room, Author at room - Page 30 of 30

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ในบรรยากาศเรือโบราณใต้สมุทร

OCTO SEAFOOD BAR ซีฟู้ดบาร์ไอเดียสุดแฟนตาซี ที่มาพร้อมกิมมิกสนุก ๆ ราวกับคุณกำลังอยู่ในเรือโบราณใต้มหาสมุทร โดยมีเจ้าปลาหมึกยักษ์คอยต้อนรับอยู่ด้านหน้า ซีฟู้ดบาร์กลางซอยสุขุมวิท 24 แห่งนี้ เกิดจากการเปลี่ยนโฉมคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก 2 ชั้นให้กลายเป็นร้านอาหารทะเลภายในกล่องกระจกใส โดยมีประติมากรรมปลาหมึกยักษ์โชว์อยู่ด้านหน้า ช่วยดึงดูดสายตาผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาให้ต้องเหลียวมอง เหมาะกับใครกำลังมองหาสถานที่แฮ้งเอ๊าต์กับกลุ่มเพื่อน หรืออยากพาครอบครัวไปรับประทานอาหารทะเลอร่อย ๆ แบบไม่ต้องไปไหนไกล การปรับปรุงอาคารที่เคยเป็นศูนย์การค้าเก่าให้เหมาะกับการเปิดเป็นร้านอาหารนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การออกแบบที่นี่ต้องทุบพื้นที่ทั้งหมดออกเเล้วสร้างสเปซการใช้งานด้านในขึ้นมาใหม่ ก่อนเปลี่ยนลุคเดิมของอาคารไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชันการใช้งานภายใน ฟาซาดด้านหน้า พื้น และอื่นๆ ขณะที่โครงสร้างได้เน้นการใช้เหล็กเป็นส่วนประกอบสำคัญ ฉะนั้นเพื่อไม่ให้ดูอินดัสเทรียลจนน่าอึดอัดทั้งหมดจึงถูกทาด้วยสีเขียวเทอร์คอยส์ เพื่อให้เข้ากับธีมที่สื่อถึงความเป็นทะเล มีความรีเเล็กซ์เเละเป็นกันเองมากขึ้น ด้วยเหล่าโต๊ะเเละเก้าอี้ที่ทำมาจากไม้เเละหวาย นอกจากนี้ยังหยิบองค์ประกอบชิ้นส่วนของเรือมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างวงกลม การโชว์ท่องานระบบใต้ท้องอาคาร ไม้หุ้มเสาที่ยึดด้วยนอต โคมไฟเรือ ฯลฯ กลายเป็นกลิ่นอายที่เชื่อมโยงเข้ากับเเรงบันดาลใจซากเรือโบราณ โดยไม่ต้องยกเรือทั้งลำมาให้เห็นได้อย่างเเยบยล พื้นที่ตรงกลางโดดเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ขนาดใหญ่แบบ 360 องศา ให้บริการเครื่องดื่มรสเลิศจากทุกมุมโลกเเละเสิร์ฟเบียร์สดคุณภาพ รายล้อมด้วยเหล่าร้านอาหารที่ชวนให้นึกถึงบรรยากาศอย่างกับตลาดอาหารทะเล เเละหากมองลงมาจากชั้น 2 เคาน์เตอร์บาร์ที่ว่านี้จะดูเหมือนห้องบังคับการเรือของกัปตัน โดยมีภาพฝูงปลาเเวกว่ายอยู่ด้านบนซึ่งฉายจากโปรเจ็กต์เตอร์ขนาดใหญ่ จำลองภาพเหมือนคุณกำลังอยู่ใต้ท้องทะเลจริง ๆ ทำให้สัมผัสได้ถึงประสบการณ์ที่เเตกต่างจากร้านอาหารทะเลทั่วไป ที่ตั้ง 88/2,88/9 สุขุมวิท […]

