จริง ตัวอาคารของ Flat White Café x Poshtel ด้านนอกสีขาวดูโดดเด่นด้วยฟาซาดที่ใช้โครงเหล็กกล่องสี่เหลี่ยมโปร่งซ้อนกัน ขณะเดียวกันก็ช่วยพรางตาเครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ได้อีกด้วย เมื่อเข้ามาด้านในจะพบกับพื้นที่ล็อบบี้ที่เปิดเป็นคาเฟ่ไปในตัว จัดวางโซฟาและมุมนั่งเล่นเรื่อยไปจนถึงชั้นลอย บรรยากาศโปร่งโล่งแบบดับเบิ้ลสเปซ ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นคุมโทนสีขาวเป็นหลัก และใช้โครงเหล็กกล่องเพื่อกำหนดสเปซสร้างความรู้สึกต่อเนื่องกับอาคารด้านนอก แต่เพื่อไม่ให้ดูเรียบจนเกินไปจึงได้แทรกด้วยวัสดุตกแต่งที่มีความเป็นธรรมชาติอื่น ๆ ลงไป เช่น หินอ่อน ผนังอิฐ พื้นคอนกรีต และระแนงไม้ รวมถึงดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างป้ายชื่อโรงแรมที่ทำจากหลอดไฟนีออนสีชมพูตัดกับผนังสีขาว จัดวางแจกันดอกไม้และไม้ใบสีเขียวสดดูมีชีวิตชีวา จี๊ดจ๊าดไปกับเก้าอี้เหล็กทำสีส้ม และผนังที่ทาสีเป็นแสงไผฉายลงมาบนพื้นเพื่อให้ล้อไปกับโคมไฟด้านบนผนัง ให้อารมณ์เหมือนเปิดไฟไว้ตลอดเวลา ส่วนห้องพักชั้นบนมีทั้งห้องเตียงเดี่ยว เตียงคู่ และเตียงชุดสำหรับ 4 คน ตกแต่งในโทนสีขาวเช่นเดียวกับส่วนอื่น ๆ และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แต่เพียงน้อยชิ้นเพื่อให้ยังคงบรรยากาศเเบบมินิมัล  เป็นความน้อยแต่มากที่เต็มไปด้วยความลงตัว ไม่ว่าจะกำลังมองหาพื้นเพื่อสังสรรค์ดื่มกาแฟกินขนมกับเพื่อน ๆ หรือหาสถานที่พักผ่อนระหว่างเดินทางมาท่องเที่ยว ที่นี่ก็พร้อมต้อนรับตอบโจทย์ครบครันในที่เดียว ที่ตั้ง  344/4 ถนนบ้านเชียงราย ตำบลสบตุ๋ย […]

บ้านอิฐ

WALL HOUSE บ้านหายใจได้ เย็นสบายไม่ง้อเครื่องปรับอากาศ – room

Wall House บ้านอิฐโปร่ง สร้างจากวัสดุธรรมดาสามัญที่ยอมให้อากาศและแสงผ่านเข้าบ้านได้ แตกต่างจากผนังบ้านแบบปิดทึบทั่วไป สร้างสภาวะน่าสบาย พร้อมมุมสีเขียวให้ได้พักผ่อนภายใน ตอบโจทย์การอยู่อาศัยแบบปลอดมลพิษ และเข้ากับสภาพอากาศร้อนชื้นในเวียดนามได้อย่างดี ที่นี่เกิดจากคำถามที่ว่า ถ้าหากลมและแสงไม่สามารถผ่านเข้าบ้านได้ คุณภาพอากาศและการใช้ชีวิตในบ้านจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่านั่นย่อมย่ำแย่ทั้งต่อสุขภาพและการอยู่อาศัย เป็นโจทย์ให้เจ้าของบ้านกับทีมออกแบบจาก CTA | Creative Architects อยากสร้างบ้านให้สามารถหายใจได้ ผ่านขั้นตอนการออกแบบโดยมีวัสดุหลักอย่าง “อิฐโปร่ง” มาทำหน้าที่เป็นกำแพงให้แก่บ้าน แม้จะไม่สามารถรับน้ำหนักได้อย่างอิฐทั่วไป แต่ก็มาพร้อมคุณสมบัติที่ช่วยให้ลมและอากาศไหลเวียนถ่ายเทได้อย่างทั่วถึง Wall House บ้านอิฐ       Wall House ตั้งอยู่ในพื้นที่สวนดั้งเดิม (ซึ่งนับวันจะเหลือน้อย) ในเมืองเบียนฮหว่า เมืองหลักของจังหวัดด่งนาย ประเทศเวียดนาม ฉะนั้นเพื่อรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมซึ่งอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ และสร้างความกลมกลืนกับสภาพแวดล้อมรอบ ๆ สถาปนิกจึงเน้นใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหลักในการออกแบบ เริ่มต้นจากองค์ประกอบเด่น ๆ อย่าง กำแพงหายใจได้ สถาปนิกเล่าว่าเขาแบ่งออกเป็น 2 องค์ประกอบ องค์ประกอบแรกคือ ระบบผนังเปิด ที่ทำจากอิฐโปร่ง เพื่อป้องกันมลภาวะจากสภาพแวดล้อมภายนอก โดยนำมาเรียงต่อกันในทิศทางตรงกันข้ามกับวิธีการก่อสร้างแบบเดิม ด้วยการจัดเรียงดังกล่าวจึงสามารถช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ และแสงไหลเวียนถ่ายเทได้ดี ส่วนองค์ประกอบที่สองคือ พื้นที่สวน […]

