room Archives - Page 8 of 144 - room

KLĀY Flagship Store รีโนเวทบ้านเก่า เป็นคาเฟ่และร้านเครื่องหอม

KLĀY Flagship Store จากแบรนด์เครื่องหอมสู่คาเฟ่บรรยากาศ Home Living กลางเมืองเชียงใหม่ พร้อมเสิร์ฟ All day brunch และเครื่องดื่มจากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: STUDIO WØM เล่าย้อนไปถึงที่มาของ KLĀY (คลาย) ถือเป็นแบรนด์เครื่องหอมที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เพราะเริ่มต้นมาจากการจำหน่ายทางออนไลน์ ก่อนนำมาสู่การมีหน้าร้านเป็นของตนเอง จากความสำเร็จดังกล่าว KLĀY Flagship Store แห่งนี้ จึงถือเป็นร้านสาขาที่ 3 ของแบรนด์ ตั้งอยู่ที่นิมมานเหมินท์ ซอย 5 โดยเป็นความตั้งใจของหุ้นส่วนที่อยากให้ร้านนี้เป็นดังสื่อกลางถ่ายทอดคาแรกเตอร์ของแบรนด์ ที่ปรากฏอย่างเป็นรูปธรรมผ่านงานออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่งภายใน การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ ตลอดไปจนถึงเมนูอาหารที่สร้างสรรค์จากผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างใส่ใจ เดิมทีตัวร้านเป็นร้านแฮมเบอเกอร์ของหนึ่งในหุ้นส่วนมาก่อน แต่ด้วยทำเลที่มีศักยภาพจึงตัดสินใจรีโนเวทอาคารใหม่ให้กลายเป็น KLĀY Flagship Store จำหน่ายอาหารแบบ All day brunch เครื่องดื่ม และผลิตภัณฑ์เครื่องหอมในที่เดียวกัน มีความท้าทายตั้งแต่เรื่องของระยะเวลาและงบประมาณการก่อสร้าง รวมถึงการออกแบบและการก่อสร้างที่ต้องทำงานกับช่างท้องถิ่น ประกอบกับความตั้งใจในการออกแบบให้ทั้งภายนอกและภายในมีเอกลักษณ์และสื่อสารภาพจำของแบรนด์ให้ออกมาเด่นชัดกลมกลืนไปกับบริบท ส่งผลให้ผู้ออกแบบจาก STUDIO WØM […]

Kopihub Korat ร้านติ่มซำโชว์เสน่ห์อีสาน ภายใต้แนวคิดอาคารรูปทรงมัดไหม

ที่นี่ถือเป็น Flagship Building ประจำภาคอีสาน กับตัวร้านที่มีขนาดใหญ่แบบสแตนด์อโลน ริมถนนปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา อันเป็นจุดเริ่มต้นอีกหนึ่งความก้าวหน้าของแบรนด์ “โกปี๊ฮับ l KopiHub” DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: Does studio โดยร้านสาขานี้เป็นอีกพาร์ทหนึ่งของการทำธุรกิจเฟรนด์ไชส์ของแบรนด์ โกปี๊ฮับ โดยสาขานี้มีความน่าสนใจตรงที่เป็นการขยายสาขามายังภาคอีสานครั้งแรก ซึ่งสร้างความท้าทายไม่น้อยทั้งในแง่ธุรกิจและการทำงานออกแบบของทีม Does studio ที่เคยฝากฝีมือการออกแบบร้านโกปี๊ฮับมาแล้วเกือบทุกสาขา สถาปัตยกรรมมีแรงบันดาลใจมาจากมัดไหม ด้วยลักษณะที่ดินเป็นแนวแคบยาว หรือคล้ายเส้นก๋วยเตี๋ยว ทำให้รูปแบบการจัดวางโซนนิ่งของร้าน โกปี๊ฮับ | Kopihub โคราช ต้องเป็นแนวยาวตามที่ดิน จนเกิดเป็นตัวอาคาร หรือสถาปัตยกรรมที่ได้แรงบันดาลใจมาจากกรรมวิธีการทำผ้าไหมของภาคอีสาน หนึ่งในขั้นตอนนั้น คือกระบวนการสาวไหม จนได้เป็นเส้นไหมดิบ ก่อนนำมามัดเป็นไจไหม หรือมัดไหม ผู้ออกแบบจึงหยิบเรื่องราวที่ได้จากการเวิร์กชอปดังกล่าวมาใช้เป็นไอเดีย ด้วยการนำรูปทรงของมัดไหมมาต่อยอดสู่แมสของอาคารที่แบ่งฟังก์ชั่นออกเป็น 3 ก้อน ทั้งยังมีลักษณะคล้ายสัญลักษณ์ “infinity” ไม่มีที่สิ้นสุด เป็นความหมายในทางที่ดีเช่นเดียวกัน แบ่งฟังก์ชันการใช้อาคารออกเป็นสามก้อน อาคารก้อนที่ 1 หรือโซนที่ 1 กำหนดให้เป็นส่วนหน้าร้านใช้ต้อนรับลูกค้าและที่นั่งภายใต้พื้นที่ทรงกลม มีฉากหลังตกแต่งด้วยบรรดา “อักไหม” สีแดง ซึ่งเป็นสี […]

Shinbashi Barbeque ร้านยากินิคุ เชื่อมโยงกิจกรรมระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติเข้าด้วยกัน