JACQUELINE BANGKOK จิบค็อกเทลในบาร์ที่จะพาคุณย้อนสู่ยุค50’s

ย้อนบรรยากาศกลับสู่ยุค 50’s กับ JACQUELINE BANGKOK บาร์สไตล์ American Mid-Century บนชั้น 2 ของโครงการสิริเฮ้าส์ ไลฟ์สไตล์คอมมูนิตีเฮ้าส์ย่านชิดลม ด้วยการหยิบคาเเร็กเตอร์สุดเฟียร์สของแจ็คเกอลีน เคนเนดี มาใช้เป็นคอนเซ็ปต์ในการออกแบบตกแต่ง จากบ้านเก่าที่สร้างขึ้นในยุค 50’s ภายในซอยสมคิด ได้รับการปรับเปลี่ยนเพื่อเปิดเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ ซึ่งมีทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านหนังสือ ร้านดอกไม้ เเละโดยเฉพาะบาร์แห่งนี้ จากประวัติอันยาวนานเเละรูปแบบสถาปัตยกรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ทุกอย่างจึงดูลงตัวเข้ากับคอนเซ็ปต์บาร์ยุคซิกซ์ตี้อย่างยิ่ง โดยทันทีที่คุณเดินขึ้นมายังพื้นที่บาร์จะสัมผัสได้กับบรรยากาศที่เป็นกันเอง คล้ายกำลังพักผ่อนอยู่ในบ้านพักตากอากาศช่วงซัมเมอร์ริมชายหาดไมอามีอย่างไรอย่างนั้น ด้านหน้าเด่นด้วยเคาน์เตอร์บาร์ที่นำไอเดียคอปเปอร์บาร์ของบ้านตัวร้ายในภาพยนตร์ Dr. No (1963) มาดีไซน์กลายเป็นเคาน์เตอร์บาร์สีทองเเดงสามารถรับบริการเครื่องดื่มจากบาร์เทนเนอร์ได้รอบทิศทาง ท็อปด้านบนปูด้วยหินขัดเทอร์ราซโซ วัสดุยอดนิยมของยุคนั้น พร้อมกับประดับโคมไฟเเขวนสไตล์สเเกนดิเนเวียนช่วยย่อสเปซลงมา รอบ ๆ เคาน์เตอร์ทั้งในเเละนอกจัดวางสตูลบาร์ตัวสูงทำจากหวายสไตล์ทรอปิคัล ดูรีเเล็กซ์เข้ากับบรรยากาศร่มครึ้มของไม้ใหญ่ในโครงการ ขยับเข้ามาที่โซนด้านในจะพบกับชุดเฟอร์นิเจอร์บุเบาะกำมะหยี่สีสันสดใสหนานุ่ม ร่วมด้วยองค์ประกอบอย่าง เเพตเทิร์นไม้เเต่งผนังสีน้ำตาลเข้ม ทาสีผนังด้วยสีน้ำเงินเเกมเขียวสื่อถึงสไตล์วินเทจ รู้สึกได้ทั้งความเป็นเฟมินีนเเละโฮมมี่พร้อม ๆ กัน หากอยากออกไปสูดอากาศด้านนอกก็มีระเบียงให้นั่งเล่น บนเบาะสีฟ้าขลิบขอบขาว ซึ่งนิยมใช้ในสถานที่ตากอากาศริมทะเลสมัยก่อน นอกจากบรรยากาศเเละของตกแต่งที่อิงมาจากเรื่องราวชีวประวัติของแจ็คเกอลีน เคนเนดี เเล้ว เมนูค็อกเทลยังตั้งชื่อตามช่วงเวลาสำคัญต่าง ๆ […]