ESCAPE BANGKOK เติมอารมณ์ให้สายปาร์ตี้ไปกับบีชบาร์สไตล์บาหลี

Escape Bangkok ยกบีชบาร์ริมทะเลมาไว้กลางกรุง บนชั้น 5 ของดิเอ็มควอเทียร์ สำหรับเป็นสถานที่แฮ้งเอ๊าต์ของหนุ่มสาวหลังเลิกงาน ได้มาปลดปล่อยตัวเองเข้าสู่โหมดแห่งความรีแล็กซ์ จนลืมไปเลยว่ากำลังอยู่ในย่านสุขุมวิทที่พลุกพล่านกลางกรุงเทพฯ  ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่เป็นสายแฮ้งเอ๊าต์ Escape Bangkok รูฟท็อปบาร์บรรยากาศเอ๊าต์ดอร์แห่งนี้ รับรองไม่ทำให้คุณผิดหวัง ทันทีที่ดวงอาทิตย์ลับเหลี่ยมมุมตึก สีสันความสนุกก็พร้อมเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางป่าคอนกรีตหนาเเน่น  รู๊ฟท็อปบาร์เเห่งนี้เปรียบได้กับโอเอซิสให้คุณมาดื่มด่ำกับกลิ่นอายคล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ริมชายหาด ระหว่างรอให้เเสงอาทิตย์ยามเย็นลับหายจากมุมตึก เเสงไฟเเต่ละตำเเหน่งก็เตรียมทำหน้าที่ฉาบไล้รอบ ๆ ด้วยเเสงสีชมพู กระตุ้นอารมณ์ให้คึกคักไปตามเสียงเพลงจากบู๊ธดีเจ ซึ่งมีดีเจทั้งไทยเเละเทศผลัดเปลี่ยนกันมาสร้างสีสัน พร้อมบริการเครื่องดื่มเเละอาหารรับประทานง่ายเเบบสไตล์ตะวันตก จุดเด่นของพื้นที่โอเพ่นบาร์ด้านนอก คือ Ellipse Bar บาร์ค็อกเทลขนาดใหญ่สีขาวทรงโค้งมน ช่วยให้บาร์เทนเดอร์สามารถบริการลูกค้าที่นั่งอยู่บนสตูลได้รอบทิศทาง ด้านบนประดับเเชนเดอเลียร์ผ้าพลิ้วไหวราวกับฟองคลื่น เมื่อกระทบกับเเสงไฟนีออนสีชมพูฟลามิงโก บาร์ค็อกเทลนี้ก็ยิ่งมีความพิเศษเเละเด่นสะดุดตามากขึ้น รอบ ๆ จัดที่นั่งขนาดยาวขนานไปตามเเนวระเบียง พร้อมซุ้มที่นั่งใต้กระโจมหญ้าคาเเบบบาหลี ประดับต้นไม้ ของตกแต่ง เเละเฟอร์นิเจอร์สไตล์ทรอปิคัล ให้กลิ่นอายสื่อถึงท้องทะเลเขตร้อน นอกจากนี้หากใครมาเป็นกลุ่มใหญ่ หรือต้องการจัดไพรเวตปาร์ตี้ ที่นี่ยังมีโซนอินดอร์ให้บริการด้วย เรียกว่าไม่ต้องไปไกลถึงทะเล คุณก็สามารถสัมผัสกับความสนุก เเละบรรยากาศชิล ๆ พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ เเม้จะอยู่ในมหานครที่เต็มไปด้วยตึกสูงก็ตาม ที่ตั้ง ชั้น 5 ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ […]