ที่นี่คือร้านยากินิคุ ในไต้หวัน ผลงานการออกแบบโดย Soar Design Studio มาพร้อมแนวคิดด้วยการเชื่อมโยงมนุษย์เข้ากับธรรมชาติ ร้านยากินิคุ บรรยากาศดีน่านั่งแห่งนี้ มีคอนเซ็ปต์งานออกแบบที่น่าสนใจ ด้วยการหยิบองค์ประกอบอันสื่อถึงธรรมชาติ เข้ามามีบทบาทในพื้นที่ เพื่อช่วยเสริมบรรยากาศการรับประทานอาหารให้ผู้คนและธรรมชาติถูกเชื่อมโยงเข้าหากันและกัน “ธรรมชาติ” จึงเป็นคำที่นำมาใช้ตีความในเชิงงานออกแบบสถาปัตยกรรมภายในร้าน โดยเห็นได้จากการใช้เสาเหล็กสีขาววางสุ่มไปทั่วทั้งร้าน คล้ายกับลักษณะของต้นไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เสาเหล็กเหล่านี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างรองรับอาคารเพียงเท่านั้น แต่ยังออกแบบให้เป็นองค์ประกอบที่ช่วยกำหนดและจัดระเบียบพื้นที่สัดส่วนโต๊ะรับประทานอาหารภายในร้านด้วย การจัดเรียงเสาเหล็กในลักษณะสุ่มเหมือนต้นไม้ได้ช่วยสร้างความรู้สึกของป่าไม้ หรือทุ่งหญ้า ที่ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสถึงความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งปลูกสร้างกับธรรมชาติ รวมถึงการใช้วัสดุสีขาวยังช่วยให้เสามีความเบาและโปร่งใสในเชิงสายตา ทำให้ไม่รู้สึกทึบตัน หรืออึดอัดเกินไป เพราะเสานี้ช่วยให้การแบ่งโซนได้อย่างไร้ขอบเขต ไม่จำเป็นต้องใช้ผนังทึบ หรือกำแพงกีดขวางการมองเห็น ช่วยให้ร้านได้มีพื้นที่มากขึ้น เปิดโอกาสให้แสงธรรมชาติภายนอกส่องเข้ามาในพื้นที่ของร้าน เกิดความรู้สึกที่เชื่อมโยงระหว่างภายนอกกับภายใน การจำลองภาพป่าธรรมชาติภายในร้าน นอกจากใช้แสงธรรมชาติแล้ว ไลท์ติ้งดีไซน์ยังได้รับการนำมาใช้ในการดีไซน์เพดานด้านบนที่มีช่องเปิดให้แสงลอดผ่าน แถบไฟประดิษฐ์ต่าง ๆ ทำหน้าที่เป็นตัวเน้นแสง ซึ่งตกกระทบลงมาที่ต้นไม้ภายในร้าน ช่วยเสริมบรรยากาศ และให้ความรู้สึกเหมือนแสงแดดที่ลอดผ่านต้นไม้ในป่า โดยเฉพาะในช่วงเวลายามเย็นที่พระอาทิตย์เริ่มตกดิน แสงจะสะท้อนจากแผ่นทองแดงภายในอาคารสร้างทิวทัศน์ที่มีเสน่ห์คล้ายกับการชมพระอาทิตย์ตกดินจริง ๆ อย่างไรอย่างนั้น โดยใช้วัสดุที่สะท้อนแสงเพื่อสร้างสีและบรรยากาศชวนอบอุ่นและนุ่มนวล ส่วนบนของอาคารเลือกใช้แผ่นกระจกโปร่งใสทำหน้าที่เป็นตัวกรองแสงจากธรรมชาติ สร้างการมองเห็นจากช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เช่น ในยามเช้าที่หมอกลอยฟุ้งอยู่เหนือทิวทัศน์ของเมือง หรือป่า การออกแบบนี้ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่หลากหลายสำหรับผู้ที่ใช้งานในแต่ละช่วงเวลา หรือแม้แต่ในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ตัวกระจกไม่เพียงแค่เป็นฟังก์ชั่นการปิดกั้นพื้นที่ แต่ยังทำให้ผู้ใช้งานสามารถสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติจากภายในในอาคารได้อย่างต่อเนื่อง โดยการรับแสงและการเปลี่ยนแปลงของแสงในแต่ละวันนี้ได้สร้างความรู้สึกที่หลากหลายและมีชีวิตชีวา […]

Me & Bacon Head Store รีโนเวทบ้านเก่า เป็นคาเฟ่และร้านอาหาร เสิร์ฟเมนูบรั๊นช์สุดอบอุ่น กลางเมืองเชียงใหม่

Me & Bacon Head Store คือร้านสาขาที่ 2 ของ Me & Bacon คาเฟ่และร้านอาหารแบบบรั๊นช์ที่โดดเด่นด้วยบรรยากาศเป็นกันเอง โดยเฉพาะในสาขาใหม่ที่ รีโนเวทบ้านเก่า สู่ร้านที่อบอุ่นเต็มไปด้วยเสน่ห์เรียบง่าย จุดเริ่มต้นของ Me & Bacon สาขาแรก ตั้งอยู่ในตึกแถวริมถนนเจริญเมือง ใกล้สะพานนวรัตน์ เน้นให้บริการอาหารเช้าสไตล์ Brunch Cafe ตอบโจทย์ลูกค้าที่เน้นความสะดวกและคล่องตัว โดยเลือกสร้างจุดยืนที่แตกต่างด้วยการนำเสนอ “เบคอน” มาเป็นไฮไลต์หลัก จนกลายเป็นจุดเด่นทำให้ร้านนี้แตกต่าง ท่ามกลางบรรดาคาเฟ่ที่เปิดใหม่มากมาย Me & Bacon จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่นักท่องเที่ยวรวมถึงคนเชียงใหม่ด้วยกันเอง และสำหรับสาขานี้ ที่เป็นการขยายสาขาสู่พื้นที่รองรับลูกค้าได้มากขึ้น โดยมาอยู่ ณ ทำเลที่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เน้นตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย พร้อมบริการครบวงจร จากเดิมที่เน้นเมนูอาหาร ครั้งนี้ทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มและขนมให้เลือกเพิ่มเติม บนขนาดพื้นที่ร้านที่ใหญ่กว่าเดิม ไอเดียการออกแบบสาขาที่ 2 เริ่มมาจากการแก้จุดบอดของสาขาแรกที่มีลูกค้าใช้บริการหนาแน่น จึงต้องการเพิ่มพื้นที่รองรับคนให้มากขึ้น โดยการเลือกใช้งานอาคารประเภทบ้านที่มีพื้นที่มากขึ้นกว่าร้านเดิมซึ่งเป็นตึกแถว เพื่อให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับรองรับลูกค้าและสะดวกสบาย โดยยังคงบรรยากาศร้านให้อบอุ่น มีความโฮมมี่ด้วยการเลือกนำบ้านเก่าที่ปล่อยทิ้งร้างในซอยมารีโนเวทใหม่ ให้กลายเป็นคาเฟ่สุดชิค โดยยังคงโครงสร้างบ้านเดิมไว้ […]

