Commercial Space Archives - Page 32 of 84 - room

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์บล็อกแก้ว ที่เชื่อมเมืองกับสวนสาธารณะเข้าไว้ด้วยกัน

RICCO BURGER ร้านเบอเกอร์ ที่ใช้เวลาในการทำเพียง 4 เดือน ด้วยงบประมาณและเวลาก่อสร้างอันจำกัด สถาปนิกถึงพยายามใช้โครงสร้างและสิ่งที่มีอยู่เดิมให้มากที่สุด ผู้ออกแบบให้ความสำคัญกับความเชื่อมต่อของพื้นที่หน้ ร้านเบอเกอร์ RICCO BURGER ซึ่งเป็นถนนและสวนสาธารณะด้านหลัง ตัวอาคารของร้านจึงทำหน้าที่เป็นตัวประสานพื้นที่ทั้งสองเข้าด้วยกัน โดยให้ร้านเปรียบเสมือน “ตัวกรอง” มลภาวะเเละความวุ่นวายทางสายตาต่าง ๆ ออกไป บรรยากาศของพื้นที่ฝั่งสวนสาธารณะใช้โครงเหล็กและบันไดที่จะนำไปสู่พื้นที่ร้านอาหารชั้น 1 และเมื่อเข้ามาในร้าน ลูกค้าจะได้รับความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งกินเบอเกอร์อยู่ในห้องน้ำ ด้วยผนังกรุกระเบื้องแผ่นเล็กของห้องน้ำเดิมยังคงอยู่โดยถูกดัดแปลงให้กลายเป็นส่วนของห้องครัว ผนังที่เหลือถูกกระเทาะออกทั้งหมด เหลือไว้เพียงพื้นไม้เดิมที่ยังคงเก็บรักษาไว้ อีกหนึ่งรูปแบบที่เชื่อมพื้นที่ทั้งหมดเข้าด้วยกันคือขนาดของวัสดุ 20×20 เซนติเมตร ทั้งในส่วนของกระเบื้องสีขาว แผ่นปูพื้น และบล็อกแก้ว ส่วนพื้นที่ที่ทำขึ้นมาใหม่ของร้านนี้ ก็คือส่วนของเคาน์เตอร์เตรียมอาหาร และที่นั่งแบบหล่อในที่ ฝ้าเพดานถูกรื้อออกหมด เพื่อโชว์โครงสร้างเผยผิววัสดุตามเเบบที่เรียกว่าสัจวัสดุ ซึ่งตรงกับคอนเซ็ปต์ของร้านที่ว่าใช้วัตถุดิบเรียบง่ายเป็นธรรมชาติ และเน้นไปที่กระบวนการเตรียมอาหาร พื้นที่ในร้านชั้น 1 และทางเท้าเลือกใช้วัสดุปูพื้นชนิดเดียวกัน เพื่อเชื่อมพื้นที่ให้ดูลื่นไหล ต่อเนื่อง ผนังด้านหน้าและหลังร้านกั้นด้วยบล็อกแก้วที่ใช้โครงสร้างเหล็ก ด้วยคุณสมบัติของบล็อกแก้วที่ยอมให้แสงธรรมชาติเข้าสู่พื้นที่ในร้าน แต่ยังคงความเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่ภายใน อีกทั้งช่วยสร้างเอฟเฟ็กต์ของแสงสียามค่ำคืน สร้างความน่าสนใจสำหรับใครที่ผ่านไปมา ออกแบบ : BLOCO Arquitetos ภาพ : […]