DR.FETCH บาร์ลับที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองใต้ทะเลของด็อกเตอร์สติเฟื่อง

DR.FETCH บาร์ลับในย่านสุขุมวิท กับคอนเซ็ปต์ “Ocean Laboratory Bar” ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ใต้ทะเลสุดพิลึกของดอกเตอร์สติเฟื่อง! ใครชอบภาพยนตร์เเนววิทยาศาสตร์ดูลึกลับ ๆ ละก็ บนชั้น 2 ของ Octo Seafood Bar คุณจะได้พบกับ Dr.Fetch บาร์ที่จำลองบรรยากาศห้องทดลองลับใต้ทะเลของ Dr.Fetch นักวิทยาศาสตร์ผู้ชอบนำสัตว์ทะเลมาทำการทดลองเเปลก ๆ ซึ่งเป็นธีมสนุก ๆ ที่สลับฉากจากภาพร้านอาหารซีฟู้ดชั้นล่างโดยสิ้นเชิง ภายใต้ธีม “Ocean Laboratory Bar” ทันทีที่ก้าวเข้ามาคุณจะสัมผัสได้กับบรรยากาสสุดดาร์กดูมืดสลัว โดยมีเหล่าบาร์เทนเดอร์สวมบทบาทเป็นนักวิทยาศาสตร์ในชุดกาวน์สีขาวคอยปรุงเครื่องดื่ม เติมส่วนผสมนั่นนิดนี่หน่อยจนได้เเก้วเครื่องดื่มสำหรับจัดเสิร์ฟหลากหลายเมนู ขณะที่การตกแต่งภายในยังคงหยิบองค์ประกอบเพื่อบอกเล่าบรรยากาศใต้ท้องเรือโบราณ เช่นเดียวกับร้านอาหารชั้นล่างมาใช้ เติมกลิ่นอายย้อนยุคจากเหล่าเฟอร์นิเจอร์ไม้สีเข้มเเละหนังตอกหมุด รอบ ๆ ตกแต่งด้วยสคัลป์เจอร์ซากฟอสซิลเเละรูปสัตว์หน้าตาประหลาด เปรียบเสมือนผลลัพธ์จากการทดลองสุดเเหวกเเนว ผสมกับบรรยากาศความเป็นห้องเเล็ปที่มีเอกลักษณ์ อย่างการกรุกระเบื้องสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีขาวยาวตลอดเเนวครึ่งหนึ่งของผนัง ก่อนจะตัดด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ที่ขอบด้านบนล้อกันไปกับสีกระเบื้องด้านหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ฉาบไล้ด้วยเเสงไฟสลัว ๆ จากเหล่าโคมไฟสไตล์อินดัสเทรียล และไฟแอลอีดีที่ซ่อนอยู่หลังเเนวที่นั่ง ขับบรรยากาศให้ห้องทดลองลับแห่งนี้ดูลึกลับยิ่งขึ้นไปอีก เรียกว่าใครกำลังมองหาสถานที่เเฮ้งเอ๊าต์กับแก๊งเพื่อน Dr.Fetch รอมอบความพิเศษเคล้าไปกับเสียงเพลงจากดีเจเเละศิลปินชื่อดังที่ผลัดเปลี่ยนกันมาเเสดงดนตรีสดให้ได้ฟังสร้างความบันเทิงตลอดทั้งคืน ที่ตั้ง ชั้น 2 อาคาร Octo […]