Morico รีโนเวทตึกแถว สู่คาเฟ่และร้านอาหาร สงบร่มรื่นไปกับบรรยากาศญี่ปุ่นร่วมสมัย

ที่นี่เกิดจากการ รีโนเวทตึกแถว ให้กลายเป็นร้านกาแฟและร้านอาหาร ตั้งอยู่ใจกลางนครโฮจิมินห์ ตัวอาคารมีหน้ากว้างแค่เพียง 5 เมตร ลึก 37 เมตร หันหน้าออกสู่ถนนกลางเมืองที่พลุกพล่าน ใช้การจัดการพื้นที่เพื่อให้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คนกับธรรมชาติผ่านงานออกแบบที่เชื้อเชิญให้อยากเข้ามาสัมผัสตั้งแต่แรกเห็น โดยทีมผู้ออกแบบจาก Inrestudio ได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมมุมมองให้ร้านแห่งนี้ ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของย่านที่เปิดรับให้ทุกคนเข้ามาใช้เวลาที่ดีและเงียบสงบ ท่ามกลางด้วยความหนานแน่นของอาคารคอนกรีตที่อยู่รายรอบ ให้อย่างน้อยยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่เติมแต่งด้วยมุมมองสีเขียวสดชื่น ด้านหน้าต้อนรับผู้คนด้วยพื้นที่กึ่งสาธารณะซึ่งอยู่ติดกับฟุตบาท โดยลูกค้ายังไม่สามารถเดินเข้าร้านได้ทันที ด้วยการออกแบบให้มีระยะลานสเต็ปขั้นบันไดเล็กๆ ด้านหน้าร้าน เพื่อให้ลูกค้าค่อย ๆ เปลี่ยนผ่านอารมณ์จากบรรยากาศริมถนนเข้าสู่ภายในร้าน ไปพร้อม ๆ กับได้ชื่นชมสีเขียวของต้นไม้ที่วางเยื้องตำแหน่งกัน พร้อมพื้นที่นั่งแบบเซมิเอาต์ดอร์ เมื่อเข้ามาในร้านจะเจอกับเคาน์เตอร์แบบเปิดที่ออกแบบอย่างไม่เหมือนใคร กับไอเดียการเล่นระดับของกรอบเคาน์เตอร์ด้านบนและฐานเคาน์เตอร์ด้านล่าง เพื่อบังมุมมองในบางจุดที่เห็นว่าหากลูกค้ามองเข้ามาอาจดูไม่เรียบร้อย เปิดเฉพาะบางช่องที่ต้องทำการปฏิสัมพันธ์หรือรับออร์เดอร์จากลูกค้าเท่านั้น ทางขึ้นชั้นบนโดดเด่นด้วยบันไดวนเหล็กขนาดใหญ่สีเขียว ซึ่งผู้ออกแบบได้ทำการทุบพื้นที่ชั้นสองเดิมออก เพื่อให้กลายเป็นโถงดับเบิ้ลสเปซสูงทะลุไปถึงหลังคากระจกใส รับแสงสว่างจากด้านบนลงมาถึงชั้นล่างได้อย่างเต็มที่ สร้างกิมมิกด้วยการแขวนม่าน Noren ที่พบเห็นได้ทั่วไปตามร้านค้า หรือบ้านเรือนในญี่ปุ่น จำนวน 180 ผืน ดูสวยงามมีชีวิตชีวาอันเกิดจากปรากฏการณ์ของแสงเงา ซึ่งจะเปลี่ยนองศาไปตามแต่ละช่วงเวลา การจัดวางและออกแบบพื้นที่เช่นนี้ ผู้ออกแบบมีแนวคิดมาจากกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นแบบร่วมสมัยล้อไปกับรูปแบบสถาปัตยกรรม สำหรับพื้นที่ชั้นสองนี้ เน้นเสิร์ฟอาหารให้แก่ลูกค้าผู้มาเยือนได้รับประทานอาหารในบรรยากาศสงบเป็นส่วนตัว ยามค่ำขับเน้นด้วยไลท์ติ้งดีไซน์เหมาะกับการมาดินเนอร์ หรือจะจัดเลี้ยงเฉพาะกลุ่มก็มีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่ไว้คอยให้บริการ ออกแบบ-ตกแต่ง: Inrestudioออกแบบแสงสว่าง: Ori […]

Lavanda Hotel สัมผัสการพักผ่อนในโรงแรมสีขาวกลางเมืองเชียงราย

จากที่ดินเก่าของครอบครัวอันเต็มไปด้วยต้นไม้อายุเก่าแก่ ได้รับการนำมาพัฒนาใหม่เป็นโรงแรม Lavanda Hotel มีแรงบันดาลใจมาจากชื่อของลูกสาว “LAVANDA” โดยตั้งใจให้เป็นโรงแรมขนาดกลางไม่เล็กและไม่ใหญ่จนเกินไป เพื่อการบริการที่ทั่วถึง และมีความเป็นกันเองให้ความรู้สึกแบบครอบครัว DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: Studio Sifah Lavanda Hotel ตั้งอยู่ในเขตชุมชนที่อยู่อาศัยภายในตัวเมืองเชียงราย มีข้อดีคือเป็นมุมสงบผู้คนไม่ได้พลุกพล่าน จึงเหมาะมาพักผ่อน แต่ยังใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกในเมือง สามารถเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในจังหวัดเชียงรายได้ง่าย Studio Sifah ได้ริเริ่มคอนเซ็ปต์งานออกแบบจากความต้องการของเจ้าของคุณโตโต้-พงศ์พันธุ์ คำพันธ์ ประกอบกับมองบริบทที่ตั้งเป็นหลัก ด้วยไซต์ที่ตั้งที่อยู่ในบริเวณชุมชนจึงไม่ได้มีวิวทิวทัศน์ที่เป็นแลนด์มาร์คเชิงการท่องเที่ยวดึงดูดสายตามากนัก โจทย์แรกที่ผู้ออกแบบคำนึงถึงคือการสร้างประสบการณ์พิเศษให้แขกผู้เข้าพักจากตัวงานออกแบบเอง ไม่ว่าจะเป็นมุมมองภายในสถานที่ และมุมมองภายนอกเมื่อมองจากในชุมชนเข้ามา นำมาสู่การออกแบบกลุ่มอาคารสีขาวมีสเปซที่ช่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กันภายใน เกิดประสบการณ์การใช้งานพื้นที่ที่พิเศษ ทั้งในส่วนที่เป็นสาธารณะอย่าง คาเฟ่ THANK CAFÉ ด้านหน้า และส่วนพื้นที่ห้องพักส่วนตัวที่กระจายไปในบริเวณ ไฮไลต์ของที่นี่ คือการมอบประสบการณ์การพักผ่อนผ่านคอร์ตยาร์ด 2 จุดทั้งในส่วนพื้นที่สาธารณะและส่วนที่พักส่วนตัว พื้นที่คอร์ตแรกทำหน้าที่คั่นตัวคาเฟ่ระหว่าง THANK CAFÉ กับสเปซการเปลี่ยนผ่านก่อนส่งเข้าสู่ที่พัก สำหรับโซนคาเฟ่นี้ จะเปิดเป็นสาธารณะที่สามารถให้แขกทุกคนเข้ามาใช้บริการได้ แม้ไม่ได้เข้าพักในโรงแรม คอร์ตเล็ก ๆ ที่ว่านี้จึงทำหน้าที่เป็นทิวทัศน์สีเขียวขนาดย่อม สร้างความรู้สึกผ่อนคลายแก่ทุกคนที่มาเยือน ต่อมาคอร์ตยาร์ดจุดที่ 2 […]