ADHOC อร่อยกับเมนูเชฟส์เทเบิ้ลในบรรยากาศไพรเวตไดน์นิ่งสุดเอกซ์คลูซีฟ

ADHOC ร้านอาหารไพรเวตไดน์นิ่งกับคอนเซ็ปต์ที่จะทำให้คุณรู้สึกราวกับเป็นเเขกคนพิเศษ ผู้ได้รับคำเชิญจากเชฟเจ้าของบ้านให้มาดินเนอร์ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่นสุดเอกซ์คลูซีฟ กับมื้ออาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ทั้งอร่อยเเละมีหน้าตาราวกับงานศิลปะ สร้างสรรค์โดยเชฟเเท็ป-ศุภสิทธิ์ ก๊กผล DESIGNER DIRECTORY ออกแบบ: Studio Act of Kindness จากธีมของร้าน ADHOC ที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น หนึ่งคำสามารถสัมผัสได้ครบทุกรสชาติ ไม่ทิ้งเอกลักษณ์ของอาหารไทยดั้งเดิม จากธีมของร้านที่เป็นเเบบเชฟส์เทเบิ้ล เปิดต้อนรับลูกค้าผู้ต้องการความเป็นส่วนตัว ที่ตั้งของที่นี่จึงถูกซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบเชียบภายในทาวน์เฮ้าส์หลังเล็ก ๆ ที่อยู่ท้ายซอยตัน ในย่านสุขุมวิท39 ทันทีที่เปิดประตูเข้ามาเราจะพบกับโต๊ะ Long Table รองรับเเขกได้ราว 10 คน กับการตกแต่งที่ดูอบอุ่นเหมือนบ้านดั้งเดิมในยุโรป เพดานด้านบนเปิดสเปซสูงโปร่งเเขวนเเชนเดอเลียร์คริสตัลดูหรูหรา สุดปลายโต๊ะคือครัวเปิดที่มองเห็นความเคลื่อนไหวของเชฟขณะทำอาหาร ก่อนลำเลียงออกมาจัดเสิร์ฟไล่ลำดับตามรสชาติจนครบ 1 คอร์ส โดยเน้นการดีไซน์อาหารไทย-จีนให้มีหน้าตาสร้างสรรค์ดูโมเดิร์น […]

ฟังเพลงยุค90’s เคล้าบรรยากาศคลาสสิกผสมสีสันสุดป็อปที่ THE CHATROOMS

เมื่อกระเเส90’s หวนคืนกลับมาให้หายคิดถึง หลายคนเเค่ได้ฟังเพลงสมัยที่ยังเป็นเด็กหรือวัยรุ่นในยุคนั้น ภาพที่เหมือนผ่านมานานเเล้วก็กลับลอยฟุ้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของบาร์ที่มีชื่อว่า The Chatrooms เด่นด้วยโลโก้เเป้นหมุนโทรศัพท์เเบบวงกลมเเละสีสันทีนป็อปสุดจี๊ดจ๊าด หลังจากที่ The Cassette Music Bar ซึ่งเป็นผับที่อยู่ด้านล่างของโครงการเวิ้งโบราณย่านเอกมัยซอย 10 สามารถจับกลุ่มลูกค้าที่หลงใหลดนตรีเต้นรำยุค90-2000 เเต่ด้วยลักษณะร้านที่เป็นผับไม่เหมาะมานั่งชิล ๆ คุณภา- พิณภัสร์ สิริอัครเศรษฐ ผู้ก่อตั้ง The Cassette Music Bar จึงเกิดไอเดียทำร้าน The Chatrooms ขึ้นมา เพื่อรองรับลูกค้าที่ต้องการฟังเพลงสบาย ๆ ความหมายแบบ Positive ยุค 90’s พร้อมกับจัดเสิร์ฟเมนูอาหารรับประทานง่าย เเละค็อกเทลสูตรซิกเนเจอร์ เคล้าเสียงพูคคุยเฮฮาไปกับกลุ่มเพื่อนคอเดียวกัน สมกับชื่อร้านซึ่งมีที่มาจาก “chat room” โปรเเกรมห้องสนทนาในตำนานก่อนสมาร์ทโฟนจะเฟื่องฟู จากชื่อร้าน เเล้วอะไรกันละที่จะสื่อถึงการพูดคุยที่จับต้องได้ เจ้าของเเละทีมออกแบบจึงนึกถึงโทรศัพท์ โดยเฉพาะโทรศัพท์เเอนะล็อกเเบบแป้นหมุม นำมาสู่กิมมิกที่ใช้ตกแต่งตามส่วนต่าง ๆ ของร้านให้ดูโดดเด่น ตั้งเเต่ประตูทางเข้า เรื่อยมาจนถึงพื้นที่ด้านใน ท่ามกลางสีสันที่หลากหลายสดใส ภายใต้ธีมการตกแต่งสไตล์คลาสสิกที่มีความป็อปเข้าไปผสม มัดรวมไอเดียสนุก […]