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ในบรรยากาศเรือโบราณใต้สมุทร

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ไอเดียสุดแฟนตาซี ที่มาพร้อมกิมมิกสนุก ๆ ราวกับคุณกำลังอยู่ในเรือโบราณใต้มหาสมุทร โดยมีเจ้าปลาหมึกยักษ์คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้า ซีฟู้ดบาร์กลางซอยสุขุมวิท 24 แห่งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนโฉมคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก 2 ชั้นให้กลายเป็นร้านอาหารทะเลภายในกล่องกระจกใส โดยมีประติมากรรมปลาหมึกยักษ์โชว์อยู่ด้านหน้า ช่วยดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาให้ต้องเหลียวมอง เหมาะกับใครกำลังมองหาสถานที่แฮ้งเอ๊าต์กับกลุ่มเพื่อน หรืออยากพาครอบครัวไปรับประทานอาหารทะเลอร่อย ๆ แบบไม่ต้องไปไหนไกล การปรับปรุงอาคารที่เคยเป็นศูนย์การค้าเก่าให้เหมาะกับการเปิดเป็นร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบที่นี่ต้องทุบพื้นที่ทั้งหมดออกเเล้วสร้างสเปซการใช้งานด้านในขึ้นมาใหม่ ก่อนเปลี่ยนลุคเดิมของอาคารไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้งานภายใน ฟาซาดด้านหน้า พื้น และอื่นๆ ขณะที่โครงสร้างได้เน้นการใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ดูอินดัสเทรียลจนน่าอึดอัดทั้งหมดจึงถูกทาด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ เพื่อให้เข้ากับธีมที่สื่อถึงความเป็นทะเล มีความรีเเล็กซ์เเละเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยเหล่าโต๊ะเเละเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้เเละหวาย นอกจากนี้ยังหยิบองค์ประกอบชิ้นส่วนของเรือมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างวงกลม การโชว์ท่องานระบบใต้ท้องอาคาร ไม้หุ้มเสาที่ยึดด้วยนอต โคมไฟเรือ ฯลฯ กลายเป็นกลิ่นอายที่เชื่อมโยงเข้ากับเเรงบันดาลใจซากเรือโบราณ โดยไม่ต้องยกเรือทั้งลำมาให้เห็นได้อย่างเเยบยล พื้นที่ตรงกลางโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่แบบ 360 องศา ให้บริการเครื่องดื่มรสเลิศจากทุกมุมโลกเเละเสิร์ฟเบียร์สดคุณภาพ รายล้อมด้วยเหล่าร้านอาหารที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอย่างกับตลาดอาหารทะเล เเละหากมองลงมาจากชั้น 2 เคาน์เตอร์บาร์ที่ว่านี้จะดูเหมือนห้องบังคับการเรือของกัปตัน โดยมีภาพฝูงปลาเเวกว่ายอยู่ด้านบนซึ่งฉายจากโปรเจ็กต์เตอร์ขนาดใหญ่ จำลองภาพเหมือนคุณกำลังอยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่เเตกต่างจากร้านอาหารทะเลทั่วไป ที่ตั้ง 88/2,88/9 สุขุมวิท […]