The Sailing คาเฟ่อยุธยา และร้านอาหาร สร้างสรรค์ตอบโจทย์ผ่านวัสดุสามัญ

ร่วมออกเดินทางไปกับคลื่นลูกใหม่แห่งอยุธยา ใน คาเฟ่อยุธยา หรือจะเรียกว่าที่นี่เป็นคอมมูนิตี้เล็ก ๆ ก็คงไม่ผิดนัก เพราะภายในประกอบด้วยร้านอาหาร บาร์ ร้านปิ้งย่าง ฯลฯ ซึ่งเป็นโปรเจ็กต์ที่เกิดขึ้นตามความสนุกของเหล่าเพื่อน ๆ ระดมพลคนมีแนวคิด หรือความสนใจคล้ายคลึงกัน ได้มีพื้นที่สร้างให้เกิดกิจกรรมต่าง ๆ ตามความสนใจอย่างรวดเร็วฉับพลัน DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: BodinChapa Architects The Sailing สร้างความฝันและความเป็นไปได้ใหม่ให้เกิดขึ้นนี้ ผ่านการเลือกใช้วัสดุธรรมดาสามัญ หรือเป็นวัสดุชั่วคราวที่พบเห็นได้บ่อยในงานออกแบบก่อสร้าง เช่น ท่อเหล็กทำนั่งร้าน และแผ่นหลังคาโปร่งใส มีที่มาจากการจับมือกันระหว่างแบรนด์กาแฟอย่าง Homeboy กับ KITH ร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชั่น ภายใต้ความสดใหม่ อันบอกถึงพลังและไอเดียสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ กับความต้องการอยากสร้างประสบการณ์การพักผ่อนดี ๆ ให้เกิดขึ้นในจังหวัดบ้านเกิด เปรียบการเดินทางมาเจอกันของกลุ่มเพื่อนกลุ่มนี้ เสมือนเป็นการล่องเรือเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์หล่อหลอมให้ทุกคนค่อย ๆ เติบโตไปถึงจุดหมายด้วยกัน จนเป็นที่มาของชื่อร้าน The Sailing สานต่อไอเดียอย่างรวดเร็วฉับพลัน บวกพลังสนุกสนานและสดใหม่ของทีม The Sailing โดยนักออกแบบประจำถิ่นอย่าง BodinChapa Architects ที่มาช่วยสร้างสรรค์พื้นที่ จากร้านมินิมาร์ทร้างริมถนนอู่ทอง ย่านทำเลทองกลางใจเมืองพระนครศรีอยุธยา […]

Red Riding Wood พักผ่อนในเคบินสีแดงชาด กลางสวนป่าสัก

โปรเจ็กต์งานออกแบบที่ปลุกชีวิตผืนป่าไม้สักในพื้นที่ธุรกิจของครอบครัว สู่ Red Riding Wood ที่พักส่วนตัวที่โดดเด่นด้วยเคบินขนาด 2 ชั้น ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 4 ไร่ อบอวลไปด้วยประสบการณ์และเรื่องราวจากธรรมชาติในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: SHER MAKER คงเสน่ห์ของการพักอาศัยที่เรียบง่ายด้วยวัสดุและฝืมือของช่างท้องถิ่นที่ได้รับการปะติดปะต่อโดยนักออกแบบจาก SHER MAKER ด้วยการหยิบของเก่ามาคืนชีวิตใหม่ ให้ผู้เข้าพักได้ซึบซับกับประสบการณ์แสนพิเศษ บนที่ดินอันเกิดจากการฟื้นฟูกิจการโรงแรมอายุเก่าแก่ของครอบครัวเจ้าของ ผู้มีอาชีพเป็นครีเอทีฟ จากอัตลักษณ์นี้ผู้ออกแบบจึงดึงความคิดสร้างสรรค์ของผู้เป็นเจ้าของมาช่วยเล่า เพื่อสานฝันสร้างที่พักส่วนตัว อันประกอบด้วยเคบินแสนสงบ ห้องพักแบบพูลวิลล่าที่มีความเป็นส่วนตัว และสนามเด็กเล่นกลางสวนป่าให้เด็ก ๆ และครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกันแบบใกล้ชิดธรรมชาติ ภายในสวนป่าสัก ได้รับการแบ่งสัดส่วนโดยปลูกสร้างเคบินเล็ก ๆ สำหรับพักผ่อน ซึ่งเป็นอาคารหลังที่มีความโดดเด่นที่สุด ใกล้กันยังมีพาวิเลียนสำหรับรองรับการใช้งานที่ยืดหยุ่น โดยสามารถปรับเป็นพื้นที่ธุรกิจอย่าง ป็อปอัปคาเฟ่ และพื้นที่จัดเวิร์กชอป เสริมด้วยเครื่องเล่นเด็ก โดยที่เคบินทั้ง 2 หลังนี้ ตั้งอยู่บริเวณโซนด้านหน้าที่ติดกับถนน ส่วนด้านหลังเป็นพื้นที่ส่วนตัว มีพูลวิลล่า 2 หลัง อยู่ใกล้เคียงกัน ที่ได้รับการรีโนเวตใหม่เพื่อรองรับผู้เข้าพักที่เป็นครอบครัวขยาย สร้างสรรค์ขึ้นบนความท้าทายในการเก็บรักษาต้นสักเดิมไว้ ส่งผลให้โครงสร้างและองค์ประกอบของงานดีไซน์มีความสอดคล้องไปกับตำแหน่งต้นไม้เดิมในพื้นที่ เคบินโซนด้านหน้า ออกแบบโดยอ้างอิงมาจากความต้องการของเจ้าของที่อยากให้มีความเป็นส่วนตัว […]

HAY Thailad 5 โปรดักต์ของใช้จากที่ทำให้ความยั่งยืนเป็นเรื่องธรรมดา

HAY Thailand แบรนด์ออกแบบเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านจากเดนมาร์ก เพิ่งเปิดตัว Flagship Store แห่งแรกที่กรุงเทพฯ ในย่านเจริญกรุงเมื่อไม่นานมานี้ จุดเริ่มต้นของแบรนด์นั้นนอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสมดุลระหว่างฟังก์ชันและความสวยงาม ยังมีผลิตภัณฑ์งานดีไซน์ที่ยั่งยืนใส่ใจสิ่งแวดล้อม โดยผสานเข้าไปแต่ละในผลิตภัณฑ์อันชวนให้ตระหนักถึงที่มาที่ไปและขั้นตอนการผลิตที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย หนึ่งในแนวทางที่โดดเด่นของ HAY Thailand คือการวิจัยวัสดุและนวัตกรรมการผลิตที่ช่วยลดผลกระทบตั้งแต่ต้นทางจนสำเร็จเป็นผลิตภัณฑ์สุดท้าย เช่น การใช้วัสดุรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองจาก FSC และมีเครื่องหมายสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการรับรองจาก OEKO-TEX® Standard 100 และ Nordic Swan Ecolabel วัสดุต่าง ๆ เหล่านี้ถูกเลือกนำมาออกแบบให้เป็นทางเลือกแทนการใช้พลาสติกใหม่หรือผลิตภัณฑ์ใช้ครั้งเดียว ซึ่งทุกตัวได้รับการทดสอบเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นพลาสติกหลังการใช้งาน (Post-consumer) ซึ่งมาจากขยะในครัวเรือนและพาณิชยกรรม และพลาสติกหลังการผลิต (Post-industrial) ซึ่งมาจากขยะที่เหลือจากกระบวนการผลิต นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ประกอบจากวัสดุทีลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลากหลาย เช่น ผ้าฝ้าย กระดาษ และแก้วซึ่งปรากฏในหลายดีไซน์ของใช้ใกล้ตัว room จึงขอแนะนำ 5 ผลิตภัณฑ์ยั่งยืนที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และการใช้งานทนทาน อีกทั้งยังลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ชิ้นแรก Colour Crate ตระกร้าสีสันที่ทุกคนคุ้นหูคุ้นตา ถูกออกแบบมาให้มีหลายไซซ์หลายขนาด เน้นฟังก์ชันคือใช้เก็บของแต่เต็มไปด้วยดีเทลการดีไซน์กลิ่นอายที่มีเฉพาะที่ HAY ที่บ่งบอกไลฟ์สไตล์อีกด้วย […]