DESIGN IN MOTION OFFICE ออฟฟิศสถาปนิกที่โชว์ผิววัสดุ โครงสร้าง และสเปซคุณภาพ

ออฟฟิศสถาปนิก ที่โดดเด่นด้วยความโปร่งโล่งทั่วถึงกันตลอดทั้งอาคาร ด้วยการออกแบบ “บันได” เป็นองค์ประกอบหลัก จากการใช้โครงสร้างคอนกรีตโชว์ผิวที่โชว์ความงามของระบบโครงสร้างอย่างตรงไปตรงมา เมื่อถึงโอกาสของการขยับขยายและย้ายที่ทำงานสู่สถานที่ใหม่ บริษัท Design In Motion จึงได้เปลี่ยนที่ดินว่างเปล่าผืนหนึ่งในซอกซอยซับซ้อนของถนนสุขุมวิท 71 ให้กลายเป็นอาคารสำนักงานมากเอกลักษณ์ ที่รวมทุกคุณสมบัติของสำนักงานคุณภาพ ทั้งเรื่องแสงสว่าง พื้นที่ส่วนกลาง และดีไซน์พิเศษมากฟังก์ชัน ซึ่งผ่านการคิดมาแล้วอย่างเป็นองค์รวม สมกับความเป็น ออฟฟิศสถาปนิก มากประสบการณ์ “เรามีความต้องการที่จำเป็นอยู่ไม่กี่ข้อ” คุณธฤต ทศไนยธาดา หนึ่งในพาร์ทเนอร์ของบริษัท เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของสำนักงานแห่งใหม่ “แสงสว่างส่องถึง ให้ออฟฟิสสว่างๆ โล่งๆ ไม่ทึบ แล้วก็อยากมองเห็นกันในระหว่างทำงาน รวมถึงเรื่องงบประมาณค่าก่อสร้างด้วย” คุณธฤตเล่าว่า สำนักงานของ Design In Motion ก่อนหน้านี้ เป็นเพียงห้องของตึกแถว 1 ห้องในย่านเอกมัย และพนักงานกว่า 10 คนทั้งทีมพาร์ทเนอร์และพนักงาน ก็นั่งทำงานรวมกันอยู่ในห้องเดียว ซึ่งถึงแม้ว่าจะเพียงพอ และไม่ถึงขั้นแออัดยัดเยียด แต่การขาดพื้นที่ส่วนกลางและความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ทำงานของแต่ละคน ก็เป็นหนึ่งในปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมของที่ทำงาน ที่ทุกคนเห็นตรงกันว่าต้องการแก้ไข เมื่อย้ายมาที่ทำงานใหม่ การออกแบบให้สถานที่ทำงานโปร่งโล่ง และแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น จึงเป็นปัจจัยแรกๆ […]

BAANSOMTAM BANG NA ร้านส้มตำที่เติมความแซ่บและเป็นพื้นที่สีเขียวให้เมือง

“บ้านส้มตำ” ร้านส้มตำสุดเก๋าที่เปิดมายาวนานกว่า 15 ปี และมีสาขาอยู่ทั่วมุมเมือง ล่าสุดกับสาขาที่ 10 สาขานี้เปรียบเสมือนเป็นแฟล็กชิปสโตร์ของบ้านส้มตำ ที่แสดงออกถึงตัวตนและอัตลักษณ์ของเเบรนด์ได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความใส่ใจในรายละเอียด การคัดเลือกวัตถุดิบคุณภาพ และดีเทลในการบริการ ผ่านการวางพื้นที่ใช้สอยและการใช้วัสดุตกแต่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดา หลังจากศึกษาและวิเคราะห์ที่ตั้งของร้าน ซึ่งอยู่ในย่านบางนาที่ยังขาดพื้นที่สวนระดับชุมชน หรือไม่มีสวนขนาดเล็กแทรกอยู่ในชุมชนเมืองเลย ประจวบเหมาะกับที่ดินผืนนี้มีเนื้อที่ประมาณ 4 ไร่ เมื่อหักลบจากพื้นที่ร้าน บ้านส้มตำ และคาเฟ่แล้ว ยังเหลือพื้นที่อีกมาก จึงเกิดเป็นไอเดียในการสร้างสถาปัตยกรรมรูปแบบใหม่ที่ใช้ “พื้นที่สีเขียว” เป็นจุดดึงดูดความสนใจของโครงการ พื้นที่สีเขียวที่เกิดขึ้นอาจจะเรียกว่าสวนกึ่งสาธารณะ นอกจากช่วยดึงผู้คนให้มาใช้พื้นที่ของร้านบ้านส้มตำและคาเฟ่แล้ว ยังเป็นการเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับเมือง โดยสิ่งนี้ได้กลายเป็นการพึ่งพาอาศัยกัน ทั้งในเเง่ฟังก์ชันการใช้พื้นที่และโมเดลธุรกิจ และเมื่อพูดถึงอาหารอีสาน หลายคนมักนึกถึงความสนุกสนาน อันเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์จากสิ่งที่เป็นเบสิก ท่ามกลางบรรยากาศการรับประทานอาหารที่เป็นการพูดคุยอย่างออกรสเเละเป็นกันเอง อันสื่อถึงความเป็นครอบครัวและความอบอุ่น นำไปสู่การออกแบบตัวอาคารให้มีความกลมกลืนระหว่างฟังก์ชันกับรูปฟอร์มได้อย่างลงตัว ตัวอาคารถูกแบ่งออกเป็นสองก้อนหลัก ๆ คือ ส่วนของร้านบ้านส้มตำ และส่วนของร้านหอมคาเฟ่ที่เชื่อมต่อกันอยู่ในรูปทรงของ Spiral Shape โดยส่วนของคาเฟ่เป็นส่วนของขดก้นหอยที่มีลักษณะเป็นวงกลม ตอบโจทย์การใช้งานของบาร์กาแฟ ขณะหางที่ต่อออกมาใช้เป็นส่วนของบ้านส้มตำ ที่มีลักษณะของอาคารทรงจั่วอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ เอื้อต่อการวางฟังก์ชันครัว ซึ่งทั้งสองมีการเชื่อมต่อทางมุมมองและการเข้าถึงสนับสนุนซึ่งกันและกัน ไฮไลต์ที่อดกล่าวถึงไม่ได้คือพื้นที่สวนโดยรอบอาคารที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง สวนด้านหน้าเป็นสวนของไม้ดอกที่มีกลิ่นหอม เช่น จำปี ปีบ […]