JACQUELINE BANGKOK จิบค็อกเทลในบาร์ที่จะพาคุณย้อนสู่ยุค50’s

ย้อนบรรยากาศกลับสู่ยุค 50’s กับ JACQUELINE BANGKOK บาร์สไตล์ American Mid-Century บนชั้น 2 ของโครงการสิริเฮ้าส์ ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตีเฮ้าส์ย่านชิดลม ด้วยการหยิบคาเเร็กเตอร์สุดเฟียร์สของแจ็คเกอลีน เคนเนดี มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบตกแต่ง จากบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในยุค 50’s ภายในซอยสมคิด ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อเปิดเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ เเละโดยเฉพาะบาร์แห่งนี้ จากประวัติอันยาวนานเเละรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทุกอย่างจึงดูลงตัวเข้ากับคอนเซ็ปต์บาร์ยุคซิกซ์ตี้อย่างยิ่ง โดยทันทีที่คุณเดินขึ้นมายังพื้นที่บาร์จะสัมผัสได้กับบรรยากาศที่เป็นกันเอง คล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักตากอากาศช่วงซัมเมอร์ริมชายหาดไมอามีอย่างไรอย่างนั้น ด้านหน้าเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่นำไอเดียคอปเปอร์บาร์ของบ้านตัวร้ายในภาพยนตร์ Dr. No (1963) มาดีไซน์กลายเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีทองเเดงสามารถรับบริการเครื่องดื่มจากบาร์เทนเนอร์ได้รอบทิศทาง ท็อปด้านบนปูด้วยหินขัดเทอร์ราซโซ วัสดุยอดนิยมของยุคนั้น พร้อมกับประดับโคมไฟเเขวนสไตล์สเเกนดิเนเวียนช่วยย่อสเปซลงมา รอบ ๆ เคาน์เตอร์ทั้งในเเละนอกจัดวางสตูลบาร์ตัวสูงทำจากหวายสไตล์ทรอปิคัล ดูรีเเล็กซ์เข้ากับบรรยากาศร่มครึ้มของไม้ใหญ่ในโครงการ ขยับเข้ามาที่โซนด้านในจะพบกับชุดเฟอร์นิเจอร์บุเบาะกำมะหยี่สีสันสดใสหนานุ่ม ร่วมด้วยองค์ประกอบอย่าง เเพตเทิร์นไม้เเต่งผนังสีน้ำตาลเข้ม ทาสีผนังด้วยสีน้ำเงินเเกมเขียวสื่อถึงสไตล์วินเทจ รู้สึกได้ทั้งความเป็นเฟมินีนเเละโฮมมี่พร้อม ๆ กัน หากอยากออกไปสูดอากาศด้านนอกก็มีระเบียงให้นั่งเล่น บนเบาะสีฟ้าขลิบขอบขาว ซึ่งนิยมใช้ในสถานที่ตากอากาศริมทะเลสมัยก่อน นอกจากบรรยากาศเเละของตกแต่งที่อิงมาจากเรื่องราวชีวประวัติของแจ็คเกอลีน เคนเนดี เเล้ว เมนูค็อกเทลยังตั้งชื่อตามช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ […]

ADHOC อร่อยกับเมนูเชฟส์เทเบิ้ลในบรรยากาศไพรเวตไดน์นิ่งสุดเอกซ์คลูซีฟ

ADHOC ร้านอาหารไพรเวตไดน์นิ่งกับคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นเเขกคนพิเศษ ผู้ได้รับคำเชิญจากเชฟเจ้าของบ้านให้มาดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นสุดเอกซ์คลูซีฟ กับมื้ออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ทั้งอร่อยเเละมีหน้าตาราวกับงานศิลปะ สร้างสรรค์โดยเชฟเเท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Studio Act of Kindness จากธีมของร้าน ADHOC ที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น หนึ่งคำสามารถสัมผัสได้ครบทุกรสชาติ ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม จากธีมของร้านที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น […]

ฟังเพลงยุค90’s เคล้าบรรยากาศคลาสสิกผสมสีสันสุดป็อปที่ THE CHATROOMS

เมื่อกระเเส90’s หวนคืนกลับมาให้หายคิดถึง หลายคนเเค่ได้ฟังเพลงสมัยที่ยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่นในยุคนั้น ภาพที่เหมือนผ่านมานานเเล้วก็กลับลอยฟุ้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของบาร์ที่มีชื่อว่า The Chatrooms เด่นด้วยโลโก้เเป้นหมุนโทรศัพท์เเบบวงกลมเเละสีสันทีนป็อปสุดจี๊ดจ๊าด หลังจากที่ The Cassette Music Bar ซึ่งเป็นผับที่อยู่ด้านล่างของโครงการเวิ้งโบราณย่านเอกมัยซอย 10 สามารถจับกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลดนตรีเต้นรำยุค90-2000 เเต่ด้วยลักษณะร้านที่เป็นผับไม่เหมาะมานั่งชิล ๆ คุณภา- พิณภัสร์ สิริอัครเศรษฐ ผู้ก่อตั้ง The Cassette Music Bar จึงเกิดไอเดียทำร้าน The Chatrooms ขึ้นมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการฟังเพลงสบาย ๆ ความหมายแบบ Positive ยุค 90’s พร้อมกับจัดเสิร์ฟเมนูอาหารรับประทานง่าย เเละค็อกเทลสูตรซิกเนเจอร์ เคล้าเสียงพูคคุยเฮฮาไปกับกลุ่มเพื่อนคอเดียวกัน สมกับชื่อร้านซึ่งมีที่มาจาก “chat room” โปรเเกรมห้องสนทนาในตำนานก่อนสมาร์ทโฟนจะเฟื่องฟู จากชื่อร้าน เเล้วอะไรกันละที่จะสื่อถึงการพูดคุยที่จับต้องได้ เจ้าของเเละทีมออกแบบจึงนึกถึงโทรศัพท์ โดยเฉพาะโทรศัพท์เเอนะล็อกเเบบแป้นหมุม นำมาสู่กิมมิกที่ใช้ตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของร้านให้ดูโดดเด่น ตั้งเเต่ประตูทางเข้า เรื่อยมาจนถึงพื้นที่ด้านใน ท่ามกลางสีสันที่หลากหลายสดใส ภายใต้ธีมการตกแต่งสไตล์คลาสสิกที่มีความป็อปเข้าไปผสม มัดรวมไอเดียสนุก […]