The Nest บ้านทรงต้นไม้ ท่ามกลางธรรมชาติของคุ้งบางกระเจ้า

The Nest บ้านทรงต้นไม้ที่เชื่อมต่อเส้นสายโค้งเว้ากลายเป็นอาคารโปร่งเบา กลมกลืนกับภูมิทัศน์ของคุ้งบางกระเจ้าแห่งนี้ โอบล้อมให้ผู้อยู่อาศัยได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติ เหนือเนินดินของพื้นที่ 400 ตารางเมตร ตัวบ้านหลากรูปทรงเรขาคณิตวางต่อกันคล้ายรังนกบนต้นไม้ ผลงานการออกแบบของ The Collective Studio อันเกิดจากการตีความจากภูมิทัศน์ที่ตั้งของบ้านทรงต้นไม้ซึ่งรายล้อมด้วยแม่น้ำและธรรมชาติสีเขียว โดยใช้การออกแบบเส้นโค้งเป็นองค์ประกอบหลัก เปิดให้ลมเคลื่อนผ่านและเชื่อมต่อเป็นรูปทรงที่ยืดสูงบนเนินดินอย่างโดดเด่น ในขณะเดียวกัน ก็ลื่นไหลและนุ่มนวลผสานไปกับธรรมชาติของที่ตั้งให้คนได้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติในทุก ๆ ส่วนของอาคาร ผู้ออกแบบใช้เทคนิคการไล่ระดับจากหน้าบ้านไปยังอาคารด้านใน โดยใช้ที่ตั้งซึ่งเป็นเนินดินบริเวณโรงจอดข้างบ้านเป็นเส้นนำสายตาสู่ทางเข้าหลัก โดยพื้นที่แรกที่พบจะเป็นโถงทางเดินชั้น 1 เชื่อมพื้นที่การใช้งานในบ้านเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันออกให้เป็นพื้นที่พักผ่อนในลักษณะ Open Plan มีเคาน์เตอร์บาร์เชื่อมกับโซนรับประทานอาหาร สามารถชมวิวต้นไม้ได้จากระเบียง และฝั่งตะวันตกประกอบด้วยห้องครัวและห้องน้ำ โดยมีระเบียงไม้ด้านหลังเป็นพื้นที่สันทนาการเปิดโล่งรับสวนธรรมชาติและสระว่ายน้ำให้สมาชิกได้ทำกิจกรรมร่วมกัน ในขณะเดียวกัน พื้นที่ส่วนตัวในชั้นบน ประกอบด้วยห้องนอนทั้งในฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ก็กรุด้วยกระจกโค้งยาวต้อนรับวิวธรรมชาติจากสวนและแม่น้ำเจ้าพระยาเช่นเดียวกับห้องอื่น ๆ ของบ้าน อาคารรูปทรงโค้งเว้าได้รับการกรุด้วยกระจกเพื่อเปิดรับทิวทัศน์ทั้งฝั่งริมแม่น้ำและต้นไม้โดยรอบ พร้อมการตกแต่งเสริมด้วยระแนงอลูมิเนียมลายไม้สำหรับบังแดด ก็เสริมมิติให้อาคารดูโปร่งเบาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับบริบท นอกจากรูปทรงเรขาคณิตที่สร้างความโดดเด่นให้แก่ภายนอกแล้ว โถงบันไดเวียนทรงกระบอก 2 ฝั่งที่ใช้สัญจรทั้ง 3 ชั้น ก็ทำให้การตกแต่งภายในมีเอกลักษณ์จากการบิดแกนโค้งไปตามฟอร์มของบ้านที่เป็นทรงกระบอก พื้นที่นี้เชื่อมทิวทัศน์ภายนอกและดึงแสงธรรมชาติให้ภายในปลอดโปร่งด้วยกระจกโค้ง ต้อนรับภูมิทัศน์ของพื้นที่สีเขียว อันเป็นพื้นที่ให้ลมและวิวธรรมชาติสานสัมพันธ์กับคนในบ้านไปพร้อม ๆ […]

Holmy เคบินพูลวิลล่า ฟังเสียงธรรมชาติริมสายน้ำที่ แม่กำปอง

สถานที่แห่งนี้ มีชื่อว่า Holmy ที่พักน่าไปเยือนแห่ง แม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ ที่จะพาคุณหลีกเร้นความวุ่นวายจากเมือง เพื่อมาฟังเสียงธรรมชาติในบรรยากาศสงบริมลำน้ำและป่าเขา DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: pommballstudio ที่นี่ออกแบบเป็นที่พักแบบพูลวิลล่าส่วนตัว 2 หลัง ซึ่ง Holmy แม่กำปอง แห่งนี้ ได้รับการออกแบบโดย pommballstudio เพื่อตอบโจทย์การพักแบบครอบครัวและเพื่อนฝูง โดยเน้นความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำอย่างใกล้ชิด Holmy มีจุดเด่นคือการสะท้อนความทันสมัยเข้ากับความอบอุ่นของธรรมชาติด้วยการสร้างบรรยากาศที่กลมกลืน ผู้ออกแบบเลือกใช้วัสดุที่ผสมผสานระหว่างไม้และโครงสร้างสมัยใหม่ เช่น กระจก อะลูมิเนียม และโครงสร้างเหล็ก เพื่อสร้างมิติร่วมสมัยให้กับที่พัก ตัวอาคารออกแบบให้สอดรับกับเส้นโค้งของของแม่น้ำแม่ลายและหันหน้าออกสู่วิวแม่น้ำโดยตรง เอื้อให้ผู้เข้าพักได้เชื่อมต่อตัวเองเข้ากับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม พื้นที่ในโครงการแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ในส่วนชั้นบนที่ติดกับถนนห้วยแก้ว ซึ่งเป็นเส้นทางสัญจรจากเมืองเชียงใหม่ขึ้นไปยังหมู่บ้านแม่กำปอง เป็นส่วนที่ออกแบบไว้สำหรับเป็นพื้นที่ต้อนรับขนาดเล็ก พื้นที่ส่วนตัวสำหรับเจ้าของและที่จอดรถ สำหรับส่วนห้องพักออกแบบอย่างเป็นส่วนตัว เป็นบ้าน 2 หลัง ที่เชื่อมต่อกันด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ตั้งต่ำลงมาอยู่บริเวณริมแม่น้ำ ซึ่งค่อย ๆ ลดหลั่นลงมาตามเนินเขาจากบริเวณส่วนต้อนรับ ออกแบบหันหน้าพื้นที่พักผ่อนออกสู่แม่น้ำสร้างความสงบและเป็นส่วนตัว เปิดรับมุมมองธรรมชาติ ตัวอาคารถูกจัดวางให้สอดคล้องกับเส้นโค้งของเวิ้งแม่น้ำและความลาดเอียงของเนินดิน ห้องพักแต่ละห้องหันหน้าเข้าหาแม่น้ำ พร้อมช่องเปิดขนาดใหญ่ เช่น หน้าต่างบานกระจกและประตูบานเฟี้ยม […]