JACQUELINE BANGKOK จิบค็อกเทลในบาร์ที่จะพาคุณย้อนสู่ยุค50’s

ย้อนบรรยากาศกลับสู่ยุค 50’s กับ JACQUELINE BANGKOK บาร์สไตล์ American Mid-Century บนชั้น 2 ของโครงการสิริเฮ้าส์ ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตีเฮ้าส์ย่านชิดลม ด้วยการหยิบคาเเร็กเตอร์สุดเฟียร์สของแจ็คเกอลีน เคนเนดี มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบตกแต่ง จากบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในยุค 50’s ภายในซอยสมคิด ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อเปิดเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ เเละโดยเฉพาะบาร์แห่งนี้ จากประวัติอันยาวนานเเละรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทุกอย่างจึงดูลงตัวเข้ากับคอนเซ็ปต์บาร์ยุคซิกซ์ตี้อย่างยิ่ง โดยทันทีที่คุณเดินขึ้นมายังพื้นที่บาร์จะสัมผัสได้กับบรรยากาศที่เป็นกันเอง คล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักตากอากาศช่วงซัมเมอร์ริมชายหาดไมอามีอย่างไรอย่างนั้น ด้านหน้าเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่นำไอเดียคอปเปอร์บาร์ของบ้านตัวร้ายในภาพยนตร์ Dr. No (1963) มาดีไซน์กลายเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีทองเเดงสามารถรับบริการเครื่องดื่มจากบาร์เทนเนอร์ได้รอบทิศทาง ท็อปด้านบนปูด้วยหินขัดเทอร์ราซโซ วัสดุยอดนิยมของยุคนั้น พร้อมกับประดับโคมไฟเเขวนสไตล์สเเกนดิเนเวียนช่วยย่อสเปซลงมา รอบ ๆ เคาน์เตอร์ทั้งในเเละนอกจัดวางสตูลบาร์ตัวสูงทำจากหวายสไตล์ทรอปิคัล ดูรีเเล็กซ์เข้ากับบรรยากาศร่มครึ้มของไม้ใหญ่ในโครงการ ขยับเข้ามาที่โซนด้านในจะพบกับชุดเฟอร์นิเจอร์บุเบาะกำมะหยี่สีสันสดใสหนานุ่ม ร่วมด้วยองค์ประกอบอย่าง เเพตเทิร์นไม้เเต่งผนังสีน้ำตาลเข้ม ทาสีผนังด้วยสีน้ำเงินเเกมเขียวสื่อถึงสไตล์วินเทจ รู้สึกได้ทั้งความเป็นเฟมินีนเเละโฮมมี่พร้อม ๆ กัน หากอยากออกไปสูดอากาศด้านนอกก็มีระเบียงให้นั่งเล่น บนเบาะสีฟ้าขลิบขอบขาว ซึ่งนิยมใช้ในสถานที่ตากอากาศริมทะเลสมัยก่อน นอกจากบรรยากาศเเละของตกแต่งที่อิงมาจากเรื่องราวชีวประวัติของแจ็คเกอลีน เคนเนดี เเล้ว เมนูค็อกเทลยังตั้งชื่อตามช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ […]

ADHOC อร่อยกับเมนูเชฟส์เทเบิ้ลในบรรยากาศไพรเวตไดน์นิ่งสุดเอกซ์คลูซีฟ

ADHOC ร้านอาหารไพรเวตไดน์นิ่งกับคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นเเขกคนพิเศษ ผู้ได้รับคำเชิญจากเชฟเจ้าของบ้านให้มาดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นสุดเอกซ์คลูซีฟ กับมื้ออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ทั้งอร่อยเเละมีหน้าตาราวกับงานศิลปะ สร้างสรรค์โดยเชฟเเท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Studio Act of Kindness จากธีมของร้าน ADHOC ที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น หนึ่งคำสามารถสัมผัสได้ครบทุกรสชาติ ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม จากธีมของร้านที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น […]