KHAO จัดเสิร์ฟความอร่อยสไตล์ไทยในอาคารยุ้งข้าวเเละฉางเกลือสไตล์โมเดิร์น

หากอยากกินอาหารไทยเเบบธรรมดาไม่ลึกลับ เเต่พิเศษด้วยเทคนิคความอร่อยสูตรเฉพาะจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ ขอชวนมาที่ “KHAO” ร้านอาหารไทยใจกลางเมืองในซอยเอกมัย 10 “ข้าว” นอกจากจะเป็นอาหารช่วยให้อิ่มท้อง ยังมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยมาช้านาน เเถมเป็นสื่อกลางที่ช่วยสร้างความรักความผูกพันระหว่างครอบครัวเเละหมู่มิตร เห็นได้จากเรามักถามไถ่กันว่า “กินข้าวมารึยัง” หรือเเม้เเต่ในวาระสำคัญการกินข้าวร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งการเชื่อมไมตรี จากความหมายดี ๆ จึงเป็นที่มาของร้านอาหารที่มีชื่อว่า “KHAO” โดยมีเชฟวิชิต มุกุระ เป็นหัวเรือใหญ่นำพารสชาติอาหารไทยเเท้ ๆ จัดเสิร์ฟเป็นสำรับกับข้าวที่เเสนอร่อย จนได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน Restaurants of the MICHELIN Guide ประเทศไทยประจำปี 2020 จากคอนเซ็ปต์เริ่มต้นที่มาจากข้าว ได้ส่งต่อสู่ไอเดียการออกแบบร้านให้มีลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว โดยมีเเรงบันดาลใจมาจากยุ้งข้าวกับฉางเกลือ เนื่องจากเชฟวิชิตมีความสนใจเรื่องข้าว เขาจึงลงมือเรียนรู้ตั้งเเต่การดำนาจนถึงการเก็บเกี่ยว ดั้งนั้นร้านนี้จึงเปรียบเสมือนยุ้งข้าวขนาดใหญ่สำหรับรองรับผลผลิตจากไร่นาของเชฟเอง เช่นเดียวกันก่อนที่จะมีน้ำปลาก็ต้องมีเกลือถึงจะหมักปลาทำน้ำปลาได้ จากเเนวคิดดังกล่าวยุ้งข้าวกับฉางเกลือจึงถูกผนวกรวมกัน ภายใต้สถาปัตยกรรมเเบบโมเดิร์น ซึ่งเเต่งเเต้มด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่นำมาตีความใหม่ เด่นด้วยฟาซาดที่ตีความจากฝาไม้ไผ่ขัดเเตะของฉางเกลือ โดยลดทอนรายละเอียดลงเป็นเเพตเทิร์นช่องสี่เหลี่ยมกรุกระจกใส ช่วยนำเเสงเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างทั่วถึง เช่นเดียวกับโถงหลังคาที่ยกสูงขึ้นไป เพื่อให้พื้นที่บริการลูกค้าดูปลอดโปร่ง ก่อนระดับหลังคาจะค่อย ๆ เทลาดไปด้านหลังตามแปลนเเนวยาวของที่ดิน ปะทะสายตาตั้งเเต่เดินเข้ามาด้วยโอเพ่นคิตเช่นที่ตั้งใจให้อยู่ด้านหน้าสุด อันสื่อถึงความจริงใจกับลูกค้าให้สามารถมองเห็นเชฟกำลังทำอาหารอยู่ในครัวอย่างใส่ใจ เเล้วจึงค่อยนำเข้าสู่โซนบาร์เเละพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอบอุ่นเรียบง่าย มีมุมให้เลือกนั่งทั้งเเบบทั่วไป […]