Bonsai House Ratchaburi คาเฟ่และคอมมูนิตี้ของคนรักบอนไซ

Bonsai House Ratchaburi สร้างสรรค์พื้นที่ให้อยู่ในอาคารทรงปั้นหยาโปร่งสบายปกคลุมด้วยธรรมชาติ อันมีจุดกำเนิดมาจากความหลงใหลในบอนไซของคุณพ่อเจ้าของสถานที่ ก่อนจะได้รับการบ่มเพาะและทำนุบำรุงให้เติบโตโดยผู้เป็นลูก สื่อสารและส่งต่อให้นักออกแบบผู้เคารพในบริบทธรรมชาติอย่าง Studio Miti DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: Studio Miti Bonsai House Ratchaburi ตั้งอยู่ในจังหวัดราชบุรี เรียกได้ว่าเป็นแหล่งพักใจของคนที่รักในการปลูกบอนไซ รวมถึงผู้คนทั่วไปที่สามารถแวะเวียนมาพักผ่อนดื่มด่ำกับชาและกาแฟ ท่ามกลางบรรยากาศอบอุ่น นับเป็นจุดเชื่อมโยงสานสัมพันธ์ระหว่างผู้คนที่มีโอกาสได้แวะเวียนมาทำความรู้จัก แลกเปลี่ยนความหลงใหลที่มีต่อธรรมชาติร่วมกันอย่างเป็นกันเอง โดดเด่นด้วยอาคารโปร่งสบายปกคลุมด้วยพืชไม้เลื้อยอย่างต้นเหลืองชัชวาลย์แห่งนี้ เดิมทีเป็นพื้นที่พักบอนไซอยู่ด้านหน้าที่อยู่อาศัยของพ่อผู้เป็นเจ้าของที่ดิน ทว่าเมื่อเข้าสู่วัยเกษียณพื้นที่นี้ก็ได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นพื้นที่ธุรกิจเล็ก ๆ โดย ทัศพงศ์ บัวผัน ลูกชาย พร้อมด้วยภรรยา ผู้ปรารถนาอยากละทิ้งชีวิตการทำงานแสนเหนื่อยล้า แล้วมาประกอบธุรกิจที่บาลานซ์ชีวิตด้วยความสุขในการดูแลพ่อ และการทำคอมมูนิตี้แก่คนรักบอนไซและคนชื่นชอบกาแฟ อาคารทรงปั้นหยาที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติแห่งนี้ออกแบบโดยอ้างอิงจากคาแรกเตอร์ของพ่อผู้มีความใจเย็น สังเกตได้จากต้นไม้แต่ละต้นที่แวดล้อมตัวบ้านนั้นได้รับการดูแลเป็นอย่างดีและใช้เวลาจนแตกใบเขียวชอุ่ม ตัวอาคารนี้จึงได้พยายามสื่อสารถึงตัวตนของคุณพ่อด้วยตัวของมันเอง สภาพแวดล้อมของที่ดินแห่งนี้มีฝั่งหนึ่งติดกับทุ่งนา ส่วนด้านหลังมีต้นไม้ล้อมรอบ ฉะนั้นเพื่อใช้ประโยชน์จากบริบทที่ตั้งได้อย่างเต็มที่ ตัวอาคารจึงถูกออกแบบให้แบ่งเป็น 2 ส่วน เชื่อมต่อกันเป็นรูปตัวแอล (L) และตั้งอยู่สูงกว่าถนนทางเข้าเล็กน้อยเพื่อรับลม โดยอาคารส่วนแรกเป็นทางเข้าที่ติดกับถนนด้านหน้านั้นเป็นอาคารชั้นเดียว รองรับส่วนคาเฟ่สำหรับผู้ที่ตั้งใจมาดื่มกาแฟ มีเคาน์เตอร์บาร์ขนาดพอดีทำจากไม้ที่ลูกชายเป็นผู้ออกแบบช่วยเสริมบรรยากาศให้มีความเป็นกันเองร่วมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้โดยรอบ นอกจากนี้ ยังออกแบบให้อาบพื้นที่ภายในด้วยแสงธรรมชาติซึ่งลอดผ่านหลังคาลอนใส ปกคลุมและกรองแสงด้วยต้นเหลืองชัชวาลย์ อันมีโครงเหล็กใต้หลังคาช่วยในการรับน้ำหนัก รับกับองศาความเอียงของจั่วที่เอียงองศาด้านหน้าให้ลาดลงมามากกว่าอีกฝั่ง เพื่อเปิดพื้นที่ให้แสงได้หล่อเลี้ยงต้นเหลืองชัชวาลย์ที่แผ่ปกคลุม ประกอบกับการออกแบบหลังคายืดสูงยังช่วยระบายความร้อนก่อนเข้ามาภายในอาคารได้ด้วย […]

สุขเสมอ Coffee คาเฟ่ระยอง สดใสต้อนรับรุ่งอรุณด้วยบรรยากาศสีส้มสไตล์โฮมมี่

จากอาคารพาณิชย์ดั้งเดิม 2 คูหา ขนาด 4 ชั้น ได้กลายเป็น คาเฟ่ระยอง เปิดใหม่ โปรเจ็กต์ที่ต่อขยายมาจากความฝันของเจ้าของร้าน นอกจากจะเคยเปิดร้านกาแฟเท่ ๆ อย่าง How Long Coffee มาแล้ว วันนี้ “สุขเสมอ” คือภาคต่อของธุรกิจ ซึ่งมาจากแรงบันดาลใจอยากต้อนรับเช้าวันใหม่ มอบความสุขแก่ทุกคนผ่านกาแฟในบรรยากาศอบอุ่นและเป็นกันเอง DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: SA-ARD architecture & construction เรียกว่ามาที่ คาเฟ่ระยอง แห่งนี้แล้ว เหมือนทุกคนได้มาบ้านเพื่อนที่เต็มไปด้วยความใกล้ชิด ส่วนกลางคืนก็พร้อมต้อนรับคนคอเดียวกันให้มาสังสรรค์ดื่มด่ำกับคราฟต์เบียร์ SA-ARD architecture & construction สถาปนิกผู้ออกแบบได้สร้างสรรค์พื้นที่ จากโจทย์ที่เจ้าของร้านต้องการให้มีบรรยากาศเข้าถึงง่ายและอบอุ่น ผู้ออกแบบจึงเลือกใช้สีโทนอุ่นเพื่อสร้างความรู้สึกที่เป็นมิตร นอกจากนี้ ยังปรับพื้นที่ทางเข้าให้ดูแตกต่างจากอาคารพาณิชย์ทั่วไป ด้วยการทำให้พื้นที่ Semi-Outdoor เป็นทางเข้าสู่ภายในอาคาร เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกถึงความโปร่งโล่งและสบาย ใช้บันไดอิฐเป็นทางเข้าช่วยดึงดูดลูกค้าและสร้างความน่าสนใจในขณะเดียวกันยังช่วยลดความอึดอัดในพื้นที่ภายใน จากตึก 4 ชั้น ที่นี่ใช้งานพื้นที่เพียงชั้น 1 และชั้นลอยเท่านั้น สร้างความพิเศษเพื่อนำลูกค้าเข้ามาในร้านด้วยรูปลักษณ์ของฟาซาดสีส้มยื่นยาวคล้ายแนวผนังออกมา เห็นแล้วดูสะดุดตาต่างจากตึกข้างเคียง โดยยังทำหน้าที่กั้นระหว่างทางเดินเข้าร้านกับที่นั่งด้านในที่สามารถเปิด-ปิดได้ […]