THE NẮNG SUITES ที่พักเมืองดานัง นอนสบายเหมือนอยู่บ้านท่ามกลางธรรมชาติ

The Nắng Suites ที่พักเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ที่สถาปนิกตั้งใจออกแบบบรรยากาศให้อยู่สบายเเหมือนอยู่บ้าน ไม่ว่าจะมาพักในระยะสั้น หรือระยะยาว โดยหัวใจสำคัญของที่นี่คือคอร์ตกลางอาคารที่เปิดโล่งจากชั้นแรกทะลุถึงท้องฟ้า เกิดเป็นพื้นที่เปิดโล่งและวิวของที่พัก ซึ่งช่วยแก้ปัญหาเรื่องแสงธรรมชาติและความอึดอัดของตึกที่มีลักษณะเป็นอาคารสูงแคบได้อย่างดี ที่พักเมืองดานัง แห่งนี้พื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนหลัก ๆ คือ พื้นที่พักผ่อนแบบไพรเวตในชั้นบนจำนวน 8 ห้อง และพื้นที่ส่วนกลางที่ประกอบด้วยพื้นที่นั่งเล่น ห้องครัว ส่วนรับประทานอาหาร เล้านจ์ ห้องสมุด ห้องดูหนัง ห้องซักรีด และที่จอดรถ ในส่วนของฟาซาด สร้างจังหวะให้กับอาคารด้วยแผงไม้ และหน้าต่างเต็มบานที่มีความสูงจากพื้นจรดฝ้าเพดาน สร้างความรู้สึกทั้งปิดทึบและปลอดโปร่งด้วยเเสงสว่าง โดยแผงไม้ทำเป็นรูปแบบของไม้สาน ช่วยในการนำแสงธรรมชาติเข้าสู่ภายในเเละระบายอากาศ ทั้งยังช่วยกรองแสงแดดได้ในตัว และเมื่อคุณเดินเข้ามาจะเจอกับคอร์ตตรงกลางทำหน้าที่เสมือนสะพานเชื่อมระหว่างพื้นที่ภายในกับภายในเข้าด้วยกัน การตกแต่งภายในได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 1960s และทำให้ดูร่วมสมัยสไตล์คอนเทมโพรารี โดยใช้คีย์สีหลักอย่าง แดง เขียว และน้ำเงิน เพิ่มความอบอุ่นด้วยไม้วอลนัทสีเข้มที่ทำเพียงเคลือบใสเพื่อเผยผิวธรรมชาติ เพิ่มผิวสัมผัสความเป็นธรรมชาติด้วยหินขัดในส่วนของห้องน้ำ และเพื่อเป็นการเชื่อมโยงกับบริบทโดยรอบที่เป็นภูเขา จึงยกไม้แบบทรอปิคัลมาไว้ในส่วนต่าง ๆ ของที่พัก ไม่ว่าจะเป็นระเบียงด้านหน้า หรือคอร์ตด้านใน นอกจากจะเพิ่มความสดชื่นแล้ว […]