THIEN DUONG ลิ้มรส อาหารเวียดนาม ในบรรยากาศโกดังยาทัมใจเก่าอายุเกือบร้อยปี

เเวะมาหลบร้อนเเละรับประทาน อาหารเวียดนาม เเท้ ๆ กันที่ “เธียนดอง” การันตีความอร่อยโดยเชฟมาตรฐานระดับโรงเเรม บนที่ตั้งของโรงงานยาทัมใจเก่ากลางย่านศาลาเเดง ระหว่างรอการปรับโฉมใหม่ของโรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพ เพื่อเปลี่ยนเป็นโครงการมิกซ์ยูส ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ห้อง อาหารเวียดนาม ฉบับต้นตำหรับหนึ่งเดียวของโรงเเรมอย่าง “เธียนดอง” ได้ย้ายตัวเองมายังสถานที่แห่งใหม่ ภายใต้นามของ “บ้านดุสิตธานี” ไม่ไกลจากโรงเเรมเดิม โดยเป็นการเช่าพื้นที่บ้านเก่าอายุเกือบร้อยปีของตระกูลโอสถานุเคราะห์ เพื่อเปิดเป็น 1 ใน 3 ร้านอาหาร นอกเหนือจากดุสิตกูร์เมต์ เเละบ้านเบญจรงค์ ที่บริการโดยเชฟเเละพนักงานจากโรงเเรมดุสิตธานีฯ ทั้งหมด สำหรับร้านเธียนดอง ได้เลือกโกดังด้านหลังที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตยาทัมใจเป็นที่ตั้งของร้าน โดยปรับเปลี่ยนจากโกดังทึบตันให้เปิดโปร่งด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ เด่นสะดุดตากับประตูไม้เก่าสีน้ำเงินเข้มที่เพ้นต์ลวดลายหญิงชาวเอเชียสวมชุดเเบบยุโรป รับกับคอนเซ็ปต์การตกแต่งสไตล์เฟรนช์โคโลเนียล เพื่อสื่อถึงยุคสมัยที่เวียดนามถูกฝรั่งเศสยึดครอง ขณะที่โครงสร้างเเละองค์ประกอบอื่น ๆ ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี เช่น ผนังบางจุดที่ทุบไม่หมดเพื่อเผยให้เห็นร่องรอยของอิฐมอญ คานหลังคาที่ยังคงสภาพเเข็งเเรง หน้าต่างเหล็กดัดเก่า รูระบายอากาศบนผนังด้านบน รวมถึงสีเขียวซีดจางของผนัง เเละลายมือจดตัวเลขของคนงาน ที่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของวันวานของโรงงานแห่งนี้เเบบไม่มีวันเลือนลาง นอกเหนือจากนั้นก็มีเพียงส่วนของพื้นที่ปูกระเบื้องใหม่ให้มีสีสันสดใส เเละการปรับเเผนผังให้เหมาะกับการเปิดร้านอาหาร เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้สไตล์โคโลเนียลที่มาจากห้องอาหารเดิม เเละเฟอร์นิเจอร์หวาย เเขวนประดับภาพเพ้นต์วิถีชีวิตชาวเวียดนาม วอลล์เปเปอร์ลายทรอปิคัล […]

HOLMES ร้านอาหารที่มีกลาสเฮ้าส์บนดาดฟ้า พร้อมบรรยากาศลึกลับสไตล์อินดัสเทรียลสุดเท่