S.O.S Roastery (San Phee Suer) คาเฟ่เชียงใหม่ เปลี่ยนหน้าบ้านให้เป็นโฮมคาเฟ่ดีไซน์อบอุ่น

หลายคนอาจเคยปักหมุดมาเยือนร้านกาแฟสเปเชียลตี้นามว่า Single Origin Store สาขาท่าแพ คาเฟ่เชียงใหม่ วันนี้ room จะพาย้อนไปถึงจุดกำเนิดเริ่มแรกกับคาเฟ่สาขาแรกของแบรนด์ ซึ่งเริ่มต้นมาจากภายในรั้วบ้านกับ S.O.S Roastery (San Phee Suer) DESIGNER DIRECTORYออกแบบ: FLAT12x โดยที่นี่เคยเป็นเพียงร้านกาแฟเล็ก ๆ หน้าบ้านมาก่อน หรือจะเรียกว่าเป็นสาขาแรกของแบรนด์ก็ว่าได้ แล้วได้รับการรีโนเวตใหม่อีกครั้ง พร้อมพื้นที่โรงคั่ว ห้องแพ็คเกจจิ้ง ครัวขนมอบ และพื้นที่หน้าร้านใช้รองรับลูกค้าให้เข้ามานั่งเล่นดื่มกาแฟ มีความครบวงจรมากขึ้นกว่าเดิม ผลงานการออกแบบจาก FLAT12x ซึ่งเคยฝากฝีมือไว้ที่สาขาท่าแพมาแล้ว การออกแบบร้านสาขาสันผีเสื้อ คุณจุล – จุลสมโณ พงษ์เสฐียร ผู้ออกแบบได้พยายามเชื่อมโยงอัตลักษณ์แบรนด์ของ Single Origin Store ที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดอนุรักษ์ ความเป็นพื้นถิ่น และวัสดุพื้นบ้าน เมื่อโจทย์การออกแบบมาพร้อมกับการเป็นบ้านของเจ้าของเองอย่างครั้งนี้ จึงต้องให้ความสำคัญว่า อะไรที่จะตั้งอยู่หน้าบ้าน แล้วต้องอยู่ได้นาน โดยยังคงให้ความรู้สึกว่ามีความเป็นบ้านอยู่ เป็นทั้งโฮมบริวเวอร์ และมีไมโครโรสเตอร์อยู่ในนั้น ความท้าทายของการทำงานจึงอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ร้านกาแฟดูเข้ากับบ้าน ขณะเดียวกันก็ต้องมีฟังก์ชันใหม่สำหรับใช้เป็นร้านกาแฟโผล่เข้าไปในพื้นที่ด้วย การออกแบบครั้งนี้ จึงตีความออกมาผ่านบรรยากาศที่อบอุ่นแบบโฮมคาเฟ่ ต่อเติมพื้นที่อาคารใหม่เพิ่มลงไป […]

งานศิลป์ ก็ต้องชมที่หอศิลป์ และนี่คืองาน BAB2024 ซึ่งจัดแสดง ณ The National Gallery of Thailand หอศิลปเจ้าฟ้า

น่าดูชมสมชื่อสถานที่เพราะนี่คือผลงานศิลปะสุดจัดจ้านแบบ “ตัวแม่” ซึ่งสะท้อนผ่านสีสันและแนวคิดแปลกตา ฉีกบรรยากาศหอแสดงงานศิลปะแห่งชาติในความทรงจำโดยสิ้นเชิง งานจัดแสดงที่กล่าวถึง “ความเป็นแม่” ตามธรรมชาติ อย่าง พระแม่ธรณี คือผืนดินที่เปรียบเสมือนเป็นแม่ผู้โอบอุ้มสรรพสิ่งเอาไว้ มีผลงานศิลปะที่เล่าเรื่องชนเผ่าชาติพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดผืนดิน ไปจนถึงผลงานการตีความหญิงสาวในความเชื่อแบบเทวนิยม สู่งานประติมากรรมที่ท้าทายความเชื่อ ในผลงาน Project Pleiades ของ Agnes Arellano รูปเทพี 4 องค์ ที่ศิลปินตีความใหม่เป็นรูปปั้นที่มีสีสัน ศิลปินรวมเทพีทั้งสี่ให้อยู่ใน ‘กายา‘ หรือจักรวาลที่เป็นหนึ่งเดียวภายในห้องสี่เหลี่ยมแสงไฟสลัว ให้ผู้ชมสัมผัสถึงบรรยากาศความเป็นขั้วตรงข้ามกัน คือ พลังอำนาจ ความแข็งแกร่งของเทพีหรือพระแม่ทั้งสี่ที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเป็นผู้หญิง ที่แผ่กระจายรัศมีของแต่ละองค์อยู่ในอาณาพื้นที่ซึ่งศิลปินสร้างขึ้น นอกจากนี้ยังมีผลงานศิลปะที่น่าสนใจอีกหลายชิ้น ซึ่งสอดแทรกอยู่ในหอศิลป์ ที่ยังจัดแสดงผลงานศิลปะของศิลปินเอกของไทยที่เป็นผลงานบันทึกประวัติศาสตร์ จัดแสดงสลับห้องกันกับผลงานของงาน BAB สร้างความแปลกตา และบรรยากาศที่แตกต่างกลายเป็นความพิเศษเฉพาะตัวในการเดินชมผลงานภายในหอศิลป์ ที่เป็นพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติในความทรงจำ สำหรับแนวคิดหลักในปีนี้ “รักษา กายา (Nurture Gaia)” จะเป็นการมุ่งเน้นที่จะถ่ายทอดความหมายที่แตกต่างของธรรมชาติ การเลี้ยงดู ความเป็นผู้หญิง และการครุ่นคิดเกี่ยวกับนิเวศวิทยา การเมือง หรืออำนาจเหนือธรรมชาติต่าง ๆ ผ่านผลงานศิลปะร่วมสมัยจากทั่วโลกด้วยสื่อศิลปะที่หลากหลาย เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัจจุบัน กระตุ้นให้ฉุกคิด รวมทั้งมองหาวิธีใหม่ในการจัดการกับประเด็นปัญหาของอนาคตในด้านสังคม […]

เมื่อศิลปะสมัยใหม่ แนบเนียนไปวัตถุโบราณ ท้าทายให้คุณมาชี้ชัด ว่าคุณค่าของงานศิลป์คืออะไร? ใน BAB2024