NOURSABAH PATTAYA โรงแรมที่ผสมผสานโคโลเนียล ไทย ยุโรปและอารบิคไว้ด้วยกัน

แปลกใหม่ตั้งแต่ที่มาของชื่อโรงแรมไปจนถึงการตกแต่งกับดีไซน์ของ ที่พักพัทยา ที่ผสมผสานการออกแบบทั้งโคโลเนียล ไทย ยุโรปและอารบิคเข้าด้วยกัน โดย ‘ณุศบา’ มีที่มาจากภาษาอารบิคประกอบจาก คำว่า Nour (นูร) แปลว่า แสง และ sabah (ซอบาฮฺ) แปลว่า สายลมยามเช้าทำให้การออกแบบของที่นี่จึงเน้นในเรื่องของการใช้แสงและสายลมธรรมชาติมาเป็นส่วนประกอบของตัวอาคารนั่นเอง ที่พักพัทยา สไตล์ไทยโคโลเนียลมี 3 ชั้นภายนอกเป็นสีขาวสะอาดตา ส่วนภายในตกแต่งตามธีมและชื่อแต่ละชั้นไม่ซ้ำกัน โดยห้องพักแบ่งออกเป็น 3 แบบ คือ ห้องแกรนด์ดีลักซ์ ห้องดีลักซ์ทวินและห้องดีลักซ์ ตัวอาคารของโรงแรมถูกวางตำแหน่งให้หันระเบียงเข้าหากันเพื่อเห็นวิวสระว่ายน้ำที่กรุด้วยหินอ่อนรูปกุญแจบริเวณคอร์ตตรงกลางที่ถูกออกแบบเพื่อแทนถึงทะเลของพัทยา ส่วนภายในห้องพักออกแบบให้มีความสูงจากพื้นถึงฝ้า 3.5 ม. เพื่อให้ลมธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่ เลือกใช้ธีมสีเพื่อความสบายตาลสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนด้วย สีฟ้า เทา ชมพู เขียว เหลืองและครีม พร้อมการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่สั่งทำใหม่ทั้งหมดจากเชียงใหม่ โดยเน้นเป็นไม้เนื้อแข็งเพื่อความอบอุ่น รวมไปถึงการสร้างกิมมิคในรายละเอียดอย่าง การออกแบบประตูบานเฟี๊ยมจากไม้จำปีซึ่งเป็นขนาดสั่งทำเป็นพิเศษ หรือจะเป็นกระเบื้องและการฉลุลายไม้ที่มีกลิ่นอายของโมรอคโคและของมุสลิมซึ่งนำมาใส่เพื่อแสดงถึงอัตลักษณ์ของโรงแรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น NOURSABAH PATTAYA มีบริการที่จอดรถและเสิร์ฟอาหารเช้าให้แขกที่เข้าพัก นอกจากนั้นยังบริการอาหารว่างในแบบฮาลาลและทั่วไปบริเวณพื้นที่ล๊อบบี้ ซึ่งบริเวณนี้เองที่คุณจะเลือกนั่งชิลภายในห้องแอร์หรืออกมานั่งริมสระว่ายน้ำแบบเอาท์ดอร์ได้ตลอดทั้งวัน Ideas to steal สร้างมุมพักผ่อนเล็กๆ ที่มุมอาคารในแต่ละชั้นเพื่อสร้างบรรยากาศสดชื่นให้กับโรงแรมโดยไม่ต้องเสียพื้นที่ใช้สอย […]

ชามแกง สร้างประสบการณ์ในการกิน “แกง” ผ่านการตกแต่งร้านแบบสตรีทฟู้ด

ตลาดน้อย ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยตึกรามบ้านช่องและอาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นทั้งที่อยู่อาศัยและร้านค้าที่ยังคงเก็บกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างเข้มข้น เเละหนึ่งในนั้นคือ “ชามแกง” ร้านอาหารเจริญกรุง ที่ซ่อนตัวอย่างเงียบ ๆ อยู่ภายในซอยนครเกษม 5 ประหนึ่งเป็นฮิดเด้นเพลสกลางกรุง ถ้าหากคุณอยากลิ้มลองต้องตั้งใจเดินตามหากันหน่อย เพราะร้านนี้ไม่ได้มีป้ายหน้าร้านอย่างที่อื่น ๆ เป็นหนึ่งในความตั้งใจของผู้ออกแบบนั่นเอง เมื่อก้าวผ่านบานประตูสีแดงของ ร้านอาหารเจริญกรุง แห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับกลิ่นเครื่องแกงหอมเย้ายวน พร้อมเสียงของการเตรียมวัตถุดิบจากเชฟทั้ง 3 ได้เเก่ คุณจีราวิชช์ มีแสงนิลวีรกุล คุณอรุษ เลอเลิศกุล และคุณอัจฉราภรณ์ เกียรติธนวัฒน์  ผู้หยิบวัตถุดิบง่าย ๆ ที่มีอยู่แล้วมาพลิกแพลงใหม่ ผสมผสานกับเทคนิคการปรุงอาหารชั้นเลิศ จนเกิดเป็นเมนู  “แกง” แบบไทย ที่สร้างประสบการณ์การลิ้มรสที่พิเศษยิ่งขึ้นกว่าเดิม ภายในร้านขนาดหนึ่งคูหานี้ มีเพียงโต๊ะสังกะสีวางเรียงต่อกัน พร้อมสตูลบาร์จำนวน 16 ที่นั่ง ด้านในสุดปลายสายตาคือครัวโชว์ขนาดย่อมที่ออกแบบมาสำหรับเชฟ 3 คนแบบพอดี ๆ ภายใต้บรรยากาศแบบร้านอาหารกึ่งบาร์ ที่ให้ความรู้สึกถึงการผสมผสานระหว่างสตรีทฟู้ดกับเชฟเทเบิ้ล “เราพยายามตีความหมายของแกง ซึ่งแกงที่เชฟเลือกทำเป็นแกงที่มีอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน วัตถุดิบก็สามารถหาได้ทั่วไป มีความเป็นโลคอล งานอินทีเรียร์เลยอยากทำเพื่อสะท้อนถึงอาหารที่มีความติดดิน” – คุณศิรดา เกื้อวิบูลย์วณิชย์  […]