KHAO จัดเสิร์ฟความอร่อยสไตล์ไทยในอาคารยุ้งข้าวเเละฉางเกลือสไตล์โมเดิร์น

หากอยากกินอาหารไทยเเบบธรรมดาไม่ลึกลับ เเต่พิเศษด้วยเทคนิคความอร่อยสูตรเฉพาะจากเชฟระดับมิชลินสตาร์ ขอชวนมาที่ “KHAO” ร้านอาหารไทยใจกลางเมืองในซอยเอกมัย 10 “ข้าว” นอกจากจะเป็นอาหารช่วยให้อิ่มท้อง ยังมีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมไทยมาช้านาน เเถมเป็นสื่อกลางที่ช่วยสร้างความรักความผูกพันระหว่างครอบครัวเเละหมู่มิตร เห็นได้จากเรามักถามไถ่กันว่า “กินข้าวมารึยัง” หรือเเม้เเต่ในวาระสำคัญการกินข้าวร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งการเชื่อมไมตรี จากความหมายดี ๆ จึงเป็นที่มาของร้านอาหารที่มีชื่อว่า “KHAO” โดยมีเชฟวิชิต มุกุระ เป็นหัวเรือใหญ่นำพารสชาติอาหารไทยเเท้ ๆ จัดเสิร์ฟเป็นสำรับกับข้าวที่เเสนอร่อย จนได้รับรางวัล 1 ดาวมิชลิน Restaurants of the MICHELIN Guide ประเทศไทยประจำปี 2020 จากคอนเซ็ปต์เริ่มต้นที่มาจากข้าว ได้ส่งต่อสู่ไอเดียการออกแบบร้านให้มีลักษณะเป็นอาคารไม้ชั้นเดียว โดยมีเเรงบันดาลใจมาจากยุ้งข้าวกับฉางเกลือ เนื่องจากเชฟวิชิตมีความสนใจเรื่องข้าว เขาจึงลงมือเรียนรู้ตั้งเเต่การดำนาจนถึงการเก็บเกี่ยว ดั้งนั้นร้านนี้จึงเปรียบเสมือนยุ้งข้าวขนาดใหญ่สำหรับรองรับผลผลิตจากไร่นาของเชฟเอง เช่นเดียวกันก่อนที่จะมีน้ำปลาก็ต้องมีเกลือถึงจะหมักปลาทำน้ำปลาได้ จากเเนวคิดดังกล่าวยุ้งข้าวกับฉางเกลือจึงถูกผนวกรวมกัน ภายใต้สถาปัตยกรรมเเบบโมเดิร์น ซึ่งเเต่งเเต้มด้วยอัตลักษณ์ความเป็นไทยที่นำมาตีความใหม่ เด่นด้วยฟาซาดที่ตีความจากฝาไม้ไผ่ขัดเเตะของฉางเกลือ โดยลดทอนรายละเอียดลงเป็นเเพตเทิร์นช่องสี่เหลี่ยมกรุกระจกใส ช่วยนำเเสงเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างทั่วถึง เช่นเดียวกับโถงหลังคาที่ยกสูงขึ้นไป เพื่อให้พื้นที่บริการลูกค้าดูปลอดโปร่ง ก่อนระดับหลังคาจะค่อย ๆ เทลาดไปด้านหลังตามแปลนเเนวยาวของที่ดิน ปะทะสายตาตั้งเเต่เดินเข้ามาด้วยโอเพ่นคิตเช่นที่ตั้งใจให้อยู่ด้านหน้าสุด อันสื่อถึงความจริงใจกับลูกค้าให้สามารถมองเห็นเชฟกำลังทำอาหารอยู่ในครัวอย่างใส่ใจ เเล้วจึงค่อยนำเข้าสู่โซนบาร์เเละพื้นที่รับประทานอาหาร ซึ่งตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้โทนสีอบอุ่นเรียบง่าย มีมุมให้เลือกนั่งทั้งเเบบทั่วไป […]