ร้านอาหารย่านพญาไท จัดเสิร์ฟเมนูสไตล์เวสต์เทิร์นโฮมเมด บรรยากาศวินเทจ-อินดัสเทรียล ที่จะทำให้คุณเหมือนนั่งอยู่ในอาคารของย่านเก่ายุคคริสต์ศตวรรษที่18-19 ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมเหล็กเฟื่องฟู จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่การออกแบบฟาซาดเหล็กทำสีดำ เจาะช่องเปิดทรงโค้งสูง ดูต่างจากตึกเเถวใกล้เคียง พร้อมมีมุมไฮไลต์ห้ามพลาด นั่นคือบาร์ใต้กลาสเฮ้าต์บนชั้นดาดฟ้า ที่เหมาะมานั่งชมวิวเเละแฮ้งเอ๊าต์ยามเย็น เกิดจากความตั้งใจของคุณบัว-บุฏกา โรจนัย เจ้าของร้านที่ต้องการถ่ายทอดทุกรสนิยม ผ่านทั้งการตกแต่งเเละรสชาติอาหาร ซึ่งเธอบรรจงสร้างสรรค์ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เธอเป็นคนชอบทำอาหารรับประทานกับเพื่อน ๆ ช่วงไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริก นอกจากนั้นเธอยังหลงใหลความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ของเมืองต่าง ๆ จึงเก็บบันทึกไว้ผ่านภาพถ่าย ก่อนจะนำมาสู่เรเฟอเรนซ์การออกแบบตกแต่งร้านแห่งนี้ ให้มีบรรยากาศวินเทจ เคร่งขรึม เเละลึกลับน่าค้นหา ชวนให้หลายคนนึกถึงที่มาของชื่อ HOLMES ร้านอาหารย่านพญาไท เเห่งนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่คุณบัวจะเฉลยพร้อมความหมายที่ซ่อนอยู่ให้ฟังว่า “บางคนก็เดาที่มาของชื่อร้านว่ามาจาก เชอร์ล็อก โฮมส์ รึเปล่า ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เหมือนตึกสไตล์ยุโรปเเบบย้อนยุค เเต่จริง ๆ เเล้วชื่อ โฮมส์ มีที่มาจากการที่อาหารของเราเป็นเเบบโฮมเมด เน้นการนำวัตถุดิบคุณภาพดีมาใช้ประกอบอาหาร เหมือนเราทำให้คนในบ้าน หรือเพื่อน ๆ ได้รับประทาน บวกกับน้องชายชื่อ บ้าน ดังนั้นชื่อโฮมส์ จึงเหมาะที่สุดสำหรับร้านอาหารร้านเเรกของครอบครัว” จากตึกเเถวที่เคยเป็นคลินิกเก่าขนาด 4 ชั้น รวมชั้นดาดฟ้า […]

SECOND EDITION ร้านอาหารฝรั่งเศส หรูหราสไตล์ MID CENTURY ที่เน้นชูรสชาติของวัตถุดิบเเท้ ๆ

ร้านอาหารฝรั่งเศส แห่งนี้ ถือเป็นภาคต่อจากร้าน 4Garçons ของ เชฟเเวน- อายุษกร อารยางกูร กับการเล่าเรื่องราวของอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด รวมถึงยังนำประสบการณ์จากการเป็นนักเดินทางมาถ่ายทอดสู่ร้านใหม่ Second Edition ซึ่งถือเป็นการเติบโตขึ้นอีกขั้น ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายเเละเทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสเเบบดั้งเดิมไว้ เเต่ลดความขึงขังเเละเป็นทางการลง พร้อมเมนูที่มีความหลากหลายเเละรับประทานง่ายขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จจาก ร้านอาหารฝรั่งเศส ร้านเเรกที่ใช้ชื่อว่า โฟร์กาซงส์ ซึ่งเเปลว่า เด็กชาย 4 คน ที่ตั้งขึ้นโดยเพื่อนสนิท 4 คน ในปี 2011 มาวันนี้จากแนวทางการตกแต่งร้านแบบ Art Deco ที่จำลองบรรยากาศเเบบฝรั่งเศสในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ดำเนินมาสู่ภาคต่ออย่างร้าน Second Edition กับการย้ายสถานที่ใหม่มาสู่ซอยสุขุมวิท 31  เเน่นอนว่าบรรยากาศของ ร้านอาหารฝรั่งเศส แห่งนี้ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนกับการเติบโตขึ้นของเด็กชายทั้ง 4 คน สู่ชายหนุ่มผู้มีบุคลิกที่ทั้งดูเท่เเละสมาร์ทขึ้น โดยสะท้อนผ่านการตกแต่งสไตล์ Mid Century หรือยุคโมเดิร์นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ช่วงปีค.ศ.1950) ร้านอาหารฝรั่งเศ การออกแบบตกเเต่งร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้รูปทรงเรขาคณิต […]