STUDIOLOGY เปลี่ยนภาพลักษณ์สตูดิโอ ด้วยผนังอิฐที่เปลี่ยนผันตามธรรมชาติ

จากภาพลักษณ์ สตูดิโอ ให้เช่าที่มักมีหน้าตาเป็นโกดัง หรือโครงเหล็กสไตล์อินดัสเทรียล ซึ่งเป็นการออกแบบไม่มากวิธี จนได้รับความนิยมกันอย่างดาษดื่น จะเป็นอย่างไรหากสตูดิโออยากเปลี่ยนโฉมมาเป็นอาคารกรุผนังอิฐสีส้มดูบ้าง ซึ่งให้ทั้งความโดดเด่นเเละงดงามอย่างเป็นธรรมชาติในเวลาเดียวกัน DESIGNER DIRECTORY :  ออกแบบ : Atelier of Architects  ในซอยลึกของถนนประเสริฐมนูกิจ 29 ย่านลาดพร้าว อาคารอิฐ ทรงกล่องขนาดใหญ่ตั้งอยู่อย่างเด่นหรา ดูแปลกแยกจากอาคารบ้านเรือนและสุมทุมพุ่มไม้โดยรอบ กล่องทรงคล้ายลูกบาศก์ที่ว่านี้เป็นส่วนหนึ่งของ “Studiology” สตูดิโอ ให้เช่าสำหรับงานถ่ายทำทุกประเภท สร้างขึ้นภายใต้แนวคิดการเปลี่ยนภาพจำของสตูดิโอถ่ายทำทั่วไปสามารถให้บริการได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเอกลักษณ์ที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยขนาดของสถานที่ Studiology นั้น นับเป็นสตูดิโอขนาดกลาง ที่มีข้อดีคือการตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองอันสะดวกกับหลายทีมงานกองถ่ายที่มักทำงานอยู่ในตัวเมืองเป็นหลัก ซึ่งนับว่าหาได้ยากสำหรับสตูดิโอในขนาดเดียวกัน นอกจากนั้นความที่ตั้งอยู่ในซอยลึกห่างจากความพลุกพล่านของถนนใหญ่ ยิ่งช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับศิลปินดาราทีมงานกองถ่ายทำ คุณทวีพล ธีระวิชิตชัยนันท์ หนึ่งในหุ้นส่วนผู้เป็นเจ้าของโครงการ ซึ่งมีประสบการณ์อยู่ในอุตสาหกรรมโปรดักชั่นเฮ้าส์เป็นทุนเดิม เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของโครงการว่า “ไอเดียของเราคืออยากให้เป็นสตูดิโอที่มีความเป็นส่วนตัวสูงสำหรับลูกค้า เรามีแค่สตูดิโอเดียวเท่านั้น ดังนั้นเวลามาใช้งานทั้งพื้นที่ จะมีแต่ทีมของเรา เหมาะกับกองถ่ายที่มีดนดัง หรือศิลปินที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ตอนที่คุยกับสถาปนิก เราอยากให้มันเป็นแลนด์มาร์ก คือตัวสตูดิโอจริง ๆ จะเป็นแค่กล่องสี่เหลี่ยมที่ฟังก์ชันอยู่ข้างใน แต่ข้างนอกเราก็อยากให้มีความโดดเด่น คนจดจำได้ว่าที่นี่คือ Studology” […]