THIEN DUONG ลิ้มรส อาหารเวียดนาม ในบรรยากาศโกดังยาทัมใจเก่าอายุเกือบร้อยปี

เเวะมาหลบร้อนเเละรับประทาน อาหารเวียดนาม เเท้ ๆ กันที่ “เธียนดอง” การันตีความอร่อยโดยเชฟมาตรฐานระดับโรงเเรม บนที่ตั้งของโรงงานยาทัมใจเก่ากลางย่านศาลาเเดง ระหว่างรอการปรับโฉมใหม่ของโรงเเรมดุสิตธานี กรุงเทพ เพื่อเปลี่ยนเป็นโครงการมิกซ์ยูส ดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ห้อง อาหารเวียดนาม ฉบับต้นตำหรับหนึ่งเดียวของโรงเเรมอย่าง “เธียนดอง” ได้ย้ายตัวเองมายังสถานที่แห่งใหม่ ภายใต้นามของ “บ้านดุสิตธานี” ไม่ไกลจากโรงเเรมเดิม โดยเป็นการเช่าพื้นที่บ้านเก่าอายุเกือบร้อยปีของตระกูลโอสถานุเคราะห์ เพื่อเปิดเป็น 1 ใน 3 ร้านอาหาร นอกเหนือจากดุสิตกูร์เมต์ เเละบ้านเบญจรงค์ ที่บริการโดยเชฟเเละพนักงานจากโรงเเรมดุสิตธานีฯ ทั้งหมด สำหรับร้านเธียนดอง ได้เลือกโกดังด้านหลังที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นโรงงานผลิตยาทัมใจเป็นที่ตั้งของร้าน โดยปรับเปลี่ยนจากโกดังทึบตันให้เปิดโปร่งด้วยผนังกระจกขนาดใหญ่ เด่นสะดุดตากับประตูไม้เก่าสีน้ำเงินเข้มที่เพ้นต์ลวดลายหญิงชาวเอเชียสวมชุดเเบบยุโรป รับกับคอนเซ็ปต์การตกแต่งสไตล์เฟรนช์โคโลเนียล เพื่อสื่อถึงยุคสมัยที่เวียดนามถูกฝรั่งเศสยึดครอง ขณะที่โครงสร้างเเละองค์ประกอบอื่น ๆ ได้รับการเก็บรักษาไว้อย่างดี เช่น ผนังบางจุดที่ทุบไม่หมดเพื่อเผยให้เห็นร่องรอยของอิฐมอญ คานหลังคาที่ยังคงสภาพเเข็งเเรง หน้าต่างเหล็กดัดเก่า รูระบายอากาศบนผนังด้านบน รวมถึงสีเขียวซีดจางของผนัง เเละลายมือจดตัวเลขของคนงาน ที่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวของวันวานของโรงงานแห่งนี้เเบบไม่มีวันเลือนลาง นอกเหนือจากนั้นก็มีเพียงส่วนของพื้นที่ปูกระเบื้องใหม่ให้มีสีสันสดใส เเละการปรับเเผนผังให้เหมาะกับการเปิดร้านอาหาร เฟอร์นิเจอร์เลือกใช้สไตล์โคโลเนียลที่มาจากห้องอาหารเดิม เเละเฟอร์นิเจอร์หวาย เเขวนประดับภาพเพ้นต์วิถีชีวิตชาวเวียดนาม วอลล์เปเปอร์ลายทรอปิคัล […]

HOLMES ร้านอาหารที่มีกลาสเฮ้าส์บนดาดฟ้า พร้อมบรรยากาศลึกลับสไตล์อินดัสเทรียลสุดเท่