ในปีนี้ Bangkok Art Biennale 2024 ได้มีพื้นที่ในการจัดแสดงที่น่าสนใจอย่างยิ่งนั่นคือที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร หรือ National Museum Bangkok (Phranakorn) ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้เข้าชม ได้รับชมทั้งโบราณวัตถุ และชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยไปพร้อมกัน เป็นประสบการณ์ที่พิเศษน่าสนใจอย่างที่ไม่มีใครเหมือนเลยจริงๆ โดยที่เดิมทีนั้นภายในอาคารศิวโมกขพิมาน ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร หรือวังหน้า เป็นสถานที่จัดแสดงวัตถุโบราณของกรมศิลปากร แต่วันนี้สถานที่แห่งนี้กลายเป็นพื้นที่ใหม่ของเทศกาลศิลปะ Bangkok Art Biennale 2024 ใครไปชมรับรองอาจต้องแปลกใจว่าชิ้นไหนของใหม่ ชิ้นไหนของเก่า ชิ้นไหนเป็นศิลปะร่วมสมัย ชั้นไหนเป็นโบราณวัตถุ เพราะผลงานศิลปินที่จัดแสดงที่นี่นั้นจัดวางได้อย่างแนบเนียนไปกับศิลปะวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์ ชวนไปผู้เข้าชมเชื่อมร้อยเรื่องราวของแต่ละยุคสมัยเข้าหากันด้วยจินตนาการที่เกิดจากประสบการณ์ของตัวเอง หากคุณเดินชมผลงานศิลปะยุคก่อนประวัติศาสตร์ที่เป็นเครื่องปั้นดินเผารูปวัว แล้วถัดไปอีกหน่อยก็อาจเจอกับโมเดลของ ‘หมูเด้ง‘ ซึ่งเป็นรูปทรงของสัตว์เหมือนกัน ด้วยเหตุแห่งการก่อเกิดงานศิลป์ที่คล้ายกัน แต่มาจากคนละยุค คนละบริบทช่วงเวลาโดยสิ้นเชิง “สิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนบทสนทนาของความคิดที่ต่างยุคสมัย และเป็นสิ่งที่ภัณฑารักษ์ต้องการจะชวนให้ทุกคนตั้งคำถาม กับวัตถุจัดแสดงที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ ว่าชิ้นไหนเป็นของจริง และชิ้นไหนเป็นของทำใหม่ และอีกหนึ่งคำถามก็คือบทบาทของพิพิธภัณฑ์กับแกลเลอรี่ ว่าทั้งสองสถานที่นั้นมีหน้าที่ทำอะไร พิพิธภัณฑ์เป็นพื้นที่สำหรับเก็บสะสมงานในประวัติศาสตร์อย่างเดียว หรือสามารถที่จะจัดแสดงผลงานที่ทำขึ้นใหม่ เฉกเช่นแกลเลอรี่ได้หรือไม่ หรืออีกนัยหนึ่งก็คืองานในประวัติศาสตร์นั้นครั้งหนึ่งก็เคยเป็นผลงานที่ทำขึ้นใหม่ในยุคสมัยนั้นนั้น จึงกลายเป็นการรวบรวมคำถามที่ชวนผู้ชมให้ได้มาตื่นเต้นกับการค้นพบสิ่งใหม่ในพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติแห่งนี้” Parvati โดย Ravinder Reddy (คำอธิบายผลงานโดย Bangkok […]

4 จุดสุดจริง Bangkok Art Biennale 2024 “Nurture Gaia” เริ่มเที่ยวงาน BAB2024 ไปไหนดี?

จะเที่ยวงาน BAB 2024 เริ่มต้นที่ไหนดี? เพราะนี่คือมหกรรมศิลปะที่รวม 200 ชิ้นงานมาจัดแสดงใน 11 พื้นที่ใจกลางกรุงเทพมหานครแห่งนี้ จาก 76 ศิลปินระดับโลก และอีกมากมาย และเรา คัดมาให้แล้วกับ 4 จุดหมายระดับชาติที่คุณ! พลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง!! เริ่มขึ้นแล้วกับ “บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่ 2024” BkkArtBiennale บอกเลยว่า ปีนี้จัดใหญ่ จัดจริง เพราะเกือบทุกชิ้นคัดสรรมาแล้วแบบกระแทกหน้ากระแทกใจ ไม่ว่าจะสเกลขนาดที่ใหญ่เต็มตา รับชมได้ในประสบการณ์สุดพิเศษ หรือการเลือกจัดแสดงเปรียบเทียบกับชิ้นงานทางประวัติศาสตร์ด้วยประเด็นที่จะยกระดับแนวคิดไปอีกขั้น ทั้งหมดนี้จัดแสดงทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร ตลอด 5 เดือน จนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์เลยทีเดียว เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะไปชมผลงานทั้งหมด เราอยากจะแนะนำเส้นทางชมงานผ่าน 4 จุดหมายที่น่าจะเป็นการเริ่มต้นที่เต็มอิ่มอย่างแน่นอน Queen Sirikit National Convention Center (QSNCC) —>National Museum Bangkok (Phranakorn)–> The National Gallery of […]

Telle mère tel fils เครื่องบินที่ถักทอ ดุจมารดา ดั่งบุตร โดย อเดล อับเดสเซเหม็ด

Telle mere tel fils (ดุจมารดาดั่งบุตร) ประกอบด้วยเครื่องบิน สามลำ ห้องนักบิน และลำตัวผ้าสักหลาดเป่าลม ส่วนต่าง ๆ บิดให้พ้นกันยุ่งทำให้เครื่อง บินดูเหมือนงู ราวกับว่าเทคโนโลยีกลศาสตร์ได้ย้อนกลับไปสู่ธรรมชาติดั้งเดิม การพับเช่นนี้มีที่มาจากเทคนิคการทำขนมอบของมารดาของศิลปิน การที่อับเดสเซเหม็ดอ้างถึงมารดาและการทำอาหารของเธอ นำเราไปสู่ความอบอุ่นและสายใยระหว่างลูกชายกับมารดาที่ปรากฏในงาน Bourek (2548) ของเขา ด้วยการเปลี่ยนวลีที่ใช้กันทั่วไปอย่าง “Like father like son” (ดุจบิดาดั่งบุตร) ให้เป็น “like mother like son” (ดุจมารดา ดั่งบุตร) ศิลปินได้แปรรูปเศษโลหะเป็นประสบการณ์ส่วนตัวที่มีความหมาย มีรูปเชิงสัญลักษณ์ของมารดาเป็นศูนย์กลาง นี่คือ หนึ่งในชิ้นงานที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของปีนี้ ให้ความรู้สึกจมลึกเข้าไปร่วมสัมผัสเป็นส่วนหนึ่ง ณ ชั้นใต้ดินของศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีเครื่องบินสามลำ เกี่ยวพันถักทออย่างแฝงนัยยะอันหลากหลาย บ้างก็ตีความถึงการอพยพถิ่นฐาน บ้างก็ตีความถึงทุนนิยมที่กำลังเร่งไป แต่ใดใดคืองานชิ้นนี้ เซลฟี่ด้วยแล้วขึ้นมาก! เราประทับใจกับการจัดแสดงในพื้นที่สุดแสนประหลาดใจนี้ เพราะเมื่อลงบันไดเลื่อน และเดินเข้าสู่ BAB BOX ณ Queen Sirikit National […]