WOODEN CAVE เปลี่ยนบรรยากาศไปนอนในถ้ำที่ประกอบขึ้นจากไม้ทั้งหมด 1,112 ชิ้น

รีโนเวตโรงแรม Hyades Mountain Resort ในประเทศกรีซ โดยยังคงโครงสร้างเดิมของห้องพักไว้ แล้วทำการตกแต่งภายในด้วยไม้แบบโค้งเสมือนเป็นถ้ำไม้อันแสนอบอุ่น ภายในห้องแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ ๆ คือ ส่วนของเตียงนอน 2 ตำแหน่งที่ใช้โครงสร้างไม้ต่อเนื่องลงมาจากผนังโค้ง และส่วนของที่นั่งพักผ่อนซึ่งสามารถชมวิวทิวทัศน์ได้เต็มตา ร่วมด้วยพื้นที่ครัวเปิดขนาดกะทัดรัด และเตาผิงที่กรุด้วยหินสีดำ เน้นการแบ่งโซนภายในห้องออกเป็นสองอารมณ์ที่แตกต่างอย่างชัดเจนเพื่อสื่อถึงบรรยากาศแบบ “ถ้ำ” ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยและที่หลบภัยของมนุษย์มาแต่ครั้งอดีตกาล หินสีดำบริเวณภายนอกเปรียบเสมือนตัวถ้ำที่มีความแข็งแกร่งสามารถป้องกันภัยได้ แต่เมื่อเข้ามาภายในกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นน่าพักผ่อนด้วยวัสดุอย่างไม้สนที่นำมาดัดเป็นเส้นโค้งดูพลิ้วไหว หิน และไม้สน ที่นำมาใช้เป็นวัสดุหลักนั้น ล้วนเเต่หาได้ง่ายในท้องถิ่น โดยไม้สนที่ดัดโค้งเป็นผนังคือไม้ทั้งท่อนที่นำมาซ้อนต่อกัน และใช้ไม้สนอัดในส่วนอื่น ๆ ซึ่งโครงสร้างไม้ที่นำมาตกแต่งภายในจะถูกติดตั้งแบบเว้นระยะจากผนังคอนกรีตเดิม เพื่อให้เหลือช่องว่างระหว่างไม้กับผนังคอนกรีตสำหรับช่วยระบายอากาศ กันความชื้น และเป็นฉนวนความร้อนอีกชั้น ซึ่งเทคนิคนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะตัวโรงแรมตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีลักษณะอากาศแปรปรวนตลอดทั้งปี นอกจากนี้รู้หรือไม่ว่า เบื้องหลังผนังโค้งที่ดูพลิ้วไหวนี้ ต้องประกอขึ้นด้วยไม้มากกว่า 1,112 ชิ้น ที่ไม่เหมือนกันเลย! โดยกว่าจะเเล้วเสร็จออกมาเป็นภาพจริงอย่างที่เห็นนี้ สถาปนิกได้ออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์แบบอัลกอริทึม และเมื่อนำชิ้นส่วนมาประกอบเข้าด้วยกัน จึงค่อย ๆ แกะสลักทีละส่วนด้วยฝีมือของสถาปนิกในทีมเพียง 2 คน เนื่องจากเป็นงานที่มีความซับซ้อนเเละยากเกินกว่าช่างไม้ท้องถิ่นจะเข้าใจได้     นี่จึงเป็นการผสมผสานศาสตร์ของการออกแบบด้วยระบบคอมพิวเตอร์ที่เหนือจินตนาการ กับฝีมือแบบงานคราฟต์ที่ยากกว่าเครื่องจักรชนิดใดจะประมวลผลได้ […]