ร้านอาหารย่านพญาไท จัดเสิร์ฟเมนูสไตล์เวสต์เทิร์นโฮมเมด บรรยากาศวินเทจ-อินดัสเทรียล ที่จะทำให้คุณเหมือนนั่งอยู่ในอาคารของย่านเก่ายุคคริสต์ศตวรรษที่18-19 ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมเหล็กเฟื่องฟู จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่การออกแบบฟาซาดเหล็กทำสีดำ เจาะช่องเปิดทรงโค้งสูง ดูต่างจากตึกเเถวใกล้เคียง พร้อมมีมุมไฮไลต์ห้ามพลาด นั่นคือบาร์ใต้กลาสเฮ้าต์บนชั้นดาดฟ้า ที่เหมาะมานั่งชมวิวเเละแฮ้งเอ๊าต์ยามเย็น เกิดจากความตั้งใจของคุณบัว-บุฏกา โรจนัย เจ้าของร้านที่ต้องการถ่ายทอดทุกรสนิยม ผ่านทั้งการตกแต่งเเละรสชาติอาหาร ซึ่งเธอบรรจงสร้างสรรค์ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่เธอเป็นคนชอบทำอาหารรับประทานกับเพื่อน ๆ ช่วงไปเรียนต่อที่สหรัฐอเมริก นอกจากนั้นเธอยังหลงใหลความสวยงามของสถาปัตยกรรมเก่าเเก่ของเมืองต่าง ๆ จึงเก็บบันทึกไว้ผ่านภาพถ่าย ก่อนจะนำมาสู่เรเฟอเรนซ์การออกแบบตกแต่งร้านแห่งนี้ ให้มีบรรยากาศวินเทจ เคร่งขรึม เเละลึกลับน่าค้นหา ชวนให้หลายคนนึกถึงที่มาของชื่อ HOLMES ร้านอาหารย่านพญาไท เเห่งนี้ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร ก่อนที่คุณบัวจะเฉลยพร้อมความหมายที่ซ่อนอยู่ให้ฟังว่า “บางคนก็เดาที่มาของชื่อร้านว่ามาจาก เชอร์ล็อก โฮมส์ รึเปล่า ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ อาจจะเป็นเพราะบรรยากาศที่เหมือนตึกสไตล์ยุโรปเเบบย้อนยุค เเต่จริง ๆ เเล้วชื่อ โฮมส์ มีที่มาจากการที่อาหารของเราเป็นเเบบโฮมเมด เน้นการนำวัตถุดิบคุณภาพดีมาใช้ประกอบอาหาร เหมือนเราทำให้คนในบ้าน หรือเพื่อน ๆ ได้รับประทาน บวกกับน้องชายชื่อ บ้าน ดังนั้นชื่อโฮมส์ จึงเหมาะที่สุดสำหรับร้านอาหารร้านเเรกของครอบครัว” จากตึกเเถวที่เคยเป็นคลินิกเก่าขนาด 4 ชั้น รวมชั้นดาดฟ้า […]

SECOND EDITION ร้านอาหารฝรั่งเศส หรูหราสไตล์ MID CENTURY ที่เน้นชูรสชาติของวัตถุดิบเเท้ ๆ

ร้านอาหารฝรั่งเศส แห่งนี้ ถือเป็นภาคต่อจากร้าน 4Garçons ของ เชฟเเวน- อายุษกร อารยางกูร กับการเล่าเรื่องราวของอาหารฝรั่งเศสซึ่งเป็นสิ่งที่เขาถนัด รวมถึงยังนำประสบการณ์จากการเป็นนักเดินทางมาถ่ายทอดสู่ร้านใหม่ Second Edition ซึ่งถือเป็นการเติบโตขึ้นอีกขั้น ขณะเดียวกันก็ยังคงกลิ่นอายเเละเทคนิคการปรุงอาหารฝรั่งเศสเเบบดั้งเดิมไว้ เเต่ลดความขึงขังเเละเป็นทางการลง พร้อมเมนูที่มีความหลากหลายเเละรับประทานง่ายขึ้น หลังจากประสบความสำเร็จจาก ร้านอาหารฝรั่งเศส ร้านเเรกที่ใช้ชื่อว่า โฟร์กาซงส์ ซึ่งเเปลว่า เด็กชาย 4 คน ที่ตั้งขึ้นโดยเพื่อนสนิท 4 คน ในปี 2011 มาวันนี้จากแนวทางการตกแต่งร้านแบบ Art Deco ที่จำลองบรรยากาศเเบบฝรั่งเศสในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ดำเนินมาสู่ภาคต่ออย่างร้าน Second Edition กับการย้ายสถานที่ใหม่มาสู่ซอยสุขุมวิท 31  เเน่นอนว่าบรรยากาศของ ร้านอาหารฝรั่งเศส แห่งนี้ ย่อมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ซึ่งเปรียบเสมือนกับการเติบโตขึ้นของเด็กชายทั้ง 4 คน สู่ชายหนุ่มผู้มีบุคลิกที่ทั้งดูเท่เเละสมาร์ทขึ้น โดยสะท้อนผ่านการตกแต่งสไตล์ Mid Century หรือยุคโมเดิร์นหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 (ช่วงปีค.ศ.1950) ร้านอาหารฝรั่งเศ การออกแบบตกเเต่งร้านนี้มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้รูปทรงเรขาคณิต […]