VARIVANA RESORT KOH PHANGAN สถาปัตยกรรมปูนเปลือยกลางป่ามะพร้าว

VARIVANA (วารี-วานา) แปลตรงตัวว่า สายน้ำและผืนป่า ซึ่งกลายเป็นชื่อของ โรงแรมเกาะพะงัน ระดับสี่ดาวกลางป่ามะพร้าวบนเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี หนึ่งในจุดหมายปลายทางสถานที่ท่องเที่ยวของเหล่าคนรักทะเล DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: POAR  แต่ด้วยความที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเล เหล่าผู้ประกอบการ โรงแรมเกาะพะงัน จึงต่างพากันจับจองที่ดินติดทะเล หรือใกล้ทะเลให้ได้มากที่สุดเพื่อดึงดูดเหล่านักท่องเที่ยว และนั่นทำให้ที่นี่แตกต่าง ไม่ใช่แค่เพราะเป็นโรงแรมที่อยู่ท่ามกลางป่ามะพร้าวเท่านั้น แต่งานดีไซน์ของที่นี่เขาตั้งใจมอบประสบการณ์ให้แขกผู้เข้าพักในรูปแบบใหม่ โดยมีสถาปัตยกรรมทำหน้าที่เป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวได้อย่างน่าสนใจ จากข้อจำกัดด้านที่ตั้งที่ไม่ได้อยู่ติดทะเล ผู้ออกแบบจาก บริษัท Patchara + Ornnicha Architecture นำโดย คุณพัชระ วงศ์บุญสิน และ คุณอรณิชา ดุริยะประพันธ์ จึงตั้งใจสร้างจุดเด่นให้โรงแรมด้วยการนำความเรียบง่ายมาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่แขกผู้เข้าพัก เริ่มตั้งแต่ค้นหาศักยภาพของที่ตั้งซึ่งเต็มไปด้วยป่ามะพร้าว และลักษณะความชันของพื้นที่ที่ดูคล้ายกับภูเขา หลังจากทำการสำรวจอย่างละเอียดแล้ว ทีมสถาปนิกพบว่าบนที่ดินของโครงการยังมีจุดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้อย่างสวยงาม จากศักยภาพที่เหมาะสมตำแหน่งที่ดินนี้จึงเป็นที่ตั้งของโรงแรมทั้ง 4 อาคาร โดยวางไว้ด้านหลังของที่ดินที่อยู่บนเนินเขา สร้างประสบการณ์การเข้าถึงที่แปลกใหม่ราวกับที่นี่ถูกซ่อนตัวไว้ โดยแขกที่เข้าพักจะต้องเดินผ่านป่ามะพร้าว ก่อนจะเข้าถึงส่วนต้อนรับของโรงแรม อีกทั้งตำแหน่งที่สร้างอาคารยังเอื้อให้ห้องพักสามารถมองเห็นวิวทะเลที่สุดขอบฟ้าได้ ส่วนฟังก์ชันการใช้งานของโรงแรม ประกอบด้วยอาคารส่วนกลาง และอาคารห้องพัก 3 อาคาร มีห้องพักให้บริการทั้งหมด 40 […]

THE MUSTANG BLU ย้อนศตวรรษสู่เบื้องหลังความเจ็บปวดที่งดงาม

อาคารโคโลเนียลอายุมากกว่าศตวรรษบนถนนไมตรีจิตต์ ย่านเยาวราชได้รับการชุบชีวิตพร้อมประโยชน์ใช้สอยใหม่ในฐานะโรงแรม ที่จะพาทุกคนย้อนเวลาสู่บรรยากาศความงามเมื่อครั้งอดีตผ่านการเปิดเปลือยร่องรอยแห่งกาลเวลา The Mustang Blu คือสาขาใหม่ล่าสุดของ The Mustang Nero โรงแรมสุดเท่ย่านพระโขนงซึ่งได้รับการกล่าวขวัญถึงมาโดยตลอด “ตอนแรกตั้งใจให้ที่นี่ชื่อ The Mustang Blues สื่อถึงเพลงบลูส์ที่บอกเล่าความเศร้าและความเจ็บปวดที่งดงามของชาวผิวสี เชื่อมโยงกับ The Mustang Nero ด้วย แต่ด้วยความที่อาคารนี้มีอายุร้อยกว่าปี จึงถือเป็นโปรเจ็คต์ที่ยากมากจนบางทีเราก็ท้อ เลยเปลี่ยนมาตั้งชื่อว่า The Mustang Blu ซึ่งแปลว่าสีฟ้าในภาษาอิตาเลียน ให้ฟังดูสดใสขึ้น” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณจอย-อนันดา ฉลาดเจริญ ตามหาทำเลใหม่สำหรับขยับขยายโรงแรมแห่งที่สอง จนมาพบอาคารแห่งนี้ ซึ่งเดิมใช้ประกอบการสถานบันเทิงชื่อดังของย่านนี้มาหลายทศวรรษ มาถึงวันนี้อาคารถูกเปลี่ยนมืออีกครั้ง และด้วยสายตาอันเฉียบคมที่มองทะลุสู่ความงามภายใต้คราบความทรุดโทรม กอปรกับปณิธานแรงกล้าที่จะอนุรักษ์อาคารเก่าจากการรื้อทำลาย คุณจอยจึงทำให้ The Mustang Blu เผยโฉมใหม่อย่างสง่างามเพื่อพลิกฟื้นมุมมืดของย่านนี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง “เป้าหมายในการทำอาคารนี้คือการเติมคำว่า “สุด” ในทุกเรื่อง ทั้งดีที่สุดต่ออาคาร สวยที่สุด ประหยัดที่สุดเพราะเราไม่มีการระดมทุนมากมาย คำนึงถึงใช้ทรัพยากรและแรงงานคนให้มีประสิทธิภาพที่สุด ปรับพื้นที่เสื่อมโทรมให้กลับมามีประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ลดการก่อสร้างใหม่ให้น้อยที่สุด และรักษาเวลาให้มากที่สุด ดังนั้น อาคารนี้จึงใช้เวลาในการปรับปรุงไม่ถึง […]